ซาโลรา
เนื้อหาในบทความนี้ล้าสมัย โปรดปรับปรุงข้อมูลให้เป็นไปตามเหตุการณ์ปัจจุบันหรือล่าสุด ดูหน้าอภิปรายประกอบ |
อุตสาหกรรม | การค้าปลีกแบบออนไลน์ สินค้าแฟชั่น เสื้อผ้า รองเท้า และกระเป๋า |
---|---|
ก่อตั้ง | พ.ศ. 2555 |
สำนักงานใหญ่ | สิงคโปร์ |
พื้นที่ให้บริการ | สิงคโปร์ อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฮ่องกง ไทย ฟิลิปปินส์ เวียดนาม บรูไน ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ |
ผลิตภัณฑ์ | เสื้อผ้า รองเท้า เครื่องประดับ ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวและเครื่องสำอาง |
บริษัทแม่ | Rocket Internet (สิงคโปร์ อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฮ่องกง ฟิลิปปินส์ บรูไน ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์) กลุ่มเซ็นทรัล (ไทย เวียดนาม) |
เว็บไซต์ | http://www.zalora.com/ |
ซาโลรา คือบริษัทชอปปิงออนไลน์ด้านการค้าปลีกสินค้าแฟชั่นและความงาม มีทั้งเสื้อผ้า เครื่องประดับ กระเป๋า รองเท้า ทั้งของสุภาพบุรุษและสุภาพสตรี รวมไปจนถึงผลิตภัณฑ์ทางด้านความงามและเครื่องสำอาง มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่ประเทศสิงคโปร์ และมีสาขาอยู่ใน 8 ประเทศ ได้แก่ สิงคโปร์ ไทยแลนด์ ฮ่องกง ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย เวียดนาม มาเลเซีย และบรูไน โดยสินค้าที่จัดจำหน่ายนั้นมีทั้งสินค้าจากยี่ห้อระดับโลก และสินค้าจากประเทศนั้น ๆ นอกจากนี้ยังมีสาขาในประเทศออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ ภายใต้ชื่อว่า The_Iconic การลงทุนของบริษัท Rocket Internet ในประเทศสิงคโปร์ถือเป็นครั้งที่มีความโดดเด่นและสำคัญที่สุดครั้งหนึ่ง
ปัจจุบัน Rocket Internet ได้เริ่มถอนทุนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้บางส่วน เริ่มจากไทยและเวียดนามที่ไม่คุ้มทุน โดยได้กลุ่มเซ็นทรัลเป็นผู้ซื้อกิจการเว็บไซต์ในไทยและเวียดนามต่อ ซึ่งภายหลังได้โอนเป็นกรรมสิทธิ์ภายใต้การถือครองของออฟฟิศเมทหรือซีโอแอล โดยในประเทศไทย ออฟฟิศเมทได้ประกาศเปลี่ยนชื่อธุรกิจใหม่เป็น ลุคสิ (LOOKSI) ส่วนในประเทศเวียดนาม กลุ่มออฟฟิศเมทได้นำกิจการซาโลรารวมเข้ากับห้างสรรพสินค้าโรบินสันในเวียดนาม และเปิดดำเนินการในชื่อ โรบินส์ (ROBINS)
ประวัติ
[แก้]ปี 2555
[แก้]ซาโลราเปิดตัวสาขาในหลายประเทศ ได้แก่ สิงคโปร์ ไทย ฮ่องกง ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย เวียดนาม มาเลเซีย และบรูไน[1]
ปี 2556
[แก้]ใน 4 เดือนแรกของปี 2556 ซาโลราขยายการบริการที่สาขาประเทศมาเลเซียด้วยการจัดส่งสินค้าแบบถึงมือผู้รับตรงสู่ประเทศบรูไน กลางปี 2556 ซาโลราได้ทุบสติการลงทุนสูงถึง 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ[2] รวมไปจนถึงสี่เดือนสุดท้ายของปี ซาโลราได้เปิดตัวแบรนด์เป็นของตัวเองภายใต้ชื่อ EZRA by ZALORA และนอกจากนี้ยังเป็นที่แรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ได้นำเข้ายี่ห้อดังจากเกาะเกรตบริเตน River Island พร้อมทั้งยังได้ทำสัญญาเพื่อเป็นเว็บไซต์เพียงแห่งเดียวที่ได้จัดจำหน่ายทางออนไลน์อีกด้วย[3] ปิดท้ายด้วยการประกาศความสำเร็จอีกครั้ง ด้วยการทุบสถิติการลงทุนที่สูงถึง 112 ล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปีเดียวกัน[4] ซึ่งการลงทุนครั้งนี้ทำให้ซาโลราได้เติบโตทางธุรกิจไปพร้อม ๆ กับมีความหลากหลายของสินค้าเพื่อชิงส่วนแบ่งทางการตลาดที่มากยิ่งขึ้น[5]
ปี 2557
[แก้]4 เดือนแรกของปี 2557 ซาโลราได้เปิดตัวสถานที่ซื้อขายอีกหนึ่งช่องการตลาดแนวใหม่แบบผู้บริโภคสู่ผู้บริโภค[6]
12.12 Online Fever ซึ่งเกิดขึ้นทุกวันที่ 12 ธันวาคมของทุกปี เป็นความคิดริเริ่มจากซาโลราที่ต้องการจะเร่งการเติบโตของธุรกิจการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ ซาโลราจึงได้จับมือร่วมกับกับบริษัทพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ จากอุตสาหกรรมที่หลากหลายในภูมิภาค เพื่อร่วมกันผลักดันการใช้จ่ายจากผู้บริโภคและสร้างความเชื่อมั่นในการซื้อของออนไลน์ ซึ่งในระหว่างช่วงระยะเวลาของ "Online Fever"[7] นี้ ผู้บริโภคจะได้รับสิทธิพิเศษมากมายคล้าย ๆ กับแบล็กไฟรเดย์นั่นเอง
อ้างอิง
[แก้]- ↑ Rocket Internet’s ZALORA receives investment from JP Morgan for further growth, by Jacky Yap, at e27.co; published September 26; 2012 retrieved May 27 2014
- ↑ Rocket Internet’s Fashion E-Store ZALORA Scores $100 Million in Funding, by Steven Millward; retrieved May 27, 2014 at Tech in Asia; published May 22, 2013; retrieved May 27 2014
- ↑ Thanks, ZALORA Singapore: River Island Makes Its Comeback เก็บถาวร 2014-12-13 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, by Shah Salimat; published October 5, 2013; retrieved May 27, 2013
- ↑ Asian online retailer ZALORA gets $112 mln in new funding, by Emma Thomasson, at Reuters; published December 3, 2013; retrieved May 27, 2014
- ↑ Access Industries Leads $112M Round In Rocket Internet Asia-Pacific Fashion Sites Zalora And The Iconic, by Ingrid Lundgen, at Techcrunch.com; published December 3, 2013; retrieved May 27, 2014
- ↑ Rocket Internet-Backed Fashion Site ZALORA To Launch Marketplace In Asia, by Pankag Mishra, at Techcrunch.com; published January 14, 2014; retrieved May 27, 2014
- ↑ "Online Fever". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2014-12-21. สืบค้นเมื่อ 2014-12-09.