สรีรวิทยาไต
สรีรวิทยาไต เป็นการศึกษาสรีรวิทยาของไต อันครอบคลุมการทำหน้าที่ทุกอย่างของไต รวมถึงการดูดซึมกลับซึ่งกลูโคส กรดอะมิโน และสารโมเลกุลเล็กอื่น การกำกับแร่ธาตุโซเดียม โพแทสเซียมและอิเล็กโทรไลต์อื่น การกำกับสมดุลของเหลวและความดันเลือด การธำรงสมดุลกรด-เบส การผลิตฮอร์โมนหลายชนิด รวมถึงอีรีโทรปอยอีติน และการปลุกฤทธิ์วิตามินดี
สรีรวิทยาไตส่วนมากศึกษาที่ระดับหน่วยไต อันเป็นหน่วยทำหน้าที่เล็กที่สุดของไต แต่ละหน่วยเริ่มต้นด้วยส่วนกรองซึ่งกรองเลือดที่เข้าสู่ไต ของเหลวที่กรองได้จะไหลตามความยาวของหน่วยไต ซึ่งเป็นโครงสร้างรูปท่อบุด้วยเซลล์ที่เปลี่ยนไปทำหน้าที่เฉพาะชั้นเดียวและล้อมรอบด้วยหลอดเลือดฝอย หน้าที่หลักของเซลล์บุเหล่านี้ คือ การดูดน้ำและสารโมเลกุลเล็กจากของเหลวที่กรองได้กลับเข้าสู่เลือด และหลั่งของเสียจากเลือดออกมาเป็นปัสสาวะ
การทำหน้าที่ที่เหมาะสมของไตจำเป็นต้องได้รับและกรองเลือดอย่างเพียงพอ การกรองเกิดขึ้นในระดับที่เห็นด้วยกล้องจุลทรรศน์โดยหน่วยกรองหลายแสนหน่วย เรียก เม็ดไต (renal corpuscle) ซึ่งแต่ละหน่วยประกอบด้วยโกลเมอรูลัสและโบว์แมนแคปซูล การประเมินการทำหน้าที่ของไตสากลมักใช้การประมาณอัตราการกรอง เรียก อัตราการกรองของโกลเมอรูลัส (glomerular filtration rate; GFR)
หน้าที่ของไต
[แก้]หน้าที่ของไตสามารถแบ่งได้เป็นสามกลุ่ม คือ การหลั่งฮอร์โมน การสร้างกลูโคส (gluconeogenesis) และภาวะธำรงดุลนอกเซลล์ของ pH และองค์ประกอบของเลือด หน่วยไตเป็นหน่วยที่ทำหน้าที่ของไต
การหลั่งฮอร์โมน
[แก้]- การหลั่งอีรีโทรปอยอีติน (erythropoietin) ซึ่งกำกับการผลิตเม็ดเลือดแดงในไขกระดูก
- การหลั่งเรนิน ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในระบบเรนิน-แองจิโอเทนซิน-อัลโดสเตอโรน (renin-angiotensin-aldosterone system)
- การหลั่งรูปกัมมันต์ของวิตามินดี (แคลซิไตรออล, calcitriol) และพรอสตาแกลนดิน (prostaglandin)
การสร้างกลูโคส
[แก้]ไตในมนุษย์สามารถผลิตกลูโคสได้จากแลกเตด กลีเซอรอลและกลูตามีน ไตรับผิดชอบการสร้างกลูโคสเกือบครึ่งหนึ่งของทั้งหมดในมนุษย์ที่อดอาหาร การกำกับการผลิตกลูโคสในไตเป็นฤทธิ์ของอินซูลิน แคตีโคลามีนและฮอร์โมนอื่น การสร้างกลูโคสของไตเกิดขึ้นในไตส่วนนอก ส่วนไตส่วนในไม่สามารถผลิตกลูโคสได้เนื่องจากขาดเอ็นไซม์ที่จำเป็น
ภาวะธำรงดุลนอกเซลล์
[แก้]ไตรับผิดชอบต่อการรักษาสมดุลของสารต่อไปนี้
สาร | คำอธิบาย | หลอดไตส่วนต้น | ห่วงเฮนเล | หลอดไตส่วนปลาย | ท่อรวม |
กลูโคส | หากกลูโคสไม่ถูกไตดูดซึมกลับ กลูโคสจะปรากฏในปัสสาวะ เป็นภาวะปัสสาวะมีน้ำตาล ซึ่งสัมพันธ์กับเบาหวาน[1] | การดูดซัมกลับ (เกือบ 100%) ผ่าน โปรตีนขนส่งโซเดียม-กลูโคส[2] (ยอด) และ GLUT (ฐานข้าง) | – | – | – |
โอลิโกเปปไทด์, โปรตีน, และกรดอะมิโน | ทั้งหมดถูกดูดซึมกลับแทบทั้งหมด[3] | การดูดซึมกลับ | – | – | – |
ยูเรีย | การกำกับออสโมแลลิตี แปรผันตาม ADH[4][5] | การดูดซึมกลับ (50%) โดย การลำเลียงแบบไม่ใช้พลังงาน | การหลั่ง | – | การดูดซึมกลับในท่อรวมส่วนนอก |
