ฟุตบอลหญิงทีมชาติสวีเดน
ฉายา | Blågult (ฟ้าเหลือง) | ||
---|---|---|---|
สมาคม | สมาคมฟุตบอลสวีเดน | ||
สมาพันธ์ | ยูฟ่า (ยุโรป) | ||
หัวหน้าผู้ฝึกสอน | เพีย ซุนด์ฮาแก | ||
ผู้ช่วยผู้ฝึกสอน | ลีเลีย แพร์ชอน | ||
กัปตัน | กอซอวาร์ อัสลานี แม็กดาเลนา เอริกสัน | ||
ติดทีมชาติสูงสุด | แคโรลิน เซเกอร์ (240 ครั้ง) | ||
ทำประตูสูงสุด | ลอตตา ฟีลีน (73 ประตู) | ||
สนามเหย้า | กัมลา อูเลวี | ||
รหัสฟีฟ่า | SWE | ||
| |||
อันดับฟีฟ่า | |||
อันดับปัจจุบัน | 5 | ||
อันดับสูงสุด | 3 (มิถุนายน ค.ศ. 2007) | ||
อันดับต่ำสุด | 6 (มีนาคม ค.ศ. 2005) | ||
เกมระดับนานาชาติครั้งแรก | |||
สวีเดน 0–0 ฟินแลนด์ (มารีเอฮัมน์ ประเทศฟินแลนด์; 25 สิงหาคม ค.ศ. 1973) | |||
ชนะสูงสุด | |||
สวีเดน 17–0 อาเซอร์ไบจาน (กอเทนเบิร์ก ประเทศสวีเดน; 23 มิถุนายน ค.ศ. 2010) | |||
แพ้สูงสุด | |||
นอร์เวย์ 4–0 สวีเดน (ฮามาร์ ประเทศนอร์เวย์; 21 มกราคม ค.ศ. 1996) นอร์เวย์ 4–0 สวีเดน (คาตีรา ประเทศโปรตุเกส; 17 มีนาคม ค.ศ. 1996) จีน 4–0 สวีเดน (กว่างโจว ประเทศจีน; 14 มกราคม ค.ศ. 1998) สวีเดน 0–4 นอร์เวย์ (อัดเดวัลลา ประเทศสวีเดน; 24 กรกฎาคม ค.ศ. 2004) สวีเดน 0–4 เยอรมนี (พาร์ทัล ประเทศโปรตุเกส; 5 มีนาคม ค.ศ. 2012) สหรัฐ 4–0 สวีเดน (พาร์ทัล ประเทศโปรตุเกส; 7 มีนาคม ค.ศ. 2012) | |||
ฟุตบอลโลก | |||
เข้าร่วม | 9 (ครั้งแรกใน 1991) | ||
ผลงานดีที่สุด | รองชนะเลิศ (ค.ศ. 2003) | ||
ชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป | |||
เข้าร่วม | 11 (ครั้งแรกใน 1984) | ||
ผลงานดีที่สุด | แชมป์ (ค.ศ. 1984) |
ฟุตบอลหญิงทีมชาติสวีเดน (สวีเดน: Damlandslaget; อังกฤษ: Sweden women's national football team) เป็นตัวแทนของประเทศสวีเดนในการแข่งขันฟุตบอลหญิงอย่างเป็นทางการ โดยทีมชาติสวีเดนได้ชนะการแข่งฟุตบอลหญิงชิงแชมป์แห่งชาติยุโรปในปี ค.ศ. 1984 ความสำเร็จยังไม่ได้มีเพียงเท่านั้น ทีมนี้ยังได้ตำแหน่งรองชนะเลิศอันดับ 1 จากการแข่งขันฟุตบอลโลกหญิง 2003 รวมถึงได้ตำแหน่งรองชนะเลิศการแข่งขันฟุตบอลหญิงชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 1987, 1995 และ 2001 ตลอดจนเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกสามสมัย, ฟุตบอลโลกหญิงสี่สมัย ตลอดจนฟุตบอลหญิงชิงแชมป์แห่งชาติยุโรปถึงเจ็ดสมัย นอกจากนี้ ฟุตบอลหญิงทีมชาติสวีเดนยังได้รองชนะเลิศ อันดับ 2 ในการแข่งขันฟุตบอลโลกหญิง 2011
ในการแข่งขันฟุตบอลโลกหญิง 2003 เมื่อครั้งที่ได้ตำแหน่งรองชนะเลิศ ทีมนี้ได้รับการจับตามองมากที่สุดในประเทศสวีเดนสำหรับปีนั้น โดยลอตตา ฟีลีน ได้รับการยกให้เป็นผู้ทำประตูสูงสุดในประวัติศาสตร์ของประเทศสวีเดน โดยสามารถทำได้ถึง 73 ประตู ซึ่งฟีลีน สามารถทำผลงานแซงสถิติของฮานนา ยุงไบก์ ซึ่งเคยทำไว้ที่ 72 ประตู เมื่อครั้งที่ได้พบกับฟุตบอลหญิงทีมชาติเยอรมนี ณ วันที่ 29 ตุลาคม ค.ศ. 2014 [1] ส่วนนักฟุตบอลที่ลงแข่งมากที่สุดคือเธเลส แควกรอน ที่ลงแข่งถึง 200 ครั้ง และทีมนี้มีผู้ฝึกสอนคือโธมัส เดนนาร์บี ซึ่งเข้าทำหน้าที่ในช่วงปี ค.ศ. 2005 ถึง 2012 และเพีย ซุนด์ฮาแก ที่เข้าร่วมทีมในปี ค.ศ. 2012 หลังจากที่เคยพาทีมสหรัฐอเมริกาชนะรางวัลเหรียญทองโอลิมปิกที่กรุงลอนดอน โดยข้อสัญญาของซุนด์ฮาแกมีผลในเดือนธันวาคม ค.ศ. 2012
หลังจากชนะการแข่งขันฟุตบอลหญิงในโอลิมปิกฤดูร้อน 2008 รอบคัดเลือก เมื่อครั้งที่พบกับฟุตบอลหญิงทีมชาติเดนมาร์ก ทีมนี้ก็สามารถผ่านเข้าสู่การแข่งฟุตบอลในโอลิมปิก 2008 ทางคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศสวีเดนจึงได้อนุมัติเพิ่มงบการลงทุนให้แก่ทีมหญิง ซึ่งงบใหม่ที่ได้รับเป็นจำนวนถึงกว่าหนึ่งล้านโครนาสวีเดน (หรือประมาณ 150,000 ดอลลาร์สหรัฐ) สำหรับทีม และ 150,000 โครนาสวีเดน (หรือประมาณ 25,000 ดอลลาร์สหรัฐ) ต่อผู้เล่นสำหรับการพัฒนาสมรรถภาพทางกาย โดยทุนใหม่นี้ได้เพิ่มขึ้นเกือบ 100 เปอร์เซ็นต์ของกองทุนฤดูกาล 2005 และ 2006 [2]
อ้างอิง
[แก้]- ↑ "Förlust i Örebro mot Tyskland". Swedish Football Association (ภาษาสวีเดน). 29 October 2014. สืบค้นเมื่อ 29 October 2014.
- ↑ Mats Bråstedt. "'SOK lovar damerna en storsatsning'". Expressen.se. สืบค้นเมื่อ 26 October 2007.
แหล่งข้อมูลอื่น
[แก้]- National Team Homepage (สวีเดน)
- National Team Homepage เก็บถาวร 2008-09-13 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน