ก็อตซิลล่า (ภาพยนตร์ พ.ศ. 2557)

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
ก็อตซิลล่า
Teaser poster
กำกับGareth Edwards
บทภาพยนตร์
อำนวยการสร้าง
นักแสดงนำ
กำกับภาพSeamus McGarvey
บริษัทผู้สร้าง
ผู้จัดจำหน่ายวอร์เนอร์บราเธอร์ส
โตโฮ (ญี่ปุ่น)
วันฉาย16 พฤษภาคม ค.ศ. 2014 (สหรัฐอเมริกา)
15 พฤษภาคม ค.ศ. 2014 (ไทย)
ประเทศสหรัฐอเมริกา
ภาษาอังกฤษ
ญี่ปุ่น
ทำเงิน$529.1 ล้านเหรียญจากการฉายทั่วโลก

ก็อดซิลล่า (อังกฤษ: Godzilla) เป็นภาพยนตร์แนววิทยาศาสตร์สัตว์ประหลาดจากประเทศอเมริกา ในภาพยนตร์ของก็อตซิลลาซีรีส์ และภาพยนตร์ที่สร้างจากภาพยนตร์กับมอนสเตอร์ญี่ปุ่นในชื่อเดียวกัน และเป็นภาคเริ่มต้นใหม่ (Reboot) ของภาพยนตร์แฟรนไชส์​​เรื่องก็อดซิลล่า[2] สร้างโดย วอร์เนอร์บราเธอร์ส และโตโฮ เป็นภาพยนตร์ก็อตซิลล่าเรื่องที่ 2 ที่ถ่ายทำโดยสตูดิโอสัญชาติอเมริกา ต่อจากก็อตซิลล่า อสูรพันธุ์นิวเคลียร์ล้างโลก ในปี ค.ศ. 1998 โดยกำหนดฉายในวันที่ 16 พฤษภาคม ค.ศ. 2014 และตามด้วยเรื่อง ก็อดซิลล่า 2: ราชันแห่งมอนสเตอร์ ในปี ค.ศ. 2019

เรื่องย่อ[แก้]

ภายหลังจากการทิ้งระเบิดนิวเคลียร์ที่ฮิโรชิม่า และนางาซากิ เมื่อปี ค.ศ. 1945 การทดลองและใช้ระเบิดนิวเคลียร์ของชาติมหาอำนาจก็ยังคงมีอยู่ต่อไปเรื่อย ๆ ในปี ค.ศ. 1954 รัฐบาลสหรัฐอเมริกาได้รับรายงานถึงสิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่ที่อาศัยอยู่ใต้ท้องมหาสมุทร จึงตัดสินใจทำลายมันด้วยระเบิดนิวเคลียร์แต่ปกปิดข่าวของมัน ให้กลายเป็นเพียงแค่ว่าเป็นการทดลองระเบิด

ในปี ค.ศ. 1999 ที่ญี่ปุ่น ดร.โจ โบรดี้ ได้ใช้ชีวิตครอบครัวอยู่ที่นั่น โจ และแซนดร้า ภรรยา เป็นนักวิทยาศาสตร์ผู้เชี่ยวชาญด้านฟิสิกส์นิวเคลียร์ วันหนึ่งเมื่อเกิดเหตุสารกัมมันตภาพรังสีในโรงไฟฟ้านิวเคลียร์รั่วไหลจากเหตุแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ โจต้องสูญเสียภรรยาไปในเหตุคราวนั้น ซึ่งเขาเชื่อว่า มันไม่ใช่แผ่นดินไหวธรรมดา แต่มีอะไรบางอย่างเคลื่อนไหวอยู่ใต้ดินโดยใช้การส่งเสียงแบบเอคโค่โลเคชั่น และในปีเดียวกัน ดร.เซริซาว่า นักวิทยาศาสตร์หัวหน้าโครงการนิวเคลียร์ลับของญี่ปุ่น ได้รับรายงานเรื่องการขุดพบฟอสซิลของสิ่งมีชีวิตโบราณขนาดใหญ่ในฟิลิปปินส์ เมื่อเขาได้ไปสำรวจก็พบสารกัมมันตภาพรังสีจำนวนมากเช่นเดียวกับที่พบในญี่ปุ่น

