คริส โคลแมน

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
คริส โคลแมน
โอบีอี
โคลแมนทำหน้าที่ผู้จัดการทีมชาติเวลส์ ในปี ค.ศ. 2016
ข้อมูลส่วนตัว
ชื่อเต็ม คริสโตเฟอร์ แพทริก โคลแมน
(Christopher Patrick Coleman)[1]
วันเกิด (1970-06-10) 10 มิถุนายน ค.ศ. 1970 (53 ปี)[2]
สถานที่เกิด สวอนซี, เวลส์
ส่วนสูง 1.88 m (6 ft 2 in)[2]
ตำแหน่ง กองหลัง
สโมสรเยาวชน
0000–1986 แมนเชสเตอร์ซิตี
สโมสรอาชีพ*
ปี ทีม ลงเล่น (ประตู)
1986–1987 แมนเชสเตอร์ซิตี 0 (0)
1987–1991 สวอนซีซิตี 160 (2)
1991–1995 คริสตัลพาเลซ 154 (13)
1995–1997 แบล็กเบิร์นโรเวอส์ 28 (0)
1997–2002 ฟูลัม 136 (8)
รวม 478 (23)
ทีมชาติ
1992–2002 เวลส์ 32 (4)
จัดการทีม
2003–2007 ฟูลัม
2007–2008 เรอัลโซซิเอดัด
2008–2010 คอเวนทรีซิตี
2011–2012 ลาริสซา
2012–2017 เวลส์
2017–2018 ซันเดอร์แลนด์
2018–2019 เหอเป่ย์ ไชน่า ฟอร์จูน
*นัดที่ลงเล่นและประตูที่ยิงให้แก่สโมสรเฉพาะลีกในประเทศเท่านั้น

คริสโตเฟอร์ แพทริก โคลแมน, โอบีอี (อังกฤษ: Christopher Patrick Coleman) เป็นผู้จัดการทีมฟุตบอล​และอดีตนักฟุตบอลอาชีพชาวเวลส์​ โดยโคลแมนเคยเป็นผู้จัดการทีมให้กับหลายสโมสรในประเทศอังกฤษรวมถึงเคยคุมทีมในเซกุนดาดิบิซิออน ประเทศสเปนและซูเปอร์ลีกกรีซ ​ก่อนที่จะเป็นที่จดจำจากการเป็นผู้จัดการทีมชาติเวลส์​เมื่อสามารถพาทีมชาติเวลส์ผ่านเข้าไปแข่งขันในฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป​ได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ในปี ค.ศ. 2016 และผ่านเข้าถึงรอบรองชนะเลิศ นอกจากนี้เขายังเคยเป็นผู้จัดการทีมให้กับสโมสรในทวีปเอเชียอย่างสโมสรเหอเป่ย์ ไชน่า ฟอร์จูน ในไชนีสซูเปอร์ลีก ประเทศจีน ในช่วงระหว่างปี 2018–2019

ในสมัยยังเป็นผู้เล่นเขาเล่นในตำแหน่งกองหลัง​โดยเริ่มจากการเป็นนักฟุตบอลระดับเยาวชนของแมนเชสเตอร์ ซิตี แต่ไม่สามารถสอดแทรกขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ได้จึงย้ายไปเล่นให้กับสวอนซี ซิตี ที่ในขณะนั้นยังแข่งขันอยู่ในระดับดิวิชัน 4 (เดิม)​ ของลีกอังกฤษ โดยเขาเป็นผู้เล่นคนสำคัญที่พาทีมคว้าแชมป์ดิวิชัน 4 ได้สำเร็จและได้เลื่อนชั้นขึ้นสู่ดิวิชัน 3 ต่อมาเขาได้ลงเล่นในระดับพรีเมียร์ลีก​เป็นครั้งแรกกับคริสตัล พาเลซ ซึ่งทำให้เขาก้าวขึ้นไปติดทีมชาติเวลส์ชุดใหญ่ในยุคของ เทอร์รี โยรัธ

ในปี ค.ศ. 1995 แบล็กเบิร์น โรเวอส์ที่เพิ่งได้แชมป์พรีเมียร์ลีกได้ทุ่มเงินซื้อตัวเขามาร่วมทีมด้วยค่าตัว 2.8 ล้านปอนด์แต่เขาไม่ประสบความสำเร็จโดยไม่สามารถอย่างตำแหน่งตัวจริงภายในทีมได้ ในขณะเดียวกันโมฮัมเหม็ด อัลฟาเยด มหาเศรษฐีนักธุรกิจชาวอียิปต์ได้เข้ามาซื้อสโมสรฟุตบอลฟูลัม​ที่ในขณะนั้นลงแข่งขันในฟุตบอลลีกเซคันด์ดิวิชัน​ และได้ทุ่มเงินสร้างทีมขึ้นใหม่โดยซื้อตัวคริส โคลแมนด้วยค่าตัว 2.1 ล้านปอนด์ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดของสโมสรในขณะนั้นเพื่อให้ย้ายจากแบล็คเบิร์น โรเวอส์ในพรีเมียร์ลีกมาเล่นให้กับฟูลัมที่อยู่ต่ำกว่าถึง 2 ดิวิชัน

