วัดเขาวงพระจันทร์
วัดเขาวงพระจันทร์ | |
---|---|
ไฟล์:พระประธานภายในพระอุโบสถ.JPG | |
![]() | |
ที่ตั้ง | ตำบลห้วยโป่ง อำเภอโคกสำโรง จังหวัดลพบุรี รหัสไปรษณีย์ 15120 |
ประเภท | วัดราษฏร์ |
นิกาย | มหานิกาย |
พระพุทธรูปสำคัญ | พระพุทธโชค มีรอยพระพุทธบาทรอยที่ 4 อยู่บนยอดเขา |
ความพิเศษ | เป็นวัดที่มีประวัติความเป็นมาที่ยาวนาน และมีความเกี่ยวโยงกับตำนานของจังหวัดลพบุรี |
จุดสนใจ | ตั้งอยู่เชิงเขาวงพระจันทร์ เป็นเขาที่ได้ชื่อว่าเป็นเขาที่สูงที่สุดในจังหวัดลพบุรี |
![]() |
วัดเขาวงพระจันทร์ เป็นวัดที่ตั้งอยู่ใน ตำบลห้วยโป่ง อำเภอโคกสำโรง จังหวัดลพบุรี มีพระมงคลภาวนาวิกรม พระราชาคณะชั้นสามัญ เป็นอดีตเจ้าอาวาสซึ่งได้มรณภาพไปแล้ว โดยชาวลพบุรีจะเรียนท่านว่า หลวงปู่ฟัก
ปัจจุบัน มีพระมหาธวัชชัย สิริธโช ป.ธ.9 เป็นเจ้าอาวาสรูปปัจจุบัน
ประวัติ
[แก้]วัดเขาวงพระจันทร์ตั้งอยู่ห่างจากตัวอำเภอเมืองลพบุรีประมาณ 28 กม. ตามเส้นทางถนนพหลโยธิน ตรงหลักกม.ที่ 178 มีทางแยกเลี้ยวขวาอีก 5 กม. ตั้งอยู่ในเขตตำบลห้วยโป่งอำเภอโคกสำโรงบริเวณเชิงเขาจะเป็นที่ตั้งของวัดเขาวงพระจันทร์ จะมีทางบันไดไปสู่ยอดเขาประมาณ 3,799 ขั้นยอดเขานี้สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 650 เมตร ถ้าวัดจากเชิงเขาถึงยอดเขาโดยแนวบันไดจะยาว 1,680 เมตร ใช้เวลาเดินทางจากเชิงเขาถึงยอดเขาประมาณ 2-3 ชั่วโมง สองข้างทางจะเต็มไปด้วยป่าไม้ขึ้นสลับซับซ้อนเต็มไปหมด บางแห่งจะเป็นที่ลาด บางแห่งจะเป็นที่ชัน เมื่อขึ้นไปถึงยอดเขาวงพระจันทร์จะมองเห็นทิวทัศน์เบื้องล่างได้ไกลสุดสายตา สถานที่นี้เป็นแหล่งสะสมวัตถุโบราณ ของหายากมากมาย และพระพิมพ์ต่างๆมากมาย เพราะ หลวงปู่ฟัก อดีตเจ้าอาวาสท่านเป็นนักสะสมพระเครื่องมาก่อนที่ท่านจะบวช ซึ่งมีการจัดเป็นพิพิธภัณฑ์
ประวัติรอยพระพุทธบาทยอดเขาวงพระจันทร์พอสังเขป
สมัยพุทธกาลมีพ่อค้าคนหนึ่งไปค้าขายต่างแดนทางเรือ วันหนึ่งก็จัดสินค้าลงเรือออกเดินทางคราวนี้เรือเกิดเดินทางผิดทิศจนไปเจอ้กาะเข้าหนึ่งเกาะ ไม่เห็นมีผู้คนอยู่ เห็นแต่ต้นไม้จันทร์หอมเต็มไปทั้งเกาะ พ่อค้าจึงคิดว่าไม้จันทร์หอมนี้ราคาแพงนัก สูงกว่าสินค้าที่เรานำมา พ่อค้าจนขนเอาสินค้าลงจากเรือแล้วตัดไม้จันทร์หอมลงบันทึกในเรือแทน ดัดฟันโดยไม่ได้ขอขมาขอต่อเจ้าป่าเจ้าเขาเจ้าเกาะเสือก่อนแล้วหันเรือกลับบ้านเลยไม่ได้ไปค้าขายอะไรอีกแล้ว
ฝ่ายพวกผีปีศาจที่อยู่ที่เกาะนั้นก็พากันโกรธแค้นที่มาตัดฟืนไม้จันทร์หอมเอาไปโดยไม่ขออนุญาต จึงพากันติดตามเรือไป กระทำฤทธิ์ให้เกิดขึ้นคลื่นลมจะเอาให้เรือล่มให้จงได้ ฝ่ายพ่อค้าก็ตกใจเพราะไม่รู้สาเหตุจึงระลึกถึงพี่ชายที่บวชเป็นพระอยู่ ประนมมือแล้วระลึกขอให้พระพี่มาช่วย "ท่านพระหลวงพี่ช่วยให้รอดกลับบ้านได้แล้ว หากหลวงพี่จะประสงค์สิ่งใดจะจัดถวายให้" พระผู้พี่ซึ่งจะต้องมีญาณสูงมาก ก็ทราบคำขอของพ่อค้าน้องชาย จึงรู้ว่าน้องชายทำผิดสิ่งใดแล้วได้รับผลเลวร้ายเช่นนี้ พระพี่จึงมาให้ปีศาจเห็นตัวแล้วชี้แจงปรับความเข้าใจโดยสุภาพ พวกภูตผีปีศาจทั้งหลายเห็นพระพี่พ่อค้าเจรจาอ่อนน้อมเช่นนั้น ผีปีศาจทั้งหลายก็ให้อภัยแล้วกลับไปยังเกาะที่มากด้วยไม้จันทร์หอมเช่นเดิม ทันใดนั้นคลื่นลมก็สงบ พ่อค้าน้องชายพระก็เดินทางกลับบ้านได้โดยปลอดภัย เมื่อได้ไปถึงก็ไปหาพระพี่ชายและกราบขอบพระคุณพร้อมเล่าให้พระพี่ชายฟัง พระพี่ชายจึงบอกว่า "จงจำไว้ว่าจะทำอะไรให้คิดถึงจิตใจคนอื่นเขาบ้าง อย่าทำอะไรเอาแต่ใจตนเอง" น้องชายก็กราบขอโทษแล้วพระพี่ชายจึงถามว่าจะเอาอะไรถวายที่บนบานไว้ ผู้น้องก็ตอบว่าถวายทุกสิ่งที่ปรารถนา พระพี่ชายจึงบอกให้พ่อค้าจงเสียสละไม้จันทร์หอมที่นำเอามา แล้วปลูกเป็นปราสาททั้งหลังให้สำเร็จ เมื่อเสร็จแล้วท่านจะไปทูลเชิญพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามาประทับในปราสาทที่น้องสร้างให้จงได้
น้องชายก็รับคำและไปจัดการเลื่อยไม้จันทร์หอมนำไปสร้างปราสาทจนสำเร็จ เมื่อพระพี่ชายทราบว่าปราสาทเสร็จแล้วจึงไปเฝ้าพระพุทธเจ้า ทูลเชิญให้พระองค์เสด็จไปประทับในปราสาทที่น้องชายได้สร้างถวาย เมื่อพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทราบแล้วก็รับว่าจะไป แต่ทรงดำริว่าการไปครั้งนี้เราจะไปทางอากาศ จึงจำเป็นต้องผ่านที่อยู่ของพระฤาษี ณ ยอดเขานางพระจันทร์ด้วย เราจะแวะโปรดฤาษีสัจจพรรณ เพราะกระทำกิจได้ดีแล้วแต่ยังเป็นมิจฉาทิฐิอยู่ จำเราจะแนะให้ตั้งตนอยู่ในสัมมาทิฏฐิ ครั้งเมื่อพระองค์เสด็จถึงเขานางพระจันทร์พระองค์ก็เสด็จลงที่ยอดเขา