ผลต่างระหว่างรุ่นของ "เฟดอร์ ฟ็อน บ็อค"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Potapt (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 29: บรรทัด 29:
'''โมริทซ์ อัลเบร็ชท์ ฟรันทซ์ ฟรีดริช เฟดอร์ ฟ็อน บ็อค''' ({{lang-de|Moritz Albrecht Franz Friedrich Fedor von Bock}}) เป็นจอมพลแห่ง[[กองทัพบกเยอรมัน (แวร์มัคท์)|กองทัพบกเยอรมัน]]ในช่วง[[สงครามโลกครั้งที่สอง]] เขาบัญชาการกองทัพบกกลุ่มเหนือระหว่าง[[การบุกครองโปแลนด์]]ใน ค.ศ. 1939 และบัญชาการกองทัพบกกลุ่มบีใน[[ยุทธการที่ฝรั่งเศส]]ใน ค.ศ. 1940 และต่อมาได้บัญชาการกองทัพบกกลุ่มกลางในการโจมตีสหภาพโซเวียตใน ค.ศ. 1941 และได้บัญชาการกองทัพบกกลุ่มใต้ใน ค.ศ. 1942 ซึ่งเป็นตำแหน่งบัญชาการครั้งสุดท้าย
'''โมริทซ์ อัลเบร็ชท์ ฟรันทซ์ ฟรีดริช เฟดอร์ ฟ็อน บ็อค''' ({{lang-de|Moritz Albrecht Franz Friedrich Fedor von Bock}}) เป็นจอมพลแห่ง[[กองทัพบกเยอรมัน (แวร์มัคท์)|กองทัพบกเยอรมัน]]ในช่วง[[สงครามโลกครั้งที่สอง]] เขาบัญชาการกองทัพบกกลุ่มเหนือระหว่าง[[การบุกครองโปแลนด์]]ใน ค.ศ. 1939 และบัญชาการกองทัพบกกลุ่มบีใน[[ยุทธการที่ฝรั่งเศส]]ใน ค.ศ. 1940 และต่อมาได้บัญชาการกองทัพบกกลุ่มกลางในการโจมตีสหภาพโซเวียตใน ค.ศ. 1941 และได้บัญชาการกองทัพบกกลุ่มใต้ใน ค.ศ. 1942 ซึ่งเป็นตำแหน่งบัญชาการครั้งสุดท้าย


บ็อคเกิดในเมืองคึสทรีน (ปัจจุบันคือเมืองกอสต์ชึนในโปแลนด์) ในครอบครัวทหารชาวปรัสเซีย บิดาเป็นผู้บัญชาการหน่วยทหารใน[[สงครามฝรั่งเศส-ปรัสเซีย]]<ref>Mitcham 2009, p. 17</ref> ส่วนมารดาเป็นน้องสาวของเอริช ฟ็อน ฟัลเคินไฮน์ (Erich von Falkenhayn) ผู้บัญชาการทหารสูงสุดในสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง<ref>Afflerbach 1996, p. 9</ref> บ็อคเข้าศึกษาที่วิทยาลัยการทหารในกรุงเบอร์ลิน และต่อมาได้เข้าร่วมรบใน[[สงครามโลกครั้งที่หนึ่ง]] ด้วยความที่เกิดในครอบครัวทหารทำให้เขามีค่านิยมทหารมากกว่าคนอื่น ในสงครามครั้งนั้นเขาได้รับการกล่าวถึงว่าเป็นทหารที่องอาจถึงขนาดพร้อมตายเพื่อปิตุภูมิจนได้รับสมญาว่า "พระเพลิงแห่งคึสทรีน"{{sfn|Turney|1971|p=6}} และได้รับเหรียญ[[พัวร์เลอเมรีท]]ของจักรวรรดิเยอรมัน
บ็อคเกิดในเมืองคึสทรีน (ปัจจุบันคือเมืองกอสต์ชึนในโปแลนด์) ในครอบครัวทหารชาวปรัสเซีย บิดาเป็นผู้บัญชาการหน่วยทหารใน[[สงครามฝรั่งเศส-ปรัสเซีย]]<ref>Mitcham 2009, p. 17</ref> ส่วนมารดาเป็นน้องสาวของ[[เอริช ฟ็อน ฟัลเคินไฮน์]] (Erich von Falkenhayn) ผู้บัญชาการทหารสูงสุดในสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง<ref>Afflerbach 1996, p. 9</ref> บ็อคเข้าศึกษาที่วิทยาลัยการทหารในกรุงเบอร์ลิน และต่อมาได้เข้าร่วมรบใน[[สงครามโลกครั้งที่หนึ่ง]] ด้วยความที่เกิดในครอบครัวทหารทำให้เขามีค่านิยมทหารมากกว่าคนอื่น ในสงครามครั้งนั้นเขาได้รับการกล่าวถึงว่าเป็นทหารที่องอาจถึงขนาดพร้อมตายเพื่อปิตุภูมิจนได้รับสมญาว่า "พระเพลิงแห่งคึสทรีน"{{sfn|Turney|1971|p=6}} และได้รับเหรียญ[[พัวร์เลอเมรีท]]ของจักรวรรดิเยอรมัน