โคลแมน ย้ายมาร่วมทีมฟูลัมในปี ค.ศ. 1997 และได้รับการแต่งตั้งให้เป็นกัปตันทีมโดยเป็นผู้เล่นตัวหลักที่พาทีมคว้าแชมป์ได้ในฤดูกาล 1998–99 และได้เลื่อนชั้นขึ้นสู่ฟุตบอลลีกเฟิสต์ดิวิชัน​ แต่อาชีพนักฟุตบอลของเขาต้องจบลงเนื่องจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ในเดือนมกราคม ปี ค.ศ. 2001 ซึ่งทำให้ขาของเขาบาดเจ็บอย่างหนัก แม้ฟูลัมจะคว้าแชมป์ได้ในฤดูกาล 2000–01 ทำให้สโมสรได้เลื่อนชั้นขึ้นไปแข่งขันในระดับพรีเมียร์ลีก​ได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์สโมสร แต่เขาก็ไม่สามารถกลับมาเล่นฟุตบอลในระดับสูงได้ จึงได้ประกาศเลิกเล่นฟุตบอลในปี ค.ศ. 2002

ประวัติ[แก้]

โคลแมน มีชื่อเต็มว่า คริสโตเฟอร์ แพทริก โคแมน (Christopher Patrick Coleman) เกิดเมื่อวันที่ 10 มิถุนายน ค.ศ. 1970 ที่เมืองสวอนซี ประเทศเวลส์ ขณะเป็นนักฟุตบอลเล่นในตำแหน่งกองหลังให้กับหลายสโมสรในระดับพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ทั้ง แมนเชสเตอร์ซิตี, สวอนซีซิตี, คริสตัลพาเลซ, แบล็กเบิร์นโรเวอส์ และฟูลัม

ในฐานะเป็นผู้จัดการทีม โคลแมนรับหน้าที่นี้ทันทีหลังจากเลิกเล่นฟุตบอลกับฟูลัม และอีกหลายสโมสร เช่น เรอัลโซเซียดัด ในลาลิกา ของสเปน และในระดับทีมชาติ โคลแมนเข้ารับตำแหน่งผู้จัดการทีมหลังจากการกระทำอัตวินิบาตกรรมของแกรี สปีด ในปลายปี ค.ศ. 2011[3]ในระยะแรก โคลแมนนำพาทีมแพ้ติดต่อกันถึง 5 ครั้ง[4] แต่ในที่สุดสามารถนำพาทีมชาติเวลส์เข้าสู่รอบสุดท้ายของการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2016 หรือยุโร 2016 ได้สำเร็จ โดยถือว่าเป็นการลงแข่งขันในระดับนานาชาติเป็นครั้งแรกของเวลส์ด้วยในรอบเกือบ 60 ปี นับตั้งแต่ฟุตบอลโลก 1958 และนัดแรกก็สามารถเอาชนะสโลวาเกียไปได้ 2–1 อีกด้วย[5] [6] และทำให้เวลส์กลายเป็นทีมที่น่าจับตามองในการแข่งขันครั้งนี้ ด้วยการเป็นทีมขนาดเล็กแต่สามารถทะลุมาจนถึงรอบรองชนะเลิศได้[4] เวลส์ได้ทะลุถึงรอบรองชนะเลิศพบกับโปรตุเกส แต่ไม่สามารถเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศได้โดยแพ้ไป 0-2 ซึ่งต่อมาโปรตุเกสได้เข้าไปพบกับฝรั่งเศสและได้เป็นแชมป์ของรายการนี้

อ้างอิง[แก้]

  1. "Coleman: Christopher Patrick Coleman: Matches: 2007–08". BDFutbol. สืบค้นเมื่อ 11 July 2015.
  2. 2.0 2.1 Hugman, Barry J., บ.ก. (2001). The 2001–2002 Official PFA Footballers Factfile. London: AFS. p. 65. ISBN 9-780946-531349.
  3. "'เวลส์'ตั้ง'โคลแมน'คุมทีมชาติ 'ลาริสซา'จ่อฟ้องอ้างละเมิดสัญญา". ไทยรัฐ. 20 January 2012. สืบค้นเมื่อ 12 June 2016.
  4. 4.0 4.1 "ยูโร 2016 ใครชนะใครแชมป์ 06 07 59". ฟ้าวันใหม่. 6 July 2016. สืบค้นเมื่อ 7 July 2016.
  5. "รัสเซียตีเสมออังกฤษ เวลส์ชนะสโลวาเกีย". กรุงเทพธุรกิจ. 12 June 2016. สืบค้นเมื่อ 12 June 2016.
  6. "ยูโร 2016 ใครชนะ ใครแชมป์ 11 06 59 เบรก 2". ฟ้าวันใหม่. 11 June 2016. สืบค้นเมื่อ 12 June 2016.

แหล่งข้อมูลอื่น[แก้]