โซเดียม | ใช้ แอนตีพอร์ต Na-H, ซิมพอร์ต Na-กลูโคส, ช่องไอออนโซเดียม (เล็กน้อย)[6] | การดูดซึมกลับ (65%, ออสโมลเสมอ) | การดูดซึมกลับ (25%, ส่วนขึ้นหนา, ซิมพอร์ต Na-K-2Cl) | การดูดซึมกลับ (5%, ซิมพอร์ตโซเดียม-คลอไรด์) | การดูดซึมกลับ (5%, เซลล์พรินซิพอล), กระตุ้นโดย อัลโดสเตอโรน ผ่าน ENaC |
คลอไรด์ | มักตามโซเดียม ใช้พลังงาน (ผ่านเซลล์) และไม่ใช้พลังงาน (ข้างเซลล์) [6] | การดูดซึมกลับ | การดูดซึมกลับ (ส่วนขึ้นบาง, ส่วนขึ้นหนา, ซิมพอร์ต Na-K-2Cl) | การดูดซึมกลับ (ซิมพอร์ตโซเดียม-คลอไรด์) | – |
น้ำ | ใช้ช่องน้ำเอควาพอริน ดูเพิ่มที่ การขับปัสสาวะ | การดูดตามออสโมติกร่วมกับสารละลาย | การดูดซึมกลับ (ส่วนลง) | – | การดูดซึมกลับ (กำกับโดย ADH ผ่าน ตัวรับอาร์จินีนวาโซเพรสซิน 2) |
ไบคาร์บอเนต | ช่วยรักษาสมดุลกรด-เบส[7] | การดูดซึมกลับ (80–90%) [8] | การดูดซึมกลับ (ส่วนขึ้นหนา) [9] | – | การดูดซึมกลับ (เซลล์แทรก ผ่าน แบนด์ 3 และ เพนดริน) |
โปรตอน | ใช้ โปรตอนเอทีพีเอสช่องว่าง | – | – | – | การหลั่ง (เซลล์แทรก) |
โพแทสเซียม | แปรผันตามความต้องการอาหาร | การดูดซึมกลับ (65%) | การดูดซึมกลับ (20%, ส่วนขึ้นหนา, ซิมพอร์ต Na-K-2Cl) | – | การหลั่ง (พบมาก, ผ่าน Na+/K+- เอทีพีเอส, เพิ่มขึ้นโดย อัลโดสเตอโรน), หรือการดูดซึมกลับ (พบน้อย, ไฮโดรเจนโพแทสเซียมเอทีพีเอส) |
แคลเซียม | ใช้แคลเซียมเอทีพีเอส, ตัวแลกโซเดียม-แคลเซียม | การดูดซึมกลับ | การดูดซึมกลับ (ส่วนขึ้นหนา) ผ่านการลำเลียงแบบไม่ใช้พลังงาน | การดูดซึมกลับสนองต่อ PTH และ ↑ การดูดซึมกลับด้วยยาขับปัสสาวะไทอะไซด์ | – |
แมกนีเซียม | แคลเซียมและแมกนีเซียมแย่งกัน และส่วนเกินของธาตุหนึ่งอาจนำไปสู่การหลั่งอีกธาตุหนึ่ง | การดูดซึมกลับ | การดูดซึมกลับ (ส่วนขึ้นหนา) | การดูดซึมกลับ | – |
ฟอสเฟต | ขับออกในรูปกรดไทเทรตได้ | การดูดซึมกลับ (85%) โดย ตัวส่งร่วมโซเดียม/ฟอสเฟต[2] ยับยั้งโดย ฮอร์โมนพาราไทรอยด์ | – | – | – |
คาร์บอกซิเลต | การดูดซึมกลับ (100%[10]) ผ่าน ตัวส่งคาร์บอกซิเลต | – | – | – |
อ้างอิง
[แก้]- ↑ Sect. 7, Ch. 6: Characteristics of Proximal Glucose Reabsorption. lib.mcg.edu
- ↑ 2.0 2.1 Sect. 7, Ch. 5: Cotransport (Symport). lib.mcg.edu
- ↑ Sect. 7, Ch. 6: Proximal Reabsorption of Amino Acids: Site of Reabsorption. lib.mcg.edu
- ↑ Sect. 7, Ch. 6: Proximal Reabsorption of Urea. lib.mcg.edu
- ↑ V. Excretion of Organic Molecules. lib.mcg.edu
- ↑ 6.0 6.1 "VI. Mechanisms of Salt & Water Reabsorption". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2007-02-10. สืบค้นเมื่อ 2014-07-03.
- ↑ Sect. 7, Ch. 6: Proximal Reabsorption of Bicarbonate. lib.mcg.edu
- ↑ Sect. 7, Ch. 12: Proximal Tubular Reabsorption of Bicarbonate. lib.mcg.edu
- ↑ Sect. 7, Ch. 12: Bicarbonate Reabsorption, Thick Limb of Henle’s Loop. lib.mcg.edu
- ↑ Walter F., PhD. Boron (2005). Medical Physiology: A Cellular And Molecular Approaoch. Elsevier/Saunders. ISBN 1-4160-2328-3. Page 799