เฮียเฮียะ
เฮียเฮียะ | |
---|---|
เฮียเฮียะ (艾叶 หรือ 艾草) | |
การจำแนกชั้นทางวิทยาศาสตร์ | |
อาณาจักร: | Plantae |
ไม่ได้จัดลำดับ: | Angiosperms |
ไม่ได้จัดลำดับ: | Eudicots |
ไม่ได้จัดลำดับ: | Asterids |
อันดับ: | Asterales |
วงศ์: | Asteraceae |
สกุล: | Artemisia |
สปีชีส์: | A. argyi |
ชื่อทวินาม | |
Artemisia argyi H.Lév. & Vaniot |
เฮียเฮียะ หรือ เหี่ยเฮี๊ยะ (ชื่อวิทยาศาสตร์: Artemisia argyi; จีนตัวย่อ: 艾叶; จีนตัวเต็ม: 艾葉; พินอิน: ài yè ไอ้เย่; แปลตามตัว ใบไอ้; จีนแต้จิ๋ว: hian7 hiêh8, /hĩã.hiεʔ/) เป็นชื่อในตำรับยาภาษาจีนที่ใช้ใบของพืชที่เรียก ไอ้เฉ่า (จีนตัวย่อ: 艾草; จีนตัวเต็ม: 艾葉; พินอิน: ài cǎo) หรือ โกฐจุฬาจีน[1] ภาษามลายูเรียกอูลัมมักวัน เป็นไม้ล้มลุกอายุหลายปีอยู่ในสกุลโกฐจุฬาลัมพา และเป็นพืชท้องถิ่นในจีน ญี่ปุ่น และไซบีเรีย[2] มีกลิ่นหอมแรง ใช้เป็นยาสมุนไพรรักษาตับ ม้าม และ ไต[3]และใช้กินเป็นอาหารจีนเจ้อเจียงที่เรียก ชิงถฺวาน (青团) และอาหารจีนแคะ เฉ่าอากุ้ย (草仔粿)[4]
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
[แก้]เฮียเฮียะ (A. argyi) เป็นไม้ล้มลุกอายุหลายปี ลำต้นตั้งตรงสีเทา สูงประมาณหนึ่งเมตรมีกิ่งสั้น และมีเหง้า
ก้านใบเป็นรูปไข่ ใบรูปหอกกว้าง หยักเว้าลึก ขอบใบจัก สีเทาเขียวและปกคลุมด้วยต่อมผลิตน้ำมันขนาดเล็ก ใบด้านบนมีขนนิ่ม ๆ อยู่ประปราย ด้านล่างสีเทาขาว มีขนหนาแน่นจำนวนมาก ใบความยาวประมาณ 6 เซนติเมตร เป็นใบประกอบสามส่วน ใบประดับเรียบง่ายเป็นรูปใบหอกยาว
ช่อดอกเป็นช่อใบแคบ ดอกไม้แต่ละดอกมีสีเหลืองซีด มีลักษณะเป็นทรงกระบอก และฐานดอกกระจุกเป็นครึ่งทรงกลม ดอกกลางเป็นกะเทย ส่วนดอกข้างดอกเป็นตัวเมีย กลีบดอกแคบและพับเป็นทรงกระบอก[2]
ทั้งต้นมีกลิ่นหอมแรง[5]
การแพร่กระจายและถิ่นที่อยู่
[แก้]เฮียเฮียะเป็นพืชทนแล้ง (xerophile) ปรับตัวให้เจริญเติบโตในที่แห้งแล้ง ได้แก่บนเนินเขาที่แห้งแล้ง ริมฝั่งแม่น้ำสูงชัน ขอบของป่าโอ๊ค แนวชายฝั่ง ที่รกร้างว่างเปล่า ตามริมถนนและทางรถไฟ เจริญเติบโตได้ดีกว่าและมีกลิ่นหอมมากขึ้นเมื่อในพื้นที่แห้งแล้งและดินเลว[6]
การใช้ประโยชน์
[แก้]ในทางวัฒนธรรม
[แก้]ชาวจีนภาคใต้ (ตอนใต้ของแม่น้ำแยงซี) ใช้ร่วมกับใบว่านน้ำแขวนประตูในช่วงเทศกาลเรือมังกรเพื่อปัดเป่าวิญญาณร้าย ส่งกลิ่นหอมระเรื่อ และสามารถใช้กินเป็นอาหารในเทศกาลเช็งเม้ง
การใช้เป็นอาหาร
[แก้]เป็นอาหารพื้นเมืองทางตอนใต้ของจีน บริเวณมณฑลเจ้อเจียง เช่น ขนมนึ่งใส่เฮียเฮียะ ที่กินก่อนและหลังเทศกาลเช็งเม้ง โดยการบดนวดแป้งข้าวเหนียวไปพร้อมกับใบเฮียเฮียะสด อาจผสมด้วยถั่วลิสง งา น้ำตาล และไส้อื่นๆ (ในบางพื้นที่จะมีการใส่ถั่วเขียวเพิ่ม) แล้วนึ่ง เรียก ชิงถฺวาน และในอาหารจีนแคะก่อนนึ่ง ใช้ก้อนแป้งอัดลงแม่พิมพ์พร้อมใส้เป็นรูปต่าง ๆ เรียก เฉาอากุ้ย
