กรีสซี คาเฟ
บทความนี้อาจต้องการตรวจสอบต้นฉบับ ในด้านไวยากรณ์ รูปแบบการเขียน การเรียบเรียง คุณภาพ หรือการสะกด คุณสามารถช่วยพัฒนาบทความได้ |
บทความนี้ไม่มีการอ้างอิงจากแหล่งที่มาใด |
กรีสซี คาเฟ่ | |
---|---|
แนวเพลง | ออลเทอร์นาทิฟร็อก, บริทป็อป, โพสต์ร็อก |
ช่วงปี | พ.ศ. 2542-ปัจจุบัน |
ค่ายเพลง | Smallroom |
สมาชิก | อภิชัย ตระกูลเผด็จไกร |
เว็บไซต์ | Greasy-Cafe.com |
กรีสซี คาเฟ (อังกฤษ: Greasy Cafe) คือชื่อศิลปินของ อภิชัย ตระกูลเผด็จไกร เป็นศิลปินและนักแต่งเพลงชายชาวไทยภายใต้สังกัด Smallroom ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2542 เขามีผลงานอัลบั้มเพลงมาแล้ว 4 ชุดคือ สิ่งเหล่านี้ พ.ศ. 2551 ทิศทาง พ.ศ. 2552 และ The Journey without Maps พ.ศ. 2555 และ Technicolor พ.ศ.2560 Greasy Cafe มีคอนเสิร์ตใหญ่ของตัวเองมาแล้ว 2 ครั้งคือ Greasy Cafe: Untill Tomorrow ที่สนามกีฬาจรัญ บุรพรัตน์ กรุงเทพฯ และ Greasy Cafe: Untill Tomorrow Home ที่เขากะโหลก จังหวัดประจวบคิรีขันธ์
ประวัติ
[แก้]ผลงานของ Greasy Cafe โดดเด่นที่แนวดนตรีซึ่งได้รับอิทธิพลจากวงทางฝั่งอังกฤษ ส่วนเนื้อหาของเพลงที่พูดถึงความรักที่ไม่อยู่ในขนบ เล่าเรื่องความหม่นเศร้าในความสัมพันธ์ จากมุมมองของผู้ชายผู้ผ่านประสบการณ์ซึ่งฉีกจากแนวทางการเขียนเนื้อเพลงรักทั่วไป เพลงที่ถูกปล่อยเป็นซิงเกิลแรกจากอัลบั้ม สิ่งเหล่านี้ และเป็นเพลงที่ทำให้คนรู้จัก Greasy Cafe ครั้งแรกคือ ฝืน ซึ่งขึ้นอันดับหนึ่งของชาร์ตเพลงคลื่นวิทยุ Fat Radio เพลงต่อมาที่ถูกตัดเป็นซิงเกิลล้วนได้รับการพูดถึงแทบทั้งสิ้น เช่น ความบังเอิญ, อุบัติเหตุ, สิ่งเหล่านี้ ฯลฯ Greasy Cafe ได้รับรางวัลดนตรีจากหลายสถาบัน เช่น รางวัลศิลปินชายเดี่ยวยอดเยี่ยม คมชัดลึกอวอร์ดครั้งที่ 6, Hamburger Awards ครั้งที่ 6 และ Fat Awards 9 สองอัลบั้มหลังคือ ทิศทาง และ The Journey without Mapsต่างมีผลงานที่โดดเด่นและมีผลตอบรับที่ดี เช่น ภายใต้ท้องฟ้าสีดำ จากอัลบั้ม ทิศทาง เพลงรักที่ได้แรงบันดาลใจจากความรักระหว่างคนตาบอด, หมุน จากอัลบั้ม The Journey without Maps เพลงที่พูดถึงความสัมพันธ์ระยะไกลและความทรมานในการรอคอย มิวสิกวีดีโอเพลงนี้ซึ่งกำกับโดย นวพล ธำรงรัตนฤทธิ์ ได้รับการพูดถึงทั้งกับสื่อมวลชนและโซเชียลมีเดีย นอกจากนี้ภาษาที่อภิชัยใช้ในเนื้อเพลงยังมีเอกลักษณ์และมีส่วนทำให้เขาได้ร่วมงานแต่งเพลงให้ศิลปินคนอื่น ๆ เช่น Jida ในอัลบั้ม Boyfriend เพลง แสงของไฟ ค่าย Smallroom และ Palmy ในอัลบั้ม 5 เพลง ทุ่งสีดำ, Butterfly และ Private Sky
ด้วยประสบการณ์และเอกลักษณ์ในงานเพลงทำให้ Greasy Café ได้รับการชื่นชมและยกย่อง ทั้งจากแฟนเพลง นักดนตรี สื่อมวลชนและนักวิจารณ์จำนวนมาก ผลงานของเขาได้ทั้งเข้าชิงและได้รับรางวัลทางดนตรี 13 สถาบันชั้นนำ เช่น รางวัลศิลปินชายเดี่ยวยอดเยี่ยม คมชัดลึกอวอร์ด ครั้งที่ 6 จากอัลบั้ม สิ่งเหล่านี้ เข้าชิงรางวัลศิลปินชายเดี่ยวยอดเยี่ยม Fat Awards 11 จากอัลบั้ม ทิศทาง รางวัลอัลบั้มยอดเยี่ยม Channel [V] Thailand เมโลสโมสร จากอัลบั้ม The Journey without Maps ฯลฯ