15 ปีผ่านไป ฟอร์ด นาวิกโยธินสหรัฐ ลูกชายเพียงคนเดียวของ โจ ที่รอดชีวิตมาจากเหตุคราวนั้น ได้รับโทรศัพท์แจ้งว่า โจ ถูกจับที่ญี่ปุ่นเนื่องจากพยายามบุกเข้าไปในพื้นที่ ๆ เกิดเหตุ ซึ่งปัจจุบันทางรัฐบาลญี่ปุ่นได้ปิดเป็นเมืองร้างไว้ 15 ปีที่ผ่านมา โจยังคงหมกมุ่นและค้นคว้าเกี่ยวกับเหตุการณ์ครั้งนั้นราวกับเป็นคนสติเสีย ในที่สุดทั้งโจและฟอร์ดก็ได้พบกับความจริง เมื่อได้เข้าไปในโครงการลับของรัฐบาล ที่พยายามปลุกไข่ของ มูโต สัตว์ประหลาดยักษ์ยุคก่อนประวัติศาสตร์ที่กินพลังงานนิวเคลียร์เป็นอาหาร เมื่อมูโตฟักเป็นตัว โจได้เสียชีวิตลง แต่มูโตไม่ได้มีเพียงตัวเดียว แต่ยังมีอีกตัวหนึ่งที่เป็นตัวเมีย และทั้งคู่ก็ส่งเสียงร้องหากัน โดยมี โกจิร่า หรือ ก็อตซิลลา สัตว์ประหลาดยักษ์ตัวเดียวกันกับที่รัฐบาลสหรัฐได้ยิงระเบิดนิวเคลียร์ใส่เมื่อปี ค.ศ. 1954 ดร.เซริซาว่า เชื่อว่ามันออกตามหาและล่ามูโตทั้งคู่ เพื่อควบคุมสมดุลของธรรมชาติ

นักแสดง[แก้]

บทบาท โลก นักแสดงเดิม ไทย พากย์ไทย
ฟอร์ด โบรดี้ แอรอน เทย์เลอร์-จอห์นสัน คมสรร รัตนากรบดี
ดร.เซริซาว่า เคน วาตานาเบะ ปิยะ ชำนาญกิจ
แอลล์ โบรดี้ เอลิซาเบธ โอลเซ่น นพวรรณ เหมะบุตร
แซนดร้า โบรดี้ จูเลียต บิโนช นิรมล กิจภิญโญชัย
ดร.วิเวียน เกรแฮม แซลลี่ ฮอว์กินส์ ชิดชนก แย้มมา
พล.ร.อ.วิลเลี่ยม สเตรนซ์ เดวิด สเตรทธาร์น รอง เค้ามูลคดี
ดร.โจ โบรดี้ ไบรอัน แครนสตัน จิราวัฒน์ วชิรศรัณย์ภัทร
Russell Hampton ริชาร์ด ที โจนส์ สุภาพ ไชยวิสุทธิกุล
Sergeant Tre Morales วิคเตอร์ ราซุก สรรเสริญ โภคสมบัติ
Stan Walsh Garry Chalk บัญชา เหมะบุตร
Takashi Ken Yamamura อภิชาติ สมุทคีรี
Hayato Hiro Kanagawa สุภาพ ไชยวิสุทธิกุล
Jainway ไท โอลสัน อิทธิพล มามีเกตุ

การผลิต[แก้]

ภาพยนตร์ร่วมผลิตโดย Legendary Pictures และ Warner Bros. Pictures มีงบประมาณ 160 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ที่ได้รับการสนับสนุนทางการเงิน 75% โดย Legendary และ 25 % โดย Warner Bros. เป็นภาพยนตร์แรกที่คุณสมบัติก๊อดซิลล่าแบบใหม่นับตั้งแต่ภาค Godzilla Raids Again ในปี 1959

