ผลต่างระหว่างรุ่นของ "เมซุท เออซิล"
ไม่มีความย่อการแก้ไข |
ไม่มีความย่อการแก้ไข |
||
บรรทัด 1: | บรรทัด 1: | ||
{{Infobox football biography |
{{Infobox football biography |
||
| name = เม |
| name = เมซุต โอซิล |
||
| image = [[ไฟล์:20180602 FIFA Friendly Match Austria vs. Germany Mesut Özil 850 0704.jpg|220px]] |
| image = [[ไฟล์:20180602 FIFA Friendly Match Austria vs. Germany Mesut Özil 850 0704.jpg|220px]] |
||
| image_size = |
| image_size = |
||
| caption = |
| caption =โอซิลกับ[[ฟุตบอลทีมชาติเยอรมนี|เยอรมนี]]ในปี ค.ศ. 2018 |
||
| fullname = เม |
| fullname = เมซุต โอซิล<ref>{{cite web |url=https://www.premierleague.com/news/612828 |title=Updated squads for 2017/18 Premier League confirmed |publisher=Premier League |date=2 February 2018 |accessdate=10 February 2018}}</ref> |
||
| birth_date = {{birth date and age|1988|10|15|df=y}}<ref>{{cite web |title=FIFA World Cup South Africa 2010: List of players: Germany |url=https://www.fifa.com/mm/document/tournament/competition/01/22/85/78/fwc_2010_squadlists.pdf |publisher=FIFA |format=PDF |page=11 |date=4 June 2010 |accessdate=10 February 2018}}</ref> |
| birth_date = {{birth date and age|1988|10|15|df=y}}<ref>{{cite web |title=FIFA World Cup South Africa 2010: List of players: Germany |url=https://www.fifa.com/mm/document/tournament/competition/01/22/85/78/fwc_2010_squadlists.pdf |publisher=FIFA |format=PDF |page=11 |date=4 June 2010 |accessdate=10 February 2018}}</ref> |
||
| birth_place = [[เก็ลเซินเคียร์เชิน]] เยอรมนีตะวันตก |
| birth_place = [[เก็ลเซินเคียร์เชิน]] เยอรมนีตะวันตก |
||
บรรทัด 15: | บรรทัด 15: | ||
| youthyears3 = 1999–2000 | youthclubs3 = Falke Gelsenkirchen |
| youthyears3 = 1999–2000 | youthclubs3 = Falke Gelsenkirchen |
||
| youthyears4 = 2000–2005 | youthclubs4 = [[Rot-Weiss Essen]] |
| youthyears4 = 2000–2005 | youthclubs4 = [[Rot-Weiss Essen]] |
||
| youthyears5 = 2005–2006 | youthclubs5 = [[สโมสรฟุตบอล |
| youthyears5 = 2005–2006 | youthclubs5 = [[สโมสรฟุตบอลชาลเก 04|ชาลเก 04]] |
||
| years1 = 2006–2008 | clubs1 = [[สโมสรฟุตบอล |
| years1 = 2006–2008 | clubs1 = [[สโมสรฟุตบอลชาลเก 04|ชาลเก 04]] | caps1 = 30 | goals1 = 0 |
||
| years2 = 2008–2010 | clubs2 = [[เอ็สเฟา แวร์เดอร์เบรเมิน|แวร์เดอร์เบรเมิน]] | caps2 = 71 | goals2 = 13 |