นอกจากงานเพลง อภิชัยเคยมีผลงานหนังสือ The Destination from Nowhere[ลิงก์เสีย] ในปีพ.ศ. 2554 ซึ่งเป็นงานเขียนที่รวบรวมเกร็ดความคิดจากสมุดบันทึกและเป็นวัตถุดิบในการทำงานเพลงของเขา อภิชัยยังเคยแสดงนำในภาพยนตร์ แต่เพียงผู้เดียว พ.ศ. 2554 และได้รับรางวัลนักแสดงนำยอดเยี่ยมจากสถาบันชั้นนำ อภิชัยยังเคยทำเพลงประกอบภาพยนตร์ ตั้งวง พ.ศ. 2556 โดย คงเดช จาตุรันต์รัศมี ชัมบาลา พ.ศ. 2555 โดยปัญจพงศ์ คงคาน้อย และ The Down พ.ศ. 2558
ชีวิตวัยเด็ก
[แก้]อภิชัยเกิดที่ย่านเมืองเก่าของกรุงเทพฯ ในครอบครัวเย็บหมวกกีฬาที่มีพ่อและแม่เป็นชาวจีนแท้ ๆ เขาใช้ชีวิตวัยเด็กในย่านวรจักร เรียนชั้นประถมศึกษากับโรงเรียนประสาทวุฒิ ซึ่งเป็นโรงเรียนภาษาไทยและจีน เรียนต่อมัธยมศึกษาที่โรงเรียนศิริวัฒนาและโรงเรียนเพชรรัตน์ เขาจบศึกการศึกษาระดับปวช. ที่โรงเรียนไทยวิจิตรศิลปอาชีวะ อภิชัยเดินทางไปเรียนด้านการถ่ายภาพที่ประเทศอังกฤษตอนอายุ 21 ปี และใช้ชีวิตอยู่ที่นั่นเป็นเวลาร่วม 4 ปี
ช่วงเวลาที่เรียนในอังกฤษ อภิชัยได้มีโอกาสเริ่มเล่นดนตรีอย่างจริงจัง ได้รวมวงกับเพื่อนในชื่อ The Light ตระเวนเล่นตามผับขนาดเล็ก วงดนตรีของเขาทำงานได้ไม่นานนักและแยกย้ายไป เขากลับเมืองไทยและทำงานเป็นช่างภาพนิตยสาร เริ่มจากการถ่ายภาพแฟชั่นให้กับนิตยสาร Hyper ก่อนจะหลงใหลในการถ่ายภาพแนวสารคดี งานถ่ายภาพนิตยสารยังทำให้เขารู้จักคนมากขึ้น วันหนึ่งเขามีโอกาสถ่ายภาพวงดนตรีชื่อ Crub และได้ทำความรู้จัก รุ่งโรจน์ อุปถัมภ์โพธิวัฒน์ หนึ่งในสมาชิกวงซึ่งกลายมาเป็นเจ้าของค่ายเพลง Smallroom ในปัจจุบัน
อภิชัยเริ่มทำงานถ่ายภาพนิ่งในกองถ่ายภาพยนตร์ ภาพยนตร์เรื่องแรกที่เขาถ่ายคือ A Fighter’s Blues ยุคนั้นหน้าที่ของช่างภาพนิ่งกองถ่ายคือการถ่ายภาพส่งตามสื่อเพื่อประชาสัมพันธ์หนัง แต่อภิชัยมองว่าบรรยากาศในกองถ่ายน่าสนใจไม่แพ้ตัวหนัง โดยเฉพาะเมื่อมองถอยออกมามองสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นนอกจอมอนิเตอร์ ผลงานภาพถ่ายของเขาจึงมักเล่าเรื่องทีมงานซึ่งเป็นสิ่งที่คนดูไม่เคยเห็น
อภิชัยมีโอกาสได้ถ่ายภาพเบื้องหลังภาพยนตร์ไทยอีกหลายเรื่อง เช่น จันดารา, มนต์รักทรานซิสเตอร์, The Letter จดหมายรัก, โอเค เบตง, อารมณ์ อาถรรพ์ อาฆาต, ปืนใหญ่จอมสลัด, องค์บาก 2 ฯลฯ ซึ่งในช่วงเวลาเดียวกันเขามีโอกาสได้พบกับรุ่งโรจน์และได้กลับมาทำงานเพลงอีกครั้ง จนเป็นจุดเริ่มต้นของการเป็นศิลปินเพลงในชื่อ Greasy Cafe เต็มตัว
ผลงานเพลง
[แก้]Smallroom 001-002 (พ.ศ. 2543)
[แก้]เพลงแรกที่อภิชัยใช้ชื่อ Greasy Cafe ในการทำงาน คือเพลง หา (Quest?) อัลบั้มคอมพลิเอชัน Smallroom 001 รุ่งโรจน์เจ้าของค่ายเพลง Smallroom ได้แรงบันดาลใจจากอัลบั้มรวมเพลงจากหลายศิลปินในต่างประเทศ โดยแต่ละชุดจะมีคอนเซปต์ธีมต่างกัน ศิลปินที่รุ่งโรจน์ชวนมาร่วมงานมีทั้งวงดนตรีอาชีพ คนทำดนตรีเบื้องหลัง และคนในวงการซึ่งไม่เคยทำเพลงมาก่อน
อภิชัยเคยให้สัมภาษณ์ว่าไม่มีเหตุผลในการตั้งชื่อ Greasy Cafe เป็นพิเศษ คำนี้แปลว่าร้านอาหารที่ขายอาหารจานด่วน ส่วนมากเป็นอาหารแบบทอดที่ทำไม่ยากและมีจำนวนมากในอังกฤษ เหตุผลที่อภิชัยตั้งชื่อนี้เพราะเขาคิดว่าเพลงของเขาก็ไม่ต่างจากร้านแนว Greasy Cafe ซึ่งมีลูกค้าหลายรูปแบบ ตั้งแต่ชนชั้นแรงงานไปจนถึงผู้บริหาร เหมือนกับเพลงของอภิชัยที่ไม่ถูกจัดอยู่ในหมวดไหน ไม่ว่าวัยรุ่นหรือผู้ใหญ่แต่เป็นเพลงที่ใครก็ฟังได้
อภิชัยยังใช้ชื่อ Greasy Cafe ทำเพลงในชุด Smallroom 002 เพลง พบ หลังจากนั้นรุ่งโรจน์ยังชวนอภิชัยทำเพลงเป็นระยะ เช่น ทำเพลงในโครงการสนามหลวงคอนเนคส์ สังกัด สนามหลวง ในเครือ จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ โดยนำเพลง เธอรู้รึเปล่า ของ ใหม่ เจริญปุระ มาเรียบเรียงใหม่ เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสมรุ่งโรจน์จึงชวนอภิชัยมาทำอัลบั้มเต็ม จนเกิดเป็นอัลบั้มแรก สิ่งเหล่านี้ ในปีพ.ศ. 2551
สิ่งเหล่านี้ (พ.ศ. 2551)
[แก้]รุ่งโรจน์เป็นคนแนะนำให้อภิชัยทำเพลงอัลบั้มนี้ร่วมกับ รัฐ พิฆาตไพรี (นามแฝงว่า Ruzzy) มือกีตาร์วง Tattoo Colour ทุกเพลงในอัลบั้มคือเพลงที่อภิชัยแต่งในช่วงกลับมาอยู่ประเทศไทยและนำมาเรียบเรียงใหม่อภิชัยใช้เวลาทำอัลบั้มนี้ประมาณ 3 เดือน ช่วงแรกเขาอยากให้เพลงในอัลบั้มเน้นการใช้กีตาร์โปร่งเป็นหลัก การทำงานก็มักเริ่มจากการเล่นกีตาร์โปร่งและร้อง อภิชัยยังอัดเครื่องดนตรีบางส่วน เช่น เสียงเบส กีตาร์ไฟฟ้า และกลองในเพลง ความบังเอิญ จากนั้นรัฐจะเป็นผู้เรียบเรียงและแนะนำการใช้เสียงที่ต่างจากกีตาร์โปร่งเพื่อให้ดนตรีหลากหลายขึ้น เช่น ช่วยคิดและอัดกีตาร์โซโล่ในเพลง เกษมสำราญ
ใน สิ่งเหล่านี้ ยังมีเพลงบรรเลงชื่อ ไฮซินท์ ซึ่งเป็นเพลงที่อภิชัยแต่งระหว่างถ่ายภาพนิ่งภาพยนตร์เรื่อง จันดารา (ไฮซินท์เป็นชื่อตัวละครหนึ่งในเรื่อง) มีเพลง ภาพชินตา ซึ่งได้แรงบันดาลใจจากการเสียชีวิตของภรรยาของเพื่อนอภิชัย
เพลงแรกที่ถูกตัดเป็นซิงเกิลคือ ฝืน ตามมาด้วย ความบังเอิญ ทั้งสองเพลงแตกต่างจากเพลงแรก ๆ ของ Greasy Cafe ในอัลบั้ม Smallroom 001-002 ดนตรีเน้นการใช้เสียงจากเครื่องดนตรีสด จุดเด่นของเพลงในอัลบั้มนี้อยู่ที่การใช้คำซึ่งมีความคล้ายกลอนเปล่าที่เปรียบเปรยความรักความสัมพันธ์กับสิ่งที่อยู่รอบตัว เนื้อหาของเพลงยังแสดงความเป็นกบฎในความคิดที่มีต่อความสัมพันธ์ เพลงที่แสดงจุดเด่นด้านนี้ชัดเจนมากคือเพลง สิ่งเหล่านี้ ซึ่งบอกว่าความรักในอุดมคติกับความรักในโลกความเป็นจริงแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
อภิชัยยังนำภาพถ่ายที่เคยเก็บไว้มาใช้ในการออกแบบปกอัลบั้ม อีกหนึ่งเอกลักษณ์เด่นของอัลบั้มนี้คือ มิวสิกวีดีโอเพลง สิ่งเหล่านี้โดย ศิวะภาค เจียรวนาลี ผลงานชิ้นนี้ไม่ได้มีองค์ประกอบตามขนบมิวสิกวีดีโอทั่วไป แต่เน้นการใช้ภาพวาดบนกระดาษเพื่อเล่าเรื่องความรักความสัมพันธ์ในมุมมองของ Greasy Cafe
นอกจากนี้ด้วยความที่ทำงานในกองถ่ายมานานทำให้เขาติดการเล่าเรื่องแบบภาพยนตร์ผ่านบทเพลง คือเล่าบรรยากาศโดยรอบก่อนแล้วค่อยโฟกัสไปที่ตัวละคร