การพัฒนา[แก้]

ก็อตซิลลา 3 มิติ[แก้]

ในเดือนสิงหาคม ค.ศ. 2004 Yoshimitsu Banno ผู้ที่เคยกำกับภาพยนตร์ภาค ก็อตซิลล่าผจญฮีโดร่า (Godzilla vs. Hedorah) ในปี ค.ศ. 1971 ประกาศว่าเขาได้มีหลักประกันลิขสิทธิ์จากโตโฮ เพื่อให้ ก็อตซิลลา ภาพยนตร์สั้น IMAX 3D ที่ Advanced Audiovisual Productions (AAP) บริษัทผลิตของเขา ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นเรื่องไม่แน่นอนในชื่อ Godzilla 3D to the Max และจะเป็นการสร้างใหม่ของเรื่องราว Godzilla vs. Hedorah[3] ในปี ค.ศ. 2005 นักถ่ายทำภาพยนตร์ชาวอเมริกัน ปีเตอร์ แอนเดอร์สัน ได้ถูกบันทึกอยู่ในโครงการให้เป็นนักถ่ายทำภาพยนตร์ ,หัวหน้าผลภาพเอฟเฟ็ค และโปรดิวเซอร์ร่วม[3] ในปี ค.ศ. 2007 โปรดิวเซอร์ชาวอเมริกันไบรอัน โรเจอร์ส ที่จะลงนามในโครงการหลังจากที่แอนเดอร์สันแนะนำให้เขารู้จักกับ Okuhira และ Banno ในปี ค.ศ. 2007 แอนเดอร์สัน ยังผ่าน เคอร์เนอร์ ออฟติคัล แล้วก็มาอยู่ในคณะกรรมการในการพัฒนาเทคโนโลยี และการผลิตภาพยนตร์ 3 มิติ[3] และด้วยการสนับสนุนของเคอร์เนอร์ ในฤดูใบไม้ร่วงปี ค.ศ. 2007 ทีมงานได้พบกับโตโฮในโตเกียวที่พวกเขาพบอีกครั้งในการเจรจาต่อรองใบอนุญาตของพวกเขากับช่วยให้การเปิดตัวสารคดีความยาว 3 มิติ การผลิตละคร[3]

ในปี ค.ศ. 2008 เคอร์เนอร์ กำลังเผชิญปัญหาทางการเงินที่ขู่ว่าจะยกเลิกการผลิต โรเจอร์ส, แอนเดอร์สัน และจากนั้นผู้อำนวยการนำเสนอ คีธ แจ๊กเก็ต ได้พบกับ Legendary Pictures ที่จะได้รับการสนับสนุนของพวกเขาในการแสดงภาพยนตร์ 3 มิติ ในปี ค.ศ. 2009 เป็นแสงไฟสีเขียวจาก Legendary ที่จะไปสู่การผลิต[4] จากทีมงานฝ่ายผลิต AAP Banno และ Okuhira จะยังคงอยู่ในโครงการเป็นผู้ผลิต ,ผู้บริหาร และโรเจอร์สเป็นผู้ผลิต ในเดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 2013 Banno กล่าวว่าเขายังคงวางแผนที่จะทำให้เป็นภาคต่อ Godzilla vs. Hedorah[5]

การพัฒนาของ Legendary[แก้]

การเขียนบท[แก้]

การออกแบบสิ่งมีชีวิต[แก้]

