ข้ามไปเนื้อหา

มิเชลล์ ราดรีเกซ

บทความนี้เป็นบทความแปลของพนักงานดีแทคในความร่วมมือกับวิกิพีเดีย คลิกเพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติม
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
(เปลี่ยนทางจาก มิเชลล์ ร็อดริเกซ)

มิเชลล์ ราดรีเกซ
ราดรีเกซ ในปี ค.ศ. 2018
เกิดเมย์เท มิเชลล์ ราดรีเกซ
(1978-07-12) 12 กรกฎาคม ค.ศ. 1978 (46 ปี)
แซนแอนโทนีโอ รัฐเท็กซัส สหรัฐ
อาชีพ
  • นักแสดง
ปีปฏิบัติงาน1999–ปัจจุบัน

เมย์เท มิเชลล์ ราดรีเกซ (สเปน: Mayte Michelle Rodríguez; เกิดเมื่อ 12 กรกฎาคม ค.ศ. 1978) เป็นนักแสดงชาวอเมริกัน เธอเริ่มต้นอาชีพในปี ค.ศ. 2000 โดยแสดงเป็นนักมวยผู้มีปัญหา ในภาพยนตร์ตลก/ดราม่า/กีฬาเรื่อง เกิร์ลไฟต์ ซึ่งเธอได้รับรางวัลอินดิเพนเดนต์สปิริตอะวอดส์ และกอแทมอะวอดส์ สาขา Best Debut Performance[1][2] ราดรีเกซรับบท เล็ตตี ออร์ติซ ในภาพยนตร์ชุด เร็ว..แรงทะลุนรก และรับบท เรน โอคัมโป ในภาพยนตร์ชุด เรซิเดนต์อีวิล เธอปรากฏตัวในภาพยนตร์ระทึกขวัญอาชญากรรมเรื่อง ส.ว.า.ท. หน่วยจู่โจมระห่ำโลก (2003) และต่อมาได้แสดงในภาพยนตร์มหากาพย์บันเทิงคดีวิทยาศาสตร์ของเจมส์ แคเมรอน เรื่อง อวตาร (2009) และในภาพยนตร์โลดโผนเรื่อง วันยึดโลก (2011)

ราดรีเกซยังมีงานทางซีรีส์ทางรายการโทรทัศน์ที่เล่นเป็นแอนนา โลนิการ์ คอร์เทซ ในซีชั่น 2 ของหนังซีรีส์เรื่อง อสุรกายดงดิบ เธอเป็นส่วนหนึ่งของนักแสดงซึ่งมีการแยกเป็นหลายชุดก่อนที่ซีรีส์จะจบลง เธอยังมีการทำงานเกี่ยวกับเสียงมากมาย ในวิดีโอเกม เช่น เกม คอลล์ออฟดิวตี และเกม Halo, และภาพยนตร์แอนิเมชันสามมิติ เรื่อง เทอร์โบ หอยทากจอมซิ่งสายฟ้า และซีรีส์ทางโทรทัศน์เรื่อง IGPX[3]

ภาพยนตร์ของเธอทำรายได้มากกว่า 5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2013 ความบันเทิงรายสัปดาห์ ได้มีบทความเกี่ยวกับราดรีเกซ ว่าเป็น "นักแสดงหญิงที่โดดเด่นที่สุดในฐานะนักแสดงหญิงประเภทแนวโลดโผนที่เป็นชาวละตินที่เห็นได้ชัดเจนในฮอลลีวูด".[4]

ชีวิตในวัยเด็ก

[แก้]

เมย์เท มิเชลล์ ราดรีเกซ[5] เกิดเมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม ค.ศ. 1978[6] ที่แซนแอนโทนีโอ รัฐเท็กซัส แม่ของเธอ คาเมน มิลาดี ราดรีเกซ เป็นคนพื้นเมืองของโดมินิกัน และพ่อของเธอ ราฟาเอล ราดรีเกซ เป็นชาวปวยร์โตรีโก รับราชการในกองทัพสหรัฐ[7][8][9] ราดรีเกซได้ย้ายตามแม่ของเธอไปอยู่ที่สาธารณรัฐโดมินิกันเมื่อเธออายุได้ 8 ขวบและอาศัยอยู่ที่นั่นจนกระทั่งอายุ 11 ปี หลังจากนั้นเธอย้ายไปอยู่ที่เครือรัฐปวยร์โตรีโกจนอายุได้ 17 ปี และสุดท้ายเธอตั้งรกรากที่เจอร์ซีย์ซิตี รัฐนิวเจอร์ซีย์ เธอหยุดเรียนไปตอนมัธยมปลายแต่ก็มาเรียน GED ต่อ[10] เธอถูกไล่ออกจากโรงเรียนมาแล้ว 5 ครั้ง[11] เธอเข้าเรียนหลักสูตรเร่งรัดที่โรงเรียนทางธุรกิจก่อนที่จะเริ่มต้นเรียนสายอาชีพทางการแสดง โดยเธอนั้นมีความฝันสูงสุดที่จะเป็นนักเขียนบทและผู้อำนวยการสร้าง[12]

ในช่วงเวลาหนึ่งเธอถูกเลี้ยงโดยคุณยายและถูกนำขึ้นเป็นพยานพระยะโฮวา ตามศาสนาแม่ของเธอ แม้ว่าเธอจะเริ่มละทิ้งศรัทธา[13][14] การทดสอบดีเอ็นเอของราดรีเกซจัดทำขึ้นตามโปรแกรมของรายการโทรทัศน์ Finding Your Roots ว่าบรรพบุรุษของเป็นชาวยุโรป 72.4%, ชาวแอฟริกัน 21.3% และเป็นชนพื้นเมืองอเมริกัน 6.3%[15] ซึ่งแสดงให้เห็นว่ามีบางส่วนขัดแย้งกันทางเชื้อชาติกับครอบครัวของเธอ ตั้งแต่พ่อของเธอเป็นปวยร์โตรีโกผิวขาวและแม่ของเธอซึ่งเป็นโดมินิกันซึ่งเป็นผิวสี

อาชีพ

[แก้]

ภาพยนตร์และโทรทัศน์

[แก้]
ราดรีเกซในงาน นิวยอร์กแฟชั่นวีค ฤดูใบไม้ผลิ ค.ศ. 2006

มีการเปิดทดสอบหน้ากล้องหรือเรียกว่าคัดเลือกดาราหน้าใหม่ซึ่งเป็นการออดิชันครั้งแรกของเธอ ราดรีเกซชนะผู้ที่เข้าสมัคร 350 คนในภาพยนตร์อิสระทุนต่ำ เรื่อง เกิร์ลไฟท์ ด้วยการรับบทเป็น ไดน่า ก็อตแมน ซึ่งเป็นบทวัยรุ่นที่ก้าวร้าวแล้วได้รับการฝึกฝนเพื่อจะเป็นนักมวย[16] ราดรีเกซได้รับรางวัลหลายรางวัลและถูกเสนอชื่อในฐานะนักแสดงอิสระ รวมทั้งได้รับรางวัลนักแสดงหลักจากงาน National Board of Review และ Deauville Film Festival,[17] และก็ยังมีอีกหลายรางวัล เช่น อินดิเพนเดนต์สปิริตอะวอดส์,[2] กอแทมอะวอดส์,[1] Las Vegas Film Critics Sierra Awards, และอีกหลายที่ได้รับ ตัวภาพยนตร์เองก็ได้รับรางวัลสูงสุดจากเทศกาลภาพยนตร์ซันแดนซ์[18] และชนะเลิศรางวัลเยาวชนที่เทศกาลภาพยนตร์เมืองกาน ในปี 1999, เธอได้รับคัดเลือกในบทบาทที่เป็น Sisqó's ในมิวสิกวิดีโอ ชื่อว่า "Thong Song. ในปี 2002, เธอปรากฏตัวในมิวสิกวิดีโอเพลงที่มีชื่อว่า "Always On Time"

ราดรีเกซมีบทบาทที่โดดเด่นในภาพยนตร์ที่ประสบความสำเร็จ รวมถึงบทบาทของเธอที่เป็นแล็ตตี โอติซ ในภาพยนตร์เรื่อง เร็ว..แรงทะลุนรก (2001) และแสดงเป็น เรน โอคัมโป ในภาพยนตร์เรื่อง ผีชีวะ (2002) เธอปรากฏตัวในภาพยนตร์เรื่อง คลื่นยักษ์รักร้อน และ ส.ว.า.ท. หน่วยจู่โจมระห่ำโลก[19] ใน ค.ศ. 2004 ราดรีเกซได้พากษ์เสียงเป็นตัวละคร มารีน ในวิดีโอเกม เฮโล 2 [20] เธอยังมีการให้เสียงของอลิซ ริคาร์โรว์ (Liz Ricarro) ในซีรีส์การ์ตูนเน็ตเวิร์ค ของ IGPX.[3] จาก ค.ศ. 2005 ถึง 2006 เธอแสดงเป็นตำรวจ แอนนา โลนิการ์ คอร์เทซ[21] ในละครชุดทางโทรทัศน์เรื่อง อสุรกายดงดิบ เธอปรากฏตัวในฤดูกาลที่ 2 (ตัวละครที่ปรากฏตัวในครั้งแรกเป็นเรื่องย้อนหลังในช่วงจบฤดูกาลแรกชื่อว่า "Exodus: Part 1") และมาปรากฏตัวอีกครั้งในฐานะนักแสดงรับเชิญในซีชั่นที่ 5 "The Lie" ใน ค.ศ. 2009 เธอกลับมาอีกครั้งในตอนสุดท้ายของละครชุด ชื่อ "What They Died For" ในปี ค.ศ. 2010 เมื่อปี ค.ศ. 2006 ราดรีเกซที่ตอนสำคัญที่เป็นตอนของตัวเธอเองใน G4's แสดงเป็น Icons.[22]

ในปี 2008 ราดรีเกซปรากฏตัวในภาพยนตร์เรื่อง ซึแอตเติล ปิดเมืองเดือดระอุ[23] ใน ค.ศ. 2009 เธอแสดงในหนังเรื่อง เร็วแรงทะลุนรก 4 ซึ่งเป็นภาคที่ 4 ของภาพยนตร์ชุด เดอะฟาสต์แอนด์เดอะฟิวเรียส[24][25] หลังจากนั้นอีกปี ราดรีเกซได้แสดงในภาพยนตร์ทุนสร้างสูงแนวบันเทิงคดีวิทยาศาสตร์ของเจมส์ แคเมรอนเรื่องอวตาร ซึ่งกลายเป็นภาพยนตร์ที่ทำรายได้สูงสุดในประวัติศาสตร์วงการภาพยนตร์ และก็เป็นหนังที่ราดรีเกซก็ประสบความสำเร็จ เธอให้ความสนใจกับการกับมาในภาพยนตร์เรื่องที่ 2[26][27] ใน ค.ศ. 2009 ราดรีเกซได้ร่วมแสดงในหนังของโดมินิกันที่ชื่อว่า Trópico de Sangre ซึ่งเป็นหนังอิสระที่สร้างโดยมิราเบล น้องสาวของเธอ[28][29]

จากซ้ายไปขวา, ราดรีเกซ, โจนาธาน ลีเบสแมน และ อาร์รอน แอ็กคาร์ต ที่งานแซนดิเอโก คอมมิคคอน อินเตอร์เนชันแนล ค.ศ. 2010

เมื่อ ค.ศ. 2010 ราดรีเกซได้ปรากฏตัวในของโรเบิร์ต รอดรีเกซเรื่อง ระห่ำ กระฉูด ซึ่งภาพยนตร์ได้รับคำวิจารณ์ในเชิงบวกและทำเงินไป 44 ล้านเหรียญในบ๊อกออฟฟิต[30] ในปี 2011 ประกบคู่คับ อารอน เอคฮาร์ท ในภาพยนตร์แนวบันเทิงคดีวิทยาศาสตร์ เรื่อง วันยึดโลก ซึ่งทำรายได้มากว่า 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐในบ็อกซ์ออฟฟิศ ใน ค.ศ. 2012 เธอกลับไปเล่นหนังในบทของร่างโคลนที่เป็นทั้งตัวดีและตัวร้ายในบทของ เรน โอแคมโบ ในหนังเรื่อง ผีชีวะ 5 ตอนสงครามไวรัสล้างนรก ใน ค.ศ. 2013 เธอรับบทบาทเป็น เล็ตตี โอติซ ในเรื่อง เร็ว..แรงทะลุนรก 6 ในปีเดียวกันราดรีเกซมาแสดงในภาพยนตร์ของโรเบิร์ต ราดรีเกซเรื่อง คนระห่ำ ดุกระฉูด

การรับบทบาท

[แก้]

หลังจากภาพยนตร์เรื่องแรกของเธอ เกิร์ลไฟท์ ราดรีเกซได้แสดงภาพยนตร์อย่างต่อเนื่องและมีคาแรคเตอร์แนวทอมบอยที่ทำงานในสถานีตำรวจหรือทำงานในหน่วยงานของกองทัพ ราดรีเกซกล่าวว่าไม่สนใจว่าตัวเองจะได้รับบทบาทอย่างไร แต่เธอจะรับผิดชอบกับบทบาทที่ได้รับอย่างดีที่สุด[31]

"โอ้ไม่นะ, ฉันรู้สึกว่าเพิ่งได้รับบทบาทในภาพยนตร์เรื่อง เกิร์ลไฟท์ เมื่อปีที่ผ่านมา คุณจะยอมให้ตัวเองได้รับบท ถ้าฉันตัดสินใจฉันไม่ต้องการที่จะได้รับบทในวันพรุ่งนี้ ฉันจะต้องเล่นหนังอินดี้ที่ได้รับบทสาวยากจนที่ต้องมีประสบการณ์ที่ทนทุกข์ทรมารและต้องการที่จะเอาชนะผ่านมันมาให้ได้จากการร้องไห้หรือถูกข่มขืน แต่ช่วงท้ายๆ ของวันฉันรู้สึกว่าตัวเองไม่ได้แสดง ฉันเพียงต้องการใครบางคนฉันเชื่อในสิ่งนั้นฉันอยากให้ทุกคนสนใจหรือสนุกไปกับมัน ฉันอยู่ตรงนี้เพื่อให้ความบันเทิงกับผู้ชมและช่วยให้ผู้หญิงนั้นแข็งแกร่งขึ้น และนั่นคือสิ่งที่ฉันทำในช่วงเวลา 10 ปีที่ผ่านมา ฉันบอกกับตัวเองและฉันก็มีกล่องของตัวเองและจะพูดว่าเมื่อมีสิ่งต่างๆที่จะใส่ในจานของฉัน ฉันก็จะพูดว่าไม่ และในที่สุดฉันก็จะเหมือนลูกไก่ที่แข็งแรงที่จะถูกฆ่าและมันก็ไม่ผิดปกติอะไร"

คนเขียนบท

[แก้]

ในระหว่าที่กำลังมีทัวร์เพื่อโปรโมตหนังเรื่อง เร็ว..แรงทะลุนรก 6 ราดรีเกซเริ่มได้รับร่วมธุรกิจกับฮอลลีวูดที่จะผันตัวเป็นคนเขียนบาท เธอมีงานเขียนบทอยู่สองเรื่องที่กำลังพัฒนาอยู่และมีแผนที่จะหยุดพักงานแสดงเพื่อจะติดตามผลงานเขียนของเธอ หนึ่งในแนวความคิดอยู่บนพื้นฐานเป็นหนังครอบครัวเธอได้ให้คำอธิบายว่า "เรื่องราว 2012 ที่เกี่ยวข้องกับความบริสุทธิ์ เกี่ยวกับสัตว์และเกี่ยวกับเด็ก",[32] และมีจุดอื่นๆ ที่กับลังปรับปรุงแก้ไขในการที่เอามาทำใหม่เป็นหนังโจรเยอรมันปี 1997 ที่เธอให้คำอธิบายเกี่ยวกับหนังไว้ว่า "เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับ 4 สาวที่หนีออกมาจากคุกและกำลังถูกตามล่าตัวทั่วประเทศโดยเอฟบีไอ"[33]

นักจัดรายการ

[แก้]

ราดรีเกซได้ผันตัวเข้ามาทำงานเป็นนักจัดรายการ ปี 2009 - เป็นไนท์คลับที่เป็นนานาชาติและเป็นดีเจในรอบปฐมทัศน์ภาพยนตร์ที่ช่วงท้ายมีงานปาร์ตี้[34] ราดรีเกซระบุว่ามีการมิกเพลงที่เป็นแนวเฮาส์มิวสิก และมีการบันทึก เธอพูดไว้ว่า "ส่วนใหญ่ฉันชอบเล่นในที่ที่มีคนมากที่เป็นกลุ่มผู้ใหญ่เพื่อฉันจะย้อนกลับไปในยุค 1930s ไปถึงปี 1960s, 1970 และ1980s – เอามาไว้ในบ้าน มีแนวฮิปฮอปแล้วก็อาร์แอนด์บี ฉันชอบที่จะผสมผสานเสียงดนตรีอีเล็กทรอนิค"

การจัดอันดับอันน่าทึ่ง

[แก้]

หลายต่อหลายครั้งในช่วงอาชีพของเธอ เธอได้รับการจัดอันดับในนิตยสาร Stuff ว่าเป็น "เป็น 1 ในผู้หญิง 102 คนที่มีเสน่ห์ดึงดูดที่สุดในโลก" หนังสือ Maxim" "เป็นผู้หญิงที่ติดหนึ่งใน 100 ของผู้หญิงที่เซ็กซี่ที่สุด" และติดอันดับที่ 74 ของนิตยสาร เอฟเอชเอ็ม "ผู้หญิง 100 อันดับแรกที่เซ็กซี่ที่สุดในปี 2009"[ต้องการอ้างอิง]

ชีวิตส่วนตัว

[แก้]

ความสัมพันธ์

[แก้]
ราดรีเกซในเดือนธันวาคม ค.ศ. 2009

ในช่วงต้นปี 2000 ราดรีเกซได้ยุติการหมั้นกับแฟนหนุ่มที่เป็นชาวมุสลิม โดยเหตุผลหรือข้ออ้างมาจากความแตกต่างทางศาสนาของฝ่ายชายที่เขาขอร้องจากเธอ[35] หลังจากนั้นได้มีข่าวว่าเธออาจมีความสัมพันธ์กับวิน ดีเซล ที่เป็นพระเอกคู่กับเธอในหนังเรื่อง เร็ว..แรงทะลุนรก[36] และโอลิเวียร์ มาร์ติเนซ ที่ได้มีโอกาสร่วมงานกับเธอในหนังเรื่อง ส.ว.า.ท. หน่วยจู่โจมระห่ำโลก[37][38]

ในเดือนกรกฎาคม 2006, ราดรีเกซได้บอกกับนิตยสาร คอสมอโพลิแทน ว่าเธอไม่ใช่เลสเบียน แต่ว่า"เธอได้เคยมีประสบการณ์กับทั้งสองเพศ" [39] ในเดือนพฤศจิกายน ปี 2006, เธอได้ถูกเปิดเผยว่าเธอเป็นไบเซ็กชวล กับตอนที่เธอแสดงภาพยนตร์เรื่อง ผ่าภิภพแวมไพร์ ที่ได้ร่วมงานกับนักแสดง คริสแตนนา โลเคน ได้สร้างความคิดเห็นหลายความเห็นผู้ที่ให้การสนับสนุน มีการตีความกันอย่างกว้างขวางจากสื่อถึงความสัมพันธ์ของทั้งคู่ แต่ก็ไม่ได้รับการยืนยันอย่างเป็นทางการจากคนทั้งคู่[40] ในเดือนมิถุนายน ปี 2007 นิตยสารเลสเบี้ยนที่ชื่อว่าเคิร์ฟ ได้นำเสนอเรื่องราวอ้างว่าราดรีเกซนั้นเป็นไบเซ็กชวล[41] ราดรีเกซได้วิพากษ์วิจารณ์นิตยสารเล่มนี้ว่า"เอาคำพูดยัดใส่ปากของเธอ".[42] เธอก็ได้บอกอีกครั้งว่าเธอไม่ใช่เลสเบียนในเดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 2008 จากการที่เธอให้สัมภาษณ์กับหนังสือนิตยสารสำหรับผู้หญิงที่ชื่อว่า Cayena ซึ่งเป็นนิตยสารของสาธารณรัฐโดมินิกัน[43]

ในเดือนตุลาคม 2013, หนังสือเอนเตอร์เทนเมนต์วีกลี ได้ยกคำพูดของเธอที่ว่า "ฉันได้ทั้งสองอย่าง ฉันทำในสิ่งที่ฉันชอบ ฉันแปลกมากที่มานั่งอยู่ตรงนี้และฉันไม่พยายามทนในเมื่อฉันสามารถทำได้ ผู้ชายก็มีอะไรที่น่าทึ่ง เหมือนดังลูกไก่"[4] แล้วเธอก็ได้อธิบายคำพูดของเธอกับนิตยสารที่มีชื่อว่าLatina ว่า "ฉันว่ามันเก่าแล้ว. ในที่สุดมันก็จะทำเกิดความยุ่งยากจนฉันไม่อยากจะกลับไปทำอีก. ฉันอยากจะซื่อสัตย์และมองดูสิ่งที่กำลังจะเกิด."[44] ในเดือนพฤษภาคม ปี 2014, เธอกล่าวว่าการที่เธอให้สัมภาษณ์เธอหวังว่าการกระทำของเธอจะสามารถช่วยคนอื่นๆ ที่เจอในสถานการณ์ที่คล้ายกัน "โดยอาจจะเปิดปากใหญ่โตที่เต็มได้ด้วยไขมันของฉัน เหมือนกับจะทำให้ก้าวผ่านขึ้นไปอีกขั้นโดยที่จะสร้างแรงบันดาลใจให้กับใครบางคนที่เป็นคล้ายๆกัน"[45] เธอได้ให้คำอธิบายหลังจากการให้สัมภาษณ์อีกครั้งนั้นหลังจากนั้นว่าตัวเธอเองเป็นไบเซ็กชวล: "ไบ , ใช่ ฉันตกอยู่ในแบบ B-ของ กลุ่มบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศ(กลุ่มที่มีความหลากหลายทางเพศ)" ราดรีเกซขาดความแปลกใหม่ในบทนักแสดงหญิงที่มีอยู่ในบทภาพยนตร์ เธอกล่าวว่า "มีอะไรที่ผิดปกติกับการเป็นไบเซ็กชวลเหรอ? ฉันหมายถึง,พวกเราต่อต้านสิ่งที่จะมารบกวนในที่ที่เราจะไป"[46]

ประเด็นเรื่องเกี่ยวกับกฎหมาย

[แก้]

ในเดือนมีนาคม ปี 2002, ราดรีเกซได้ถูกจับกุมในข้อหาทำร้ายร่างกายหลังจากที่ต่อสู้ตบตีกับเพื่อนร่วมห้องของเธอ[47] ค่าปรับได้ถูกหยุดไว้เนื่องจากเพื่อนร่วมห้องของเธอปฏิเสธข้อกล่าวหาในชั้นศาล.[48] ในเดือนพฤศจิกายน ปี 2003, ราดรีเกซขึ้นศาลเพื่อเผชิญหากับข้อกล่าวหาทางอาญา(misdemeanor) 8 ข้อ และถูกจ่ายค่าปรับกับ 2 เหตุการณ์ซึ่งรวมไปถึงกรณีขับรถชนแล้วหนีและชกต่อย.[49] ในเดือนมิถุนายน ปี 2004 , โรดิเกซสารภาพไม่ขอสู้คดี ในลอสแอนเจลิสที่ถูกจับกุมใน 3 ข้อหาชนแล้วหนี และขับรถโดยที่ใบอนุญาตในการขับขี่ถูกระงับ.[50] เธอถูกจำคุก 48 ชั่วโมง, ต้องบำเพ็ญประโยชน์ต่อสังคมที่ห้องเก็บศพในโรงพยาบาลนิวยอร์ก, เข้าโครงการบำบัดแอลกอฮอล์ 3 เดือน, และได้รับการรอลงอาญา เป็นเวลา 3 ปี [51]

ในปี 2005 ขณะที่หนังเรื่อง อสุรกายดงดิบ ใน รัฐฮาวาย ราดรีเกซถูกจับกุมจากตำรวจโฮโนลูลู หลายครั้ง เธอถูกกล่าวหาเรื่องการขับรถในเขตเกาะโอวาฮู ในวันที่ 1 พฤศจิกายนและถูกปรับเป็นเงิน 357 ดอลลาร์สหรัฐ เธอต้องจ่าย 300 ดอลลาร์สหรัฐในเรื่องการขับในวันที่ 20 ตุลาคมและถูกปรับ 197 เหรียญในวันที่ 24 เดือนสิงหาคม[52]

ในวันที่ 1 ธันวาคม ปี 2005 ราดรีเกซถูกจับกุมจากการขับรถ[53] โรดิเกซได้ปฏิเสธข้อกล่าวหาว่าเธอไม่ยอมรับความผิดเมื่อถูกฟ้องร้อง[54] แต่ในวันของการพิจารณาคดีของเธอในเดือนเมษายน ค.ศ. 2006, เธอกลับรับสารภาพและยินดีที่จะจ่ายค่าปรับ เธอเลือกที่จะเป็นจ่ายเงิน 500 ดอลลาร์สหรัฐและถูกคุมขังเป็นเวลา 5 วันแทนที่จะบำเพ็ญประโยชน์เพื่อชุมชน 240 ชั่วโมง[50] เธอได้อ้างว่าปริมาณสารสเตียรอยด์ที่เธอได้รับในปริมาณที่สูงจากการเบาเทาอาการแพ้มีผลกับพฤติกรรมของเธอ[55] เพราะอุบัติเหตุที่ไกลลัว (Kailua) มันอยู่ในช่วงการคุมความประพฤติของเธอที่ลอสแอนเจลิส เธอถูกตัดสินจำคุกถึง 60 วันในคุก และถูกคุมความประพฤติโครงการการฟื้นฟูเรื่องเครื่องดื่มแอลกอฮอร์และอีก 30 ในการบำเพ็ญสาธารณประโยชน์เพื่อชุมชน, รวมถึงงานรณรงค์ต่อต้านแม่เมาแล้วขับ โดยผู้พิพากษาลอสแอนเจลิสในวันที่ 1 พฤษภาคม ค.ศ. 2006[56] เพราะความอึดอัด เธอได้รับการปล่อยตัวจากคุกเพียงหลังจากที่เธอเดินเขาไปในคุกในวันเดียวกัน เธอนำประสบการณ์เข้าไปเขียนในบล็อกของเธอ[57]

ในเดือนกันยายน ค.ศ. 2007 ราดรีเกซได้ถูกกล่าวหาว่าละเมิดการถูกคุมความประพฤติโดยการบำเพ็ญประโยชน์ต่อสาธารณชนไม่เสร็จสิ้นและไม่ปฏิบัติตามโปรแกรมบำบัดแฮกอลฮอร์ มีรายงานว่าเธอส่งเอกสารเดิมที่ระบุว่าเธอทำงานบำเพ็ญประโยชน์ในวันที่ 5 เดือนกันยายนในปี 2006, แต่ก็ได้รับการยืนยันว่าเธอทำจริงที่เมืองนิวยอร์กในวันนั้น. ทนายความของเธออ้างว่าเป็นข้อผิดพลาดของฝ่ายธุรการ[58] ในวันที่ 10 เดือนตุลาคม ค.ศ. 2007 เธอถูกตัดสินให้จำคุก 180 วันหลังจากที่เธอละเมิดการคุมความประพฤติของเธอ เธอคาดว่าเวลาในคุก 180 วันเต็มในคุกนั้นไม่เหมาะสมเนื่องจากเธอต้องพักงานเธอและถูกกักบริเวณในบ้าน.[59] อย่างไรก็ตามหลังจากที่เข้าไปในคุกที่เป็นสถานกักกันที่ตั้งอยู่ในเขตลินวูดส์ ในวันที่ 23 ธันวาคม ค.ศ. 2007[60] เธอได้รับการปล่อยตัวหลังจากถูกคุมขังได้ 18 วัน ในวันที่ 9 เดือนมกราคม ค.ศ. 2008 เนื่องจากความแออัดในคุก[61]

ผลงานด้านการแสดง

[แก้]

ภาพยนตร์

[แก้]
ปี เรื่อง รับบท หมายเหตุ
2000 เกิร์ลไฟท์ Diana Guzman
2001 เร็ว..แรงทะลุนรก Letty Ortiz
2001 3 A.M. Salgado
2002 ผีชีวะ Rain Ocampo
2002 Blue Crush เอเดน
2003 ส.ว.า.ท. หน่วยจู่โจมระห่ำโลก Officer Chris Sanchez
2004 Control เทเรซา
2005 BloodRayne Katarin
2006 Breed, TheThe Breed นิกกี
2007 Battle in Seattle Lou
2008 Gardens of the Night ลูซี
2009 เร็ว..แรงทะลุนรก 4: ยกทีมซิ่ง แรงทะลุไมล์ เล็ตตี
2009 Los Bandoleros ภาพยนตร์สั้น
2009 อวตาร กัปตัน ทรูดี ชาร์คอน
2010 Machete Luz/Shé
2010 Trópico de Sangre Minerva Mirabal
2011 Battle: Los Angeles Technical Sergeant Elana Santos
2012 ผีชีวะ 5 สงครามไวรัสล้างนรก Rain Ocampo[62]
2013 InAPPropriate Comedy Harriet
2013 เร็ว..แรงทะลุนรก 6 เล็ตตี
2013 Turbo Paz พากย์เสียง
2013 Machete Kills Luz/Shé
2015 เร็ว..แรงทะลุนรก 7 เล็ตตี
2016 The Assignment Frank Kitchen / Tomboy
2016 Milton's Secret Ms. Ferguson
2017 Smurfs: The Lost Village Smurf Storm[63] พากย์เสียง
2017 เร็ว..แรงทะลุนรก 8 เล็ตตี
2018 Alita: Battle Angel เกลดา Post-production
2018 Widows ลินดา Post-production

ละครโทรทัศน์

[แก้]
ปี เรื่อง รับบท หมายเหตุ
2003 Slavi's Show ตัวเอง ทีวีโชว์ (1 ตอน)
2005 Punk'd ตัวเอง 1 ตอน
2005–06 Immortal Grand Prix Liz Ricarro 26 episodes
Voice: English version
2005–06,
2009–10
Lost Ana Lucia Cortez Guest (season 1)
Main cast (season 2)
Special guest star (season 5 & 6): 22 episodes
2011 CollegeHumor Original เจสซิกา Episode: "Sorority Pillow Fight"
2012 Germany's Next Top Model ตัวเอง Episode: "A Dream Comes True: Hollywood is Waiting"
2015 Running Wild with Bear Grylls ตัวเอง Episode: "Michelle Rodriguez"
2015 Super Into ตัวเอง Episode: "Michelle Rodriguez is Super Into Superbikes"

อ้างอิง

[แก้]
  1. 1.0 1.1 IFP Gotham Independent Film Awards. "Gothan Awards Recipients" (PDF). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ มีนาคม 4, 2016. สืบค้นเมื่อ ธันวาคม 23, 2010.
  2. 2.0 2.1 ""Girlfight" a Winner". FilmFestivals.com. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ ธันวาคม 18, 2012. สืบค้นเมื่อ ธันวาคม 23, 2010.
  3. 3.0 3.1 "The Ghost Cast & Crew List". The Big Cartoon Database. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-01-17. สืบค้นเมื่อ December 23, 2010.
  4. 4.0 4.1 Vilkomerson, Sara (October 1, 2013). "Michelle Rodriguez talks movies, female empowerment, and sex: 'I don't talk about what I do with my vagina'". Entertainment Weekly. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2014-02-02. สืบค้นเมื่อ 26 February 2014.
  5. "Woman". Michelle-Rodriguez.com (official site). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ มิถุนายน 15, 2012. สืบค้นเมื่อ กุมภาพันธ์ 7, 2007.
  6. Marx, Rebecca Flint (2008). "Michelle Rodriguez: Biography". Rovi via MSN. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ July 28, 2011. สืบค้นเมื่อ August 27, 2008.
  7. Angie Romero (April 15, 2009). "Michelle Rodriguez: "I Feel Like I'm Being Born Again"". Latina. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-04-01. สืบค้นเมื่อ November 13, 2010.
  8. "Michelle Rodriguez Biography (1978–)". Film Reference. สืบค้นเมื่อ December 25, 2007.
  9. Stated on Finding Your Roots with Henry Louis Gates, Jr., May 20, 2012, PBS
  10. "Michelle Rodriguez- Biography". Yahoo! Movies. สืบค้นเมื่อ October 13, 2012.
  11. Raphael, Amy (April 11, 2009). "Amy Raphael interviews Michelle Rodriguez". The Guardian. UK. สืบค้นเมื่อ November 13, 2010.
  12. "Michelle Rodriguez Official Biography". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2008-05-16. สืบค้นเมื่อ June 6, 2008.
  13. "Michelle Rodriguez: in role after role, she has kicked the stereotype of the token female in the teeth, leaving an imprint all her own". September 2003. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2007-10-13. สืบค้นเมื่อ December 25, 2007.
  14. "The Religious Affiliation of Actress Michelle Rodriguez". World Religions. August 11, 2005. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-02-18. สืบค้นเมื่อ December 25, 2007.
  15. "Adrian Grenier, Michelle Rodriguez, and Linda Chavez (@ the 47:30 mark)". PBS. March 22, 2012.
  16. "A Conversation About "Girlfight"; October 27, 2000". Charlierose.com. October 27, 2000. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2014-09-08. สืบค้นเมื่อ March 8, 2010.
  17. ""Girlfight" a Winner". FilmFestivals.com. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-04-07. สืบค้นเมื่อ December 23, 2010.
  18. "'Girlfight,' 'Count on Me' Tie at Sundance". Los Angeles Times. January 30, 2000. สืบค้นเมื่อ December 23, 2010.
  19. "S.W.A.T." TV Guide. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2010-06-13. สืบค้นเมื่อ December 23, 2010.
  20. "Interview: Michelle Rodriguez in Halo 2". Gamestar. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2010-10-09. สืบค้นเมื่อ December 23, 2010.
  21. Itzkoff, Dave (November 15, 2005). "She loves acting tough on 'Lost'". Daily News. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2009-04-16. สืบค้นเมื่อ December 23, 2010.
  22. "ICONS: Michelle Rodriguez Episode #6004". G4 Media. June 24, 2006. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-08-08. สืบค้นเมื่อ December 23, 2010.
  23. "Battle in Seattle". The Miami Herald. สืบค้นเมื่อ December 23, 2010.
  24. Itzkoff, Dave (March 26, 2009). "What a Stunt! Can They Do It Again?". The New York Times. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2009-04-16. สืบค้นเมื่อ December 23, 2010.
  25. ""Universal Shuffles 2009 Schedule"; December 10, 2008". Sfluxe.com. December 10, 2008. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-03-21. สืบค้นเมื่อ March 8, 2010.
  26. Alasdair Wilkins (December 28, 2010). "Michelle Rodriguez wants to return for Avatar 2". io9.com. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2014-09-08. สืบค้นเมื่อ 2014-08-21.
  27. "Michelle Rodriguez Talks Avatar 2". E!.
  28. "Tropico de Sangre". Internet Movie Database. สืบค้นเมื่อ December 23, 2010.
  29. "La historia de las hermanas Mirabal". El Tiempo (ภาษาสเปน). สืบค้นเมื่อ December 23, 2010.
  30. "Get Your Grindhouse Fix With a New Poster from Robert Rodriguez's Machete". BloodyDisgusting. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-11-04. สืบค้นเมื่อ 2014-08-21.
  31. "Michelle Rodriquez Responds". Hollywoodnews.com. July 26, 2010. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2014-09-08. สืบค้นเมื่อ 2014-08-21.
  32. "Michelle Rodriguez Writing Kids Film". Internet Movie Database. September 18, 2008.
  33. "GameCulture Exclusive: 'Avatar' Vet Michelle Rodriguez Talks Modern Warfare and Dodging Earthquakes". Gameculture.com. December 14, 2009. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2009-12-17. สืบค้นเมื่อ 2014-08-21.