อัลบั้ม สิ่งเหล่านี้ ได้รับการตอบรับที่ดีจากนักวิจารณ์ อภิชัยได้รับรางวัลทางดนตรีหลายสถาบัน เช่น รางวัลศิลปินชายเดี่ยวยอดเยี่ยม คมชัดลึกอวอร์ด ครั้งที่ 6 และ Fat awards ครั้งที่ 9 เข้าชิงรางวัลศิลปินเดี่ยวร็อกยอดเยี่ยม สีสันอวอร์ด ครั้งที่ 23 ฯลฯ
ทิศทาง (พ.ศ. 2552)
[แก้]ถ้ามองในภาพรวม ผลงานเพลงในอัลบั้ม ทิศทาง มีความคล้ายอัลบั้มแรกจนเป็นเหมือนภาคต่อของ สิ่งเหล่านี้ แต่เมื่อเจาะลึกในรายละเอียด ทิศทาง เผยให้เห็นการทดลองทางดนตรีใหม่ ๆ ของอภิชัย ทั้งการใช้เสียงกีตาร์ที่หลากหลายขึ้น มีเพลงเร็วที่ซับซ้อนและซ่อนรายละเอียดเยอะขึ้น
แนวคิดหลักของการทำอัลบั้มนี้คือ อยากให้เพลงร็อกขึ้น เพื่อให้มีตัวเลือกใหม่ ๆ สำหรับการเล่นสด โดยที่การเริ่มเพลงยังใช้กีตาร์โปร่งเป็นตัวนำเหมือนเดิม อัลบั้ม ทิศทาง เริ่มต้นทำทันทีหลังจากจบอัลบั้ม สิ่งเหล่านี้ ด้วยความเข้าใจกันจากอัลบั้มที่แล้วทำให้การทำงานระหว่างอภิชัยและรัฐต่อเนื่องและเร็วขึ้น การทำเพลงในอัลบั้มบางช่วงเร็วถึงขั้นทำงานกันเสร็จวันละเพลง
ในด้านเนื้อหาเนื้อเพลงของอภิชัยยังมีอารมณ์ความหม่นเศร้าเหมือนเดิม สิ่งที่เพิ่มเข้ามาคือ การเล่าเรื่องความเปลี่ยนแปลงในชีวิต ความไม่มั่นคงและไม่แน่นอนที่ทุกคนต้องเจอ เพลงที่ได้รับการคัดให้เป็นซิงเกิลแรกคือ ทิศทาง ซึ่งได้แรงบันดาลใจจากการเลิกราของเพื่อนสนิท แสดงให้เห็นจุดเด่นข้อนี้อย่างดีนอกจากนี้อัลบั้มที่สองยังมีเพลงที่น่าสนใจอย่าง คำตอบ ซึ่งอภิชัยได้แรงบันดาลใจการเขียนเพลงมาจากความขัดแย้งทางการเมืองและสังคมไทยในช่วงเปลี่ยนผ่านในปีนั้น เพลง ความจริง ได้แรงบันดาลใจจากชีวิตของนักกีฬายกน้ำหนักทีมชาติไทยที่แพ้ในมหกรรมกีฬาโอลิมปิก เพลง ภายใต้ท้องฟ้าสีดำ ได้แรงบันดาลใจจากชีวิตของคนตาบอด อีกหนึ่งเพลงดังอย่าง ความเลือนลาง แม้จะไม่ได้ถูกคัดเป็นซิงเกิล แต่ก็เป็นหนึ่งในเพลงที่ถูกเล่นสดบ่อยที่สุดของ Greasy Cafe
อัลบั้มนี้ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลศิลปินชายยอดเยี่ยม Fat Awards 11 ได้รับรางวัล ศิลปินรุ่นเดอะผู้สร้างแรงบันดาลใจในรอบ 12 ปี The Fat Awards มิวสิกวีดีโอเพลง ทิศทาง ยังได้รับรางวัล [V]Awards จี๊ดโดนใจ แชนแนลวีไทยแลนด์มิวสิกวิดีโออวอร์ดส 2011 ครั้งที่ 7 เพลงของเรา
The Journey without Maps (พ.ศ. 2555)
[แก้]หลังจบอัลบั้ม ทิศทาง อภิชัยประสบปัญหาทั้งเรื่องงานและชีวิตส่วนตัว แม้ผลตอบรับและเสียงวิจารณ์จากสองอัลบั้มแรกจะดีแต่รายได้ไม่สามารถเลี้ยงชีวิตในประจำวันได้ ปัจจัยรอบด้านทำให้เขารู้สึกกดดันจนไม่มีสมาธิในเขียนเพลงใหม่ อภิชัยตัดสินใจเปลี่ยนวิถีชีวิตด้วยการเดินทางไปใช้ชีวิตที่ประเทศอังกฤษ โดยที่ไม่กำหนดเวลาว่าจะอยู่นานแค่ไหน เขานำกีตาร์โปร่ง เครื่องบันทึกเสียง และแลปท็อปจากเมืองไทยมาด้วยเพราะหวังว่าจะได้นำมาใช้ทำเพลงระหว่างใช้ชีวิตที่ประเทศอังกฤษ
