กรีสซี คาเฟ

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
(เปลี่ยนทางจาก อภิชัย ตระกูลเผด็จไกร)
กรีสซี คาเฟ่
เกิด8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2510 (56 ปี)
ที่เกิดกรุงเทพฯ, ไทย
แนวเพลงออลเทอร์นาทิฟร็อก, บริทป็อป, โพสต์ร็อก
ช่วงปีพ.ศ. 2542-ปัจจุบัน
ค่ายเพลงSmallroom
เว็บไซต์Greasy-Cafe.com

กรีสซี คาเฟ (อังกฤษ: Greasy Cafe) หรือ อภิชัย ตระกูลเผด็จไกร เป็นศิลปินและนักแต่งเพลงชายชาวไทยภายใต้สังกัด Smallroom ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2542 เขามีผลงานอัลบั้มเพลงมาแล้ว 3 ชุดคือ สิ่งเหล่านี้ พ.ศ. 2551 ทิศทาง พ.ศ. 2552 และ The Journey without Maps พ.ศ. 2555 อภิชัยมีคอนเสิร์ตใหญ่ของตัวเองมาแล้ว 2 ครั้งคือ Greasy Cafe: Untill Tomorrow ที่สนามกีฬาจรัญ บุรพรัตน์ กรุงเทพฯ และ Greasy Cafe: Untill Tomorrow Home ที่เขากะโหลก จังหวัดประจวบคิรีขันธ์

ประวัติ[แก้]

ผลงานของ Greasy Cafe โดดเด่นที่แนวดนตรีซึ่งได้รับอิทธิพลจากวงทางฝั่งอังกฤษ ส่วนเนื้อหาของเพลงที่พูดถึงความรักที่ไม่อยู่ในขนบ เล่าเรื่องความหม่นเศร้าในความสัมพันธ์ จากมุมมองของผู้ชายผู้ผ่านประสบการณ์ซึ่งฉีกจากแนวทางการเขียนเนื้อเพลงรักทั่วไป เพลงที่ถูกปล่อยเป็นซิงเกิลแรกจากอัลบั้ม สิ่งเหล่านี้ และเป็นเพลงที่ทำให้คนรู้จัก Greasy Cafe ครั้งแรกคือ ฝืน ซึ่งขึ้นอันดับหนึ่งของชาร์ตเพลงคลื่นวิทยุ Fat Radio เพลงต่อมาที่ถูกตัดเป็นซิงเกิลล้วนได้รับการพูดถึงแทบทั้งสิ้น เช่น ความบังเอิญ, อุบัติเหตุ, สิ่งเหล่านี้ ฯลฯ Greasy Cafe ได้รับรางวัลดนตรีจากหลายสถาบัน เช่น รางวัลศิลปินชายเดี่ยวยอดเยี่ยม คมชัดลึกอวอร์ดครั้งที่ 6, Hamburger Awards ครั้งที่ 6 และ Fat Awards 9 สองอัลบั้มหลังคือ ทิศทาง และ The Journey without Mapsต่างมีผลงานที่โดดเด่นและมีผลตอบรับที่ดี เช่น ภายใต้ท้องฟ้าสีดำ จากอัลบั้ม ทิศทาง เพลงรักที่ได้แรงบันดาลใจจากความรักระหว่างคนตาบอด, หมุน จากอัลบั้ม The Journey without Maps เพลงที่พูดถึงความสัมพันธ์ระยะไกลและความทรมานในการรอคอย มิวสิกวีดีโอเพลงนี้ซึ่งกำกับโดย นวพล ธำรงรัตนฤทธิ์  ได้รับการพูดถึงทั้งกับสื่อมวลชนและโซเชียลมีเดีย นอกจากนี้ภาษาที่อภิชัยใช้ในเนื้อเพลงยังมีเอกลักษณ์และมีส่วนทำให้เขาได้ร่วมงานแต่งเพลงให้ศิลปินคนอื่น ๆ เช่น Jida ในอัลบั้ม Boyfriend เพลง แสงของไฟ ค่าย Smallroom และ Palmy ในอัลบั้ม 5 เพลง ทุ่งสีดำ, Butterfly และ Private Sky  

ด้วยประสบการณ์และเอกลักษณ์ในงานเพลงทำให้ Greasy Café ได้รับการชื่นชมและยกย่อง ทั้งจากแฟนเพลง นักดนตรี สื่อมวลชนและนักวิจารณ์จำนวนมาก ผลงานของเขาได้ทั้งเข้าชิงและได้รับรางวัลทางดนตรี 13 สถาบันชั้นนำ เช่น รางวัลศิลปินชายเดี่ยวยอดเยี่ยม คมชัดลึกอวอร์ด ครั้งที่ 6 จากอัลบั้ม สิ่งเหล่านี้ เข้าชิงรางวัลศิลปินชายเดี่ยวยอดเยี่ยม Fat Awards 11 จากอัลบั้ม ทิศทาง รางวัลอัลบั้มยอดเยี่ยม Channel [V] Thailand เมโลสโมสร จากอัลบั้ม The Journey without Maps ฯลฯ