ในการสัมภาษณ์ในปี ค.ศ. 2013 การ์ตูนเอ็ดเวิร์ดกล่าวถึงการออกแบบสิ่งมีชีวิตก็อตซิลลา เขาและกลุ่มการออกแบบที่ดูแลการออกแบบก็อตซิลล่าก่อนหน้านี้ทั้งหมด เพื่อแรงบันดาลใจ เอ็ดเวิร์ด ได้ให้ความเห็นว่า "วิธีที่ผมพยายามที่จะดูว่ามันเป็นจินตนาการก็อตซิลล่าเป็นสิ่งมีชีวิตจริงและใครบางคนจากโตโฮ เห็นเขาในทศวรรษที่ 1950 และวิ่งกลับไปที่สตูดิโอสร้างภาพยนตร์เกี่ยวกับสิ่งมีชีวิตและได้รับการพยายามที่ดีที่สุดที่จะจำได้และวาดมัน และในภาพยนตร์ของเรื่องนี้คุณจะได้รับที่จะเห็นเขาจริง"

ก่อนการผลิต[แก้]

การถ่ายทำ[แก้]

หลังการผลิต[แก้]

การฉาย[แก้]

มีกำหนดออกฉายในโรงภาพยนตร์ทั่วโลกในระบบ 2 มิติ ,3 มิติ และไอแมกซ์ 3 มิติ ที่กำลังเริ่มต้นในวันที่ 14 พฤษภาคม ค.ศ. 2014 กับการเปิดตัวในทวีปอเมริกาเหนือในวันที่ 16 พฤษภาคม และมีกำหนดจะออกฉายในประเทศญี่ปุ่นเมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม ค.ศ. 2014 ส่วนวันที่ออกฉายสำหรับประเทศจีนยังไม่ได้รับการประกาศแต่ใดๆ[6] ในสหรัฐอเมริกาภาพยนตร์ได้รับจัดอันดับ PG-13 ด้วยความระมัดระวังสำหรับ ลำดับที่รุนแรงของการทำลาย ,ทำร้ายร่างกาย และสิ่งมีชีวิตที่ใช้ความรุนแรง[7][8]

ที่สุด ก็อตซิลล่าทำรายได้ไปทั้งหมด $529,1ล้านเหรียญ จากการฉายทั่วโลก นับเป็นภาพยนตร์ที่ทำรายได้มากที่สุดเป็นอันดับ 10 ในปี ค.ศ. 2014[9]

ดูเพิ่ม[แก้]

อ้างอิง[แก้]

  1. 1.0 1.1 1.2 "WARNER BROS. PICTURES AND LEGENDARY PICTURES ANNOUNCE CAST AND START OF PRODUCTION FOR "GODZILLA"" (Press release). Legendary Pictures. March 18, 2013. สืบค้นเมื่อ March 18, 2013.[ลิงก์เสีย]
  2. "Monsters Director Lands Godzilla Reboot". New York Magazine. January 5, 2011. สืบค้นเมื่อ January 30, 2011.
  3. 3.0 3.1 3.2 3.3 Aiken, Keith; Godziszewski, Ed (August 7, 2007). "The long evolution of Godzilla 3D". SciFiJapan.Com. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2014-10-29. สืบค้นเมื่อ 2018-11-29.
  4. Based on a presentation at the '3D Summit' conference by Brian Rogers. A report on the presentation is available at [1]
  5. McGloin, Matt (November 26, 2013). "Hedorah Confirmed For Godzilla 2014 Movie & Smog Monster Sequel?!". Cosmic Book News. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2014-02-21. สืบค้นเมื่อ February 6, 2014.
  6. "Worldwide Release Dates". godzillamovie.com. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2014-05-28. สืบค้นเมื่อ April 2, 2014.
  7. Thomas, Jeremy (April 9, 2014). "Godzilla Gets MPAA Rating". 411mania.com.[ลิงก์เสีย]
  8. "Legal information". godzillamovie.com. สืบค้นเมื่อ April 9, 2014.
  9. หน้า 31 บันเทิง, เขย่าบ็อกซ์ออฟฟิศ หนังเกรียนพิชิตแชมป์. เดลินิวส์ฉบับที่ 23,819: วันอังคารที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2557 ขึ้น 10 ค่ำ เดือน 2 ปีมะเมีย

แหล่งข้อมูลอื่น[แก้]