การได้อยู่ในสภาพแวดล้อมใหม่ ๆ ทำให้อภิชัยได้แรงบันดาลใจและเริ่มต้นทำเพลงแม้จะมีเครื่องดนตรีติดตัวแค่ชิ้นเดียว เขานำอุปกรณ์ที่อยู่รอบตัวมาใช้เป็นเครื่องมือในการสร้างเสียง เช่น ใช้เสียงผิวปาก ใช้เสียงดนตรีจากแอปพลิเคชันทำเพลงใน iPad ใช้อูคูเลเล่จากเพื่อนร่วมห้องและแอคคอร์เดียนเก่าซึ่งมีในห้องพักมาใช้ทำเพลง เขาตั้งชื่ออัลบั้มนี้ว่า The Journey without Maps อภิชัยเคยเล่าว่า “เราไม่เคยเชื่อเลยว่า ในการเริ่มต้นคบใครบางคน เค้าเหล่านั้นจะเดินทางมาพร้อมกับแผนที่ในมือ เราไม่มีทางรู้ได้เลยว่า เราจะขึ้นทิศเหนือ ลงใต้ ไปทางซ้าย ขวา หรือเราจะไปกันได้ไกลแค่ไหน และปลายทางจะจบลงที่ใด้”
อัลบั้มนี้อภิชัยได้ทดลองทำอะไรใหม่หลายอย่าง เสียงจากเครื่องดนตรีบ้าน ๆ ที่ใช้ระหว่างทำเพลงที่อังกฤษถูกนำมาใช้จริงทั้งหมด มีเพลง ร่องน้ำตา ซึ่งอภิชัยได้ร้องร่วมกับศิลปินหญิง ญารินดา เป็นครั้งแรก เพลงนี้มิกซ์เสียงร้องของทั้งสองศิลปินในระดับความดังเท่ากัน เพราะเขาคิดว่าเพลงนี้พูดกับคนทั้งเพศจึงควรร้องพร้อมกัน อัลบั้มนี้มีนักดนตรีต่างวงอย่าง เอี่ยว-ปุรวิชญ์ ขาวลออ มือกลองวง The Richman Toy เม้ง-ภัทรพล ทองสุขา มือกลองวง Desktop Error มาช่วยอัดกลอง อัลบั้มนี้มีเพลงเด่นหลายเพลง เช่น เงาของฝน, หมุน, ประโยคบอกเล่า, ป่าสนในห้องหมายเลข 1, ร่องน้ำตา ฯลฯ การได้อยู่ในสิ่งแวดล้อมที่แตกต่างและได้เห็นชีวิตคนที่หลากหลายทำให้เนื้อเพลงของ Greasy Cafe หลุดพ้นจากการจมปลักกับความหม่นเศร้าและความเปลี่ยนแปลง เนื้อเพลงอัลบั้มนี้ส่วนใหญ่พูดถึงการเดินทาง ความสัมพันธ์ที่คลี่คลาย และการกล้าเผชิญหน้ากับความเปลี่ยนแปลง
The Journey without Maps คืออัลบั้มที่ทำให้ภาพของ Greasy Cafe ค่อนข้างชัดเจน ของ Greasy Cafe ทั้งในแง่ยอดขายและคำวิจารณ์ เขาได้รับรางวัลทางดนตรีจากหลายสถาบัน เช่น อัลบั้มยอดเยี่ยมประจำปีพ.ศ. 2555 Channel [V] Thailand เมโลสโมสร ศิลปินชายเดี่ยวยอดเยี่ยม คมชัดลึก อวอร์ด ครั้งที่ 10 เพลงยอดเยี่ยม (เงาของฝน) สีสันอวอร์ดครั้งที่ 25 มิวสิกวีดีโอจากเพลงในอัลบั้มนี้ยังโดดเด่นไม่แพ้อัลบั้มอื่น โดยเฉพาะเพลง เงาของฝน ฝีมือของผู้กำกับ หัวกลม และเพลง หมุน โดย นวพล ธำรงรัตนฤทธิ์ อีกเพลงในอัลบั้มที่ได้รับความนิยมมากคือ ร่องน้ำตา นอกจากจะเป็นเพลงฮิตยังได้รับการเลือกให้เป็นเพลงประกอบซีรีส์ HORMONES 3 THE FINAL SEASON ของค่ายหนัง GDH
Technicolor (พ.ศ. 2560)
[แก้]พ.ศ. 2560 อภิชัยให้สัมภาษณ์ว่ากำลังเตรียมตัวออกอัลบั้มใหม่อีกครั้ง
ผลงานเพลงอื่น ๆ
[แก้]การทำอัลบั้ม The Journey without Maps ทำให้อภิชัยรู้สึกได้ปลดล็อกตัวเองและทดลองทำงานใหม่ ๆ มากขึ้น ช่วงแรกของการทำเพลง อภิชัยเชื่อว่าเขาไม่สามารถแต่งเพลงให้ศิลปินคนอื่นได้ เพราะกลัวถ้อยคำจะไม่เข้ากับศิลปินและเนื้อหาในเพลงส่วนใหญ่เป็นเหตุการณ์จริงที่เกิดกับตัวเขาหรือคนใกล้ตัวเขาเอง ในช่วงรอยต่อระหว่างอัลบั้ม ทิศทาง และ The Journey without Maps อภิชัยได้ทดลองแต่งเพลงให้ศิลปินคนอื่น งานที่เป็นที่รู้จักมากที่สุดคือการแต่งเพลงในอัลบั้ม 5 ของ Palmy ทั้งหมดสามเพลง คือ ทุ่งสีดำ, Butterfly และ Private Sky นอกจากนี้เขายังได้ลองทำงานใหม่ ๆ อย่างการทำคัฟเวอร์เพลง สิ่งสมมติ จากวงนั่งเล่น เพื่อทำเพลงประกอบภาพยนตร์ ฟ.ฮีแลร์ เพลง ฝืน ยังถูกคัฟเวอร์เพื่อใช้ประกอบภาพยนตร์ รักของเรา The Moment