ใน ค.ศ. 1935 [[อดอล์ฟ ฮิตเลอร์]] แต่งตั้งบ็อคให้เป็นแม่ทัพใหญ่กองทัพบกกลุ่มที่สาม และเป็นหนึ่งในนายพลที่ไม่ถูกโยกย้ายเมื่อครั้งฮิตเลอร์ปฏิรูปกองทัพครั้งใหญ่เพื่อสั่งสมแสนยานุภาพก่อนสงครามโลกครั้งที่สองอุบัติ บ็อคเป็นพวกนิยมระบอบกษัตริย์และมักจะไปเยี่ยมเยือนวังของอดีต[[ไคเซอร์]]เสมอ บ็อคบัญชาการการบุกเวียนนาใน ค.ศ. 1938 และเมื่อ[[อันชลุส|เยอรมนีผนวกออสเตรีย]]แล้ว บ็อคก็บัญชาการการรุกราน[[ประเทศเชโกสโลวาเกีย|เชโกสโลวาเกีย]] ฮิตเลอร์ไม่ค่อยชอบนิสัยการพูดจาตรงไปตรงมาขวานผ่าซากของบ็อค สิ่งที่ฮิตเลอร์ชอบในตัวบ็อคอย่างเดียวคือเขาเป็นผู้บัญชาการมือฉกาจที่ประสบความสำเร็จในการรบ<ref name="ReferenceB">Battle of Russia, ''Battlefield: Battles that Won the Second World War—Series 2''. Universal Pictures Video. 2 May 2005</ref> บ็อคได้รับแต่งตั้งเป็นจอมพลในวันที่ 19 กรกฎาคม ค.ศ. 1940 ขณะมีอายุ 60 ปี
ใน ค.ศ. 1935 [[อดอล์ฟ ฮิตเลอร์]] แต่งตั้งบ็อคให้เป็นแม่ทัพใหญ่กองทัพบกกลุ่มที่สาม และเป็นหนึ่งในนายพลที่ไม่ถูกโยกย้ายเมื่อครั้งฮิตเลอร์ปฏิรูปกองทัพครั้งใหญ่เพื่อสั่งสมแสนยานุภาพก่อนสงครามโลกครั้งที่สองอุบัติ บ็อคเป็นพวกนิยมระบอบกษัตริย์และมักจะไปเยี่ยมเยือนวังของอดีต[[ไคเซอร์]]เสมอ บ็อคบัญชาการการบุกเวียนนาใน ค.ศ. 1938 และเมื่อ[[อันชลุส|เยอรมนีผนวกออสเตรีย]]แล้ว บ็อคก็บัญชาการการรุกราน[[ประเทศเชโกสโลวาเกีย|เชโกสโลวาเกีย]] ฮิตเลอร์ไม่ค่อยชอบนิสัยการพูดจาตรงไปตรงมาขวานผ่าซากของบ็อค สิ่งที่ฮิตเลอร์ชอบในตัวบ็อคอย่างเดียวคือเขาเป็นผู้บัญชาการมือฉกาจที่ประสบความสำเร็จในการรบ<ref name="ReferenceB">Battle of Russia, ''Battlefield: Battles that Won the Second World War—Series 2''. Universal Pictures Video. 2 May 2005</ref> บ็อคได้รับแต่งตั้งเป็นจอมพลในวันที่ 19 กรกฎาคม ค.ศ. 1940 ขณะมีอายุ 60 ปี