นอกจากงานเพลง อภิชัยเคยมีผลงานหนังสือ The Destination from Nowhere[ลิงก์เสีย] ในปีพ.ศ. 2554 ซึ่งเป็นงานเขียนที่รวบรวมเกร็ดความคิดจากสมุดบันทึกและเป็นวัตถุดิบในการทำงานเพลงของเขา อภิชัยยังเคยแสดงนำในภาพยนตร์ แต่เพียงผู้เดียว พ.ศ. 2554 และได้รับรางวัลนักแสดงนำยอดเยี่ยมจากสถาบันชั้นนำ อภิชัยยังเคยทำเพลงประกอบภาพยนตร์ ตั้งวง พ.ศ. 2556 โดย คงเดช จาตุรันต์รัศมี ชัมบาลา พ.ศ. 2555 โดยปัญจพงศ์ คงคาน้อย และ The Down พ.ศ. 2558

ชีวิตวัยเด็ก[แก้]

อภิชัยเกิดที่ย่านเมืองเก่าของกรุงเทพฯ ในครอบครัวเย็บหมวกกีฬาที่มีพ่อและแม่เป็นชาวจีนแท้ ๆ เขาใช้ชีวิตวัยเด็กในย่านวรจักร เรียนชั้นประถมศึกษากับโรงเรียนประสาทวุฒิ ซึ่งเป็นโรงเรียนภาษาไทยและจีน เรียนต่อมัธยมศึกษาที่โรงเรียนศิริวัฒนาและโรงเรียนเพชรรัตน์ เขาจบศึกการศึกษาระดับปวช. ที่โรงเรียนไทยวิจิตรศิลปอาชีวะ อภิชัยเดินทางไปเรียนด้านการถ่ายภาพที่ประเทศอังกฤษตอนอายุ 21 ปี และใช้ชีวิตอยู่ที่นั่นเป็นเวลาร่วม 4 ปี

ช่วงเวลาที่เรียนในอังกฤษ อภิชัยได้มีโอกาสเริ่มเล่นดนตรีอย่างจริงจัง ได้รวมวงกับเพื่อนในชื่อ The Light ตระเวนเล่นตามผับขนาดเล็ก วงดนตรีของเขาทำงานได้ไม่นานนักและแยกย้ายไป เขากลับเมืองไทยและทำงานเป็นช่างภาพนิตยสาร เริ่มจากการถ่ายภาพแฟชั่นให้กับนิตยสาร Hyper ก่อนจะหลงใหลในการถ่ายภาพแนวสารคดี งานถ่ายภาพนิตยสารยังทำให้เขารู้จักคนมากขึ้น วันหนึ่งเขามีโอกาสถ่ายภาพวงดนตรีชื่อ Crub และได้ทำความรู้จัก รุ่งโรจน์ อุปถัมภ์โพธิวัฒน์ หนึ่งในสมาชิกวงซึ่งกลายมาเป็นเจ้าของค่ายเพลง Smallroom ในปัจจุบัน

อภิชัยเริ่มทำงานถ่ายภาพนิ่งในกองถ่ายภาพยนตร์ ภาพยนตร์เรื่องแรกที่เขาถ่ายคือ A Fighter’s Blues ยุคนั้นหน้าที่ของช่างภาพนิ่งกองถ่ายคือการถ่ายภาพส่งตามสื่อเพื่อประชาสัมพันธ์หนัง แต่อภิชัยมองว่าบรรยากาศในกองถ่ายน่าสนใจไม่แพ้ตัวหนัง โดยเฉพาะเมื่อมองถอยออกมามองสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นนอกจอมอนิเตอร์ ผลงานภาพถ่ายของเขาจึงมักเล่าเรื่องทีมงานซึ่งเป็นสิ่งที่คนดูไม่เคยเห็น

อภิชัยมีโอกาสได้ถ่ายภาพเบื้องหลังภาพยนตร์ไทยอีกหลายเรื่อง เช่น จันดารา, มนต์รักทรานซิสเตอร์, The Letter จดหมายรัก, โอเค เบตง, อารมณ์ อาถรรพ์ อาฆาต, ปืนใหญ่จอมสลัด, องค์บาก 2 ฯลฯ ซึ่งในช่วงเวลาเดียวกันเขามีโอกาสได้พบกับรุ่งโรจน์และได้กลับมาทำงานเพลงอีกครั้ง จนเป็นจุดเริ่มต้นของการเป็นศิลปินเพลงในชื่อ Greasy Cafe เต็มตัว

ผลงานเพลง[แก้]

Smallroom 001-002 (พ.ศ. 2543)[แก้]

เพลงแรกที่อภิชัยใช้ชื่อ Greasy Cafe ในการทำงาน คือเพลง หา (Quest?) อัลบั้มคอมพลิเอชัน Smallroom 001 รุ่งโรจน์เจ้าของค่ายเพลง Smallroom ได้แรงบันดาลใจจากอัลบั้มรวมเพลงจากหลายศิลปินในต่างประเทศ โดยแต่ละชุดจะมีคอนเซปต์ธีมต่างกัน ศิลปินที่รุ่งโรจน์ชวนมาร่วมงานมีทั้งวงดนตรีอาชีพ คนทำดนตรีเบื้องหลัง และคนในวงการซึ่งไม่เคยทำเพลงมาก่อน

อภิชัยเคยให้สัมภาษณ์ว่าไม่มีเหตุผลในการตั้งชื่อ Greasy Cafe เป็นพิเศษ คำนี้แปลว่าร้านอาหารที่ขายอาหารจานด่วน ส่วนมากเป็นอาหารแบบทอดที่ทำไม่ยากและมีจำนวนมากในอังกฤษ เหตุผลที่อภิชัยตั้งชื่อนี้เพราะเขาคิดว่าเพลงของเขาก็ไม่ต่างจากร้านแนว Greasy Cafe ซึ่งมีลูกค้าหลายรูปแบบ ตั้งแต่ชนชั้นแรงงานไปจนถึงผู้บริหาร เหมือนกับเพลงของอภิชัยที่ไม่ถูกจัดอยู่ในหมวดไหน ไม่ว่าวัยรุ่นหรือผู้ใหญ่แต่เป็นเพลงที่ใครก็ฟังได้

อภิชัยยังใช้ชื่อ Greasy Cafe ทำเพลงในชุด Smallroom 002 เพลง พบ หลังจากนั้นรุ่งโรจน์ยังชวนอภิชัยทำเพลงเป็นระยะ เช่น ทำเพลงในโครงการสนามหลวงคอนเนคส์ สังกัด สนามหลวง ในเครือ จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ โดยนำเพลง เธอรู้รึเปล่า ของ ใหม่ เจริญปุระ มาเรียบเรียงใหม่ เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสมรุ่งโรจน์จึงชวนอภิชัยมาทำอัลบั้มเต็ม จนเกิดเป็นอัลบั้มแรก สิ่งเหล่านี้ ในปีพ.ศ. 2551

สิ่งเหล่านี้ (พ.ศ. 2551)[แก้]

รุ่งโรจน์เป็นคนแนะนำให้อภิชัยทำเพลงอัลบั้มนี้ร่วมกับ รัฐ พิฆาตไพรี (นามแฝงว่า Ruzzy) มือกีตาร์วง Tattoo Colour ทุกเพลงในอัลบั้มคือเพลงที่อภิชัยแต่งในช่วงกลับมาอยู่ประเทศไทยและนำมาเรียบเรียงใหม่อภิชัยใช้เวลาทำอัลบั้มนี้ประมาณ 3 เดือน ช่วงแรกเขาอยากให้เพลงในอัลบั้มเน้นการใช้กีตาร์โปร่งเป็นหลัก การทำงานก็มักเริ่มจากการเล่นกีตาร์โปร่งและร้อง อภิชัยยังอัดเครื่องดนตรีบางส่วน เช่น เสียงเบส กีตาร์ไฟฟ้า และกลองในเพลง ความบังเอิญ จากนั้นรัฐจะเป็นผู้เรียบเรียงและแนะนำการใช้เสียงที่ต่างจากกีตาร์โปร่งเพื่อให้ดนตรีหลากหลายขึ้น เช่น ช่วยคิดและอัดกีตาร์โซโล่ในเพลง เกษมสำราญ

ใน สิ่งเหล่านี้ ยังมีเพลงบรรเลงชื่อ ไฮซินท์ ซึ่งเป็นเพลงที่อภิชัยแต่งระหว่างถ่ายภาพนิ่งภาพยนตร์เรื่อง จันดารา (ไฮซินท์เป็นชื่อตัวละครหนึ่งในเรื่อง) มีเพลง ภาพชินตา ซึ่งได้แรงบันดาลใจจากการเสียชีวิตของภรรยาของเพื่อนอภิชัย

เพลงแรกที่ถูกตัดเป็นซิงเกิลคือ ฝืน ตามมาด้วย ความบังเอิญ ทั้งสองเพลงแตกต่างจากเพลงแรก ๆ ของ Greasy Cafe ในอัลบั้ม Smallroom 001-002 ดนตรีเน้นการใช้เสียงจากเครื่องดนตรีสด จุดเด่นของเพลงในอัลบั้มนี้อยู่ที่การใช้คำซึ่งมีความคล้ายกลอนเปล่าที่เปรียบเปรยความรักความสัมพันธ์กับสิ่งที่อยู่รอบตัว เนื้อหาของเพลงยังแสดงความเป็นกบฎในความคิดที่มีต่อความสัมพันธ์ เพลงที่แสดงจุดเด่นด้านนี้ชัดเจนมากคือเพลง สิ่งเหล่านี้ ซึ่งบอกว่าความรักในอุดมคติกับความรักในโลกความเป็นจริงแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง

อภิชัยยังนำภาพถ่ายที่เคยเก็บไว้มาใช้ในการออกแบบปกอัลบั้ม อีกหนึ่งเอกลักษณ์เด่นของอัลบั้มนี้คือ มิวสิกวีดีโอเพลง สิ่งเหล่านี้โดย ศิวะภาค เจียรวนาลี ผลงานชิ้นนี้ไม่ได้มีองค์ประกอบตามขนบมิวสิกวีดีโอทั่วไป แต่เน้นการใช้ภาพวาดบนกระดาษเพื่อเล่าเรื่องความรักความสัมพันธ์ในมุมมองของ Greasy Cafe

นอกจากนี้ด้วยความที่ทำงานในกองถ่ายมานานทำให้เขาติดการเล่าเรื่องแบบภาพยนตร์ผ่านบทเพลง คือเล่าบรรยากาศโดยรอบก่อนแล้วค่อยโฟกัสไปที่ตัวละคร

อัลบั้ม สิ่งเหล่านี้ ได้รับการตอบรับที่ดีจากนักวิจารณ์ อภิชัยได้รับรางวัลทางดนตรีหลายสถาบัน เช่น รางวัลศิลปินชายเดี่ยวยอดเยี่ยม คมชัดลึกอวอร์ด ครั้งที่ 6 และ Fat awards ครั้งที่ 9 เข้าชิงรางวัลศิลปินเดี่ยวร็อกยอดเยี่ยม สีสันอวอร์ด ครั้งที่ 23 ฯลฯ

ทิศทาง (พ.ศ. 2552)[แก้]

ถ้ามองในภาพรวม ผลงานเพลงในอัลบั้ม ทิศทาง มีความคล้ายอัลบั้มแรกจนเป็นเหมือนภาคต่อของ สิ่งเหล่านี้ แต่เมื่อเจาะลึกในรายละเอียด ทิศทาง เผยให้เห็นการทดลองทางดนตรีใหม่ ๆ ของอภิชัย ทั้งการใช้เสียงกีตาร์ที่หลากหลายขึ้น มีเพลงเร็วที่ซับซ้อนและซ่อนรายละเอียดเยอะขึ้น

แนวคิดหลักของการทำอัลบั้มนี้คือ อยากให้เพลงร็อกขึ้น เพื่อให้มีตัวเลือกใหม่ ๆ สำหรับการเล่นสด โดยที่การเริ่มเพลงยังใช้กีตาร์โปร่งเป็นตัวนำเหมือนเดิม อัลบั้ม ทิศทาง เริ่มต้นทำทันทีหลังจากจบอัลบั้ม สิ่งเหล่านี้ ด้วยความเข้าใจกันจากอัลบั้มที่แล้วทำให้การทำงานระหว่างอภิชัยและรัฐต่อเนื่องและเร็วขึ้น การทำเพลงในอัลบั้มบางช่วงเร็วถึงขั้นทำงานกันเสร็จวันละเพลง

ในด้านเนื้อหาเนื้อเพลงของอภิชัยยังมีอารมณ์ความหม่นเศร้าเหมือนเดิม สิ่งที่เพิ่มเข้ามาคือ การเล่าเรื่องความเปลี่ยนแปลงในชีวิต ความไม่มั่นคงและไม่แน่นอนที่ทุกคนต้องเจอ  เพลงที่ได้รับการคัดให้เป็นซิงเกิลแรกคือ ทิศทาง ซึ่งได้แรงบันดาลใจจากการเลิกราของเพื่อนสนิท แสดงให้เห็นจุดเด่นข้อนี้อย่างดีนอกจากนี้อัลบั้มที่สองยังมีเพลงที่น่าสนใจอย่าง คำตอบ ซึ่งอภิชัยได้แรงบันดาลใจการเขียนเพลงมาจากความขัดแย้งทางการเมืองและสังคมไทยในช่วงเปลี่ยนผ่านในปีนั้น เพลง ความจริง ได้แรงบันดาลใจจากชีวิตของนักกีฬายกน้ำหนักทีมชาติไทยที่แพ้ในมหกรรมกีฬาโอลิมปิก เพลง ภายใต้ท้องฟ้าสีดำ ได้แรงบันดาลใจจากชีวิตของคนตาบอด อีกหนึ่งเพลงดังอย่าง ความเลือนลาง แม้จะไม่ได้ถูกคัดเป็นซิงเกิล แต่ก็เป็นหนึ่งในเพลงที่ถูกเล่นสดบ่อยที่สุดของ Greasy Cafe

อัลบั้มนี้ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลศิลปินชายยอดเยี่ยม Fat Awards 11 ได้รับรางวัล ศิลปินรุ่นเดอะผู้สร้างแรงบันดาลใจในรอบ 12 ปี The Fat Awards มิวสิกวีดีโอเพลง ทิศทาง ยังได้รับรางวัล [V]Awards จี๊ดโดนใจ แชนแนลวีไทยแลนด์มิวสิกวิดีโออวอร์ดส 2011 ครั้งที่ 7 เพลงของเรา

The Journey without Maps (พ.ศ. 2555)[แก้]

รางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยม รางวัลภาพยนตร์ไทย ชมรมวิจารณ์บันเทิง