อภิชัยยังทดลองทำงานใหม่นอกเหนือจากงานเพลงและภาพยนตร์ นั่นคือหนังสือ The Destination from nowhere รวมเกร็ดความคิดเบื้องหลังเพลงของ Greasy Cafe หนังสือเสียงแนวทดลอง Panoramic และงานเพลงรูปแบบ EP ทำแถมพิเศษเฉพาะในงาน Fat T-shirt และ Cat T-Shirt โดยเกิดจากความคิดของอภิชัยว่าอยากให้แฟนของ Greasy Cafe ที่มาซื้อเสื้อได้เพลง ถือเป็นการขอบคุณแฟนเพลงรูปแบบหนึ่งส่วนมากเป็นเพลงทดลองที่ไม่มีคำร้อง เพราะเขาอยากทำเพลงโดยไม่ให้เนื้อร้องมาจำกัดจินตนาการ
ในปี พ.ศ. 2556 อภิชัยมีโอกาสทำเพลงพิเศษให้กับเครื่องดื่มแสงโสมในโครงการชื่อว่า Unique Journey เพลง เสมอ และในปี พ.ศ. 2560 โครงการ คนไทยไม่แพ้ชาติใดในโลก เพลง 9 ซึ่งมีเนื้อหาให้กำลังใจคนทำงานด้วยมุมมองของคนที่ผ่านโลกมานาน นอกจากนี้อภิชัยยังได้ทำเพลงประกอบภาพยนตร์ The Down พ.ศ. 2558 ด้วยเพลงชื่อว่า สุดสายตา ซึ่งได้รับรางวัลเพลงนำภาพยนตร์ยอดเยี่ยม รางวัลภาพยนตร์แห่งชาติ สุพรรณหงส์ครั้งที่ 25 เมื่อเดือนมีนาคม พ.ศ. 2559
คอนเสิร์ต
[แก้]Greasy Cafe เคยมีคอนเสิร์ตใหญ่ของตัวเอง 2 ครั้งชื่อว่า Greasy Cafe: Untill Tomorrow ที่สนามกีฬาจรัญ บุรพรัตน์ กรุงเทพฯ วันที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2556 มีผู้ชมจำนวน 5000 คน งานนี้ถือเป็นการจัดคอนเสิร์ตใหญ่ครั้งแรกของอภิชัย เขาตั้งใจจัดองค์ประกอบให้เป็นมากกว่าคอนเสิร์ต แต่รวบรวมสิ่งที่อภิชัยชอบและหลงใหล ร้านอาหารที่มาออกบูทก่อนงานเริ่มคือร้านที่เขาชอบและอยู่ในละแวกบ้านของอภิชัย นิทรรศการในงานก็สะท้อนรสนิยมของตัวเขาซึ่งเป็นด้านที่แฟนเพลงไม่เคยเห็น งานนี้ยังจัดวันเดียวกันช่วงที่มีเหตุการณ์ความขัดแย้งทางการเมืองย่านรามคำแหง ทำให้คอนเสิร์ตเกือบถูกยกเลิก สุดท้ายอภิชัยตัดสินใจจัดต่อเพื่อให้แฟนเพลงที่เดินทางมาถึงแล้วหรือตั้งใจเดินทางไกลเพื่อมางานนี้โดยเฉพาะสมหวังทุกคน
แนวคิดในการจัดคอนเสิร์ตมาจากการเปรียบเปรยของอภิชัยว่าแฟนเพลงของเขาเป็นเหมือนผู้ร่วมเดินทาง คอนเสิร์ตสำหรับเขาไม่ใช่แค่งานฟังเพลง แต่เป็นเหมือนการหยุดพักและเฉลิมฉลองก่อนจะเดินทางด้วยกันต่อไป นี่เป็นเหตุผลที่ Untill Tomorrow มีความเป็น 'คอนเสิร์ต' น้อย เน้นชวนให้ผู้คนทั้งแฟนคลับและคนที่เขารู้จักมาใช้เวลากันอย่างใกล้ชิด ในพื้นที่ที่แวดล้อมด้วยธรรมชาติ
อภิชัยจัดคอนเสิร์ตรูปแบบนี้อีกครั้งในชื่อ Greasy Cafe: Untill Tomorrow Home ที่เขากะโหลก จังหวัดประจวบคิรีขันธ์ วันที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2557 มีผู้ชมจำนวน 2000 คน งานนี้เป็นคอนเสิร์ตอะคูสติกที่มีคนเล่นแค่ 3 คน แต่ใช้เครื่องดนตรีต่างประเภทถึง 20 ชนิด เขานำคำว่า Home ต่อท้ายชื่อคอนเสิร์ตเพื่อล้อกับชื่ออัลบั้ม The Journey without Maps โปสเตอร์งานก็ใช้ภาพทะเลเหมือนปกอัลบั้ม หลังจากพาแฟนเพลงเดินทางมากับอัลบั้มนี้แล้ว เขาอยากให้คอนเสิร์ตนี้เป็นเหมือนการกลับบ้าน ถือเป็นการปิดอัลบั้มสามอย่างสมบูรณ์แบบ
