อัลฟอนโซ เดวีส์
ข้อมูลส่วนตัว | |||
---|---|---|---|
ชื่อเต็ม | อัลฟอนโซ บอยล์ เดวีส์ | ||
วันเกิด | 2 พฤศจิกายน ค.ศ. 2000 | ||
สถานที่เกิด | บูดูบูราม กานา | ||
ส่วนสูง | 1.81 เมตร (5 ฟุต 11 นิ้ว)[1] | ||
ตำแหน่ง | แบ็กซ้าย, ปีก | ||
ข้อมูลสโมสร | |||
สโมสรปัจจุบัน | ไบเอิร์นมิวนิก | ||
หมายเลข | 19 | ||
สโมสรเยาวชน | |||
2005 | เอ็ดมันตันอินเตอร์เนชันนัลส์ | ||
2006–2014 | เอ็ดมันตันสไตรเกอส์ | ||
2015–2016 | ไวต์แคปส์เรซิเดนซี | ||
สโมสรอาชีพ* | |||
ปี | ทีม | ลงเล่น | (ประตู) |
2016 | แวนคูเวอร์ไวต์แคปส์ 2 | 11 | (2) |
2016–2018 | แวนคูเวอร์ไวต์แคปส์ | 65 | (8) |
2019 | ไบเอิร์นมิวนิก 2 | 6 | (0) |
2019– | ไบเอิร์นมิวนิก | 92 | (5) |
2025- | เรอัล มาดริด | 0 | (0) |
ทีมชาติ‡ | |||
2016 | แคนาดา อายุไม่เกิน 17 ปี | 2 | (1) |
2016 | แคนาดา อายุไม่เกิน 20 ปี | 1 | (0) |
2017– | แคนาดา | 37 | (13) |
*นัดที่ลงเล่นและประตูที่ยิงให้แก่สโมสรเฉพาะลีกในประเทศเท่านั้น ข้อมูลล่าสุด ณ วันที่ 5 พฤศจิกายน 2022 ‡ ข้อมูลการลงเล่นและประตูให้แก่ทีมชาติล่าสุด ณ วันที่ 1 ธันวาคม 2022 |
อัลฟอนโซ บอยล์ เดวีส์ (อังกฤษ: Alphonso Boyle Davies; เกิดวันที่ 2 พฤศจิกายน ค.ศ. 2000)[2] เป็นนักฟุตบอลอาชีพชาวแคนาดาที่เล่นในตำแหน่งแบ็กซ้ายหรือปีกให้กับไบเอิร์นมิวนิกในบุนเดิสลีกาและทีมชาติแคนาดา
เดวีส์เป็นผู้เล่นคนแรกที่เกิดในคริสตทศวรรษ 2000 ที่ได้ลงเล่นในเมเจอร์ลีกซอกเกอร์ เขาย้ายจากแวนคูเวอร์ไวต์แคปส์ไปยังไบเอิร์นมิวนิกในเดือนมกราคม ค.ศ. 2019 แบบไม่มีค่าตัว และเซ็นสัญญาจนถึง ค.ศ. 2023[3][4] เขาได้รับรางวัลผู้เล่นหน้าใหม่ยอดเยี่ยมประจำบุนเดิสลีกา ฤดูกาล 2019–20[5]
ในเดือนมิถุนายน ค.ศ. 2017 เขากลายเป็นผู้เล่นอายุน้อยที่สุดที่ได้ลงเล่นให้กับทีมชาติแคนาดา[6] เขาทำสองประตูในนัดที่พบกับเฟรนช์เกียนาในคอนคาแคฟโกลด์คัพปี 2017 ทำให้เขากลายเป็นผู้เล่นอายุน้อยที่สุดที่ทำประตูให้กับทีมชาติแคนาดา ผู้เล่นอายุน้อยที่สุดที่ทำประตูในคอนคาแคฟโกลด์คัพ และผู้เล่นคนแรกที่เกิดในคริสตทศวรรษ 2000 ที่ทำประตูในรายการแข่งขันหลักระดับทวีป[7]
ชีวิตช่วงต้น
[แก้]เดวีส์เกิดที่ค่ายลี้ภัยบูดูบูรามในประเทศกานา บิดามารดาเป็นชาวไลบีเรีย[8][9] เดิมที เดเบ เดวีส์ (บิดา) และวิกตอเรีย เดวีส์ (มารดา) เคยอาศัยในมอนโรเวีย เมืองหลวงของประเทศไลบีเรีย[10] ต่อมาได้ลี้ภัยในช่วงสงครามกลางเมืองไลบีเรียครั้งที่สองพร้อมกับชาวไลบีเรียอีก 450,000 คน[11][12] เมื่ออัลฟอนโซอายุได้ 5 ขวบ ครอบครัวของเขาได้ย้ายไปอาศัยที่เอ็ดมันตันในประเทศแคนาดา[6][11] ในวันที่ 6 มิถุนายน ค.ศ. 2017 เขาได้รับสัญชาติแคนาดา[13] เขามีพี่น้องทั้งหมด 6 คน โดยเขาเป็นบุตรลำดับที่ 4[14]