| years2 = 2008–2010 | clubs2 = [[เอ็สเฟา แวร์เดอร์เบรเมิน|แวร์เดอร์เบรเมิน]] | caps2 = 71 | goals2 = 13 |
||
| years3 = 2010–2013 | clubs3 = [[สโมสรฟุตบอลเรอัลมาดริด|เรอัลมาดริด]] | caps3 = 105 | goals3 = 19 |
| years3 = 2010–2013 | clubs3 = [[สโมสรฟุตบอลเรอัลมาดริด|เรอัลมาดริด]] | caps3 = 105 | goals3 = 19 |
||
| years4 = 2013– | clubs4 = [[สโมสรฟุตบอลอาร์เซนอล|อาร์เซนอล]] | caps4 = |
| years4 = 2013– | clubs4 = [[สโมสรฟุตบอลอาร์เซนอล|อาร์เซนอล]] | caps4 = 153 | goals4 = 30 |
||
| nationalyears1 = 2006–2007 | nationalteam1 = [[ฟุตบอลเยาวชนทีมชาติเยอรมนี|เยอรมนี อายุไม่เกิน 19 ปี]] | nationalcaps1 = 11 | nationalgoals1 = 4 |
| nationalyears1 = 2006–2007 | nationalteam1 = [[ฟุตบอลเยาวชนทีมชาติเยอรมนี|เยอรมนี อายุไม่เกิน 19 ปี]] | nationalcaps1 = 11 | nationalgoals1 = 4 |
||
| nationalyears2 = 2007–2009 | nationalteam2 = [[ฟุตบอลทีมชาติเยอรมนีรุ่นอายุไม่เกิน 21 ปี|เยอรมนี อายุไม่เกิน 21 ปี]] | nationalcaps2 = 16 | nationalgoals2 = 5 |
| nationalyears2 = 2007–2009 | nationalteam2 = [[ฟุตบอลทีมชาติเยอรมนีรุ่นอายุไม่เกิน 21 ปี|เยอรมนี อายุไม่เกิน 21 ปี]] | nationalcaps2 = 16 | nationalgoals2 = 5 |
||
บรรทัด 26: | บรรทัด 26: | ||
| nationalteam-update = 16:19, 27 มิถุนายน ค.ศ. 2018 (UTC) |
| nationalteam-update = 16:19, 27 มิถุนายน ค.ศ. 2018 (UTC) |
||
}} |
}} |
||
'''เม |
'''เมซุต โอซิล ''' ({{lang-de|Mesut Özil}}; เกิดวันที่ 15 ตุลาคม ค.ศ. 1988) เป็นนักฟุตบอลชาวเยอรมันเชื้อสายตุรกี<ref>{{cite web|last=White |first=Duncan |url=http://www.telegraph.co.uk/sport/football/world-cup-2010/teams/germany/7823376/Germany-v-Australia-Mesut-Ozil-at-head-of-the-vanguard-for-new-generation.html |title=Germany v Australia: Mesut Ozil at head of the vanguard for new generation |publisher=Telegraph |date = 12 June 2010 | accessdate = 17 June 2010}}</ref> ปัจจุบันเล่นในตำแหน่ง[[กองกลาง#กองกลางตัวรุก|กองกลางตัวรุก]]ให้กับ[[สโมสรฟุตบอลอาร์เซนอล|อาร์เซนอล]] |
||
โอซิลเล่นให้กับ[[แวร์เดอร์ เบรเมน|แวร์เดอร์เบรเมิน]]และ[[ฟุตบอลทีมชาติเยอรมนี|ทีมชาติเยอรมนี]] ต่อมาได้ย้ายไป[[สโมสรฟุตบอลเรอัลมาดริด|เรอัลมาดริด]] และได้ย้ายมาอาร์เซนอลด้วยค่าตัวราว 42.5 ล้านปอนด์ในไม่กี่ชั่วโมงก่อนปิดการซื้อขายตัวนักฟุตบอล ในช่วงต้น[[พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2013–14|ฤดูกาล 2013–14]] โอซิลเป็นผู้เล่นตัวทำเกมที่มากความสามารถ โดยยิงประตูให้เรอัลมาดริดถึง 74 ลูก ในปี 2010–13 |
|||
