ข้ามไปเนื้อหา

โตโยต้า เซลิก้า

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
Toyota Celica
ภาพรวม
บริษัทผู้ผลิตโตโยต้า
เริ่มผลิตเมื่อธันวาคม 2513[1] – เมษายน 2549
รุ่นปี2514–2549
แหล่งผลิตประเทศญี่ปุ่น: โทะโยะตะ, Aichi (Tsutsumi plant)
ทาฮาระ, Aichi (Tahara plant)
Susono, Shizuoka (Higashi-Fuji plant)
ตัวถังและช่วงล่าง
ประเภทรถสปอร์ต
รูปแบบตัวถัง2 ประตู นอทช์แบ็ก คูเป้
2 ประตู เปิดประทุน (คอนเวอร์ติเบิล)
3 ประตู ลิฟต์แบ็ก
โครงสร้างเครื่องวางหน้า, ขับเคลื่อนล้อหลัง (2514–2528)
เครื่องวางหน้า, ขับเคลื่อนล้อหน้า (2528–2549)
เครื่องวางหน้า, ขับเคลื่อนสี่ล้อ (2528–2542)

โตโยต้า เซลิก้า (อังกฤษ: Toyota Celica; ญี่ปุ่น: トヨタ・セリカ) เป็นรถสปอร์ตของบริษัทโตโยต้าจากประเทศญี่ปุ่น

การออกแบบเซลิก้าทั้ง 7 รุ่นที่ผ่านมาผ่านการออกแบบมามากมาย ซึ่งรวมถึงเป็นต้นฉบับของ โตโยต้า เซลิก้า ซูปร้า (ภายหลังใช้ชื่อว่า โตโยต้า ซูปร้า) และโตโยต้า เซลิก้า คัมรี่ (ภายหลังใช้ชื่อว่า โตโยต้า คัมรี่) โดยมีระบบที่โดดเด่นคือ ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ เทอร์โบชาร์จเจอร์ ระบบเปิดประทุน

เซลิก้าเป็นที่รู้จักกันดีในการแข่งรถแรลลี คำว่า"เซลิก้า" เป็นภาษาสเปนมีความหมายว่า ท้องฟ้า หรือสวรรค์

สายการผลิตเซลิก้าได้มีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในรุ่นปี พ.ศ. 2529 เมื่อมีการเปลี่ยนจากระบบขับเคลื่อนล้อหลังเป็นระบบขับเคลื่อนล้อหน้า กับแบบขับเคลื่อนสี่ล้อ โดยเปลี่ยนจากเครื่องSOHC 20Rในรุ่นขับเคลื่อนล้อหน้า มาเป็น22R

ในช่วงรุ่นขับเคลื่อนล้อหน้าเซลิก้ามาพร้อมกับ เทอร์โบชาร์จเจอร์และระบบแวเรียเบิลวาล์วไทมิง (variable valve timing)

ปัจจุบัน โตโยต้า เซลิก้า ได้เลิกผลิตไปแล้ว โดยรถเซลิก้ารุ่นสุดท้ายเป็นรถรุ่นปี พ.ศ. 2548 แต่ผลิตข้ามปีไปจนถึงปี พ.ศ. 2549 ก่อนจะเลิกผลิตไปในวันที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2549

Generation ที่ 1 (รุ่นปี พ.ศ. 2513-2521)

[แก้]
โตโยต้า เซลิก้า โฉมที่ 1

เซลิก้า โฉมที่ 1 มีรหัสตัวถัง A20 กับ A35 ออกสู่ตลาดในเดือนธันวาคม ปี พ.ศ. 2513 โดยใช้เครื่องคาบิวเรเตอร์สี่สูบ 1600, 1900, 2000 และ 2200 ซีซี

มีลักษณะตัวถัง 2 แบบ คือ liftback 3 ประตู และ hardtop 2 ประตู เซลิก้าโฉมนี้ได้ชื่อว่าเป็นรุ่นที่มีคุณลักษณะและรายละเอียดเทียบเท่ากับรถ ฟอร์ด มัสแตง ของสหรัฐอเมริกา (ฟอร์ด มัสแตง ในอเมริกา เป็นรถที่โด่งดังและประสบความสำเร็จสูงมาก ซึ่งเป็นรถที่ครองสถิติประสบความสำเร็จในระดับสูงสุดในประวัติศาสตร์วงการรถ) จนได้รับฉายาว่า "มัสแตงญี่ปุ่น" (Japanese Mustang)

มีระบบเกียร์ให้เลือกซื้อ 3 ระบบ คือเกียร์อัตโนมัติ 3 สปีด, ธรรมดา 4 สปีด และธรรมดา 5 สปีด

Generation ที่ 2 (รุ่นปี พ.ศ. 2521-2525)

[แก้]
โตโยต้า เซลิก้า โฉมที่ 2

เซลิก้า โฉมที่ 2 มีรหัสตัวถัง A40 ออกสู่ตลาดครั้งแรกในเดือน สิงหาคม พ.ศ. 2520 แต่ได้ขึ้นแท่นแทนโฉมที่ 1 ใน พ.ศ. 2521 โดยมีทริมแบบ ST และ GT

มีเครื่องยนต์ 4 ขนาด คือ 1600, 1800, 2000, 2200 ซีซี ซึ่งพัฒนาระบบความปลอดภัยและการประหยัดน้ำมันมากกว่ารุ่นแรก และรุ่นนี้มีตัวถัง 2 แบบคือ coupe 2 ประตู และ liftback 3 ประตู

เซลิก้า โฉมที่ 2 ได้รางวัล "รถยนต์นำเข้าประจำปี" ในสหรัฐอเมริกาในปี พ.ศ. 2521 ต่อมาในปี พ.ศ. 2523 โตโยต้าได้ผลิตรถบ้านที่ผสมผสานเทคโนโลยีรถสปอร์ตเข้าไปด้วย เป็นรถ 4 ประตู ชื่อรุ่น "โตโยต้า เซลิก้า คัมรี่" หรือ "โตโยต้า คารีนา" ซึ่งขายดีมาก ทำให้สองปีต่อมา โตโยต้าได้มีการแยกเอารุ่นคัมรี่ออกจากตระกูลเซลิก้า และตั้งเป็นรถตระกูลใหม่ในชื่อ โตโยต้า คัมรี่

Generation ที่ 3 (รุ่นปี พ.ศ. 2525-2529)

[แก้]
โตโยต้า เซลิก้า โฉมที่ 3

เซลิก้ายุค 3 มีรหัสตัวถัง A60 ออกมาเปิดตัวครั้งแรกในเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2524 ได้มีการเปลี่ยนแปลงรูปลักษณ์และใช้เครื่องยนต์ 4 ขนาด คือ 1600 1800, 2000 และที่เด่นที่สุดคือเครื่องแบบ 22RE 2400 ซีซี ขับเคลื่อนล้อหลัง

ในรุ่นปี พ.ศ. 2526 โตโยต้า ได้เพิ่มทริม GT-S สำหรับรถสปอร์ต ซึ่งรวมขนาดล้อที่ใหญ่ขึ้น แก้มล้อที่ใหญ่ขึ้น independent rear suspension และการตกแต่งภายในแบบรถสปอร์ต ได้แก่ เบาะรถสปอร์ต พวงมาลัยหุ้มด้วยหนัง และกระปุกเกียร์แบบรถสปอร์ต

โฉมนี้ มี 3 รูปแบบตัวถัง คือ liftback 3 ประตู, coupe 2 ประตู และ convertible 2 ประตู

Generation ที่ 4 (รุ่นปี พ.ศ. 2529-2533)

[แก้]
โตโยต้า เซลิก้า โฉมที่ 4

เซลิก้ายุค 4 มีรหัสตัวถัง T160 ออกมาเปิดตัวครั้งแรกในเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2528 ได้มีการเปลี่ยนโฉมใหม่หมด โดยเปลี่ยนมาใช้ระบบขับเคลื่อนล้อหน้า กับแบบขับเคลื่อนสี่ล้อ ตัวถังรถเริ่มลดความเหลี่ยมลงเมื่อเทียบกับโฉมก่อนๆ และเครื่องยนต์สี่สูบ 1600, 1800 และ 2000 ซีซี ในรุ่นนี้มีทริมแบบ ST, GT และ GT-S โดยในรุ่นทริม GT เปิดประทุนมีหลังคาแบบอ่อนขึ้น รุ่นทริม ST และ GT มากับเครื่อง 2S-E SOHC 8 วาล์ว 2000 ซีซี 92 แรงม้า และได้เปลี่ยนเป็นเครื่องเครื่อง 3S-FE DOHC 116 แรงม้า ในปี พ.ศ. 2530 ซึ่งเป็นเครื่องที่ใช้ร่วมกับแคมรี รุ่นทริม GT-S ใช้เครื่อง 3S-GE DOCH 2000 ซีซี 135 แรงม้า

ในปี พ.ศ. 2531 โตโยต้าได้แนะนำเครื่อง GT-Four (ชื่อในสหรัฐว่า All-Trac) โดยเป็นรถขับเคลื่อนทุกล้อพร้อมกับเทอร์โบชาร์จ ภายใต้เครื่อง 3S-GTE 190 แรงม้า 2000 ซีซี ซึ่งได้กลายมาเป็นรถแรลลีอย่างเป็นทางการของโตโยต้า

โฉมนี้ มีตัวถัง 3 แบบ คือ liftback 3 ประตู, coupe 2 ประตู และ convertible 2 ประตู ระบบเกียร์มีให้เลือกซื้อ 2 ระบบ คือ อัตโนมัติ 4 สปีด และธรรมดา 5 สปีด

Generation ที่ 5 (รุ่นปี พ.ศ. 2533-2537)

[แก้]
โตโยต้า เซลิก้า โฉมที่ 5

โฉมที่ 5 เปิดตัวครั้งแรกในเดือนกันยายน พ.ศ. 2532 มีรหัสตัวถัง T180 โฉมนี้ได้ปรับเปลี่ยนรูปทรงไป โดยให้รถโค้งมนตลอดคัน แทนที่จะเหลี่ยมๆ เหมือนรุ่นก่อน และพัฒนาล้อและยาง โดยในอเมริกาเหนือ ทริม GT และ GT-S ใช้เครื่อง 5S-FE 2200 ซีซี ขณะที่ทริม ST สปอร์ต ใช้เครื่อง 4AFE 1600 ซีซี โดยทั้งหมดเป็น DOHC 16 วาล์ว โดยในปี พ.ศ. 2534 ได้มีการเปลี่ยนแปลงเครื่องเล็กน้อยเป็น 135 และ 145 แรงม้า

ในรุ่น GT และสูงกว่าได้มีการนำมาใช้ระบบเบรกแอนตีล็อก รวมถึงอุปกรณ์เสริมต่างๆเพิ่มความหรูหราให้กับเซลิก้า

รถโฉมนี้มีระบบเกียร์ให้เลือกซื้อ 2 ระบบ คือ อัตโนมัติ 4 สปีด และธรรมดา 5 สปีด วงการรถไทยนิยมเรียกว่า "โฉม Pop-Up"

เซลิก้าโฉมที่ 5
รหัสตัวถัง ทริม เครื่องยนต์ แรงม้า ทอร์ก ตลาด
AT180 ST 4A-FE 103HP@6000RPM 102ft-lb@3200RPM อเมริกา
ST182 GT-i 3S-GE 158HP@6600RPM 140ft-lb@2800RPM ญี่ปุ่น, ยุโรป
ST183 GT-R 3S-GE 162HP@6600RPM 147ft-lb@2800RPM ญี่ปุ่น, ยุโรป
ST184 GT,GT-S 5S-FE 130HP@5400RPM 140ft-lb@4400RPM อเมริกา
ST185 All-Trac,GT-Four 3S-GTE 210HP@5400RPM 200ft-lb@4400RPM ทุกที่

Generation ที่ 6 (รุ่นปี พ.ศ. 2537-2543)

[แก้]
โตโยต้า เซลิก้า โฉมที่ 6

เซลิก้าโฉมที่ 6 มีรหัสตัวถัง T200 เริ่มต้นผลิตในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2536 และส่งเข้าตลาดแทนที่โฉมที่ 5 ในรุ่นปี พ.ศ. 2537

เซลิก้าโฉมนี้ รุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ จะมีรหัสตัวถัง ST202-ST204 และรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ จะมีรหัสตัวถัง ST205

มีตัวถัง 3 รูปแบบ ได้แก่ liftback 3 ประตู, notchback 2 ประตู และ convertible 2 ประตู ความจุถังน้ำมันประมาณ 60.2 ลิตร

มีระบบเกียร์ 2 ระบบ คือ อัตโนมัติ 4 สปีด และธรรมดา 5 สปีด ขนาดเครื่องยนต์ 3 ขนาด คือ 1800, 2000, 2200 ซีซี โฉมนี้วงการรถในไทยมักเรียกว่า "โฉมตากลม"

Generation ที่ 7 (รุ่นปี พ.ศ. 2543-2548)

[แก้]
โตโยต้า เซลิก้า โฉมที่ 7

เซลิก้าโฉมที่ 7 มีรหัสตัวถัง T230 เริ่มต้นผลิตเดือนตุลาคม พ.ศ. 2542 ส่งเข้าตลาดแทนโฉมที่ 6 ในรุ่นปี พ.ศ. 2543

มีตัวถัง 1 รูปแบบ คือ liftback 3 ประตู ขนาดเครื่องยนต์ 1 ขนาด คือ 1800 ซีซี ยกเลิกตัวถังและเครื่องยนต์สำหรับขับเคลื่อนสี่ล้อ คงเหลือแต่ระบบขับเคลื่อนล้อหน้า

ระบบเกียร์ 3 ระบบ คือ อัตโนมัติ 4 สปีด, ธรรมดา 5 สปีด และธรรมดา 6 สปีด

รุ่นปีสุดท้ายของรถตระกูลเซลิก้า คือ รุ่นปี พ.ศ. 2548 ก่อนจะถูกโตโยต้าสั่งปิดตัวการผลิตรถตระกูลเซลิก้าลงในวันที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2549

อ้างอิง

[แก้]
  1. Toyota Vehicle Identification Manual. Japan: Toyota Motor Corporation – Overseas Parts Department. 1984. Catalog No.97913-84.

แหล่งข้อมูลอื่น

[แก้]