เต่ามะเฟือง
เต่ามะเฟือง ช่วงเวลาที่มีชีวิตอยู่: สมัยโฮโลซีน 0.012–0Ma | |
---|---|
![]() | |
![]() | |
สถานะการอนุรักษ์ | |
การจำแนกชั้นทางวิทยาศาสตร์ | |
อาณาจักร: | Animalia |
ไฟลัม: | Chordata |
ชั้น: | Sauropsida |
อันดับ: | Testudines |
อันดับย่อย: | Cryptodira |
วงศ์ใหญ่: | Chelonioidea |
วงศ์: | Dermochelyidae Fitzinger, 1843 |
สกุล: | Dermochelys Blainville, 1816 |
สปีชีส์: | D. coriacea |
ชื่อทวินาม | |
Dermochelys coriacea (Vandelli, 1761) | |
![]() | |
ชื่อพ้อง | |
รายชื่อของชื่อพ้อง
|
เต่ามะเฟือง หรือ เต่าเหลี่ยม (อังกฤษ: Leatherback turtle; ชื่อวิทยาศาสตร์: Dermochelys coriacea) เป็นเต่าทะเล จัดเป็นเต่าชนิดที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก และใหญ่เป็นอันดับที่ 4 ในบรรดาสัตว์เลื้อยคลานทั้งหมดที่ยังดำรงเผ่าพันธุ์อยู่จนถึงปัจจุบัน จึงเป็นเต่าเพียงชนิดเดียวในวงศ์ Dermochelyidae และสกุล Dermochelys
เต่ามะเฟืองสามารถแยกออกจากเต่าประเภทอื่นได้โดยการสังเกตที่กระดองจะมีรูปร่างลักษณะคล้ายกับผลมะเฟือง และครีบคู่หน้าไม่มีเล็บ ตั้งแต่ออกจากไข่ ความลึกที่เต่ามะเฟืองสามารถดำน้ำได้ถึง 1,280 เมตร
การขยายพันธุ์[แก้]
เต่ามะเฟืองเพศเมียจะขึ้นมาวางไข่บนชายหาด ประมาณ 66-104 ฟอง/รัง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับปัจจัยในการวางไข่ เช่น อายุ สภาพอากาศ สภาพแวดล้อมของสถานที่วางไข่
วงจรชีวิต[แก้]
เต่ามะเฟืองจะใช้เวลาในการฟักตัวประมาณ 60-70 วัน ขึ้นอยู่กับอุณหภูมิ ของสภาพแวดล้อม หลังจากฟักตัวแล้ว โดยมีประมาณ 85% ที่ฟักตัวได้ ลูกเต่าจะคลานออกจากรัง ลงสู่ทะเลโดยทันที เนื่องจากเป็นเต่ามะเฟืองเป็นเต่าน้ำลึก จึงไม่สามารถเก็บมาอนุบาลได้เป็นเวลานานซึ่งต่างกับเต่าทะเลสายพันธุ์อื่น ในวัยเจริญพันธุ์จะเติบโตและใช้เวลาอยู่ในทะเลเกือบชั่วชีวิต
อาหารของเต่ามะเฟือง[แก้]
เต่ามะเฟือง เนื่องจากเต่ามะเฟืองมีจะงอยปากที่สบกันเหมือนกรรไกร จึงมักกินอาหารที่อ่อนนุ่ม เช่น แมงกะพรุน แพลงก์ตอน สาหร่ายน้ำลึก
การกระจายพันธุ์[แก้]
เนื่องจากเต่าทะเล ส่วนใหญ่จะมีการเดินทางตามกระแสน้ำอุ่น จึงสามารถพบเต่ามะเฟืองได้ตามทวีป หรือ ประเทศที่มีกระแสน้ำอุ่นพัดผ่าน รวมถึงประเทศในเขตร้อน เช่น ประเทศไทย มาเลเซีย หมู่เกาะอินดีส ปาปัวนิวกินี และ ในฝั่งทะเลแคริบเบียน
การอนุรักษ์[แก้]
เนื่องจากลูกเต่ามะเฟือง โดยธรรมชาติเมื่อฟักออกมาจะคลานลงทะเลทันที ไม่สามารถมาอนุบาลได้นานเพราะเป็นเต่าทะเลน้ำลึก จึงควรอนุรักษ์เต่ามะเฟืองโดยการไม่รบกวนสถานที่วางไข่ ไม่รับประทานไข่เต่า ไม่ทิ้งถุงพลาสติกลงทะเลเพราะเต่ามะเฟืองอาจะคิดว่าเป็นแมงกะพรุนและกินเข้าไป เมื่อพบว่าเต่าบาดเจ็บควรแจ้งเจ้าหน้าที่ทันที ปัจจุบันเป็นสัตว์ป่าสงวนตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่าแห่งชาติ พุทธศักราช 2562
อ้างอิง[แก้]
- ↑ Wallace, B.P.; Tiwari, M.; Girondot, M. (2013). "Dermochelys coriacea". IUCN Red List of Threatened Species. 2013: e.T6494A43526147. doi:10.2305/IUCN.UK.2013-2.RLTS.T6494A43526147.en. สืบค้นเมื่อ 11 October 2021.
- ↑ "Appendices | CITES". Cites.org. สืบค้นเมื่อ 2022-01-14.
- The Leatherback Turtle (Dermochelys coriacea) (อังกฤษ)
- Leatherback Turtle Biology (อังกฤษ)
- Dermochelys coriacea (อังกฤษ)

- บรรณานุกรม
- ชีวิตสัตว์ทะเล. สมชาย วงส์การุณ. ปัญญาใส. 2542. หน้า 20
- Rhodin, Anders G.J.; van Dijk, Peter Paul; Inverson, John B.; Shaffer, H. Bradley (2010-12-14). "Turtles of the world, 2010 update: Annotated checklist of taxonomy, synonymy, distribution and conservation status" (PDF). Chelonian Research Monographs. 5: 000.xx. เก็บ (PDF)จากแหล่งเดิมเมื่อ 2010-12-15.
{{cite journal}}
: CS1 maint: multiple names: authors list (ลิงก์) - Fritz, Uwe (2007). "Checklist of chelonians of the world" (PDF). Verterbrate zoology. 57 (2). เก็บ (PDF)จากแหล่งเดิมเมื่อ 2010-12-17. สืบค้นเมื่อ 2011-05-28.
{{cite journal}}
: ไม่รู้จักพารามิเตอร์|coauthors=
ถูกละเว้น แนะนำ (|author=
) (help) - Martinez, Sarti (2000). Dermochelys coriacea. 2006 IUCN Red List of Threatened Species. IUCN 2006. Retrieved on 11 May 2006. Database entry includes justification for why this species is critically endangered
- Wood R.C., Johnson-Gove J., Gaffney E.S. & Maley K.F. (1996) - Evolution and phylogeny of leatherback turtles (Dermochelyidae), with descriptions of new fossil taxa. Chel. Cons. Biol., 2(2): 266-286, Lunenburg.