โดยการย้ายมาอาร์เซนอลครั้งนี้ นับเป็นการทำสถิติการซื้อตัวนักฟุตบอลที่สูงสุดในประวัติศาสตร์ของอาร์เซนอล<ref>หน้า 20 กีฬา, ''มองการบริหารจัดการจาก 'ตลาดนักเตะ'''. "ฟรีสไตล์" โดย ณัฐวุฒิ ประคองศิลป์. '''เดลินิวส์'''ฉบับที่ 23,340: เสาร์ที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2556</ref> |
โดยการย้ายมาอาร์เซนอลครั้งนี้ นับเป็นการทำสถิติการซื้อตัวนักฟุตบอลที่สูงสุดในประวัติศาสตร์ของอาร์เซนอล<ref>หน้า 20 กีฬา, ''มองการบริหารจัดการจาก 'ตลาดนักเตะ'''. "ฟรีสไตล์" โดย ณัฐวุฒิ ประคองศิลป์. '''เดลินิวส์'''ฉบับที่ 23,340: เสาร์ที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2556</ref> |
||
ใน[[พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2014–15|ฤดูกาล 2014–15]] |
ใน[[พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2014–15|ฤดูกาล 2014–15]]โอซิลถูกวิจารณ์ว่าการเล่นตกลงไป ไม่โดดเด่นเหมือนฤดูกาลที่แล้ว ในต้นเดือนตุลาคม ค.ศ. 2014 ขณะที่เดินทางกลับไปเยอรมนี โอซิลได้ถูกตรวจพบว่าได้รับบาดเจ็บที่หัวเข่า ต้องพักรักษาเป็นเวลาราว 3 เดือน<ref>{{cite web|url= http://www.thairath.co.th/content/455503|title='ปืน'ปวดตับ! 'อินทรี'ยัน'โอซิล' เข่าพังพักยาว 12 วีค|publisher=ไทยรัฐ |date = 8 October 2014 | accessdate = 12 January 2015}}</ref> ก่อนที่จะเริ่มกลับมาซ้อมและกลับมาลงเล่นอีกครั้งได้ในต้นปี ค.ศ. 2015<ref>{{cite web|url=http://www.siamsport.co.th/football/premierleague/view.php?code=150111111544 |title=เวนเกอร์เผยโอซิลกระสันโชว์ฟอร์มแจ่ม|publisher=สยามสปอร์ต |date =11 January 2015 | accessdate = 12 January 2015}}</ref> ในฐานะตัวสำรอง ที่เปลี่ยนตัวลงไปในนาทีที่ 73 แทนที่[[ออลีวีเย ฌีรู]] ที่ถูกเปลี่ยนออก ในนัดที่อาร์เซนอลพบกับ[[สโมสรฟุตบอลสโตกซิตี|สโตกซิตี]] ที่สนามเอมิเรตส์สเตเดียม ผลการแข่งขันอาร์เซนอลชนะไป 3-0<ref>{{cite web|url=http://www.siamsport.co.th/football/premierleague/view.php?code=150111202910|title=อเล็กซิสเบิ้ล!ปืนยิงสลุตรัวช่างปั้นหม้อยับ3-0|publisher=สยามสปอร์ต |date =11 January 2015 | accessdate = 12 January 2015}}</ref>โอซิลถูกส่งลงแข่งขันเป็นตัวจริงนัดแรกหลังจากหายบาดเจ็บกลับมา ใน[[เอฟเอคัพ ฤดูกาล 2014–15|รายการเอฟเอคัพ]]รอบสี่ ที่อาร์เซนอลบุกไปเอาชนะ[[ไบรตัน & โฮปอัลเบียน]] ไปได้ 3-2 โดยเป็นผู้ยิงประตูที่ 2 ได้ในนาทีที่ 24 ด้วย<ref>{{cite web|url=http://www.manager.co.th/Sport/ViewNews.aspx?NewsID=9580000009619|title="ปืนโต" เชือดหวิว 3-2 "วัลคอตต์-โอซิล" คัมแบ็กซัด|publisher=ผู้จัดการออนไลน์ |date =26 January 2015 | accessdate = 26 January 2015}}</ref> และยิงเป็นครั้งแรกในพรีเมียร์ลีกหลังจากหายอาการบาดเจ็บกลับมา ในนัดที่ 23 ของฤดูกาล ที่อาร์เซนอลเป็นฝ่ายเอาชนะ[[แอสตันวิลลา]] ไปได้ถึง 5-0 ที่สนามเอมิเรตส์สเตเดียม โดยโอซิลยิงได้ในนาทีที่ 56 นับเป็นประตูที่ 2 ของการแข่งขันนัดนี้<ref>หน้า 17 ต่อ 19 กีฬา, ''ปืนใหญ่ยิงสลุตวิลลายับ 5-0''. "ปืนใหญ่รัวฆ่าสิงห์ผงาด". '''เดลินิวส์'''ฉบับที่ 23,853: วันจันทร์ที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558 ขึ้น 14 ค่ำ เดือน 3 ปีมะเมีย</ref> |
||
และต่อมาได้รับรางวัลนักฟุตบอลยอดเยี่ยมของสมาคมนักฟุตบอลอาชีพ (PFA) ประจำเดือนเมษายน ค.ศ. 2015<ref>{{cite web|url=http://www.arsenal.in.th/?p=2616|title=โอซิล ผงาดซิวนักเตะยอดเยี่ยม PFA เดือนเมษายน|publisher=arsenal.in.th |date =1 May 2015 | accessdate = 2 May 2015}}</ref> |
และต่อมาได้รับรางวัลนักฟุตบอลยอดเยี่ยมของสมาคมนักฟุตบอลอาชีพ (PFA) ประจำเดือนเมษายน ค.ศ. 2015<ref>{{cite web|url=http://www.arsenal.in.th/?p=2616|title=โอซิล ผงาดซิวนักเตะยอดเยี่ยม PFA เดือนเมษายน|publisher=arsenal.in.th |date =1 May 2015 | accessdate = 2 May 2015}}</ref> |
||
ใน[[ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ฤดูกาล 2015–16 รอบแบ่งกลุ่ม]] อาร์เซนอลอยู่ในกลุ่มเอฟ และมีสถานการณ์บีบบังคับให้ต้องชนะ[[บาเยิร์นมิวนิก]]ให้ได้ที่สนามเอมิเรตส์ เนื่องจากอาร์เซนอลก่อนหน้านั้นแพ้มาแล้ว 2 นัด ยังไม่มีคะแนนเลย ขณะที่บาเยิร์นมิวนิกตั้งแต่เปิดฤดูกาลมายังไม่เคยแพ้ใคร ซ้ำยังเป็นผู้ชนะติดต่อกันรวด 12 นัดในทุกรายการ และผู้เล่นทุกคนเล่นได้อย่างโดดเด่นมาก โดยเฉพาะ[[รอแบร์ต แลวันดอฟสกี]] กองหน้าของทีม ที่ยิงในบุนเดสลีกาได้ถึง 5 ลูกก่อนหน้านั้น แต่ในครั้งนี้ |
ใน[[ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ฤดูกาล 2015–16 รอบแบ่งกลุ่ม]] อาร์เซนอลอยู่ในกลุ่มเอฟ และมีสถานการณ์บีบบังคับให้ต้องชนะ[[บาเยิร์นมิวนิก]]ให้ได้ที่สนามเอมิเรตส์ เนื่องจากอาร์เซนอลก่อนหน้านั้นแพ้มาแล้ว 2 นัด ยังไม่มีคะแนนเลย ขณะที่บาเยิร์นมิวนิกตั้งแต่เปิดฤดูกาลมายังไม่เคยแพ้ใคร ซ้ำยังเป็นผู้ชนะติดต่อกันรวด 12 นัดในทุกรายการ และผู้เล่นทุกคนเล่นได้อย่างโดดเด่นมาก โดยเฉพาะ[[รอแบร์ต แลวันดอฟสกี]] กองหน้าของทีม ที่ยิงในบุนเดสลีกาได้ถึง 5 ลูกก่อนหน้านั้น แต่ในครั้งนี้ โอซิลสามารถยิงประตูได้ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บนาทีที่ 4 ของครึ่งหลัง นับเป็นประตูที่ 2 จบการแข่งขันอาร์เซนอลชนะบาเยิร์นมิวนิกไป 2-0 ทำให้ยังมีโอกาสพลิกสถานการณ์เข้ารอบต่อไป และทำให้บาเยิร์นมิวนิกแพ้เป็นนัดแรกของฤดูกาลอีกด้วย<ref>{{cite news | date=2015-05-31 | url=http://www.livescore.net/soccer/champions-league/group-f/arsenal-vs-bayern-munich/1-2088186/ | title=Arsenal 2 - 0 Bayern Munich| publisher=livescore.net| accessdate=2015-10-21}}</ref> |