เมื่อสัจจพรรณฤาษีได้เห็นพระพุทธเจ้าเสด็จมา จึงเข้าไปกราบพระพุทธเจ้าแล้วถามว่า พระองค์จะเสด็จไปแห่งใดด้วยกิจอะไร พระพุทธเจ้าจึงโปรดฤาษี เมื่อฤาษีสัจจพรรณได้สดับแล้วก็มีสติระลึกชอบด้วยสัมมาทิฏฐิ และขอตามเสด็จไปยังปราสาทที่พ่อค้าสร้าง พระพุทธองค์ก็เสด็จต่อไปยังปราสาท เมื่อพบพระพี่ชายพ่อค้าแล้วก็เสด็จจนได้สำเร็จสมความปรารถนา เมื่อเสด็จกิจแล้วก็เสด็จกลับ
เมื่อถึงเขานางพระจันทร์พระพุทธเจ้าก็ให้ฤาษีหยุดการติดตาม ให้อยู่ ณ ที่เดิมที่เขานางพระจันทร์ ฤาษีสัจจพรรณจึงขออาราธนา ขอให้พระพุทธเจ้าประทับรอยฝ่าพระบาทไว้บนยอดเขา เพื่อตนจะได้ไว้มากราบไหว้บูชา พระพุทธองค์จึงเสด็จลงจากอากาศ ผินพระพักตร์ไปทางทิศตะวันออก แล้วแยกเท้าเหยียบลงบนยอดเห็นที่สูงสุดของเขาพระนางพระจันทร์ เป็นรอยพระบาทที่ปรากฏมาจนตราบเท่าทุกวันนี้
เมื่อปีพ.ศ 2496 หลวงพ่อโอภาสีท่านได้มานมัสการรอยฝ่าพระบาทพระพุทธองค์ ท่านจึงเปลี่ยนนามจาก "นาง เป็น วง" เพราะเหตุว่าบริเวณภูเขาทั้ง 4 ด้านเป็นเขารูปโค้ง มองทางไหนก็เห็นเป็นวงโอบล้อมอยู่ จึงขนานนามว่า เขาวงพระจันทร์ พระภิกษุที่เราให้หลวงพ่อฟังจึงน่าจะเป็นหลวงพ่อโอภาสีนั่นเอง พระคาถาสำคัญของหลวงพ่อโอภาสีคือ " ติสุคะโต อะระหังพุทโธ นะโมพุทธายะ ปะฐะวีคงคา พระภุมมะเทวา นะนามีหัง"
ประวัติรอยพระพุทธบาทยอดเขาวงพระจันทร์พอสังเขป
สมัยพุทธกาลมีพ่อค้าคนหนึ่งไปค้าขายต่างแดนทางเรือ วันหนึ่งก็จัดสินค้าลงเรือออกเดินทางคราวนี้เรือเกิดเดินทางผิดทิศจนไปเจอ้กาะเข้าหนึ่งเกาะ ไม่เห็นมีผู้คนอยู่ เห็นแต่ต้นไม้จันทร์หอมเต็มไปทั้งเกาะ พ่อค้าจึงคิดว่าไม้จันทร์หอมนี้ราคาแพงนัก สูงกว่าสินค้าที่เรานำมา พ่อค้าจนขนเอาสินค้าลงจากเรือแล้วตัดไม้จันทร์หอมลงบันทึกในเรือแทน ดัดฟันโดยไม่ได้ขอขมาขอต่อเจ้าป่าเจ้าเขาเจ้าเกาะเสือก่อนแล้วหันเรือกลับบ้านเลยไม่ได้ไปค้าขายอะไรอีกแล้ว
ฝ่ายพวกผีปีศาจที่อยู่ที่เกาะนั้นก็พากันโกรธแค้นที่มาตัดฟืนไม้จันทร์หอมเอาไปโดยไม่ขออนุญาต จึงพากันติดตามเรือไป กระทำฤทธิ์ให้เกิดขึ้นคลื่นลมจะเอาให้เรือล่มให้จงได้ ฝ่ายพ่อค้าก็ตกใจเพราะไม่รู้สาเหตุจึงระลึกถึงพี่ชายที่บวชเป็นพระอยู่ ประนมมือแล้วระลึกขอให้พระพี่มาช่วย "ท่านพระหลวงพี่ช่วยให้รอดกลับบ้านได้แล้ว หากหลวงพี่จะประสงค์สิ่งใดจะจัดถวายให้" พระผู้พี่ซึ่งจะต้องมีญาณสูงมาก ก็ทราบคำขอของพ่อค้าน้องชาย จึงรู้ว่าน้องชายทำผิดสิ่งใดแล้วได้รับผลเลวร้ายเช่นนี้ พระพี่จึงมาให้ปีศาจเห็นตัวแล้วชี้แจงปรับความเข้าใจโดยสุภาพ พวกภูตผีปีศาจทั้งหลายเห็นพระพี่พ่อค้าเจรจาอ่อนน้อมเช่นนั้น ผีปีศาจทั้งหลายก็ให้อภัยแล้วกลับไปยังเกาะที่มากด้วยไม้จันทร์หอมเช่นเดิม ทันใดนั้นคลื่นลมก็สงบ พ่อค้าน้องชายพระก็เดินทางกลับบ้านได้โดยปลอดภัย เมื่อได้ไปถึงก็ไปหาพระพี่ชายและกราบขอบพระคุณพร้อมเล่าให้พระพี่ชายฟัง พระพี่ชายจึงบอกว่า "จงจำไว้ว่าจะทำอะไรให้คิดถึงจิตใจคนอื่นเขาบ้าง อย่าทำอะไรเอาแต่ใจตนเอง" น้องชายก็กราบขอโทษแล้วพระพี่ชายจึงถามว่าจะเอาอะไรถวายที่บนบานไว้ ผู้น้องก็ตอบว่าถวายทุกสิ่งที่ปรารถนา พระพี่ชายจึงบอกให้พ่อค้าจงเสียสละไม้จันทร์หอมที่นำเอามา แล้วปลูกเป็นปราสาททั้งหลังให้สำเร็จ เมื่อเสร็จแล้วท่านจะไปทูลเชิญพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามาประทับในปราสาทที่น้องสร้างให้จงได้
น้องชายก็รับคำและไปจัดการเลื่อยไม้จันทร์หอมนำไปสร้างปราสาทจนสำเร็จ เมื่อพระพี่ชายทราบว่าปราสาทเสร็จแล้วจึงไปเฝ้าพระพุทธเจ้า ทูลเชิญให้พระองค์เสด็จไปประทับในปราสาทที่น้องชายได้สร้างถวาย เมื่อพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทราบแล้วก็รับว่าจะไป แต่ทรงดำริว่าการไปครั้งนี้เราจะไปทางอากาศ จึงจำเป็นต้องผ่านที่อยู่ของพระฤาษี ณ ยอดเขานางพระจันทร์ด้วย เราจะแวะโปรดฤาษีสัจจพรรณ เพราะกระทำกิจได้ดีแล้วแต่ยังเป็นมิจฉาทิฐิอยู่ จำเราจะแนะให้ตั้งตนอยู่ในสัมมาทิฏฐิ ครั้งเมื่อพระองค์เสด็จถึงเขานางพระจันทร์พระองค์ก็เสด็จลงที่ยอดเขา เมื่อสัจจพรรณฤาษีได้เห็นพระพุทธเจ้าเสด็จมา จึงเข้าไปกราบพระพุทธเจ้าแล้วถามว่า พระองค์จะเสด็จไปแห่งใดด้วยกิจอะไร พระพุทธเจ้าจึงโปรดฤาษี เมื่อฤาษีสัจจพรรณได้สดับแล้วก็มีสติระลึกชอบด้วยสัมมาทิฏฐิ และขอตามเสด็จไปยังปราสาทที่พ่อค้าสร้าง พระพุทธองค์ก็เสด็จต่อไปยังปราสาท เมื่อพบพระพี่ชายพ่อค้าแล้วก็เสด็จจนได้สำเร็จสมความปรารถนา เมื่อเสด็จกิจแล้วก็เสด็จกลับ