หลังจบอัลบั้ม ทิศทาง อภิชัยประสบปัญหาทั้งเรื่องงานและชีวิตส่วนตัว แม้ผลตอบรับและเสียงวิจารณ์จากสองอัลบั้มแรกจะดีแต่รายได้ไม่สามารถเลี้ยงชีวิตในประจำวันได้ ปัจจัยรอบด้านทำให้เขารู้สึกกดดันจนไม่มีสมาธิในเขียนเพลงใหม่ อภิชัยตัดสินใจเปลี่ยนวิถีชีวิตด้วยการเดินทางไปใช้ชีวิตที่ประเทศอังกฤษ โดยที่ไม่กำหนดเวลาว่าจะอยู่นานแค่ไหน เขานำกีตาร์โปร่ง เครื่องบันทึกเสียง และแลปท็อปจากเมืองไทยมาด้วยเพราะหวังว่าจะได้นำมาใช้ทำเพลงระหว่างใช้ชีวิตที่ประเทศอังกฤษ

การได้อยู่ในสภาพแวดล้อมใหม่ ๆ ทำให้อภิชัยได้แรงบันดาลใจและเริ่มต้นทำเพลงแม้จะมีเครื่องดนตรีติดตัวแค่ชิ้นเดียว เขานำอุปกรณ์ที่อยู่รอบตัวมาใช้เป็นเครื่องมือในการสร้างเสียง เช่น ใช้เสียงผิวปาก ใช้เสียงดนตรีจากแอปพลิเคชันทำเพลงใน iPad ใช้อูคูเลเล่จากเพื่อนร่วมห้องและแอคคอร์เดียนเก่าซึ่งมีในห้องพักมาใช้ทำเพลง เขาตั้งชื่ออัลบั้มนี้ว่า  The Journey without Maps อภิชัยเคยเล่าว่า “เราไม่เคยเชื่อเลยว่า ในการเริ่มต้นคบใครบางคน เค้าเหล่านั้นจะเดินทางมาพร้อมกับแผนที่ในมือ เราไม่มีทางรู้ได้เลยว่า เราจะขึ้นทิศเหนือ ลงใต้ ไปทางซ้าย ขวา หรือเราจะไปกันได้ไกลแค่ไหน และปลายทางจะจบลงที่ใด้”

อัลบั้มนี้อภิชัยได้ทดลองทำอะไรใหม่หลายอย่าง เสียงจากเครื่องดนตรีบ้าน ๆ ที่ใช้ระหว่างทำเพลงที่อังกฤษถูกนำมาใช้จริงทั้งหมด มีเพลง ร่องน้ำตา ซึ่งอภิชัยได้ร้องร่วมกับศิลปินหญิง ญารินดา เป็นครั้งแรก เพลงนี้มิกซ์เสียงร้องของทั้งสองศิลปินในระดับความดังเท่ากัน เพราะเขาคิดว่าเพลงนี้พูดกับคนทั้งเพศจึงควรร้องพร้อมกัน อัลบั้มนี้มีนักดนตรีต่างวงอย่าง เอี่ยว-ปุรวิชญ์ ขาวลออ มือกลองวง The Richman Toy เม้ง-ภัทรพล ทองสุขา มือกลองวง Desktop Error มาช่วยอัดกลอง อัลบั้มนี้มีเพลงเด่นหลายเพลง เช่น เงาของฝน, หมุน, ประโยคบอกเล่า, ป่าสนในห้องหมายเลข 1, ร่องน้ำตา ฯลฯ การได้อยู่ในสิ่งแวดล้อมที่แตกต่างและได้เห็นชีวิตคนที่หลากหลายทำให้เนื้อเพลงของ Greasy Cafe หลุดพ้นจากการจมปลักกับความหม่นเศร้าและความเปลี่ยนแปลง เนื้อเพลงอัลบั้มนี้ส่วนใหญ่พูดถึงการเดินทาง ความสัมพันธ์ที่คลี่คลาย และการกล้าเผชิญหน้ากับความเปลี่ยนแปลง

The Journey without Maps คืออัลบั้มที่ทำให้ภาพของ Greasy Cafe ค่อนข้างชัดเจน ของ Greasy Cafe ทั้งในแง่ยอดขายและคำวิจารณ์ เขาได้รับรางวัลทางดนตรีจากหลายสถาบัน เช่น อัลบั้มยอดเยี่ยมประจำปีพ.ศ. 2555 Channel [V] Thailand เมโลสโมสร ศิลปินชายเดี่ยวยอดเยี่ยม คมชัดลึก อวอร์ด ครั้งที่ 10 เพลงยอดเยี่ยม (เงาของฝน) สีสันอวอร์ดครั้งที่ 25  มิวสิกวีดีโอจากเพลงในอัลบั้มนี้ยังโดดเด่นไม่แพ้อัลบั้มอื่น โดยเฉพาะเพลง เงาของฝน ฝีมือของผู้กำกับ หัวกลม และเพลง หมุน โดย นวพล ธำรงรัตนฤทธิ์ อีกเพลงในอัลบั้มที่ได้รับความนิยมมากคือ ร่องน้ำตา นอกจากจะเป็นเพลงฮิตยังได้รับการเลือกให้เป็นเพลงประกอบซีรีส์ HORMONES 3 THE FINAL SEASON ของค่ายหนัง GDH

Technicolor (พ.ศ. 2560)[แก้]

พ.ศ. 2560 อภิชัยให้สัมภาษณ์ว่ากำลังเตรียมตัวออกอัลบั้มใหม่อีกครั้ง

ผลงานเพลงอื่น ๆ[แก้]

การทำอัลบั้ม The Journey without Maps ทำให้อภิชัยรู้สึกได้ปลดล็อกตัวเองและทดลองทำงานใหม่ ๆ มากขึ้น ช่วงแรกของการทำเพลง อภิชัยเชื่อว่าเขาไม่สามารถแต่งเพลงให้ศิลปินคนอื่นได้ เพราะกลัวถ้อยคำจะไม่เข้ากับศิลปินและเนื้อหาในเพลงส่วนใหญ่เป็นเหตุการณ์จริงที่เกิดกับตัวเขาหรือคนใกล้ตัวเขาเอง ในช่วงรอยต่อระหว่างอัลบั้ม ทิศทาง และ The Journey without Maps อภิชัยได้ทดลองแต่งเพลงให้ศิลปินคนอื่น งานที่เป็นที่รู้จักมากที่สุดคือการแต่งเพลงในอัลบั้ม 5 ของ Palmy ทั้งหมดสามเพลง คือ ทุ่งสีดำ, Butterfly และ Private Sky นอกจากนี้เขายังได้ลองทำงานใหม่ ๆ อย่างการทำคัฟเวอร์เพลง สิ่งสมมติ จากวงนั่งเล่น เพื่อทำเพลงประกอบภาพยนตร์ ฟ.ฮีแลร์ เพลง ฝืน ยังถูกคัฟเวอร์เพื่อใช้ประกอบภาพยนตร์ รักของเรา The Moment

อภิชัยยังทดลองทำงานใหม่นอกเหนือจากงานเพลงและภาพยนตร์ นั่นคือหนังสือ The Destination from nowhere รวมเกร็ดความคิดเบื้องหลังเพลงของ Greasy Cafe หนังสือเสียงแนวทดลอง Panoramic และงานเพลงรูปแบบ EP ทำแถมพิเศษเฉพาะในงาน Fat T-shirt และ Cat T-Shirt โดยเกิดจากความคิดของอภิชัยว่าอยากให้แฟนของ Greasy Cafe ที่มาซื้อเสื้อได้เพลง ถือเป็นการขอบคุณแฟนเพลงรูปแบบหนึ่งส่วนมากเป็นเพลงทดลองที่ไม่มีคำร้อง เพราะเขาอยากทำเพลงโดยไม่ให้เนื้อร้องมาจำกัดจินตนาการ

ในปี พ.ศ. 2556 อภิชัยมีโอกาสทำเพลงพิเศษให้กับเครื่องดื่มแสงโสมในโครงการชื่อว่า Unique Journey เพลง เสมอ และในปี พ.ศ. 2560 โครงการ คนไทยไม่แพ้ชาติใดในโลก เพลง 9 ซึ่งมีเนื้อหาให้กำลังใจคนทำงานด้วยมุมมองของคนที่ผ่านโลกมานาน นอกจากนี้อภิชัยยังได้ทำเพลงประกอบภาพยนตร์ The Down พ.ศ. 2558 ด้วยเพลงชื่อว่า สุดสายตา ซึ่งได้รับรางวัลเพลงนำภาพยนตร์ยอดเยี่ยม รางวัลภาพยนตร์แห่งชาติ สุพรรณหงส์ครั้งที่ 25 เมื่อเดือนมีนาคม พ.ศ. 2559

คอนเสิร์ต[แก้]

Greasy Cafe เคยมีคอนเสิร์ตใหญ่ของตัวเอง 2 ครั้งชื่อว่า Greasy Cafe: Untill Tomorrow ที่สนามกีฬาจรัญ บุรพรัตน์ กรุงเทพฯ วันที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2556 มีผู้ชมจำนวน 5000 คน งานนี้ถือเป็นการจัดคอนเสิร์ตใหญ่ครั้งแรกของอภิชัย เขาตั้งใจจัดองค์ประกอบให้เป็นมากกว่าคอนเสิร์ต แต่รวบรวมสิ่งที่อภิชัยชอบและหลงใหล ร้านอาหารที่มาออกบูทก่อนงานเริ่มคือร้านที่เขาชอบและอยู่ในละแวกบ้านของอภิชัย นิทรรศการในงานก็สะท้อนรสนิยมของตัวเขาซึ่งเป็นด้านที่แฟนเพลงไม่เคยเห็น งานนี้ยังจัดวันเดียวกันช่วงที่มีเหตุการณ์ความขัดแย้งทางการเมืองย่านรามคำแหง ทำให้คอนเสิร์ตเกือบถูกยกเลิก สุดท้ายอภิชัยตัดสินใจจัดต่อเพื่อให้แฟนเพลงที่เดินทางมาถึงแล้วหรือตั้งใจเดินทางไกลเพื่อมางานนี้โดยเฉพาะสมหวังทุกคน

