สงครามฝรั่งเศส-ปรัสเซีย
สงครามฝรั่งเศส-ปรัสเซีย | |||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
เป็นส่วนหนึ่งของ การรวมชาติเยอรมัน | |||||||||
![]() ตามเข็มจากบนขวา: ยุทธการมารส์-ลา-ตูร์, กรมทหารราบเบาที่ 9 เลาเอินบวร์ค, กระสุนปืนนัดสุดท้าย, การป้องกันช็องปีญนี, การปิดล้อมกรุงปารีส, การประกาศสถาปนาจักรวรรดิเยอรมัน | |||||||||
| |||||||||
คู่ขัดแย้ง | |||||||||
![]()
|
| ||||||||
ผู้บัญชาการหรือผู้นำ | |||||||||
![]() ![]() ![]() สาธารณรัฐฝรั่งเศสที่ 3 |
![]() ![]() ![]() ![]() ![]() | ||||||||
กำลัง | |||||||||
492,585 active[1] 417,366 Garde Mobile[2] |
300,000 regular 900,000 reserves and Landwehr[3] | ||||||||
กำลังพลสูญเสีย | |||||||||
138,871 เสียชีวิต[4] 143,000 บาดเจ็บ 474,414 ถูกจับเป็นเชลย[5] |
44,781 เสียชีวิต 89,732 บาดเจ็บ[6] |
สงครามฝรั่งเศส-ปรัสเซีย (อังกฤษ: Franco-Prussian War) หรือ สงครามฝรั่งเศส-เยอรมัน ในฝรั่งเศสเรียกกันว่า สงครามปี 1870[7] (1870 War) เป็นความขัดแย้งระหว่างจักรวรรดิฝรั่งเศสที่สอง(และต่อมากลายเป็นสาธารณรัฐฝรั่งเศสที่ 3) และรัฐเยอรมันแห่งสมาพันธรัฐเยอรมันเหนือภายใต้การนำโดยราชอาณาจักรปรัสเซีย กินเวลาตั้งแต่วันที่ 19 กรกฎาคม ค.ศ. 1870 ถึง 28 มกราคม ค.ศ. 1871 ความขัดแย้งครั้งนี้มีสาเหตุมาจากความทะเยอทะยานของปรัสเซียที่จะขยายอำนาจในการรวมชาติเยอรมันและความเกรงกลัวของฝรั่งเศสในการเปลี่ยนแปลงสมดุลแห่งอำนาจในยุโรปที่จะส่งผลลัพธ์ หากปรัสเซียทำสำเร็จ นักประวัติศาสตร์บางคนได้โต้แย้งว่า นายกรัฐมนตรีปรัสเซีย อ็อทโท ฟ็อน บิสมาร์ค ได้มีความจงใจในการยั่วยุฝรั่งเศสให้ประกาศสงครามกับปรัสเซีย เพื่อที่จะชักนำให้รัฐทางใต้ของเยอรมันที่เป็นอิสระ ได้แก่ บาเดิน เวือร์ทเทิมแบร์ค บาวาเรีย และเฮ็สเซิน - ดาร์มชตัดท์ เข้าร่วมเป็นพันธมิตรกับสมาพันธรัฐเยอรมันเหนือซึ่งถูกปกครองโดยปรัสเซีย ในขณะที่คนอื่นยืนยันว่า บิสมาร์คไม่ได้วางแผนและใช้ประโยชน์จากสถานการณ์ครั้งนี้ในขณะที่พวกเขาได้แฉออกไป อย่างไรก็ตาม ไม่มีใครโต้แย้งความจริงที่ว่าบิสมาร์คต้องยอมรับศักยภาพของพันธมิตรเยอรมันใหม่ในการรับมือสถานการณ์โดยรวม[8]
ฝรั่งเศสได้ระดมกองทัพ เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม ค.ศ. 1870 ทำให้สมาพันธรัฐเยอรมันเหนือได้ทำการตอบโต้ด้วยการระดมพลเช่นกันในวันเดียวกัน เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม ค.ศ. 1870 รัฐสภาฝรั่งเศสได้โหวตเพื่อประกาศสงครามกับปรัสเซียและคำประกาศสงครามได้ถูกไปยังปรัสเซียในสามวันต่อมา กองทัพฝรั่งเศสได้เข้ารุกดินแดนเยอรมัน เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม เยอรมันได้ระดมพลของตนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่าฝรั่งเศสและได้เข้ารุกทางตะวันออกเฉียงเหนือของฝรั่งเศส เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม กองทัพเยอรมันมีจำนวนที่เหนือกว่า มีการฝึกอบรมและความเป็นผู้นำที่ดี และมีการใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งคือทางรถไฟ และปืนใหญ่
