ผลต่างระหว่างรุ่นของ "มนตร์"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Chainwit. (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
ป้ายระบุ: แก้ไขจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขจากเว็บสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่
BotKung (คุย | ส่วนร่วม)
เก็บกวาดบทความด้วยบอต
บรรทัด 1: บรรทัด 1:
[[File:Wat Chedi Luang Assembly Hall, Chiang Mai, Thailand - Diliff.jpg|thumb|[[พระสงฆ์]]กำลังสวดมนต์ [[ทำวัตร]] ใน[[วัดเจดีย์หลวงวรวิหาร]]]]
[[ไฟล์:Wat Chedi Luang Assembly Hall, Chiang Mai, Thailand - Diliff.jpg|thumb|[[พระสงฆ์]]กำลังสวดมนต์ [[ทำวัตร]] ใน[[วัดเจดีย์หลวงวรวิหาร]]]]


'''มนตร์''' ({{lang-sa|मन्त्र}}) หรือ '''มนต์''' ({{lang-pi|manta}}) [[คำ]][[ศักดิ์สิทธิ์]]หรือคำสำหรับสวดเพื่อเป็นสิริ[[มงคล]]<ref>[[ราชบัณฑิตยสถาน]], ''[[พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2554]]'', กรุงเทพฯ: ราชบัณฑิตยสถาน, หน้า 878</ref> พบใน[[ศาสนาแบบอินเดีย]] ทั้ง[[ศาสนาฮินดู]] [[ศาสนาเชน]] [[ศาสนาพุทธ]] [[ศาสนาซิกข์]] โดยทั่วไปมักเป็นคำสรรเสริญสิ่งศักดิ์สิทธิ์
'''มนตร์''' ({{lang-sa|मन्त्र}}) หรือ '''มนต์''' ({{lang-pi|manta}}) [[คำ]][[ศักดิ์สิทธิ์]]หรือคำสำหรับสวดเพื่อเป็นสิริ[[มงคล]]<ref>[[ราชบัณฑิตยสถาน]], ''[[พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2554]]'', กรุงเทพฯ: ราชบัณฑิตยสถาน, หน้า 878</ref> พบใน[[ศาสนาแบบอินเดีย]] ทั้ง[[ศาสนาฮินดู]] [[ศาสนาเชน]] [[ศาสนาพุทธ]] [[ศาสนาซิกข์]] โดยทั่วไปมักเป็นคำสรรเสริญสิ่งศักดิ์สิทธิ์

รุ่นแก้ไขเมื่อ 03:02, 12 มกราคม 2562

พระสงฆ์กำลังสวดมนต์ ทำวัตร ในวัดเจดีย์หลวงวรวิหาร

มนตร์ (สันสกฤต: मन्त्र) หรือ มนต์ (บาลี: manta) คำศักดิ์สิทธิ์หรือคำสำหรับสวดเพื่อเป็นสิริมงคล[1] พบในศาสนาแบบอินเดีย ทั้งศาสนาฮินดู ศาสนาเชน ศาสนาพุทธ ศาสนาซิกข์ โดยทั่วไปมักเป็นคำสรรเสริญสิ่งศักดิ์สิทธิ์

ศาสนาพุทธ

ในศาสนาพุทธ มีการใช้มนต์ในหลายนิกาย ในแต่ละนิกายมีมนต์สำคัญดังนี้

นิกาย มนตร์
วัชรยาน โอมฺ มณิปทฺเม หู ॐ मणिपद्मे हूं
สุขาวดี โอมฺ อมิตาภ หฺรีะ
นิชิเร็ง นัม เมียวโฮ เร็งเงะ เคียว

ศาสนาฮินดู

นิกาย มนตร์
ลัทธิไศวะ โอมฺ นมะ ศิวาย ॐ नमः शिवाय
ลัทธิไวษณพ โอมฺ วิษฺณเว นมะ ॐ विष्णवे नमः
ลัทธิคเณศ โอมฺ ศฺรี คเณศาย นมะ ॐ श्री गणेशाय नमः

ลัทธิอนุตตรธรรม

ลัทธิอนุตตรธรรมเรียกมนตร์ว่ารหัสคาถา หรือ สัจจคาถา (จีน: 口訣) และเชื่อว่าพระแม่องค์ธรรมได้แบ่งธรรมกาลออกเป็น 3 ยุค เรียกว่ายุคสามกัปสุดท้าย ในแต่ละยุค พระแม่จะมอบหมายให้พระพุทธเจ้าเป็นผู้ปกครองและมีรหัสคาถากำหนดไว้แตกต่างกันไป ดังต่อไปนี้[2]

ธรรมกาล ระยะเวลา ผู้ปกครอง รหัสคาถา
ยุคเขียว 1886 ปี พระทีปังกรพุทธเจ้า อู๋เลี่ยงโซ่วฝอ
ยุคแดง 3,140 พระศากยมุนีพุทธเจ้า หนันอู๋อาหมีถัวฝอ
ยุคขาว 10,800 ปี พระศรีอริยเมตไตรย อู๋ไท่ฝอหมีเล่อ

สัจจคาถาถือเป็นคาถาศักดิ์สิทธิ์ที่สุด เป็นความลับของสวรรค์ ห้ามจดบันทึก ห้ามนำไปบอกต่อ มีเฉพาะผู้ได้รับอาณัติสวรรค์ (ได้แก่ จู่ซือ เหล่าเฉียนเหริน เฉียนเหริน และเตี่ยนฉวนซือ) เท่านั้นที่เปิดเผยสัจจคาถาได้ เมื่อเผชิญภัยอันตรายท่องคาถานี้แล้วสิ่งศักดิ์สิทธิ์จะช่วยให้พ้นอันตรายและวิบากกรรมต่าง ๆ[3]

อ้างอิง

  1. ราชบัณฑิตยสถาน, พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2554, กรุงเทพฯ: ราชบัณฑิตยสถาน, หน้า 878
  2. สายทอง (พงศาธรรม ๑), ศุภนิมิต ผู้แปล, กรุงเทพฯ: ส่งเสริมคุณภาพชีวิต, ม.ป.ป., หน้า 24-40
  3. เกษร สุทธจิต จันทร์ประภาพ, ธรรมประธานพร เล่ม ๕, เชียงใหม่: บี.เอส.ดี การพิมพ์, 2547, หน้า 185-191