แผนที่โลก


แผนที่โลก คือแผนที่แสดงพื้นที่ส่วนใหญ่หรือพื้นที่ทั้งหมดของโลก การครอบคลุมพื้นที่ขนาดใหญ่ทำให้มีปัญหาเรื่องเส้นโครงแผนที่ แผนที่โลกเป็นการแปลงผิวโลกที่มีลักษณะเป็นสามมิติมาทำเป็นภาพในระนาบราบ (ภาพสองมิติ) การทำแผนที่โลกมีเทคนิคมากมายที่พัฒนาขึ้นเพื่อตอบสนองและนำเสนอแผนที่ให้มีความสมจริง สวยงาม และตอบสนองความต้องการ[2]
การสร้างแผนที่โลกจำเป็นต้องมีความรู้เกี่ยวกับโลก ทวีปและมหาสมุทร การสร้างแผนที่โลกให้ถูกต้องในยุคก่อนประวัติศาสตร์ถึงสมัยกลางจึงเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ เนื่องจากมีชายฝั่งไม่ถึงครึ่งและส่วนของทวีปเพียงเล็กน้อยเท่านั้นที่รู้จักในวัฒนธรรมต่าง ๆ การที่ชาวยุโรปเริ่มทำการสำรวจมากขึ้นในสมัยฟื้นฟูศิลปวิทยา ทำให้ความรู้เกี่ยวกับโลกเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว อย่างน้อยก็ช่วงกลางทศวรรษ 1700 ที่ชายฝั่งทั่วโลกได้รับการบันทึกลงในแผนที่ ส่วนดินแดนภายในทวีปก็ค่อย ๆ ได้รับการบันทึกภายในศตวรรษที่ 20
โดยทั่วไปแล้วแผนที่โลกจะเน้นเรื่องลักษณะทางกายภาพซึ่งแสดงลักษณะทางภูมิศาสตร์อย่าง เทือกเขา แม่น้ำ ชนิดดินและการใช้ที่ดิน กับ ด้านการเมือง ซึ่งเน้นเรื่องเขตแดนและการตั้งถิ่นฐานของมนุษย์ แผนที่ธรณีวิทยาไม่ได้แสดงแค่พื้นผิวแต่ยังแสดงลักษณะการวางตัวของหินแข็ง รอยเลื่อนและโครงสร้างใต้ผิวดิน แผนที่โคโรเพลทจะใช้เฉดสีและความเข้มที่ตัดกันเพื่อความแตกต่างระหว่างภูมิภาคและเขตแดน เช่นการแสดงสถิติทางประชากรหรือทางเศรษฐกิจ
เส้นโครงแผนที่[แก้]
การแสดงแผนที่ทั้งหมดขึ้นอยู่กับการใช้เส้นโครงแผนที่หรือกระบวนการฉายโลกลงในระนาบราบ เส้นโครงแผนที่ทุกชนิดมีการบิดเบือนของลักษณะทางภูมิศาสตร์ ระยะทางและทิศทางไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง มีการพัฒนาเส้นโครงแผนที่หลาย ๆ แบบเพื่อปรับสมดุล ความถูกต้องและความแม่นยำแต่ว่าความผิดเพี้ยนนั้นก็เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้
เส้นโครงแผนที่ ๆ รู้จักกันดีคือเส้นโครงแผนที่แบบเมอร์เคเตอร์ซึ่งเดิมออกแบบมาเพื่อเป็นแผนที่เดินเรือ
เส้นโครงแผนที่แบบระนาบสัมผัสขั้วโลก
มหาสมุทรแปซิฟิกอยู่ตรงกลาง ใช้มากในประเทศแถบเอเชียตะวันออกและโอเชียเนีย
เส้นโครงแผนที่แบบกอลล์แต่ละตารางกริดพื้นที่เท่ากัน
แผนที่เฉพาะเรื่อง[แก้]
แผนที่โลกส่วนมากมีหลายลักษณะโดยแบ่งเป็นด้านต่าง ยกตัวอย่างเช่น[3]
- แผนที่โลกที่แสดงภูมิประเทศ (World Map Physical) จะแสดงข้อมูลของ ภูเขา ทะเลทราย ทะเลสาบ มหาสมุทร ชนิดของดินหรือการใช้ประโยชน์ที่ดินเป็นต้น
- แผนที่โลกที่แสดงภูมิอากาศ (World Map weather) จะแสดงข้อมูลของอุณหภูมิ มรสุม อุณหภูมิ ค่าเฉลี่ยของฝน เป็นต้น
- แผนที่การเมืองคือ (World Map Political) แผนที่ที่แสดงเขตแดน อาณาเขตของประเทศและการตั้งถิ่นฐานของมนุษย์
- แผนที่เขตเวลา (World Time Zone Map) เป็นแผนที่ ทีใช้แบ่งเขตพื้นที่เดียวกันใช้เวลาอ้างอิง เดียวกัน
- แผนที่แสดงสถิติ (World Choropleth maps) คือแผนที่ที่ใช้สีและความเข้มของสีเพื่อเปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างภูมิภาคต่าง ๆ เช่นสถิติประชากรศาสตร์หรือสถิติทางเศรษฐกิจเป็นต้น
- แผนที่โลกคานทิโน (Cantino World Map) หรือ แผนที่การเดินเรือคานทิโน พลานิสเฟียร์เป็นแผนที่เก่าที่สุดที่ค้นพบในปัจจุบัน