เมื่อถึงเขานางพระจันทร์พระพุทธเจ้าก็ให้ฤาษีหยุดการติดตาม ให้อยู่ ณ ที่เดิมที่เขานางพระจันทร์ ฤาษีสัจจพรรณจึงขออาราธนา ขอให้พระพุทธเจ้าประทับรอยฝ่าพระบาทไว้บนยอดเขา เพื่อตนจะได้ไว้มากราบไหว้บูชา พระพุทธองค์จึงเสด็จลงจากอากาศ ผินพระพักตร์ไปทางทิศตะวันออก แล้วแยกเท้าเหยียบลงบนยอดเห็นที่สูงสุดของเขาพระนางพระจันทร์ เป็นรอยพระบาทที่ปรากฏมาจนตราบเท่าทุกวันนี้
เมื่อปีพ.ศ 2496 หลวงพ่อโอภาสีท่านได้มานมัสการรอยฝ่าพระบาทพระพุทธองค์ ท่านจึงเปลี่ยนนามจาก "นาง เป็น วง" เพราะเหตุว่าบริเวณภูเขาทั้ง 4 ด้านเป็นเขารูปโค้ง มองทางไหนก็เห็นเป็นวงโอบล้อมอยู่ จึงขนานนามว่า เขาวงพระจันทร์ พระภิกษุที่เราให้หลวงพ่อฟังจึงน่าจะเป็นหลวงพ่อโอภาสีนั่นเอง พระคาถาสำคัญของหลวงพ่อโอภาสีคือ " ติสุคะโต อะระหังพุทโธ นะโมพุทธายะ ปะฐะวีคงคา พระภุมมะเทวา นะนามีหัง"
พระพุทธโชค
[แก้]พระพุทธโชค หรือ พระเชียงแสน เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย ศิลปะสมัยเชียงแสน มีขนาดใหญ่ที่สุดในจังหวัดลพบุรี และใหญ่เป็นลำดับที่ 2 ของประเทศไทย (รองจากพระพุทธมหานวมินทรศากยมุนีศรีวิเศษชัยชาญ) พระพุทธโชคประดิษฐานอยู่บริเวณริมเชิงเขาวงพระจันทร์ โดยแรกเริ่มโครงการก่อสร้างจะใช้ชื่อว่า "พระเชียงแสน" องค์พระก่อด้วยคอนกรีตเสริมเหล็ก ขนาดหน้าตักกว้าง 45 เมตร สูง 75 เมตร เริ่มก่อสร้างตั้งแต่ ปี พ.ศ. 2553 ใช้ระยะเวลาในการก่อสร้างองค์พระ 8 ปี (โดยประมาณ)
ในปัจจุบันพระเชียงแสนได้ทำการก่อสร้างแล้วเสร็จสมบูรณ์ เมื่อต้นปี พ.ศ. 2561 และมีการจัดพิธีถวายพระนามใหม่ว่า "พระพุทธโชค" เมื่อวันอังคารที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2561 และมีพิธีสมโภชพระพุทธโชค เมื่อวันพุธที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2561 โดยสมเด็จพระวันรัต (จุนท์ พฺรหฺมคุตฺโต) วัดบวรนิเวศวิหาร กรรมการมหาเถรสมาคม เป็นองค์ประธาน พร้อมด้วยกรรมการมหาเถรสมาคมรูปอื่น ตลอดจนพระมหาเถระที่มีชื่อเสียงร่วมประกอบพิธีอีกเป็นจำนวนมาก
ในส่วนบริเวณพื้นที่รอบๆองค์พระพุทธโชค ด้านหน้าเป็นลานกว้างประกอบไปด้วย บันไดขึ้นสู่องค์พระ, ศาลาธรรมขนาดใหญ่ จำนวน 2 หลัง, จุดชมวิว, อนุสรณ์หนุมาน ฯลฯ ด้านหลังเป็นพื้นที่จอดรถ, บันไดขึ้นสู่ด้านหลังองค์พระ และยังมีพื้นที่ในบางจุดยังอยู่ในระหว่างก่อสร้างยังไม่แล้วเสร็จ
