พระบาทสมเด็จพระบรมนาถ นโรดม สีหมุนี

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
พระบาทสมเด็จพระบรมนาถ
นโรดม สีหมุนี
พระบรมฉายาลักษณ์ในปี 2562
พระมหากษัตริย์กัมพูชา
ครองราชย์14 ตุลาคม 2547 – ปัจจุบัน
ราชาภิเษก29 ตุลาคม 2547
ก่อนหน้าพระบาทสมเด็จพระนโรดม สีหนุ
นายกรัฐมนตรีสมเด็จอัครมหาเสนาบดีเดโช ฮุน เซน
สมเด็จมหาบวรธิบดี ฮุน มาเเณต
พระราชสมภพ14 พฤษภาคม พ.ศ. 2496 (70 พรรษา)
พนมเปญ กัมพูชาของอินโดจีน
พระนามเต็ม
พระกรุณา พระบาทสมเด็จพระบรมนาถ นโรดม สีหมุนี สมานภูมิชาติศาสนา รักขตขัตติยา เขมรารัฐราษฎร์ พุทธินทราธรามหากษัตริย์ เขมราชนา สมูโหภาส กัมพุชเอกราชรัฐบูรณสันติ ศุภมังคลา สิรีวิบุลา เขมราศรีพิราษฎร์ พระเจ้ากรุงกัมพูชาธิบดี
ราชวงศ์ราชวงศ์ตรอซ็อกผแอม
(ราชสกุลนโรดม)
พระราชบิดาพระบาทสมเด็จพระนโรดม สีหนุ
พระราชมารดาสมเด็จพระราชินีนโรดม มุนีนาถ สีหนุ
ศาสนาพุทธเถรวาท
ลายพระอภิไธย
เว็บไซต์http://norodomsihamoni.org/en
พระมหากษัตริย์แห่งกัมพูชายุคใหม่
สมเด็จพระหริรักษ์รามมหาอิศราธิบดี
พระบาทสมเด็จพระนโรดม บรมรามเทวาวตาร
พระบาทสมเด็จพระสีสุวัตถิ์
พระบาทสมเด็จพระสีสุวัตถิ์ มุนีวงศ์
พระบาทสมเด็จพระนโรดม สีหนุ (ครั้งที่ 1)
พระบาทสมเด็จพระนโรดม สุรามฤต
พระบาทสมเด็จพระนโรดม สีหนุ (ครั้งที่ 2)
พระบาทสมเด็จพระบรมนาถ นโรดม สีหมุนี

พระบาทสมเด็จพระบรมนาถ นโรดม สีหมุนี (เขมร: ព្រះបាទសម្តេចព្រះបរមនាថ នរោត្តម សីហមុនី, พฺระบาทสมฺเตจพฺระบรมนาถ นโรตฺตม สีหมุนี; ออกเสียง โนโรด็อม เส็ยหะโมนี;[1] 14 พฤษภาคม 2496) เป็นพระมหากษัตริย์พระองค์ปัจจุบันแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา เป็นพระมหากษัตริย์รัชกาลที่ 114 พระองค์เป็นพระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระนโรดม สีหนุ กับสมเด็จพระราชินีนโรดม มุนีนาถ สีหนุ[2] อดีตเอกอัครราชทูตด้านวัฒนธรรมของกัมพูชาประจำองค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ ก่อนที่กรมปรึกษาราชบัลลังก์ลงมติเอกฉันท์ให้พระองค์เสด็จขึ้นครองราชย์หลังจากพระราชบิดาประกาศสละราชสมบัติเมื่อปี พ.ศ. 2547

พระราชประวัติ[แก้]

พระบาทสมเด็จพระบรมนาถ นโรดม สีหมุนี เสด็จพระราชสมภพเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2496 เป็นพระราชบุตรลำดับที่ 12 ในพระบาทสมเด็จพระนโรดม สีหนุ ประสูติแต่สมเด็จพระอัคคมเหสีนโรดม มุนีนาถ สีหนุ (พระนามเดิม ปอล โมนีก อิซซี) ซึ่งมีเชื้อสายฝรั่งเศส คอร์ซิกัน และอิตาลี[3][4] มีพระภราดาพระภคินีร่วมพระราชบิดา 14 พระองค์ ร่วมพระราชมารดาหนึ่งพระองค์คือสมเด็จพระนโรดม นรินทรพงษ์ (พ.ศ. 2497–2546)[5]

นอกจากนี้ เมื่อนับพระญาติทางฝ่ายพระราชบิดา พระองค์นับเป็นพระญาติชั้นที่ 3 ของพระนางเจ้าสุวัทนา พระวรราชเทวี และเป็นพระญาติชั้นที่ 4 ของสมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี[6]

การศึกษา[แก้]

ทรงได้รับการศึกษาขึ้นต้นในประเทศกัมพูชาต่อมา เสด็จไปทรงศึกษาระดับมัธยมศึกษาและอุดมศึกษาที่ประเทศเช็กเกีย และทรงศึกษาต่อในระดับปริญญาโทที่ Musical Art Academy of Prague โดยทรงทำวิทยานิพนธ์ เรื่อง The Conception and Administration of Artisic Schools in Cambodia ทรงสำเร็จการศึกษาใน พ.ศ. 2518 และยังได้เสด็จไปทรงศึกษาต่อที่ University Studies of Cinematography ที่สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลีระหว่าง พ.ศ. 2518–2519

พระราชกรณียกิจก่อนขึ้นครองราชย์[แก้]

  • พ.ศ. 2522-2523 ราชเลขานุการในพระองค์พระบาทสมเด็จพระนโรดม สีหนุ
  • พ.ศ. 2527-2531 ประธาน The Khmer Dance Association ในประเทศฝรั่งเศส; ผู้จัดการทั่วไปและผู้กำกับศิลป์ของ The Ballet Group "Deva"
  • พ.ศ. 2531-2536 ผู้จัดการทั่วไปและผู้กำกับศิลป์ของ The Royal Khmer Cinematographic Corporation "Khemara Picture"
  • พ.ศ. 2535-2536 ทรงได้รับเลือกจาก The Supreme National Council ให้เป็นผู้แทนถาวรแห่งกัมพูชาประจำสหประชาชาติ (United Nation)
  • พ.ศ. 2536-2547 ทรงดำรงตำแหน่งทูตแห่งราชอาณาจักรกัมพูชาประจำองค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ
  • พ.ศ. 2546 ทรงได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งองคมนตรีในพระบาทสมเด็จพระนโรดม สีหนุ
  • พ.ศ. 2547 ทรงเป็นสมาชิกแห่ง The High Council of French-Speaking Countries (La Francophonie)

เสด็จขึ้นครองราชย์[แก้]

เสด็จขึ้นครองราชย์เมื่อพระชนมพรรษา 51 พรรษา เมื่อเดือนตุลาคม 2547 โดยมติเป็นเอกฉันท์ของกรมปรึกษาราชบัลลังก์ ภายหลังการประกาศสละราชสมบัติของสมเด็จพระนโรดม สีหนุ อันเนื่องจากปัญหาทางพระพลานามัย

พระราชพิธีราชาภิเษก[แก้]

ในพระราชพิธีพระราชาภิเษก ซึ่งถ่ายทอดสดทางสถานีโทรทัศน์และวิทยุทั่วประเทศ พระบาทสมเด็จพระบรมนาถนโรดม สีหมุนี ซึ่งทรงเป็นกษัตริย์องค์ที่สองของราชอาณาจักรกัมพูชาในรอบ 60 ปี พระองค์ได้มีพระปฐมบรมราชโองการว่า "พระองค์จะทรงปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญและกฎหมายกัมพูชา และจะทรงประกอบพระราชภารกิจเพื่อประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชน"

พระปรมาภิไธย[แก้]

พระบาทสมเด็จพระบรมนาถ นโรดม สีหมุนีทรงประกอบพระราชกรณียกิจ พ.ศ. 2559 ณ จังหวัดเสียมเรียบ โดยข่าวในพระราชสำนักกัมพูชา
พระบาทสมเด็จพระบรมนาถ นโรดม สีหมุนีเสด็จพระราชดำเนินไปในการพระราชพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ ณ ราชธานีพนมเปญ

พระบาทสมเด็จพระบรมนาถนโรดม สีหมุนี ทรงได้รับการถวายพระปรมาภิไธยในพระราชพิธีราชาภิเษกว่า พระกรุณา พระบาทสมเด็จพระบรมนาถ นโรดม สีหมุนี สมานภูมิชาติศาสนา รักขตขัตติยา เขมรารัฐราษฎร์ พุทธินทราธรามหากษัตริย์ เขมราชนา สมูโหภาส กัมพุชเอกราชรัฐบูรณสันติ ศุภมังคลา สิรีวิบุลา เขมราศรีพิราษฎร์ พระเจ้ากรุงกัมพูชาธิบดี (เขมร: ព្រះករុណា ព្រះបាទសម្តេចព្រះបរមនាថ នរោត្តម សីហមុនី សមានភូមិជាតិសាសនា រក្ខតខត្តិយា ខេមរារដ្ឋរាស្ត្រ ពុទ្ធិន្ទ្រាធរាមមហាក្សត្រ ខេមរាជនា សមូហោភាស កម្ពុជឯករាជរដ្ឋបូរណសន្តិ សុភមង្គលា សិរីវិបុលា ខេមរាស្រីពិរាស្ត្រ ព្រះចៅក្រុងកម្ពុជាធិបតី, พฺระกรุณา พฺระบาทสมฺเตจพฺระบรมนาถ นโรตฺตม สีหมุนี สมานภูมิชาติสาสนา รกฺขตขตฺติยา เขมรารฎฺฐราสฺตฺร พุทฺธินฺทฺราธรามมหากฺสตฺร เขมราชนา สมูโหภาส กมฺพุชเอกราชรฎฺฐบูรณสนฺติ สุภมงฺคลา สิรีวิบุลา เขมราสฺรีพิราสฺตฺร พฺระเจากฺรุงกมฺพุชาธิบตี)

สร้อยพระปรมาภิไธยนั้นแปลได้ความว่า "ผู้รับใช้มาตุภูมิ ศาสนา ประชาชาติ และประชาราษฎร์เขมร โดยสวามิภักดิ์ และภักดีภาพ มหากษัตริย์ซึ่งพระพุทธและพระอินทร์ท่านอุปถัมภ์ ผู้รวบรวมเขมรชนทั้งสิ้น ผู้ปกป้องเอกราช บูรณภาพแผ่นดินและสันติภาพของกัมพูชา พร้อมทั้งศุภมงคล เสรีภาพ และวิบุลภาพ ของประชาราษฎร์เขมร"[7]

พระราชกรณียกิจหลังขึ้นครองราชย์[แก้]

พระบาทสมเด็จพระบรมนาถ นโรดม สีหมุนีเสด็จเยี่ยมเยือนประชาชนบริเวณด้านนอกปราสาทบันทายศรี

พระราชกฤษฎีกาว่าด้วยพันธุ์พืชและพันธุ์สัตว์ประจำชาติกัมพูชา[แก้]

พระบาทสมเด็จพระบรมนาถ นโรดม สีหมุนี ได้ทรงมีพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยพันธุ์พืชและพันธุ์สัตว์ประจำชาติกัมพูชาเมื่อวันที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2548 ในพระราชกฤษฎีกาได้ประกาศให้มีพันธุ์พืชและพันธุ์สัตว์เป็นสัญลักษณ์ของกัมพูชา 7 อย่างด้วยกันคือ ดอกลำดวน, ต้นตาล, กล้วยไข่, กูปรี, ปลากะโห้, นกช้อนหอยใหญ่ และ เต่าจาน[8]

การที่ได้มีการประกาศพระราชกฤษฎีกาดังกล่าว นาย Chuch Phoeurn รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมได้ให้สัมภาษณ์ว่า การเลทอกสัญลักษณ์ทั้ง 7 อย่างเป็นสัญลักษณ์ประจำชาติกัมพูชานั้นเพื่อจะทำให้สามารถอนุรักษ์พันธุ์พืชและพันธุ์สัตว์ของกัมพูชาไม่ให้สูญพันธุ์ อย่างไรก็ตามสัญลักษณ์ทั้ง 7 อย่างที่ถูกเลือกเป็นสัญลักษณ์ประจำชาติ ได้ถูกสอนในโรงเรียนทั่วกัมพูชาในชั้นเรียนวิชาภูมิศาสตร์

ด้านการบริหารราชการแผ่นดิน[แก้]

ในด้านการบริหารราชการแผ่นดินในพระราชอาณาจักร พระบาทสมเด็จพระบรมนาถ นโรดม สีหมุนี ได้ทรงลงพระปรมาภิไธยในพระราชกฤษฎีกายกฐานะเมืองแกบ เมืองไพลิน และเมืองพระสีหนุขึ้นเป็นจังหวัด พร้อมทั้งปรับเขตแดนของจังหวัดหลายจังหวัดใหม่ ณ วันที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2551 [9]

เมื่อวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2556 พระบาทสมเด็จพระบรมนาถ นโรดม สีหมุนี ได้ทรงลงพระปรมาภิไธยในพระราชกฤษฎีกาแยกจังหวัดกำปงจามออกเป็น 2 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดกำปงจามและจังหวัดตโบงฆมุมเป็นจังหวัดใหม่ที่ 25 ในปัจจุบัน พระราชกฤษฎีกาดังกล่าวเป็นที่เรียกกันอย่างเป็นทางการว่า "พระราชกฤษฎีกาว่าด้วยจังหวัดกำปงจาม พ.ศ. 2556" ตามดำริของนายกรัฐมนตรีสมเด็จอัครมหาเสนาบดีเดโช ฮุน เซน โดยแบ่งมาจากพื้นที่ของจังหวัดกัมปงธม

ชีวิตส่วนพระองค์[แก้]