แนวคิดในการจัดคอนเสิร์ตมาจากการเปรียบเปรยของอภิชัยว่าแฟนเพลงของเขาเป็นเหมือนผู้ร่วมเดินทาง คอนเสิร์ตสำหรับเขาไม่ใช่แค่งานฟังเพลง แต่เป็นเหมือนการหยุดพักและเฉลิมฉลองก่อนจะเดินทางด้วยกันต่อไป นี่เป็นเหตุผลที่ Untill Tomorrow มีความเป็น 'คอนเสิร์ต' น้อย เน้นชวนให้ผู้คนทั้งแฟนคลับและคนที่เขารู้จักมาใช้เวลากันอย่างใกล้ชิด ในพื้นที่ที่แวดล้อมด้วยธรรมชาติ

อภิชัยจัดคอนเสิร์ตรูปแบบนี้อีกครั้งในชื่อ Greasy Cafe: Untill Tomorrow Home ที่เขากะโหลก จังหวัดประจวบคิรีขันธ์ วันที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2557 มีผู้ชมจำนวน 2000 คน งานนี้เป็นคอนเสิร์ตอะคูสติกที่มีคนเล่นแค่ 3 คน แต่ใช้เครื่องดนตรีต่างประเภทถึง 20 ชนิด เขานำคำว่า Home ต่อท้ายชื่อคอนเสิร์ตเพื่อล้อกับชื่ออัลบั้ม The Journey without Maps โปสเตอร์งานก็ใช้ภาพทะเลเหมือนปกอัลบั้ม หลังจากพาแฟนเพลงเดินทางมากับอัลบั้มนี้แล้ว เขาอยากให้คอนเสิร์ตนี้เป็นเหมือนการกลับบ้าน ถือเป็นการปิดอัลบั้มสามอย่างสมบูรณ์แบบ

ผลงานสตูดิโออัลบั้ม[แก้]

ผลงานอัลบั้มตัวอย่าง (EP) และเพลงพิเศษ[แก้]

  • เพลง หา, อัลบั้ม Smallroom 001 (พ.ศ. 2542)
  • เพลง พบ, อัลบั้ม Smallroom 002 (พ.ศ. 2544)
  • เพลง a day, อัลบั้ม a day Red Label (พ.ศ. 2544)
  • เพลง เธอรู้รึเปล่า, อัลบั้ม Sanamluang connects by Nokia 5700 XpressMusic Part 02 (พ.ศ. 2550)
  • เพลง เงินล้าน, อัลบั้ม Fatcode 9 (พ.ศ. 2552)
  • อัลบั้ม Panoramic, The Book with Sound (พ.ศ. 2553)
  • เพลง ฤดูร้อน, อัลบั้ม The Love Scene (พ.ศ. 2554)
  • EP ระยะ (พ.ศ. 2553)
  • EP ฝืน (พ.ศ. 2554)
  • EP The Journey without Maps Teaser (พ.ศ. 2555)
  • เพลง ช่อมะกอก feat. น.ส. เอ้บ ศุขสลุง [OST. ตั้งวง] (พ.ศ. 2556)
  • เพลง เสมอ (พ.ศ. 2556)
  • EP This is love (พ.ศ. 2557)
  • เพลง สุดสายตา [OST.The Down] (พ.ศ. 2558)
  • EP Relationtrip (พ.ศ. 2559)

งานแต่งเพลง[แก้]

งานเขียน[แก้]

รางวัล[แก้]

ปี รางวัล สาขา ผล หมายเหตุ
2551 คมชัดลึก อวอร์ด ครั้งที่ 6 ศิลปินชายเดี่ยวยอดเยี่ยม ชนะ อัลบั้ม สิ่งเหล่านี้
2552 Hamburger Awards ครั้งที่ 6 ศิลปินชายยอดเยี่ยม ชนะ อัลบั้ม สิ่งเหล่านี้
ซี้ดอวอร์ด 4 Seed new artist of the year เสนอชื่อเข้าชิง อัลบั้ม สิ่งเหล่านี้
สีสันอะวอร์ดส์ 23 ศิลปินเดี่ยวร๊อคยอดเยี่ยม เสนอชื่อเข้าชิง อัลบั้ม สิ่งเหล่านี้
Fat Awards 9 ศิลปินชายเดี่ยวยอดเยี่ยม ชนะ อัลบั้ม สิ่งเหล่านี้
2553 Fat Awards 10 เพลงยอดเยี่ยมแห่งปี เสนอชื่อเข้าชิง อัลบั้ม สิ่งเหล่านี้
2554 Fat Awards 11 ศิลปินชายยอดเยี่ยม เสนอชื่อเข้าชิง อัลบั้ม ทิศทาง
2555 รางวัลแชนแนลวีไทยแลนด์มิวสิกวิดีโออวอร์ดส 2011 ครั้งที่ 7 เพลงของเรา [V]Awards จี๊ดโดนใจ ชนะ อัลบั้ม ทิศทาง
The Fat Awards ศิลปินรุ่นเดอะผู้สร้างแรงบันดาลใจในรอบ 12 ปี ชนะ [1]
The 10th Vladivostok International Film Festival of Asian Pacific countries – “PACIFIC MERIDIAN” นักแสดงชายยอดเยี่ยม ชนะ ภาพยนตร์ แต่เพียงผู้เดียว
2556 Channel [V] Thailand เมโลสโมสร อัลบั้มยอดเยี่ยมประจำปี 2555 ชนะ อัลบั้ม The journey without maps
Starpics Thai Films Awards ครั้งที่ 10 นักแสดงนำชายยอดเยี่ยม ชนะ ภาพยนตร์ แต่เพียงผู้เดียว
You2Play Awards 2013 ศิลปินชายยอดนิยม เสนอชื่อเข้าชิง อัลบั้ม The journey without maps
คมชัดลึก อวอร์ด ครั้งที่ 10 ศิลปินชายเดี่ยวยอดเยี่ยม ชนะ อัลบั้ม The journey without maps [2]
นักแสดงนำชายยอดเยี่ยม เสนอชื่อเข้าชิง ภาพยนตร์ แต่เพียงผู้เดียว [3]
เพลงไทยสากลยอดเยี่ยม เสนอชื่อเข้าชิง เพลง อุบัติการณ์ [4]
ชนะ เพลง เมฆใต้น้ำ [5]
เสนอชื่อเข้าชิง เพลง เงาของฝน [6]
เฉลิมไทยอวอร์ด ครั้งที่ 9 เพลงประกอบจากภาพยนตร์ไทยแห่งปี เสนอชื่อเข้าชิง เพลง ประโยคบอกเล่า Ost.ชัมบาลา [7]
เพลง ป่าสนในห้องหมายเลข 1 Ost. แต่เพียงผู้เดียว [8]
นักแสดงชายในบทนำจากภาพยนตรไทยแห่งปี เสนอชื่อเข้าชิง ภาพยนตร์ แต่เพียงผู้เดียว
ซี้ดอวอร์ด ครั้งที่ 8 ศิลปินชายยอดเยี่ยมสุดซี้ดประจำปี 2012 ชนะ อัลบั้ม The journey without maps
สีสันอะวอร์ดส์ ครั้งที่ 25 ศิลปินชายเดี่ยวยอดเยี่ยม เสนอชื่อเข้าชิง อัลบั้ม The journey without maps
อัลบั้มยอดเยี่ยม เสนอชื่อเข้าชิง อัลบั้ม The journey without maps
เพลงยอดเยี่ยม ชนะ เพลง ร่องน้ำตา
รางวัลภาพยนตร์ไทย ชมรมวิจารณ์บันเทิง ครั้งที่ 21 รางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยม ชนะ ภาพยนตร์ แต่เพียงผู้เดียว
รางวัลสมาคมผู้สื่อข่าวบันเทิงแห่งประเทศไทย
ประจำปี 2555
นักแสดงนำชายยอดเยี่ยม
(รางวัลพระราชทานพระสุรัสวดี)
เสนอชื่อเข้าชิง ภาพยนตร์ แต่เพียงผู้เดียว
มิวสิกวิดีโอดีเด่นยอดนิยม
(รางวัลมณีเมขลาดีเด่น)
เสนอชื่อเข้าชิง เพลง "เงาของฝน"
2558 รางวัลภาพยนตร์แห่งชาติ สุพรรณหงส์ ครั้งที่ 25 เพลงนำภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ชนะ เพลง "สุดสายตา" จากภาพยนตร์ เดอะดาวน์
2561 สีสันอะวอร์ดส์ ครั้งที่ 28 ประจำปี 2560 ศิลปินชายเดี่ยวยอดเยี่ยมประจำปี ชนะ อัลบั้ม Technicolor
2565 TOTY Music Awards 2021[9] เพลงยอดเยี่ยม เสนอชื่อเข้าชิง อิสรภาพ…ไม่ได้เกิดขึ้นโดยบังเอิญ

อ้างอิง[แก้]

  1. ศิลปินรุ่นเดอะผู้สร้างแรงบันดาลใจ[ลิงก์เสีย]
  2. "สำเนาที่เก็บถาวร". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-06-14. สืบค้นเมื่อ 2013-09-09.
  3. "สำเนาที่เก็บถาวร". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-06-14. สืบค้นเมื่อ 2013-09-09.
  4. "สำเนาที่เก็บถาวร". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-06-14. สืบค้นเมื่อ 2013-09-09.
  5. "สำเนาที่เก็บถาวร". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-06-14. สืบค้นเมื่อ 2013-09-09.
  6. "สำเนาที่เก็บถาวร". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-06-14. สืบค้นเมื่อ 2013-09-09.
  7. งานประกาศผลรางวัล เฉลิมไทยอวอร์ด ครั้งที่ ๙
  8. งานประกาศผลรางวัล เฉลิมไทยอวอร์ด ครั้งที่ ๙
  9. สุพัฒน์ ศิวะพรพันธ์ (March 1, 2022). "สรุปผลรางวัล TOTY Music Awards 2021 Tilly Birds คว้า 4 รางวัลใหญ่ 4EVE คว้ารางวัล Best Music of the Year และ Best Female Group". The Standard. สืบค้นเมื่อ March 1, 2022.

แหล่งข้อมูลอื่น[แก้]