ผลงานสตูดิโออัลบั้ม
[แก้]- สิ่งเหล่านี้ (พ.ศ. 2551)
- ทิศทาง (พ.ศ. 2552)
- The Journey without Maps (พ.ศ. 2555)
- Technicolor (พ.ศ. 2560)
ผลงานอัลบั้มตัวอย่าง (EP) และเพลงพิเศษ
[แก้]- เพลง หา, อัลบั้ม Smallroom 001 (พ.ศ. 2542)
- เพลง พบ, อัลบั้ม Smallroom 002 (พ.ศ. 2544)
- เพลง a day, อัลบั้ม a day Red Label (พ.ศ. 2544)
- เพลง เธอรู้รึเปล่า, อัลบั้ม Sanamluang connects by Nokia 5700 XpressMusic Part 02 (พ.ศ. 2550)
- เพลง เงินล้าน, อัลบั้ม Fatcode 9 (พ.ศ. 2552)
- อัลบั้ม Panoramic, The Book with Sound (พ.ศ. 2553)
- เพลง ฤดูร้อน, อัลบั้ม The Love Scene (พ.ศ. 2554)
- EP ระยะ (พ.ศ. 2553)
- EP ฝืน (พ.ศ. 2554)
- EP The Journey without Maps Teaser (พ.ศ. 2555)
- เพลง ช่อมะกอก feat. น.ส. เอ้บ ศุขสลุง [OST. ตั้งวง] (พ.ศ. 2556)
- เพลง เสมอ (พ.ศ. 2556)
- EP This is love (พ.ศ. 2557)
- เพลง สุดสายตา [OST.The Down] (พ.ศ. 2558)
- EP Relationtrip (พ.ศ. 2559)
งานแต่งเพลง
[แก้]- เพลง แสงของไฟ, Jida อัลบั้ม Jida & friends
- เพลง Butterfly, ปาล์มมี่ อัลบั้ม 5
- เพลง ทุ่งสีดำ, ปาล์มมี่ อัลบั้ม 5
- เพลง Private , ปาล์มมี่ อัลบั้ม 5
งานเขียน
[แก้]- พ.ศ. 2554 - The Destination from Nowhere
รางวัล
[แก้]ปี | รางวัล | สาขา | ผล | หมายเหตุ |
---|---|---|---|---|
2551 | คมชัดลึก อวอร์ด ครั้งที่ 6 | ศิลปินชายเดี่ยวยอดเยี่ยม | ชนะ | อัลบั้ม สิ่งเหล่านี้ |
2552 | Hamburger Awards ครั้งที่ 6 | ศิลปินชายยอดเยี่ยม | ชนะ | อัลบั้ม สิ่งเหล่านี้ |
ซี้ดอวอร์ด 4 | Seed new artist of the year | เสนอชื่อเข้าชิง | อัลบั้ม สิ่งเหล่านี้ | |
สีสันอะวอร์ดส์ 23 | ศิลปินเดี่ยวร๊อคยอดเยี่ยม | เสนอชื่อเข้าชิง | อัลบั้ม สิ่งเหล่านี้ | |
Fat Awards 9 | ศิลปินชายเดี่ยวยอดเยี่ยม | ชนะ | อัลบั้ม สิ่งเหล่านี้ | |
2553 | Fat Awards 10 | เพลงยอดเยี่ยมแห่งปี | เสนอชื่อเข้าชิง | อัลบั้ม สิ่งเหล่านี้ |
2554 | Fat Awards 11 | ศิลปินชายยอดเยี่ยม | เสนอชื่อเข้าชิง | อัลบั้ม ทิศทาง |
2555 | รางวัลแชนแนลวีไทยแลนด์มิวสิกวิดีโออวอร์ดส 2011 ครั้งที่ 7 เพลงของเรา | [V]Awards จี๊ดโดนใจ | ชนะ | อัลบั้ม ทิศทาง |
The Fat Awards | ศิลปินรุ่นเดอะผู้สร้างแรงบันดาลใจในรอบ 12 ปี | ชนะ | [1] | |
The 10th Vladivostok International Film Festival of Asian Pacific countries – “PACIFIC MERIDIAN” | นักแสดงชายยอดเยี่ยม | ชนะ | ภาพยนตร์ แต่เพียงผู้เดียว | |
2556 | Channel [V] Thailand เมโลสโมสร | อัลบั้มยอดเยี่ยมประจำปี 2555 | ชนะ | อัลบั้ม The journey without maps |
Starpics Thai Films Awards ครั้งที่ 10 | นักแสดงนำชายยอดเยี่ยม | ชนะ | ภาพยนตร์ แต่เพียงผู้เดียว | |
You2Play Awards 2013 | ศิลปินชายยอดนิยม | เสนอชื่อเข้าชิง | อัลบั้ม The journey without maps | |