พระบาทสมเด็จพระบรมนาถ นโรดม สีหมุนี ไม่ทรงอภิเษกสมรส และไม่มีพระราชโอรสธิดา เนื่องจากประเทศกัมพูชาเป็นราชาธิปไตยโดยเลือกตั้ง พระมหากษัตริย์องค์ถัดไปจะถูกเลือกโดยกรมปรึกษาราชบัลลังก์ โดยเลือกจากสมาชิกในพระราชวงศ์กัมพูชา[10][11]

พระราชอิสริยยศและพระเกียรติยศ[แก้]

ธรรมเนียมพระยศของ
พระบาทสมเด็จพระบรมนาถ นโรดม สีหมุนี
ธงประจำพระอิสริยยศ
การทูลใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท (ព្រះករុណាជាអង្គម្ចាស់)
การแทนตนข้าพระพุทธเจ้า (ទូលព្រះបង្គំ/ខ្ញុំម្ចាស់)
การขานรับพระพุทธเจ้าข้าขอรับ/เพคะ (ព្រះករុណាថ្លៃវិសេស/ព្រះពរម្ចាស់)
ลำดับโปเจียม1
  • 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2537 - "สมเด็จกรมขุน" (เขมร: សម្តេចក្រុមឃុន, สฺมเตจกฺรุมฆุน)
  • 31 สิงหาคม พ.ศ. 2547 - "พระบาทสมเด็จพระบรมนาถ" (เขมร: សម្តេចព្រះបរមនាថ, สมฺเตจพฺระบรมนาถ)

รางวัลและเครื่องราชอิสริยาภรณ์[แก้]

เครื่องราชอิสริยาภรณ์ในพระราชอาณาจักร[แก้]

เครื่องราชอิสริยาภรณ์ต่างประเทศ[แก้]

รางวัล[แก้]

  • เช็กเกีย รางวัลพลเมืองกิตติศักดิ์แห่งกรุงปราก พ.ศ. 2549
  • ฝรั่งเศส รางวัลเหรียญเงินแห่งกรุงปารีส

พระราชตระกูล[แก้]

อ้างอิง[แก้]

  1. รุ่งมณี เมฆโสภณ. คนสองแผ่นดิน. กรุงเทพ : บ้านพระอาทิตย์, มีนาคม 2551. หน้า 203
  2. 25 พระราชอาคันตุกะ (1) ข้อมูลจากเว็บไซต์นิตยสารสารคดี[ลิงก์เสีย]
  3. "Vive la Reine Monique!". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2008-12-10. สืบค้นเมื่อ 2012-05-16.
  4. "King's biography". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2008-04-27. สืบค้นเมื่อ 2012-05-16.
  5. "Biographie de Sar Samdech Norodom Narindrapong". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2010-12-04. สืบค้นเมื่อ 2021-08-18.
  6. "Princess Bejaratana". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-12-08. สืบค้นเมื่อ 2012-05-16.
  7. ศานติ ภักดีคำ. พระนามกษัตริย์กัมพูชาองค์ใหม่ ควรใช้อย่างไรในภาษาไทย เก็บถาวร 2016-03-04 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน ใน ศิลปวัฒนธรรม ปีที่ 26 ฉบับที่ 2 ประจำเดือนธันวาคม พ.ศ. 2547
  8. Phearon Chey (06 มิถุนายน 2012). "Saving the seven symbols". The Phnom Penh Post. สืบค้นเมื่อ 26 กันยายน 2561. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= และ |date= (help)
  9. "Decree Creates Three New Provinces". khmerization.blogspot.com. December 2008.
  10. "About Cambodia - The King of Cambodia". Tourism of Cambodia (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). 2020-05-10. สืบค้นเมื่อ 2021-09-07.
  11. "Constitution of the Kingdom of Cambodia 1993, as amended to 2018". UN Women (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). 2018-01-01. สืบค้นเมื่อ 2021-09-07.
  12. ‘พระราชวงศ์เขมร’ และ ‘พระราชวงศ์ไทย’ เก็บถาวร 2005-11-19 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน โดย จุลลดา ภักดีภูมินทร์ ฉบับที่ 2500 ปีที่ 48 ประจำวัน อังคาร ที่ 17 กันยายน 2545
  13. "สำเนาที่เก็บถาวร" (PDF). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2014-05-13. สืบค้นเมื่อ 2012-09-16.

ดูเพิ่ม[แก้]

แหล่งข้อมูลอื่น[แก้]

ก่อนหน้า พระบาทสมเด็จพระบรมนาถ นโรดม สีหมุนี ถัดไป
พระบาทสมเด็จพระบรมนาถนโรดม สีหนุ
พระมหากษัตริย์กัมพูชา
(ราชสกุลนโรดม)

(14 ตุลาคม พ.ศ. 2547 — ปัจจุบัน)
ยังอยู่ในราชสมบัติ