รุ่นแก้ไขเมื่อ 14:57, 23 พฤษภาคม 2562

เฟดอร์ ฟ็อน บ็อค
จอมพล เฟดอร์ ฟ็อน บ็อค ใน ค.ศ. 1939
ชื่อเกิดโมริทซ์ อัลเบร็ชท์ ฟรันทซ์ ฟรีดริช เฟดอร์ ฟ็อน บ็อค
เกิด03 ธันวาคม ค.ศ. 1880(1880-12-03)
คึสทรีน, จักรวรรดิเยอรมัน
เสียชีวิต4 พฤษภาคม ค.ศ. 1945(1945-05-04) (64 ปี)
อ็อลเดินบวร์คอินฮ็อลชไตน์, ประเทศเยอรมนี
รับใช้ เยอรมนี
 เยอรมนี
 ไรช์เยอรมัน
ประจำการค.ศ. 1898–1945
ชั้นยศจอมพล
บังคับบัญชากองทัพบกกลุ่มเหนือ, 1939
กองทัพบกกลุ่มเบ, 1940
กองทัพบกกลุ่มกลาง, 1941
กองทัพบกกลุ่มใต้, 1942
การยุทธ์
สงครามโลกครั้งที่หนึ่ง
สงครามโลกครั้งที่สอง
บำเหน็จพัวร์เลอเมรีท
กางเขนเหล็กกางเขนอัศวิน

โมริทซ์ อัลเบร็ชท์ ฟรันทซ์ ฟรีดริช เฟดอร์ ฟ็อน บ็อค (เยอรมัน: Moritz Albrecht Franz Friedrich Fedor von Bock) เป็นจอมพลแห่งกองทัพบกเยอรมันในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง เขาบัญชาการกองทัพบกกลุ่มเหนือระหว่างการบุกครองโปแลนด์ใน ค.ศ. 1939 และบัญชาการกองทัพบกกลุ่มบีในยุทธการที่ฝรั่งเศสใน ค.ศ. 1940 และต่อมาได้บัญชาการกองทัพบกกลุ่มกลางในการโจมตีสหภาพโซเวียตใน ค.ศ. 1941 และได้บัญชาการกองทัพบกกลุ่มใต้ใน ค.ศ. 1942 ซึ่งเป็นตำแหน่งบัญชาการครั้งสุดท้าย

บ็อคเกิดในเมืองคึสทรีน (ปัจจุบันคือเมืองกอสต์ชึนในโปแลนด์) ในครอบครัวทหารชาวปรัสเซีย บิดาเป็นผู้บัญชาการหน่วยทหารในสงครามฝรั่งเศส-ปรัสเซีย[1] ส่วนมารดาเป็นน้องสาวของเอริช ฟ็อน ฟัลเคินไฮน์ (Erich von Falkenhayn) ผู้บัญชาการทหารสูงสุดในสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง[2] บ็อคเข้าศึกษาที่วิทยาลัยการทหารในกรุงเบอร์ลิน และต่อมาได้เข้าร่วมรบในสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง ด้วยความที่เกิดในครอบครัวทหารทำให้เขามีค่านิยมทหารมากกว่าคนอื่น ในสงครามครั้งนั้นเขาได้รับการกล่าวถึงว่าเป็นทหารที่องอาจถึงขนาดพร้อมตายเพื่อปิตุภูมิจนได้รับสมญาว่า "พระเพลิงแห่งคึสทรีน"[3] และได้รับเหรียญพัวร์เลอเมรีทของจักรวรรดิเยอรมัน

