ข้ามไปเนื้อหา

ฉบับร่าง:พระครูนนทญาณวิสุทธิ์ (สุคม อานนฺโท)

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
พระครูนนทญาณวิสุทธิ์

(สุคม อานนฺโท)
ชื่ออื่นท่านพระครูสุคม
ส่วนบุคคล
เกิด15 มีนาคม พ.ศ. 2470 (82 ปี)
มรณภาพ22 ธันวาคม พ.ศ. 2552
นิกายมหานิกาย
การศึกษาน.ธ.เอก
ตำแหน่งชั้นสูง
ที่อยู่วัดโคกบัวราย อำเภอเมืองสุรินทร์ จังหวัดสุรินทร์
อุปสมบทพ.ศ. 2490
พรรษา61
ตำแหน่งอดีตเจ้าอาวาสวัดโคกบัวราย,อดีตเจ้าคณะตำบลในเมือง เขต1 อำเภอเมืองสุรินทร์,อดีตที่ปรึกษาเจ้าคณะตำบลในเมือง เขต1 อำเภอเมืองสุรินทร์

พระครูนนทญาณวิสุทธิ์​ (สุคม​ อานนฺโท)​[1] [2] อดีตเจ้าอาวาสวัดโคกบัวราย​ อำเภอเมืองสุรินทร์ จังหวัดสุรินทร์,อดีตเจ้าคณะตำบลในเมือง เขต 1,อดีตที่ปรึกษาเจ้าคณะตำบลในเมือง เขต 1[3] อำเภอเมืองสุรินทร์ จังหวัดสุรินทร์ ทายาทธรรมผู้สืบทอดสายวิชาธรรมกายจาก​ ท่านเจ้าคุณพระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) อดีตเจ้าอาวาสวัดปากน้ำภาษีเจริญ เขตภาษีเจริญ กรุงเทพมหานคร ผู้เผยแผ่วิปัสสนากรรมฐาน​วิชชาธรรมกาย กำหนดลมหายใจว่า "สัมมาอรหัง" และผู้เผยแผ่วิปัสสนากรรมฐาน​ตามแนวสติปัฏฐาน ๔ ตามแนวของเจ้าพระคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ (อาจ อาสโภ) อดีตผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ราชวรมหาวิหาร เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร กำหนดลมหายใจว่า "ยุบหนอ พองหนอ"

ชาติภูมิ[แก้]

พระครูนนทญาณวิสุทธิ์ (สุคม อานนฺโท) [4]นามเดิมชื่อ สุคม ทองผา เกิดเมื่อ ๑๕ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๗๐ ภูมิลำเนาเดิม บ้านธาตุ ตำบลธาตุ อำเภอรัตนบุรี จังหวัดสุรินทร์ ในตระกูลชาวนา โยมบิดาชื่อ นายเสา ทองผา โยมมารดาชื่อ นางงีบ ทองผา พระคุณท่านมีญาติพี่น้องร่วมท้องเดียวกัน 5 คนเป็นชาย ๓ คนหญิง ๓ คนเรียงตามลำดับดังนี้

  • ๑. นางพุธ ดันนอก (เสียชีวิตแล้ว)​
  • ๒. นางพัน อนันทอง (เสียชีวิตแล้ว)
  • ๓. นายพิมพ์ ทองผา (เสียชีวิตแล้ว)
  • ๔. พระครูนนทญาณวิสุทธิ์ (สุคม ทองผา) (มรณภาพแล้ว)
  • ๕. นายจันทร์ ทองผา
  • ๖. เด็กหญิง (เสียชีวิตแต่ยังเล็ก)

ชีวิตครั้งเยาว์วัยพระคุณท่านบอกกับผู้เขียนว่าเมื่อครั้งยังเด็กเรียนจบการศึกษาภาคบังคับจากโรงเรียนธาตุศึกษาวิทยา ตำบลธาตุ อำเภอรัตนบุรี จังหวัดสุรินทร์ ขณะที่เรียนอยู่สอบไล่ได้อันดับที่ ๑ และ ๒ สลับกันมาจนเรียนจบจิตใจของหลวงพ่อจึงอยากเรียนต่อยิ่งนักผู้เป็นครูบาอาจารย์ก็ให้กำลังใจหนุนเนื่องให้เรียนต่อ แต่แล้วก็ไม่ได้เรียนเพราะทางบ้านยังมองไม่เห็นความสำคัญตอนนี้จึงมองเห็นหนทางเดียวเท่านั้นที่จะมีโอกาสได้เรียนต่อนั่นคือต้องบวช ครองจีวรแห่งร่มผ้ากาสาวพัสตร์ ลุมาถึงอายุได้ ๒๐ ปีคุณลุงมาทำบุญฌาปนกิจของคุณแม่จึงได้อาศัยไปอยู่กับคุณลุงที่บ้านหนองตาบุญ ตำบลบ้านลำ อำเภอวิหารแดง จังหวัดสระบุรี