- ลูกโลก (Globe) เป็นแผนที่แบบ 3 มิติ ที่ทำออกมาในรูปแบบทรงกลม ซึ่งลูกโลกมีข้อได้เปรียญที่สามารถให้ข้อมูลที่ถูกต้องทั้งในแง่ รูปทรง(Shape) ขนาด(Size) ระยะทาง(Distance) ทิศทาง(Direction) แต่เมื่อนำมาทำเป็นแผนที่ ในระบบ 2 มิติ ทำให้ข้อมูลหลายอย่างคลาดเคลื่อนไปเช่นขนาดของพื้นที่ ๆ มีการบิดเบือน
แผนที่แสดงลักษณะภูมิอากาศ
แผนที่แสดงลักษณะภูมิประเทศ
แผนที่แสดง ดัชนีการพัฒนามนุษย์ ของสหประชาชาติแบ่งตามประเทศใน ค.ศ. 2016
แผนที่แสดง การคาดหมายคงชีพแบ่งตามประเทศ
แผนที่โลกเมื่อ 200 ล้านปีที่แล้ว (ยุคไทรแอสซิก)
ภาพถ่ายจากดาวเทียม ของโลกในเวลากลางคืน
แผนที่โลกยุคแรก[แก้]
แผนที่โลกในยุคแรกจะนับรวมตั้งแต่รูปวาดของโลกตั้งแต่ยุคเหล็ก ยุคแห่งการสำรวจจนถึงช่วงสมัยใหม่ตอนต้นที่มีการเกิดขึ้นของวิชาภูมิศาสตร์สมัยใหม่ แผนที่ในอดีตจะให้ข้อมูลเกี่ยวกับสถานที่ซึ่งเป็นที่รู้จักในอดีตเช่นเดียวกับพื้นฐานทางปรัชญาและวัฒนธรรมของแผนที่ซึ่งแตกต่างจากการทำแผนที่สมัยใหม่มาก แผนที่มักเป็นสิ่งที่นักวิทยาศาสตร์ใช้ในการเผยแพร่แนวคิดของตนและส่งไปยังคนรุ่นหลัง[4]
แผนที่โลกในจิตนาการของ อะแนกซิแมนเดอร์ (610–546 ก่อนคริสต์ศักราช)
แผนที่โลกตามจิตนาการของโพซิโดนีอุส (150–130 ก่อนคริสต์ศักราช) วาดใน ค.ศ. 1628
แผนที่รูปทีและโอเป็นหนึ่งในแผนที่โลกในยุคกลาง (จาก Meyers Konversationslexikon 1895) (เอเชียอยู่ด้านขวา)
ตาบุลารอเกริอานา แผนที่โลกของมุฮัมมัด อัลอิดรีซีย์ใน ค.ศ. 1154 เป็นแผนที่แบบกลับหัว
แผนที่โลกในรูปแบบเส้นโครงแผนที่แบบออกแทน (1514) โดยเลโอนาร์โด ดา วินชี
แผนที่โลกของเกราร์ดุส เมอร์เคเตอร์ (1569) รูปแบบแรกของเส้นโครงแผนที่แบบเมอร์เคเตอร์
แผนที่โลกโดย Claes Janszoon Visscher ใน ค.ศ. 1652
แผนที่ประวัติศาสตร์โลกของ Gerard van Schagen ใน ค.ศ. 1689
ดูเพิ่ม[แก้]
อ้างอิง[แก้]
- ↑ Large-Scale Distortions in Map Projections, 2007, David M. Goldberg & J. Richard Gott III, 2007, V42 N4.
- ↑ American Cartographic Association's Committee on Map Projections (1988). Choosing a World Map. Falls Church: American Congress on Surveying and Mapping. pp. 1–2.
- ↑ Thematic Maps เก็บถาวร 2012-09-07 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน Map Collection & Cartographic Information Services Unit. University Library, University of Washington. Accessed 27 Dec 2009.
- ↑ "History of maps and cartography". emporia.edu. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2011-07-09. สืบค้นเมื่อ 2017-06-16.
บรรณานุกรม[แก้]
- Edson, Evelyn (2011). The World Map, 1300–1492: The Persistence of Tradition and Transformation. JHU Press. ISBN 1421404303
- Harvey, P. D. A. (2006). The Hereford world map: medieval world maps and their context. British Library. ISBN 0712347607
ข้อมูลเพิ่มเติม[แก้]
![]() |
คอมมอนส์ มีภาพและสื่อเกี่ยวกับ: แผนที่โลก |
![]() |
วิกิตำรามีคู่มือในหัวข้อ แผนที่โลก |
- World maps from the CIA World Factbook เก็บถาวร 2011-02-10 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน