ผลต่างระหว่างรุ่นของ "แอร์วีน ฟ็อน วิทซ์เลเบิน"
ลไม่มีความย่อการแก้ไข |
ลไม่มีความย่อการแก้ไข |
||
บรรทัด 24: | บรรทัด 24: | ||
วิทซ์เลเบินเป็นหนึ่งในบุคคลที่ต่อต้านระบอบนาซีตั้งแต่ที่ฮิตเลอร์เริ่มก้าวขึ้นสู่อำนาจ ยามที่พลเอก[[ควร์ท ฟ็อน ชไลเชอร์]]และพลตรีเบรโดถูกสังหารใน[[คืนมีดยาว]]โดยพวกนาซีอ้างว่าเป็นอุบัติเหตุ เขาและเพื่อนทหารอย่าง[[เอริช ฟ็อน มันชไตน์|มันชไตน์]], [[วิลเฮ็ล์ม ริทเทอร์ ฟ็อน เลพ|เลพ]] และ[[แกร์ท ฟ็อน รุนท์ชเต็ท|รุนท์ชเต็ท]] เข้าชื่อเรียกร้องให้มีการสอบสวนเหตุการณ์ดังกล่าว นอกจากนี้ เขายังวิพากษ์วิจารณ์ฮิตเลอร์ที่ข่มเหงรังแกจอมพล[[แวร์เนอร์ ฟ็อน บล็อมแบร์ค|บล็อมแบร์ค]]และนายพล[[แวร์เนอร์ ฟ็อน ฟริทช์|ฟริทช์]]ด้วยข้อกล่าวหาอื้อฉาว ด้วยเหตุนี้เอง วิทซ์เลเบินจึงถูกให้เกษียณก่อนกำหนด อย่างไรก็ตาม ฮิตเลอร์จำเป็นต้องเรียกตัววิทซ์เลเบินกลับมาทำงานอีกครั้งเพื่อเตรียมการเข้าสู่สงครามโลกครั้งที่สอง |
วิทซ์เลเบินเป็นหนึ่งในบุคคลที่ต่อต้านระบอบนาซีตั้งแต่ที่ฮิตเลอร์เริ่มก้าวขึ้นสู่อำนาจ ยามที่พลเอก[[ควร์ท ฟ็อน ชไลเชอร์]]และพลตรีเบรโดถูกสังหารใน[[คืนมีดยาว]]โดยพวกนาซีอ้างว่าเป็นอุบัติเหตุ เขาและเพื่อนทหารอย่าง[[เอริช ฟ็อน มันชไตน์|มันชไตน์]], [[วิลเฮ็ล์ม ริทเทอร์ ฟ็อน เลพ|เลพ]] และ[[แกร์ท ฟ็อน รุนท์ชเต็ท|รุนท์ชเต็ท]] เข้าชื่อเรียกร้องให้มีการสอบสวนเหตุการณ์ดังกล่าว นอกจากนี้ เขายังวิพากษ์วิจารณ์ฮิตเลอร์ที่ข่มเหงรังแกจอมพล[[แวร์เนอร์ ฟ็อน บล็อมแบร์ค|บล็อมแบร์ค]]และนายพล[[แวร์เนอร์ ฟ็อน ฟริทช์|ฟริทช์]]ด้วยข้อกล่าวหาอื้อฉาว ด้วยเหตุนี้เอง วิทซ์เลเบินจึงถูกให้เกษียณก่อนกำหนด อย่างไรก็ตาม ฮิตเลอร์จำเป็นต้องเรียกตัววิทซ์เลเบินกลับมาทำงานอีกครั้งเพื่อเตรียมการเข้าสู่สงครามโลกครั้งที่สอง |
||
ก่อนปี 1938 วิทซ์เลเบินเป็นสมาชิกของกลุ่มโอสเทอร์ หรือที่เรียกว่าแผนสมคบเดือนกันยายน ({{lang|de|''Septemberverschwörung''}}) สมาชิกในกลุ่มนี้มีทั้งพลเอกอาวุโส[[ลูทวิช เบ็ค]], พล |
ก่อนปี 1938 วิทซ์เลเบินเป็นสมาชิกของกลุ่มโอสเทอร์ หรือที่เรียกว่าแผนสมคบเดือนกันยายน ({{lang|de|''Septemberverschwörung''}}) สมาชิกในกลุ่มนี้มีทั้งพลเอกอาวุโส[[ลูทวิช เบ็ค]], นายพล[[เอริช เฮิพเนอร์]], นายพล[[คาร์ล-ไฮน์ริช ฟ็อน ชตึลพ์นาเกิล]], นายพลเรือ[[วิลเฮ็ล์ม คานาริส]] และพันโท[[ฮันส์ โอสเทอร์]] ทั้งหมดร่วมวางแผนรัฐประหารโค่นล้มฮิตเลอร์ วิทซ์เลเบินเริ่มจัดแจงคนของตัวเองไปอยู่ในตำแหน่งต่างๆในย่านที่ทำการรัฐบาลของกรุงเบอร์ลิน |
||
กันยายน 1939 พลเอกอาวุโสวิทซ์เลเบินได้บัญชาการกองทัพที่ 1 ประจำ[[แนวรบด้านตะวันตก (สงครามโลกครั้งที่สอง)|แนวรบด้านตะวันตก]] และได้มีส่วนร่วมใน[[ยุทธการที่ฝรั่งเศส]] หน่วยทหารของเขาซึ่งสังกัดกองทัพบกกลุ่ม C ได้ข้าม[[แนวพรมแดนมาฌีโน]]ในวันที่ 14 มิถุนายน 1940 ก่อนที่ฝรั่งเศสจะยอมจำนนในสามวันให้หลัง ด้วยความชอบนี้ วิทซ์เลเบินได้รับ[[กางเขนอัศวินแห่งกางเขนเหล็ก]]{{sfn|Fellgiebel|2000|p=450}} และได้เลื่อนยศขึ้นเป็นจอมพลในวันที่ 17 กรกฎาคม 1940 |
กันยายน 1939 พลเอกอาวุโสวิทซ์เลเบินได้บัญชาการกองทัพที่ 1 ประจำ[[แนวรบด้านตะวันตก (สงครามโลกครั้งที่สอง)|แนวรบด้านตะวันตก]] และได้มีส่วนร่วมใน[[ยุทธการที่ฝรั่งเศส]] หน่วยทหารของเขาซึ่งสังกัดกองทัพบกกลุ่ม C ได้ข้าม[[แนวพรมแดนมาฌีโน]]ในวันที่ 14 มิถุนายน 1940 ก่อนที่ฝรั่งเศสจะยอมจำนนในสามวันให้หลัง ด้วยความชอบนี้ วิทซ์เลเบินได้รับ[[กางเขนอัศวินแห่งกางเขนเหล็ก]]{{sfn|Fellgiebel|2000|p=450}} และได้เลื่อนยศขึ้นเป็นจอมพลในวันที่ 17 กรกฎาคม 1940 |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 01:53, 23 มีนาคม 2563
แอร์วีน ฟ็อน วิทซ์เลเบิน | |
---|---|
เกิด | 4 ธันวาคม ค.ศ. 1881 เบร็สเลา ราชอาณาจักรปรัสเซีย จักรวรรดิเยอรมัน (ปัจจุบันอยู่ในประเทศโปแลนด์) |
เสียชีวิต | 8 สิงหาคม ค.ศ. 1944 ทัณฑสถานเพิล์ทเซินเซ กรุงเบอร์ลิน นาซีเยอรมนี | (62 ปี)
รับใช้ | เยอรมนี (ถึง 1918) เยอรมนี (ถึง 1933) ไรช์เยอรมัน (ถึง 1944) |
แผนก/ | กองทัพบก |
ประจำการ | 1901–1944 |
ชั้นยศ | จอมพล |
บังคับบัญชา | กองทัพที่ 1 |
การยุทธ์ | สงครามโลกครั้งที่หนึ่ง สงครามโลกครั้งที่สอง |
บำเหน็จ | กางเขนอัศวินแห่งกางเขนเหล็ก |
โยพ วิลเฮ็ล์ม เกออร์ค แอร์ทมัน แอร์วีน ฟ็อน วิทซ์เลเบิน (เยอรมัน: Job Wilhelm Georg Erdmann Erwin von Witzleben) เป็นจอมพลเยอรมันในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง เขาเป็นหนึ่งในผู้นำในแผนลับ 20 กรกฎาคม ในปี 1944 เพื่อสอบสังหารอดอล์ฟ ฮิตเลอร์ โดยถูกวางตัวให้เป็นผู้บัญชาการสูงสุดแห่งแวร์มัคท์คนใหม่ถ้าแผนการสำเร็จ วิทซ์เลเบินถูกศาลประชาชนตัดสินให้ประหารชีวิต
วิทซ์เลเบินเป็นหนึ่งในบุคคลที่ต่อต้านระบอบนาซีตั้งแต่ที่ฮิตเลอร์เริ่มก้าวขึ้นสู่อำนาจ ยามที่พลเอกควร์ท ฟ็อน ชไลเชอร์และพลตรีเบรโดถูกสังหารในคืนมีดยาวโดยพวกนาซีอ้างว่าเป็นอุบัติเหตุ เขาและเพื่อนทหารอย่างมันชไตน์, เลพ และรุนท์ชเต็ท เข้าชื่อเรียกร้องให้มีการสอบสวนเหตุการณ์ดังกล่าว นอกจากนี้ เขายังวิพากษ์วิจารณ์ฮิตเลอร์ที่ข่มเหงรังแกจอมพลบล็อมแบร์คและนายพลฟริทช์ด้วยข้อกล่าวหาอื้อฉาว ด้วยเหตุนี้เอง วิทซ์เลเบินจึงถูกให้เกษียณก่อนกำหนด อย่างไรก็ตาม ฮิตเลอร์จำเป็นต้องเรียกตัววิทซ์เลเบินกลับมาทำงานอีกครั้งเพื่อเตรียมการเข้าสู่สงครามโลกครั้งที่สอง
ก่อนปี 1938 วิทซ์เลเบินเป็นสมาชิกของกลุ่มโอสเทอร์ หรือที่เรียกว่าแผนสมคบเดือนกันยายน ([Septemberverschwörung] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ)) สมาชิกในกลุ่มนี้มีทั้งพลเอกอาวุโสลูทวิช เบ็ค, นายพลเอริช เฮิพเนอร์, นายพลคาร์ล-ไฮน์ริช ฟ็อน ชตึลพ์นาเกิล, นายพลเรือวิลเฮ็ล์ม คานาริส และพันโทฮันส์ โอสเทอร์ ทั้งหมดร่วมวางแผนรัฐประหารโค่นล้มฮิตเลอร์ วิทซ์เลเบินเริ่มจัดแจงคนของตัวเองไปอยู่ในตำแหน่งต่างๆในย่านที่ทำการรัฐบาลของกรุงเบอร์ลิน
กันยายน 1939 พลเอกอาวุโสวิทซ์เลเบินได้บัญชาการกองทัพที่ 1 ประจำแนวรบด้านตะวันตก และได้มีส่วนร่วมในยุทธการที่ฝรั่งเศส หน่วยทหารของเขาซึ่งสังกัดกองทัพบกกลุ่ม C ได้ข้ามแนวพรมแดนมาฌีโนในวันที่ 14 มิถุนายน 1940 ก่อนที่ฝรั่งเศสจะยอมจำนนในสามวันให้หลัง ด้วยความชอบนี้ วิทซ์เลเบินได้รับกางเขนอัศวินแห่งกางเขนเหล็ก[1] และได้เลื่อนยศขึ้นเป็นจอมพลในวันที่ 17 กรกฎาคม 1940
ในปี 1941 เขาได้ดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการใหญ่ด้านตะวันตก ([Oberbefehlshaber West] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ)) ต่อจากจอมพลรุนท์ชเต็ท อย่างไรก็ตาม เขาดำรงตำแหน่งเพียงสิบเดือนเศษก็ขอลาออกจากตำแหน่งด้วยเหตุผลด้านสุขภาพ บางแหล่งข่าวระบุว่า เขาถูกบีบให้เกษียณในเวลานี้เนื่องจากได้วิพากษ์วิจารณ์แผนการบุกสหภาพโซเวียตในปฏิบัติการบาร์บาร็อสซา
อ้างอิง
- ↑ Fellgiebel 2000, p. 450.