ในลุ่มน้ำตงเจียงในกวางตุ้ง ชาวบ้านเก็บใบเฮียเฮียะสดและยอดอ่อนในฤดูหนาวและฤดูใบไม้ผลิเพื่อบริโภคเป็นผัก ในอาหารของชาวจีนแคะในเหมย์โจวใช้ใบแห้งหมัก และยัดลงในท้องไก่ ใส่ขิงหั่นบาง ๆ แล้วนึ่ง หรือต้มแกงไก่ รวมกับเนื้อลำไย และอื่นๆ
การใช้เป็นยาสมุนไพร
[แก้]โดยการเก็บใบเฮียเฮียะ ในฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อนเมื่อขณะออกดอก และตากในที่ร่ม
ในการแพทย์แผนจีน ถือว่ามีคุณสมบัติขม ฉุน และอุ่น และสัมพันธ์กัการบรักษาตับ ม้าม และ ไต[3]ใบใช้เป็นยาแก้ไอขับเสมหะ[7]ใช้เป็นยาห้ามเลือด บรรเทาปวด[8] ช่วยการเพิ่มปริมาณเลือดไปยังบริเวณอุ้งเชิงกรานและกระตุ้นการมีประจำเดือน ช่วยรักษาภาวะมีบุตรยาก ประจำเดือน โรคหอบหืด และไอ[9]
อาจใช้ในการรมยา (moxibustion) ซึ่งเป็นรูปแบบการรักษาด้วยการเผาสมุนไพรเฮียเฮียะ (โกศจุฬาลัมพา) ในรูปกรวยหรือแท่ง หรือเป็นลูกกลมอัดที่เสียบไว้กับปลายเข็มฝัง[9] เพื่อรมบริเวณจุดฝังเข็มตามตำแหน่งของเส้นลมปราณ
ใช้ในยาต้มแบบอย่างเดียว หรือกับสารอื่น ๆ
ใบสดสามารถบดและปั่นและคั้นน้ำผลไม้[9] ชาวโอรังอัซลีในรัฐเปรัก ประเทศมาเลเซียใช้ใบสดเคี้ยวแก้ไอ[10]
น้ำมันระเหยสามารถสกัดจากใบและใช้ในการรักษาโรคหอบหืดและหลอดลมอักเสบ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อฉีดพ่นลงบนหลังลำคอและช่วยบรรเทาอาการได้อย่างรวดเร็ว[11] ใบมีฤทธิ์ต้านแบคทีเรียและแสดงให้เห็นว่ามีประสิทธิภาพในการต่อต้าน Staphylococcus aureus, Bacillus dysenteriae, Bacillus subtilis, Bacillus typhi, Escherichia coli และ Pseudomonas[12]
-
ขนม "เฉ่าอากุ้ย" (草仔粿) อาหารจีนฮากกาบนเกาะไต้หวัน
-
ขนมต้มชิงถฺวาน ที่หางโจว
-
กิ่งเฮียเฮียะร่วมกับใบว่านน้ำ ใช้แขวนประตูในช่วงเทศกาลไหว้บ๊ะจ่าง
การวิจัย
[แก้]- ในการวิจัยใบของเฮียเฮียะ (A. argyi) พบสารประกอบระเหย 96 ชนิด ได้แก่ อัลฟา-ทูจีน, 1,8-ซินีโอล, การบูร และอาร์เตมิเซียแอลกอฮอล์[13]
- ดอกมีสารประกอบระเหยเกือบ 50 ชนิด และการใช้ดอกไม้เพื่อการรักษาอาจได้ผลดีพอ ๆ กับการใช้ใบ[14]
- สารสกัดจากเมทานอลที่เตรียมจากทุกส่วนยกเว้นรากของพืชช่วยลดการกลายพันธุ์ของเชื้อ Salmonella typhimurium ได้[15]
- สารสกัดจากเฮียเฮียะ มีฤทธิ์ต้านเชื้อรากับ Botrytis cinerea และ Alternaria alternata ที่ทำให้ผักและผลไม้ในที่เก็บเน่าได้ง่าย[16]
- สารฟลาโวนที่แยกได้จากสารสกัดจากเฮียเฮียะ พบว่ามีฤทธิ์ต้านเนื้องอก[17]
- มีการศึกษาตรวจสอบประสิทธิภาพทางคลินิกของการรมยา (moxibustion) เพื่อวิเคราะห์องค์ประกอบทางเคมีของใบของสายพันธุ์ต่าง ๆ ของเฮียเฮียะ (A. argyi) และตรวจสอบวิธีการนำยาที่มีประสิทธิภาพที่สุด และเพื่อเพิ่มผลการรักษาแบบนี้[18]
อ้างอิง
[แก้]- ↑ "ยาจีนแผนโบราณ ชื่อ-Thaicn.com". th.thaicn.net. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2021-08-02. สืบค้นเมื่อ 2021-08-02.
- ↑ 2.0 2.1 AgroAtlas
- ↑ 3.0 3.1 Acupuncture Today
- ↑ "จุดชมธรรมชาติเฟิ่นฉี่หู (Fenqihu Scenic Area)". Taiwan Tourism (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน).
- ↑ Flora of China
- ↑ Genders. R. Scented Flora of the World. Robert Hale. London. 1994 ISBN 0-7090-5440-8[ต้องการเลขหน้า]
- ↑ ภาสกิจ วัณณาวิบูล. รู้เลือกรู้ใช้ 100 ยาจีน. กทม. ทองเกษม. 2555
- ↑ ศุภนิมิต ทีฆชุณหเสถียร. ยาจีนปรับสมดุลเลือด. กทม. ซีเอ็ดยูเคชัน. 2554
- ↑ 9.0 9.1 9.2 Acupuncture Today: Mugwort Leaf
- ↑ Samuel, A.J.S.J., Kalusalingam, A., Chellappan, D.K., Gopinath, R., Radhamani, S., Husain, H. A., Muruganandham, V., Promwichit, P. 2010. Ethnomedical survey of plants used by the orang asli in kampong bawong, Perak, West Malaysia. Joutnal of Ethnobiology and Ethnomedicine. 6:5
- ↑ Duke. J. A. and Ayensu. E. S. Medicinal Plants of China. Reference Publications, Inc. 1985 ISBN 0-917256-20-4[ต้องการเลขหน้า]
- ↑ Yeung. Him-Che. Handbook of Chinese Herbs and Formulas. Institute of Chinese Medicine, Los Angeles 1985[ต้องการเลขหน้า]
- ↑ Pan, JG; Xu, ZL; Ji, L (1992). "Chemical studies on essential oils from 6 Artemisia species". Zhongguo Zhong Yao Za Zhi. 17 (12): 741–4, 764. PMID 1304756.
- ↑ Li, N; Mao, Y; Deng, C; Zhang, X (2008). "Separation and identification of volatile constituents in Artemisia argyi flowers by GC-MS with SPME and steam distillation". Journal of Chromatographic Science. 46 (5): 401–5. PMID 18492349.
- ↑ Nakasugi, Toru; Nakashima, Mika; Komai, Koichiro (2000). "Antimutagens in Gaiyou (ArtemisiaargyiLevl. Et Vant.)". Journal of Agricultural and Food Chemistry. 48 (8): 3256–66. doi:10.1021/jf9906679. PMID 10956099.
- ↑ Wenqiang, Guan; Shufen, Li; Ruixiang, Yan; Yanfeng, Huang (2006). "Comparison of composition and antifungal activity ofArtemisia argyi Lévl. Et Vantinflorescence essential oil extracted by hydrodistillation and supercritical carbon dioxide". Natural Product Research. 20 (11): 992–8. doi:10.1080/14786410600921599. PMID 17032625.
- ↑ Seo, Jeong-Min; Kang, Hyun-Mi; Son, Kwang-Hee; Kim, Jong Han; Lee, Chang Woo; Kim, Hwan Mook; Chang, Soo-Ik; Kwon, Byoung-Mog (2003). "Antitumor Activity of Flavones Isolated fromArtemisia argyi". Planta Medica. 69 (3): 218–22. doi:10.1055/s-2003-38486. PMID 12677524.
- ↑ "Analysis and study on modern pharmacy and pharmacology of moxibustion". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2021-08-02. สืบค้นเมื่อ 2021-08-02.