การบรรพชาและอุปสมบท[แก้]

ปีถัดมาอายุเป็น ๒๑ ปีอยู่ใน พ.ศ. ๒๔๙๐ กลับมาคัดเลือกทหารเกณฑ์ที่ อำเภอรัตนบุรี จังหวัดสุรินทร์ จับถูกใบแดงร่วม ๑๐๐ กว่าคน แต่ปีนั้นเขาคัดไว้เพียง ๒๕ คนพระคุณท่านซึ่งจับถูกใบแดงด้วย เขาคัดคนพระคุณท่านเลยรอดพอกลับไปหาคุณลุงปรารถนาของพระคุณท่านจึงได้บรรลุผล คือ คุณลุงจัดการให้บรรพชาอุปสมบทเป็นพระภิกษุ โดยให้ประจำอยู่ ณ วัดหนองตาบุญ ตำบลบ้านลำ อำเภอวิหารแดง จังหวัดสระบุรี โดยมีพระครูชินธรรมประกาศ (หลวงพ่อถิร)​ วัดหนองสรวง ตำบลบ้านลำ อำเภอวิหารแดง จังหวัดสระบุรี เป็นพระอุปัชฌาย์ มีพระอธิการสังวาล วัดโคกกระต่าย ตำบลบ้านลำ อำเภอวิหารแดง จังหวัดสระบุรี เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และมีพระสมุห์ขอม วัดหนองตาบุญ ตำบลบ้านลำ อำเภอวิหารแดง จังหวัดสระบุรี เป็นพระอนุสาวนาจารย์ พระอุปัชฌาย์ตั้งฉายานามทางธรรมให้ว่า อานนฺโท

จำพรรษา[แก้]

ในพรรษาแรก พระคุณท่านประจำอยู่ ณ วัดหนองตาบุญ ตำบลบ้านลำ อำเภอวิหารแดง จังหวัดสระบุรี - พรรษาที่สองย้ายมาประจำอยู่ ณ วัดวิหารแดง อำเภอวิหารแดง จังหวัดสระบุรี และเรียนนักธรรมที่นี้ซึ่งเป็นปี พ.ศ. ๒๔๙๑ ผลการเรียนปีดังกล่าวก็สอบไล่ได้นักธรรมชั้นตรี ปี พ.ศ. ๒๔๙๒ สอบไล่ได้นักธรรมโท ปี พ.ศ. ๒๔๙๓ ไปอยู่จังหวัดสมุทรสงคราม กับหลวงพ่อเจียง ที่วัดเจริญสุขาราม ตำบลบางคณฑี ปี พ.ศ. ๒๔๙๔ มาอยู่ที่วัดกลางสุรินทร์​กับพระมหาแก้ว เมืองสุข ปี พ.ศ. ๒๔๙๕ ไปอยู่ที่วัดปากน้ำภาษีเจริญ กรุงเทพมหานคร นานถึง ๕ปี ปลายปี พ.ศ. ๒๔๙๙ ย้ายไปอยู่วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ราชวรมหาวิหาร เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร ท่าพระจันทร์​ เป็นเวลา ๗ ปี และในปี พ.ศ. ๒๕๐๒ ก็สอบไล่ได้นักธรรมชั้นเอก พอถึงปี พ.ศ. ๒๕๐๖ ก็ย้ายจากวัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ราชวรมหาวิหาร เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร มาประจำอยู่วัดโคกบัวราย ตำบลในเมือง อำเภอเมืองสุรินทร์ จังหวัดสุรินทร์ โดยมีหน้าที่เป็นผู้อบรมกรรมฐานแก่พระภิกษุ-สามเณร ที่มาฝึกปฏิบัติวิปัสสนากัมมัฏฐาน ณ วัดโคกบัวรายในปีดังกล่าวนั้นอยู่ในความดูแลของหลวงพ่อเดื่อ ปภากโรสมณศักดิ์ที่พระประภากรคณาจารย์ (เดื่อ ปภากโร) เจ้าอาวาสวัดจำปาสุรินทร์ เจ้าคณะจังหวัดสุรินทร์ ในขณะนั้น ปี พ.ศ. ๒๕๐๗ หลวงพ่อสุคม ก็ย้ายเข้ามาอยู่วัดจันทร์ใน แขวงบางคอแหลม เขตยานนาวา กรุงเทพมหานคร พอลุล่วงถึงปี พ.ศ. ๒๕๐๘ พระครูสิทธิการโกศล สมณศักดิ์ปัจจุบันที่ พระราชสิทธิโกศล (เทพ นนฺโท) เจ้าคณะจังหวัดสุรินทร์ เจ้าอาวาสวัดกลางสุรินทร์ในขณะนั้น ไปนิมนต์หลวงพ่อมาจากวัดจันทร์ใน กรุงเทพมหานคร ให้ประจําอยู่ ณ วัดโคกบัวราย ตำบลในเมือง อำเภอเมืองสุรินทร์ จังหวัดสุรินทร์ แต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งทางพระสังฆาธิการเป็นเจ้าอาวาส