เดวีส์เข้าศึกษาที่โรงเรียนมัธยมต้นเซนต์นิโคลัสคาทอลิกในเขตโรงเรียนคาทอลิกเอ็ดมันตัน เพื่อนร่วมทีมฟุตบอลโรงเรียนของเขา ออเนสฟอร์ ฮามิส กล่าวว่า "ฟุตบอลเป็นสิ่งที่เขาต้องการ แต่ภาษานั้นยังคงเป็นปัญหา"[15] เพื่อนร่วมชมรมละครชาวแคนาดาที่อพยพมาจากไลบีเรียและเป็นเพื่อนสนิทกับเขา เชอร์นอ ฟานบูลเล กล่าวว่า เขาพูดภาษาอังกฤษแบบไลบีเรีย[15]
สโมสรอาชีพ
[แก้]เยาวชน
[แก้]ในช่วงวัยเด็กที่เอ็ดมันตัน เดวีส์เริ่มเล่นฟุตบอลกับฟรีฟุตตี ลีกฟุตบอลหลังเลิกเรียนสำหรับนักเรียนประถมในเมืองที่ไม่สามารถลงทะเบียนค่าใช้จ่ายและอุปกรณ์[16] หลังจากที่เล่นให้กับเอ็ดมันตันอินเตอร์เนชันนัลส์และเอ็ดมันตันสไตรเกอส์ เดวีส์ในวัย 14 ปี ย้ายไปไวต์แคปส์เรสซิเดนซีเมื่อ ค.ศ. 2015[17][8][18]
ไวต์แคปส์ 2
[แก้]หลังจากที่ย้ายร่วมแวนคูเวอร์ไวต์แคปส์ในช่วงก่อนเปิดฤดูกาล 2016[19] เขาได้เซ็นสัญญากับทีมสำรองในยูไนเต็ดซอกเกอร์ลีกเมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2016[20] เขากลายเป็นผู้เล่นอายุน้อยที่สุดที่เซ็นสัญญาในยูไนเต็ดซอกเกอร์ลีก ด้วยวัยเพียง 15 ปี 3 เดือน เดวีส์ลงเล่นระดับอาชีพครั้งแรกในเดือนเมษายน ค.ศ. 2016 ด้วยวัยเพียง 15 ปี 5 เดือน[21] ในวันที่ 15 พฤษภาคม ค.ศ. 2016 เขาทำประตูแรกในระดับอาชีพ ทำให้เขากลายเป็นผู้เล่นอายุน้อยที่สุดที่ทำประตูในยูไนเต็ดซอกเกอร์ลีก ด้วยวัยเพียง 15 ปี 6 เดือน[22][a] สำหรับในฤดูกาล 2016 เขาทำสองประตูจากการลงเล่น 11 นัดในยูไนเต็ดซอกเกอร์ลีก[23]
แวนคูเวอร์ไวต์แคปส์
[แก้]เดวีส์มีชื่อในทีมไวต์แคปส์สำหรับการแข่งขันคะเนเดียนแชมเปียนชิปฤดูกาล 2016 โดยมีสัญญาระยะสั้น[24] วันที่ 1 มิถุนายน ค.ศ. 2016 เขาลงเล่นนัดแรกให้กับทีมชุดใหญ่ในเลกแรกของแชมเปียนชิปนัดที่พบกับออตตาวาฟิวรี และได้ลงเล่นในเลกที่สองที่แวนคูเวอร์[25]
วันที่ 15 กรกฎาคม ค.ศ. 2016 เดวีส์เซ็นสัญญากับทีมชุดใหญ่จนถึงปี 2018 โดยมีตัวเลือกในการขยายสัญญาจนถึงฤดูกาล 2019 และ 2020 ณ เวลาที่เซ็นสัญญา เขากลายเป็นผู้เล่นอายุน้อยที่สุดที่อยู่ในเมเจอร์ลีกซอกเกอร์ในตอนนั้น และเป็นผู้เล่นอายุน้อยที่สุดอันดับที่สามที่เซ็นสัญญาในเมเจอร์ลีกซอกเกอร์[26] เดวีส์ลงเล่นนัดแรกในเมเจอร์ลีกซอกเกอร์เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม ค.ศ. 2016 ทำให้เขากลายเป็นผู้เล่นอายุน้อยที่สุดอันดับที่สองที่ลงเล่นในเมเจอร์ลีกซอกเกอร์ รองจากเฟรดดี อาดู[27] ในเดือนกันยายน ค.