ใน ค.ศ. 1935 อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ แต่งตั้งบ็อคให้เป็นแม่ทัพใหญ่กองทัพบกกลุ่มที่สาม และเป็นหนึ่งในนายพลที่ไม่ถูกโยกย้ายเมื่อครั้งฮิตเลอร์ปฏิรูปกองทัพครั้งใหญ่เพื่อสั่งสมแสนยานุภาพก่อนสงครามโลกครั้งที่สองอุบัติ บ็อคเป็นพวกนิยมระบอบกษัตริย์และมักจะไปเยี่ยมเยือนวังของอดีตไคเซอร์เสมอ บ็อคบัญชาการการบุกเวียนนาใน ค.ศ. 1938 และเมื่อเยอรมนีผนวกออสเตรียแล้ว บ็อคก็บัญชาการการรุกรานเชโกสโลวาเกีย ฮิตเลอร์ไม่ค่อยชอบนิสัยการพูดจาตรงไปตรงมาขวานผ่าซากของบ็อค สิ่งที่ฮิตเลอร์ชอบในตัวบ็อคอย่างเดียวคือเขาเป็นผู้บัญชาการมือฉกาจที่ประสบความสำเร็จในการรบ[4] บ็อคได้รับแต่งตั้งเป็นจอมพลในวันที่ 19 กรกฎาคม ค.ศ. 1940 ขณะมีอายุ 60 ปี

ใน ค.ศ. 1941 บ็อคเป็นหนึ่งในผู้บัญชาการในปฏิบัติการไต้ฝุ่นที่หมายเข้ายึดกรุงมอสโกก่อนฤดูหนาว การต่อต้านของฝ่ายโซเวียตที่เมืองโมไจสค์ (Mozhaisk) ประกอบกับสภาพอากาศฝนตกเฉอะแฉะทำให้การรุกคืบของเยอรมนีเป็นไปได้ช้าลง บ็อคจึงเสนอฮิตเลอร์ให้ทำการถอนกำลังพลจากสหภาพโซเวียตก่อนที่จะเป็นฝ่ายถูกโต้กลับแต่ฮิตเลอร์ก็ยังคงเดินหน้าต่อ ท้ายที่สุด การตอบโต้ของฝ่ายโซเวียตก็ทำให้เยอรมนีต้องถอนกำลังพลจากสหภาพโซเวียตอย่างที่บ็อคคาดการณ์ไว้

ความล้มเหลวในปฏิบัติการไต้ฝุ่นทำให้ฮิตเลอร์ไม่ลังเลอีกต่อไปที่จะปลดเขาจากตำแหน่งบัญชาการ หลังจากถูกปลดในวันที่ 13 กรกฎาคม ค.ศ. 1942 เขาก็ไม่เคยเข้าร่วมการบัญชาการใด ๆ อีก[5] บ็อคเป็นนายทหารที่มีมนุษยธรรม หน่วยทหารของเขาไม่เคยกระทำการละเมิดมนุษยธรรมใด ๆ แก่พลเรือน หลังสงครามสิ้นสุดเขาจึงรอดพ้นจากการถูกตั้งข้อหา อย่างไรก็ตาม บ็อคพร้อมด้วยภรรยาและลูกเลี้ยงของเขาถูกสังหารโดยการกราดยิงจากเครื่องบินรบของอังกฤษในวันที่ 3 พฤษภาคม ค.ศ. 1945 ขณะเดินทางโดยรถยนต์ไปยังฮัมบวร์ค เขาเสียชีวิตในวันต่อมา

อ้างอิง

  1. Mitcham 2009, p. 17
  2. Afflerbach 1996, p. 9
  3. Turney 1971, p. 6.
  4. Battle of Russia, Battlefield: Battles that Won the Second World War—Series 2. Universal Pictures Video. 2 May 2005
  5. Glantz & House 2009, p. 192.
ก่อนหน้า เฟดอร์ ฟ็อน บ็อค ถัดไป
ไม่มี แม่ทัพใหญ่กองทัพบกกลุ่มเหนือ
(27 สิงหาคม ค.ศ. 1939 – 20 มิถุนายน ค.ศ. 1941)
จอมพล วิลเฮ็ล์ม ริทเทอร์ ฟ็อน เลพ
ไม่มี แม่ทัพใหญ่กองทัพบกกลุ่มกลาง
(22 มิถุนายน – 19 ธันวาคม ค.ศ. 1941)
จอมพล กึนเทอร์ ฟ็อน คลูเกอ