ด้านสาธารณูปการ ดำเนินการสร้างอุโบสถอเนกประสงค์ วัดโคกบัวราย ตำบลในเมือง อำเภอเมืองสุรินทร์ จังหวัดสุรินทร์ กว้าง ๒๘.๕๕ เมตร ยาว ๓๘.๕๕ เมตรเสาทั้งหมด ๔๔ ต้น ๓๖ ห้อง เริ่มสร้าง ๖ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๒๖ ขณะนี้สิ้นเงินไป ๑ ล้าน ๗ แสนเศษ ยังขาดอีกประมาณ ๒ ล้านจึงจะเสร็จ ซึ่งเป็นอุโบสถที่มีอาณาบริเวณกว้างที่สุดในประเทศไทย ปัจจุบันสร้างอุโบสถเสร็จแล้ว ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาแล้ว

ตำแหน่งพระสังฆาธิการ[แก้]

มรณภาพ[แก้]

พระครูนนทญาณวิสุทธิ์ (สุคม อานนฺโท) ได้ถึงแก่มรณภาพลงอย่างสงบ เมื่อเวลา 15.35 น. ในวันอังคาร ที่22 เดือนธันวาคม พ.ศ. 2552 สิริรวมอายุได้ 82ปี,61พรรษากาลอุปสมบท

สมณศักดิ์[แก้]

ราชกิจจานุเบกษา,แจ้งความสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานสัญญาบัตรตั้งสมณศักดิ์,เล่ม ๙๒,ตอนที่ ๒๖๓, ๒๖ ธันวาคม ๒๕๑๘,ฉบับพิเศษ หน้า ๑๒

อ้างอิง[แก้]

  1. ราชกิจจานุเบกษา,แจ้งความสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานสัญญาบัตรตั้งสมณศักดิ์,เล่ม ๙๒,ตอนที่ ๒๖๓, ๒๖ ธันวาคม ๒๕๑๘,ฉบับพิเศษ หน้า ๑๒
  2. https://www.web-pra.com/auction/show/12932056
  3. https://www.mahathera.org/files/mati_doc/CCF01792551_00342.pdf
  4. อ้างอิง : เรียบเรียงโดย  สุภักดิ์  ตลับทอง นิตยสาร​พระเครื่อง​นะโม  ปีที่ ๓  ฉบับ​ที่ ๘๑  ๑๕  ม.ค.ถึง ๒๕ ม.ค. ๒๕๒๙
  5. มติมหาเถรสมาคม ครั้งที่ ๑๗/๒๕๕๑ มติที่ ๓๔๒/๒๕๕๑ เรื่อง เสนอขอแต่งตั้งพระสังฆาธิการให้เป็นที่ปรึกษาเจ้าคณะตำบล ในเขตปกครองคณะสงฆ์ภาค ๑๑ และภาค๑๒ ๕. พระครูนนทญาณวิสุทธิ์ วัดโคกบัวราย ตำบลในเมือง อำเภอเมืองสุรินทร์ จังหวัดสุรินทร์ เจ้าคณะตำบลในเมือง เขต๑ เป็นที่ปรึกษาเจ้าคณะตำบลในเมือง เขต๑
  6. ราชกิจจานุเบกษา,แจ้งความสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานสัญญาบัตรตั้งสมณศักดิ์,เล่ม ๙๒,ตอนที่ ๒๖๓, ๒๖ ธันวาคม ๒๕๑๘,ฉบับพิเศษ หน้า ๑๒