คมชัดลึก อวอร์ด ครั้งที่ 10 | ศิลปินชายเดี่ยวยอดเยี่ยม | ชนะ | อัลบั้ม The journey without maps [2] | |
นักแสดงนำชายยอดเยี่ยม | เสนอชื่อเข้าชิง | ภาพยนตร์ แต่เพียงผู้เดียว [3] | ||
เพลงไทยสากลยอดเยี่ยม | เสนอชื่อเข้าชิง | เพลง อุบัติการณ์ [4] | ||
ชนะ | เพลง เมฆใต้น้ำ [5] | |||
เสนอชื่อเข้าชิง | เพลง เงาของฝน [6] | |||
เฉลิมไทยอวอร์ด ครั้งที่ 9 | เพลงประกอบจากภาพยนตร์ไทยแห่งปี | เสนอชื่อเข้าชิง | เพลง ประโยคบอกเล่า Ost.ชัมบาลา [7] | |
เพลง ป่าสนในห้องหมายเลข 1 Ost. แต่เพียงผู้เดียว [8] | ||||
นักแสดงชายในบทนำจากภาพยนตรไทยแห่งปี | เสนอชื่อเข้าชิง | ภาพยนตร์ แต่เพียงผู้เดียว | ||
ซี้ดอวอร์ด ครั้งที่ 8 | ศิลปินชายยอดเยี่ยมสุดซี้ดประจำปี 2012 | ชนะ | อัลบั้ม The journey without maps | |
สีสันอะวอร์ดส์ ครั้งที่ 25 | ศิลปินชายเดี่ยวยอดเยี่ยม | เสนอชื่อเข้าชิง | อัลบั้ม The journey without maps | |
อัลบั้มยอดเยี่ยม | เสนอชื่อเข้าชิง | อัลบั้ม The journey without maps | ||
เพลงยอดเยี่ยม | ชนะ | เพลง ร่องน้ำตา | ||
รางวัลภาพยนตร์ไทย ชมรมวิจารณ์บันเทิง ครั้งที่ 21 | รางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยม | ชนะ | ภาพยนตร์ แต่เพียงผู้เดียว | |
รางวัลสมาคมผู้สื่อข่าวบันเทิงแห่งประเทศไทย ประจำปี 2555 |
นักแสดงนำชายยอดเยี่ยม (รางวัลพระราชทานพระสุรัสวดี) |
เสนอชื่อเข้าชิง | ภาพยนตร์ แต่เพียงผู้เดียว | |
มิวสิกวิดีโอดีเด่นยอดนิยม (รางวัลมณีเมขลาดีเด่น) |
เสนอชื่อเข้าชิง | เพลง "เงาของฝน" | ||
2558 | รางวัลภาพยนตร์แห่งชาติ สุพรรณหงส์ ครั้งที่ 25 | เพลงนำภาพยนตร์ยอดเยี่ยม | ชนะ | เพลง "สุดสายตา" จากภาพยนตร์ เดอะดาวน์ |
2561 | สีสันอะวอร์ดส์ ครั้งที่ 28 ประจำปี 2560 | ศิลปินชายเดี่ยวยอดเยี่ยมประจำปี | ชนะ | อัลบั้ม Technicolor |
2565 | TOTY Music Awards 2021[9] | เพลงยอดเยี่ยม | เสนอชื่อเข้าชิง | อิสรภาพ…ไม่ได้เกิดขึ้นโดยบังเอิญ |
อ้างอิง
[แก้]- ↑ ศิลปินรุ่นเดอะผู้สร้างแรงบันดาลใจ[ลิงก์เสีย]
- ↑ "สำเนาที่เก็บถาวร". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-06-14. สืบค้นเมื่อ 2013-09-09.
- ↑ "สำเนาที่เก็บถาวร". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-06-14. สืบค้นเมื่อ 2013-09-09.
- ↑ "สำเนาที่เก็บถาวร". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-06-14. สืบค้นเมื่อ 2013-09-09.
- ↑ "สำเนาที่เก็บถาวร". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-06-14. สืบค้นเมื่อ 2013-09-09.
- ↑ "สำเนาที่เก็บถาวร". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-06-14. สืบค้นเมื่อ 2013-09-09.
- ↑ งานประกาศผลรางวัล เฉลิมไทยอวอร์ด ครั้งที่ ๙
- ↑ งานประกาศผลรางวัล เฉลิมไทยอวอร์ด ครั้งที่ ๙
- ↑ สุพัฒน์ ศิวะพรพันธ์ (March 1, 2022). "สรุปผลรางวัล TOTY Music Awards 2021 Tilly Birds คว้า 4 รางวัลใหญ่ 4EVE คว้ารางวัล Best Music of the Year และ Best Female Group". The Standard. สืบค้นเมื่อ March 1, 2022.