ตำนานเขาวงพระจันทร์
[แก้]ท้าวกกขนาก ยักษ์ตนสุดท้ายที่ไม่ยอมแพ้พระราม ตามตำนานเรื่องรามเกียรติ์ จึงถูกพระรามแผลงศร โดนยักษ์กระเด็นลอยละลิ่วข้ามมหาสมุทรอินเดียมาตกที่ยอดเขาลูกนี้ แล้วพระรามก็สาบให้ศรปักอกเอาไว้หากวันใดที่ศรเขยื้อนจะให้หนุมานลูกพระพาย(ลูกลม ถ้าตายเมื่อต้องลมพัดผ่าน จะกลับฟื้นคืนชีพ หนุมานจึงไม่รู้จักตาย) เอาฆ้อนมาตอกย้ำลูกศร ให้ปักอกไว้เช่นเดิม แต่ยักษ์โดนเข้าขนาดนี้ก็ยังไม่ตายนอนรอความตาย ฝ่ายนางนงประจันทร์ลูกสาวท้าวกกขนากก็เหาะตามมาเพื่อปรนนิบัติดูแลพ่อ เพราะพ่อยังไม่ตาย ท้าวกกขนากได้แต่นอนแอ้งแม้งอยู่ในถ้ำยอดเขานางพระจันทร์นี้และต่อมาเมื่อนางทราบว่าหากได้น้ำส้มสายชูมารดที่โคนศรแล้วศรจะเขยื้อนหลุดออกมาได้ แต่หากศรเขยื้อน ไก่แก้วก็จะขันเรียกหนุมานเอาฆ้อนมาตอกศร จึงเป็นเหตุผลให้เมืองลพบุรีไม่มีน้ำส้มสายชูขายมานาน จากตำนานนี้จึงเรียกเขาลูกนี้ว่า เขานงประจันต์หรือนางพระจันทร์ ต่อมาเมื่อปี พ.ศ. 2496 หลวงพ่อโอภาสี ได้ขึ้นมาบนเขานี้ และเห็นว่าบริเวณเขาทั้ง4 ด้าน เป็นรูปเขาโค้ง มองทางไหนก็เห็นเป็นวงโอบล้อมอยู่ จึงขนานนามว่า เขาวงพระจันทร์ นับตั้งแต่นั้นมา
สิ่งมหัศจรรย์ 9 อย่าง
[แก้]- มีรอยพระพุทธบาทแท้ (รอยพระบาทที่ 4)
- มีรอยเขี้ยวแก้วพระพุทธเจ้าแท้
- หลวงปู่ฟัก อายุ 93 ปี อดีตเจ้าอาวาส ฉันมังสะวิรัติตลอดชีวิต,ไม่สรงน้ำ(อาบน้ำ)ตลอดชีวิต
- มีพระบรมสารีริกธาตุเสด็จมาเองจำนวนมาก
- มีพิพิธภัณฑ์ พ้นล้าน
- มีบันไดขึ้นเขา 3,799 ขั้น
- มีต้นปลัดขิก ธรรมชาติ
- มีควาย 3 เขา แห่งเดียวในโลก
- มีงาช้างสีดำ แห่งเดียวในโลก
งานประเพณีที่สำคัญของวัด
[แก้]เทศกาลขึ้นเขาวงพระจันทร์ จัดขึ้นประมาณเดือนสามช่วงเทศกาลตรุษจีนของทุกปี ประชาชนโดยเฉพาะชาวไทยเชื้อสายจีนทั้งใกล้ และไกลจะหลั่งไหลกันมานมัสการรอยพระพุทธบาทและพระพุทธรูปบนยอดเขาแห่งนี้อย่างเนืองแน่นเป็นประจำตลอดช่วงเทศกาล สิ่งก่อสร้างและรูปแบบของการแสดงความเคารพที่วัดแห่งนี้จึงมีอิทธิพลจีนนิกายฝ่ายมหายานอยู่มาก
เขาวงพระจันทร์ได้ชื่อว่าเป็นเขาที่สูงที่สุดของจังหวัดลพบุรี และเป็นภูเขาที่สร้างชื่อเสียงให้ผู้คนรู้จักเมืองลพบุรีมาช้านาน