  34. Betiku, Fehintola (May 24, 2012). "Too cool for Cannes... Michelle Rodriguez shows off her DJ skills at the Sea Shepherd party in Cannes". Daily Mail. London. สืบค้นเมื่อ August 12, 2013.
  35. "Rodriguez Turned Down Muslim Marriage". Cinema.com. June 6, 2008. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-02-18. สืบค้นเมื่อ 2014-08-21.
  36. Wloszczyna, Susan (August 6, 2002). "Vin Diesel, in high gear". ยูเอสเอทูเดย์. สืบค้นเมื่อ February 4, 2007.
  37. "Minogue's Martinez linked to Rodriguez". Contact Music. May 2, 2008. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-02-18. สืบค้นเมื่อ March 3, 2005.
  38. Kent, Paul (May 2, 2008). "Kylie and Oli on rocks again". The Daily Telegraph. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-09-05. สืบค้นเมื่อ January 29, 2005.
  39. "LOST girl". Cosmopolitan. April 16, 2006. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (reprint)เมื่อ 2007-02-25. สืบค้นเมื่อ February 4, 2007.
  40. Kort, Michele (November 15, 2006). "Michelle & Kristanna in love!". The Advocate. PlanetOut Inc. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2007-02-02. สืบค้นเมื่อ February 4, 2007.
  41. "Michelle Rodriguez 'Curve' cover controversial". Monstersandcritics.com. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2008-01-11. สืบค้นเมื่อ May 2, 2008.
  42. "Michelle Rodriguez Blogs About Curve Article". michelle-rodriguez.com. May 2007. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-02-18. สืบค้นเมื่อ July 4, 2009.
  43. "Michelle Rodríguez: 'RD no debería tener esa mentalidad tan gubernamental'". Cayena. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2011-07-19. สืบค้นเมื่อ November 22, 2008.
  44. Rodriguez, Priscilla (19 November 2013). "Exclusive: Michelle Rodriguez talks 'Turbo' & coming out: I wanted to be honest". Latina. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2014-06-07. สืบค้นเมื่อ 4 June 2014.
  45. Hernandez, Greg (May 12, 2014). "Michelle Rodriguez chats with GSN at her first LGBTI event since coming out as bisexual". Gay Star News. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2015-01-11. สืบค้นเมื่อ June 2, 2014.
  46. Ocamb, Karen (May 20, 2014). "Michelle Rodriguez Asks 'What's Wrong with Being Bi?'". frontiersla.com. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2014-06-05. สืบค้นเมื่อ June 2, 2014.
  47. Grossberg, Josh (March 20, 2002). ""Girlfight" Star Busted for Girl Fight". E!. สืบค้นเมื่อ February 4, 2007.
  48. Grossberg, Josh (April 8, 2002). ""Girlfight" Star Off the Hook". E!. สืบค้นเมื่อ February 4, 2007.
  49. Haberman, Lia (November 20, 2003). "Rodriguez: Way 2 Fast 2 Furious". E!. สืบค้นเมื่อ February 4, 2007.
  50. 50.0 50.1 ""Lost" actress chooses jail over service". CBS News. Associated Press. April 26, 2006. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2007-10-13. สืบค้นเมื่อ July 21, 2006.
  51. Hall, Sarah (December 14, 2005). "Rodriguez: Fast and Furious Driver". E!. สืบค้นเมื่อ February 4, 2007.
  52. "Michelle Rodriguez settles two traffic cases". MSNBC. Associated Press. December 14, 2005. สืบค้นเมื่อ July 21, 2006.
  53. "Two 'Lost' stars charged with drunken driving". MSNBC. Associated Press. December 2, 2005. สืบค้นเมื่อ July 21, 2006.
  54. Errico, Marcus (December 29, 2005). ""Lost" Stars Arraigned for DUIs". E!. สืบค้นเมื่อ July 21, 2006.
  55. Finn, Natalie (May 22, 2006). "More Jail Time for Michelle Rodriguez". E!. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2009-01-24. สืบค้นเมื่อ July 29, 2006.
  56. Lee, Ken and Silverman, Stephen M. (May 22, 2006). "Michelle Rodriguez Gets 60 Days in Jail". People. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2007-02-12. สืบค้นเมื่อ February 4, 2007.{{cite news}}: CS1 maint: multiple names: authors list (ลิงก์)
  57. ""Michelle Rodriguez Blogs About Arrest and Conviction"; February 16, 2007". Michelle-rodriguez.com. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-02-18. สืบค้นเมื่อ March 8, 2010.
  58. Lee, Ken (October 27, 2007). "Michelle Rodriguez Sentenced to Six Months in Jail wow". People. สืบค้นเมื่อ February 10, 2008.
  59. Finn, Natalie (October 10, 2007). "Slammer Time for Michelle Rodriguez". E!.
  60. "Former 'Lost' star Michelle Rodriguez reports for 6-month jail term in California". MSNBC. Associated Press. December 24, 2007. สืบค้นเมื่อ December 25, 2007. [ลิงก์เสีย]
  61. "Michelle Rodriguez out of jail after 18 days". MSNBC. January 10, 2008. สืบค้นเมื่อ February 1, 2008.
  62. Miska, Brad (กันยายน 22, 2011). "Michelle Rodriguez Returning for Some 'Retribution'!". Bloody Disgusting. The Collective. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ September 24, 2011. สืบค้นเมื่อ September 23, 2011.
  63. http://www.aussieosbourne.com/2017/01/sony-pictures-animation-unveils-varied.html

แหล่งข้อมูลอื่น

[แก้]

แม่แบบ:ScreenActorsGuildAwards EnsembleTVDrama 2000–2009

[[วิกิพีเดีย:|ข้อมูลบุคคล]]
ชื่อ Rodriguez, Michelle}
ชื่ออื่น
รายละเอียดโดยย่อ Actress
วันเกิด July 12, 1978
สถานที่เกิด San Antonio, U.S.
วันตาย
สถานที่ตาย