||
ใน[[พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2015–16|ฤดูกาล 2015–16]] |
ใน[[พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2015–16|ฤดูกาล 2015–16]] โอซิลซิลได้ทำสถิติใหม่ ด้วยเป็นผู้จ่ายส่งลูกบอลให้เพื่อนร่วมทีมทำประตูได้ในลีกมากที่สุด โดยลงเล่นทั้งหมด 57 นัดทำไป 21 การจ่ายส่ง คิดเป็นจ่าย 1 ประตูต่อ 2.71 นัด และยังทำสถิตินี้ติดต่อกันถึง 10 ครั้งด้วยกัน ชนิดที่ไม่มีผู้เล่นคนไหนทำได้มาก่อน<ref>{{cite news | date=2015-11-10 | url=http://www.thairath.co.th/content/538278| title=ราชาแอสซิสต์| publisher=ไทยรัฐ| accessdate=2015-11-11}}</ref> ทำลายสถิติเดิมของ[[เอริก ก็องโตนา]] ของ[[แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด]] ที่เคยทำไว้ที่ 1 ประตูต่อ 2.79 นัด<ref>{{cite news | date=2015-10-27 | url= http://www.manager.co.th/Sport/ViewNews.aspx?NewsID=9580000119900| title=“โอซิล” ขึ้นแท่น “ราชาแอสซิสต์” แห่งพรีเมียร์ฯ แซง “ก็องโต”| publisher=ผู้จัดการออนไลน์| accessdate=2015-11-11}}</ref>ปัจจุบันโอซิล ประกาศเลิกเล่นกับทีมชาติเยอรมัน เป็นที่เรียบร้อยแล้ว |
||
ในเดือนมีนาคม ค.ศ. 2017 |
ในเดือนมีนาคม ค.ศ. 2017 โอซิลได้ออกหนังสืออัตชีวประวัติในชื่อ ''The Magic of the Game / Gunning for Greatness''<ref>{{cite news | url=http://metro.co.uk/2017/03/03/revealed-how-mesut-ozil-pleaded-with-arsenal-manager-arsene-wenger-to-end-his-real-madrid-hell-6485256/ | title= Revealed: How Mesut Ozil pleaded with Arsenal manager Arsene Wenger to end his Real Madrid hell | publisher = Metro.co.uk | date = 3 March 2017 | accessdate = 13 March 2017}}</ref><ref>{{cite news | url=http://www.independent.co.uk/sport/football/premier-league/arsenal-news-mesut-ozil-jose-mourinho-row-real-madrid-coward-a7607316.html | title= Arsenal's Mesut Özil was called a 'coward' by Jose Mourinho in blistering dressing-room row at Real Madrid | publisher = Independent.co.uk | date = 2 March 2017 | accessdate = 13 March 2017}}</ref> |
||
== อ้างอิง == |
== อ้างอิง == |
||
{{รายการอ้างอิง}} |
{{รายการอ้างอิง}} |
||
==แหล่งข้อมูลอื่น== |
==แหล่งข้อมูลอื่น== |
||
{{commonscat |Mesut Özil|เม |
{{commonscat |Mesut Özil|เมซุต โอซิล }} |
||
* {{Official website|1=http://www.mesutoezil.com}} |