หนึ่งในชัยชนะอย่างรวดเร็วของปรัสเซียและเยอรมันในทางตะวันออกของฝรั่งเศส จุดสูงสุดในการล้อมที่แม็สและยุทธการที่เชอด็อง ทำให้จักรพรรดิฝรั่งเศส นโปเลียนที่ 3 ถูกจับกุมและกองทัพจักรวรรดิที่สองได้ปราชัยอย่างย่อยยับ รัฐบาลปกป้องชาติได้ประกาศก่อตั้งสาธารณรัฐฝรั่งเศสที่สามขึ้นในปารีส เมื่อวันที่ 4 กันยายน และทำสงครามต่อไปในอีกห้าเดือน กองทัพเยอรมันได้ต่อสู้รบและพ่ายแพ้ให้กับกองทัพฝรั่งเศสใหม่ในภาคเหนือของฝรั่งเศส ปารีสซึ่งเป็นเมืองหลวงได้ถูกปิดล้อมและถูกยึดครอง เมื่อวันที่ 28 มกราคม ค.ศ. 1871 ภายหลังการก่อการกำเริบของฝ่ายคณะปฏิวัติที่เรียกตนเองว่า คอมมูนปารีส ได้เข้ายึดอำนาจในเมืองและถือครองไว้เป็นเวลาสองเดือน จนกระทั่งกองทัพฝรั่งเศสได้เข้าปราบปรามอย่างเลือดเย็น เมื่อปลายเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 1871
รัฐเยอรมันทั้งหมดได้ประกาศว่าจะรวมตัวกันเป็นจักรวรรดิเยอรมันภายใต้การนำโดยกษัตริย์แห่งปรัสเซีย วิลเฮล์มที่ 1 ในที่สุดเยอรมนีก็รวมชาติเป็นหนึ่งเดียวในฐานะที่เป็นชาติ-รัฐ(ออสเตรียได้ถูกแยกออกไป) สนธิสัญญาแฟรงก์เฟิร์ต เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม ค.ศ.1871 ทำให้ส่วนใหญ่ของแคว้นอาลซัสและบางส่วนของแคว้นลอแรนตกเป็นของเยอรมนี ซึ่งต่อมาได้กลายเป็นดินแดนจักรวรรดิแห่งอาลซัสและลอแรน(Reichsland Elsaß-Lothringen). การที่เยอรมันพิชิตฝรั่งเศสและรวมชาติเยอรมนีทำให้เกิดการเสียสมดุลแห่งอำนาจในยุโรปที่มีมาตั้งแต่การประชุมใหญ่แห่งเวียนนา ในปี ค.ศ. 1815 และบิสมาร์คยังรักษาอำนาจอย่างมากในกิจการระหว่างประเทศเป็นเวลาสองทศวรรษ
ด้วยความมุ่งมั่นของฝรั่งเศสที่จะชิงอาลซัสและลอแรนกลับคืนมา และความหวาดกลัวของสงครามฝรั่งเศสและเยอรมันอีกครั้งพร้อมกับความหวั่นเกรงของบริติชเกี่ยวกับสมดุลแห่งอำนาจ กลายเป็นปัจจัยในสาเหตุของสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง
อ้างอิง[แก้]
- ↑ Howard, Michael (1991). The Franco-Prussian War: The German Invasion of France 1870–1871. Routledge. p. 39. ISBN 0-415-26671-8.
- ↑ Howard(1991). p. 39
- ↑ Wawro(2003), p. 42.
- ↑ Nolte, Frédérick (1884). L'Europe militaire et diplomatique au dix-neuvième siècle, 1815-1884. E. Plon, Nourrit et ce. p. 527.
- ↑ Nolte(1884). pp. 526-527
- ↑ Micheal Clodfelter: Warfare and armed conflicts: a statistical reference to casualty and other figures, 1500-2000. Jefferson, NC, 2002 (2nd ed.), ISBN 0-7864-1204-6, p. 210
- ↑ Taithe, Bertrand (2001). Citizenship and Wars: France in Turmoil 1056-1871. Routledge.
- ↑ Ramm 1967, pp. 308–313, highlights three difficulties with the argument that Bismarck planned or provoked a French attack..
ดูเพิ่ม[แก้]
แหล่งข้อมูลอื่น[แก้]
![]() |
คอมมอนส์ มีภาพและสื่อเกี่ยวกับ: สงครามฝรั่งเศส-ปรัสเซีย |
- สงครามเกี่ยวข้องกับทวีปยุโรป
- ความขัดแย้งในระดับโลก
- สงครามฝรั่งเศส-ปรัสเซีย
- สงครามในคริสต์ทศวรรษ 1870
- สงครามในคริสต์ศตวรรษที่ 19
- สงครามเกี่ยวข้องกับฝรั่งเศส
- สงครามเกี่ยวข้องกับปรัสเซีย
- สงครามเกี่ยวข้องกับเยอรมนี
- จักรพรรดิวิลเฮ็ล์มที่ 1 แห่งเยอรมนี
- อ็อทโท ฟ็อน บิสมาร์ค
- พระเจ้าลูทวิชที่ 2 แห่งบาวาเรีย
- จักรพรรดินโปเลียนที่ 3
- บทความเกี่ยวกับ ประวัติศาสตร์ ที่ยังไม่สมบูรณ์