* {{Official website|1=http://www.mesutoezil.com}} |
||
* {{Soccerbase}} |
* {{Soccerbase}} |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 13:06, 23 ธันวาคม 2561
ข้อมูลส่วนตัว | |||
---|---|---|---|
ชื่อเต็ม | เมซุต โอซิล[1] | ||
วันเกิด | [2] | 15 ตุลาคม ค.ศ. 1988||
สถานที่เกิด | เก็ลเซินเคียร์เชิน เยอรมนีตะวันตก | ||
ส่วนสูง | 1.80 เมตร (5 ฟุต 11 นิ้ว)[3] | ||
ตำแหน่ง | กองกลางตัวรุก | ||
ข้อมูลสโมสร | |||
สโมสรปัจจุบัน | อาร์เซนอล | ||
หมายเลข | 10 | ||
สโมสรเยาวชน | |||
1995–1998 | Westfalia 04 Gelsenkirchen | ||
1998–1999 | Teutonia Schalke-Nord | ||
1999–2000 | Falke Gelsenkirchen | ||
2000–2005 | Rot-Weiss Essen | ||
2005–2006 | ชาลเก 04 | ||
สโมสรอาชีพ* | |||
ปี | ทีม | ลงเล่น | (ประตู) |
2006–2008 | ชาลเก 04 | 30 | (0) |
2008–2010 | แวร์เดอร์เบรเมิน | 71 | (13) |
2010–2013 | เรอัลมาดริด | 105 | (19) |
2013– | อาร์เซนอล | 153 | (30) |
ทีมชาติ‡ | |||
2006–2007 | เยอรมนี อายุไม่เกิน 19 ปี | 11 | (4) |
2007–2009 | เยอรมนี อายุไม่เกิน 21 ปี | 16 | (5) |
2009–2018 | เยอรมนี | 92 | (23) |
*นัดที่ลงเล่นและประตูที่ยิงให้แก่สโมสรเฉพาะลีกในประเทศเท่านั้น ข้อมูลล่าสุด ณ วันที่ 14:06, 2 เมษายน ค.ศ. 2018 (UTC) ‡ ข้อมูลการลงเล่นและประตูให้แก่ทีมชาติล่าสุด ณ วันที่ 16:19, 27 มิถุนายน ค.ศ. 2018 (UTC) |
เมซุต โอซิล (เยอรมัน: Mesut Özil; เกิดวันที่ 15 ตุลาคม ค.ศ. 1988) เป็นนักฟุตบอลชาวเยอรมันเชื้อสายตุรกี[4] ปัจจุบันเล่นในตำแหน่งกองกลางตัวรุกให้กับอาร์เซนอล
โอซิลเล่นให้กับแวร์เดอร์เบรเมินและทีมชาติเยอรมนี ต่อมาได้ย้ายไปเรอัลมาดริด และได้ย้ายมาอาร์เซนอลด้วยค่าตัวราว 42.5 ล้านปอนด์ในไม่กี่ชั่วโมงก่อนปิดการซื้อขายตัวนักฟุตบอล ในช่วงต้นฤดูกาล 2013–14 โอซิลเป็นผู้เล่นตัวทำเกมที่มากความสามารถ โดยยิงประตูให้เรอัลมาดริดถึง 74 ลูก ในปี 2010–13
โดยการย้ายมาอาร์เซนอลครั้งนี้ นับเป็นการทำสถิติการซื้อตัวนักฟุตบอลที่สูงสุดในประวัติศาสตร์ของอาร์เซนอล[5]
ในฤดูกาล 2014–15โอซิลถูกวิจารณ์ว่าการเล่นตกลงไป ไม่โดดเด่นเหมือนฤดูกาลที่แล้ว ในต้นเดือนตุลาคม ค.ศ. 2014 ขณะที่เดินทางกลับไปเยอรมนี โอซิลได้ถูกตรวจพบว่าได้รับบาดเจ็บที่หัวเข่า ต้องพักรักษาเป็นเวลาราว 3 เดือน[6] ก่อนที่จะเริ่มกลับมาซ้อมและกลับมาลงเล่นอีกครั้งได้ในต้นปี ค.ศ. 2015[7] ในฐานะตัวสำรอง ที่เปลี่ยนตัวลงไปในนาทีที่ 73 แทนที่ออลีวีเย ฌีรู ที่ถูกเปลี่ยนออก ในนัดที่อาร์เซนอลพบกับสโตกซิตี ที่สนามเอมิเรตส์สเตเดียม ผลการแข่งขันอาร์เซนอลชนะไป 3-0[8]โอซิลถูกส่งลงแข่งขันเป็นตัวจริงนัดแรกหลังจากหายบาดเจ็บกลับมา ในรายการเอฟเอคัพรอบสี่ ที่อาร์เซนอลบุกไปเอาชนะไบรตัน & โฮปอัลเบียน ไปได้ 3-2 โดยเป็นผู้ยิงประตูที่ 2 ได้ในนาทีที่ 24 ด้วย[9] และยิงเป็นครั้งแรกในพรีเมียร์ลีกหลังจากหายอาการบาดเจ็บกลับมา ในนัดที่ 23 ของฤดูกาล ที่อาร์เซนอลเป็นฝ่ายเอาชนะแอสตันวิลลา ไปได้ถึง 5-0 ที่สนามเอมิเรตส์สเตเดียม โดยโอซิลยิงได้ในนาทีที่ 56 นับเป็นประตูที่ 2 ของการแข่งขันนัดนี้[10]
และต่อมาได้รับรางวัลนักฟุตบอลยอดเยี่ยมของสมาคมนักฟุตบอลอาชีพ (PFA) ประจำเดือนเมษายน ค.ศ. 2015[11]
ในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ฤดูกาล 2015–16 รอบแบ่งกลุ่ม อาร์เซนอลอยู่ในกลุ่มเอฟ และมีสถานการณ์บีบบังคับให้ต้องชนะบาเยิร์นมิวนิกให้ได้ที่สนามเอมิเรตส์ เนื่องจากอาร์เซนอลก่อนหน้านั้นแพ้มาแล้ว 2 นัด ยังไม่มีคะแนนเลย ขณะที่บาเยิร์นมิวนิกตั้งแต่เปิดฤดูกาลมายังไม่เคยแพ้ใคร ซ้ำยังเป็นผู้ชนะติดต่อกันรวด 12 นัดในทุกรายการ และผู้เล่นทุกคนเล่นได้อย่างโดดเด่นมาก โดยเฉพาะรอแบร์ต แลวันดอฟสกี กองหน้าของทีม ที่ยิงในบุนเดสลีกาได้ถึง 5 ลูกก่อนหน้านั้น แต่ในครั้งนี้ โอซิลสามารถยิงประตูได้ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บนาทีที่ 4 ของครึ่งหลัง นับเป็นประตูที่ 2 จบการแข่งขันอาร์เซนอลชนะบาเยิร์นมิวนิกไป 2-0 ทำให้ยังมีโอกาสพลิกสถานการณ์เข้ารอบต่อไป และทำให้บาเยิร์นมิวนิกแพ้เป็นนัดแรกของฤดูกาลอีกด้วย[12]
ในฤดูกาล 2015–16 โอซิลซิลได้ทำสถิติใหม่ ด้วยเป็นผู้จ่ายส่งลูกบอลให้เพื่อนร่วมทีมทำประตูได้ในลีกมากที่สุด โดยลงเล่นทั้งหมด 57 นัดทำไป 21 การจ่ายส่ง คิดเป็นจ่าย 1 ประตูต่อ 2.71 นัด และยังทำสถิตินี้ติดต่อกันถึง 10 ครั้งด้วยกัน ชนิดที่ไม่มีผู้เล่นคนไหนทำได้มาก่อน[13] ทำลายสถิติเดิมของเอริก ก็องโตนา ของแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ที่เคยทำไว้ที่ 1 ประตูต่อ 2.79 นัด[14]ปัจจุบันโอซิล ประกาศเลิกเล่นกับทีมชาติเยอรมัน เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ในเดือนมีนาคม ค.ศ. 2017 โอซิลได้ออกหนังสืออัตชีวประวัติในชื่อ The Magic of the Game / Gunning for Greatness[15][16]
อ้างอิง
- ↑ "Updated squads for 2017/18 Premier League confirmed". Premier League. 2 February 2018. สืบค้นเมื่อ 10 February 2018.
- ↑ "FIFA World Cup South Africa 2010: List of players: Germany" (PDF). FIFA. 4 June 2010. p. 11. สืบค้นเมื่อ 10 February 2018.
- ↑ "Mesut Özil: Overview". Premier League. สืบค้นเมื่อ 10 February 2018.
- ↑ White, Duncan (12 June 2010). "Germany v Australia: Mesut Ozil at head of the vanguard for new generation". Telegraph. สืบค้นเมื่อ 17 June 2010.
- ↑ หน้า 20 กีฬา, มองการบริหารจัดการจาก 'ตลาดนักเตะ'. "ฟรีสไตล์" โดย ณัฐวุฒิ ประคองศิลป์. เดลินิวส์ฉบับที่ 23,340: เสาร์ที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2556
- ↑ "'ปืน'ปวดตับ! 'อินทรี'ยัน'โอซิล' เข่าพังพักยาว 12 วีค". ไทยรัฐ. 8 October 2014. สืบค้นเมื่อ 12 January 2015.
- ↑ "เวนเกอร์เผยโอซิลกระสันโชว์ฟอร์มแจ่ม". สยามสปอร์ต. 11 January 2015. สืบค้นเมื่อ 12 January 2015.
- ↑ "อเล็กซิสเบิ้ล!ปืนยิงสลุตรัวช่างปั้นหม้อยับ3-0". สยามสปอร์ต. 11 January 2015. สืบค้นเมื่อ 12 January 2015.
- ↑ ""ปืนโต" เชือดหวิว 3-2 "วัลคอตต์-โอซิล" คัมแบ็กซัด". ผู้จัดการออนไลน์. 26 January 2015. สืบค้นเมื่อ 26 January 2015.
- ↑ หน้า 17 ต่อ 19 กีฬา, ปืนใหญ่ยิงสลุตวิลลายับ 5-0. "ปืนใหญ่รัวฆ่าสิงห์ผงาด". เดลินิวส์ฉบับที่ 23,853: วันจันทร์ที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558 ขึ้น 14 ค่ำ เดือน 3 ปีมะเมีย
- ↑ "โอซิล ผงาดซิวนักเตะยอดเยี่ยม PFA เดือนเมษายน". arsenal.in.th. 1 May 2015. สืบค้นเมื่อ 2 May 2015.
- ↑ "Arsenal 2 - 0 Bayern Munich". livescore.net. 2015-05-31. สืบค้นเมื่อ 2015-10-21.
- ↑ "ราชาแอสซิสต์". ไทยรัฐ. 2015-11-10. สืบค้นเมื่อ 2015-11-11.
- ↑ ""โอซิล" ขึ้นแท่น "ราชาแอสซิสต์" แห่งพรีเมียร์ฯ แซง "ก็องโต"". ผู้จัดการออนไลน์. 2015-10-27. สืบค้นเมื่อ 2015-11-11.
- ↑ "Revealed: How Mesut Ozil pleaded with Arsenal manager Arsene Wenger to end his Real Madrid hell". Metro.co.uk. 3 March 2017. สืบค้นเมื่อ 13 March 2017.
- ↑ "Arsenal's Mesut Özil was called a 'coward' by Jose Mourinho in blistering dressing-room row at Real Madrid". Independent.co.uk. 2 March 2017. สืบค้นเมื่อ 13 March 2017.
แหล่งข้อมูลอื่น
- เว็บไซต์ทางการ
- สถิติของ เมซุท เออซิล ที่ Soccerbase
- เมซุท เออซิล ที่ National-Football-Teams.com
- เมซุท เออซิล – สถิติการลงแข่งจากสหพันธ์ฟุตบอลระหว่างประเทศ (FIFA) (ในภาษาอังกฤษ)
- บุคคลที่เกิดในปี พ.ศ. 2531
- บุคคลที่ยังมีชีวิตอยู่
- นักฟุตบอลชาวเยอรมัน
- นักฟุตบอลทีมชาติเยอรมนี
- ผู้เล่นในฟุตบอลโลก 2010
- ผู้เล่นสโมสรฟุตบอลเรอัลมาดริด
- ผู้เล่นในลาลีกา
- บุคคลจากรัฐนอร์ดไรน์-เวสท์ฟาเลิน
- ผู้เล่นในฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2012
- ผู้เล่นในฟุตบอลโลก 2014
- ผู้เล่นในชุดชนะเลิศฟุตบอลโลก
- มุสลิมชาวเยอรมัน
- ผู้เล่นในฟุตบอลโลก 2018