ศ. 2016 เขาทำประตูแรกให้กับทีมชุดใหญ่ในคอนคาแคฟแชมเปียนส์ลีก ฤดูกาล 2016–17 นัดที่พบกับสปอร์ติงแคนซัสซิตี เขายิงประตูในช่วงทดเวลาช่วยให้ทีมผ่านเข้าสู่รอบแพ้คัดออก[28] และในเดือนเดียวกันนี้เอง เขากลายเป็นผู้เล่นอายุน้อยที่สุดอันดับที่สองที่ลงเล่นเป็นตัวจริงในเมเจอร์ลีกซอกเกอร์ ในนัดที่พบกับโคโลราโดแรปิดส์[29] วันที่ 2 ตุลาคม ค.ศ. 2016 เขายิงลูกโทษในนัดที่พบกับซีแอตเทิลซาวเดอส์[30] ระหว่างฤดูกาล 2016 เดวีส์ลงเล่นในเมเจอร์ลีกซอกเกอร์ 8 นัด[31] คะเนเดียนแชมเปียนชิป 4 นัด[31] และคอนคาแคฟแชมเปียนส์ลีก 3 นัด[32]
หลังจากที่ทำผลงานน่าประทับใจในเมเจอร์ลีกซอกเกอร์ เดวีส์ได้รับความสนใจจากสโมสรยุโรปหลายแห่ง ซึ่งรวมถึง แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด เชลซี และลิเวอร์พูล[33] เขามีชื่อติดหนึ่งใน 60 ผู้เล่นดาวรุ่งที่ดีที่สุดในโลกประจำปี 2017[34] ในนัดเปิดสนามฤดูกาล 2018 เขาทำประตูและแอสซิสต์ให้เคย์ คามารา ทำประตูในการพบกับมอนทรีออลอิมแพ็ค[35] วันที่ 10 มิถุนายน ค.ศ. 2018 เขาทำหนึ่งประตูและสามแอสซิสต์ในนัดที่เอาชนะออร์แลนโดซิตี 5–2[36] และทำสองประตูและสองแอสซิสต์ในนัดที่เอาชนะมินเนโซตายูไนเต็ด 4–2 ในวันที่ 29 กรกฎาคม[37]
วันที่ 29 มิถุนายน ค.ศ. 2018 เดวีส์มีชื่อติดทีมรวมดาราเมเจอร์ลีกซอกเกอร์ในเกมออลสตาร์ 2018 เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม ในนัดที่พบกับยูเวนตุส[38] เขาได้ลงเล่นในนัดนั้น ซึ่งสุดท้ายแล้วทีมรวมดาราพ่ายแพ้ในการยิงลูกโทษ 3–5 หลังจากที่เสมอในเวลา 1–1[39] เดวีส์ได้รับรางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมแห่งปีของสโมสรเมื่อวันที่ 24 ตุลาคม[40] และยังได้รับรางวัลประตูยอดเยี่ยมแห่งปีของสโมสรด้วย[41] ในนัดสุดท้ายที่เขาลงเล่นให้กับแวนคูเวอร์เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม เขาทำสองประตูช่วยให้ทีมเอาชนะพอร์ตแลนด์ทิมเบอส์ไปได้ 2–1[42]
ไบเอิร์นมิวนิก
[แก้]วันที่ 25 กรกฎาคม ค.ศ. 2018 แวนคูเวอร์ประกาศว่าไบเอิร์นมิวนิกในบุนเดิสลีกา บรรลุข้อตกลงในการคว้าตัวเดวีส์ด้วยค่าตัวหลายล้านดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม เขาจะยังลงเล่นให้กับแวนคูเวอร์ในฤดูกาล 2018 ก่อนที่จะย้ายไปไบเอิร์นในเดือนมกราคม ค.ศ. 2019[43][44] ค่าตัวในการย้ายอยู่ที่ 13.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ พร้อมโบนัสในการเพิ่มค่าตัวเป็น 22 ล้านดอลลาร์สหรัฐ นับเป็นผู้เล่นที่มีค่าตัวสูงที่สุดที่ย้ายออกจากเมเจอร์ลีกซอกเกอร์[4] แต่สถิตินี้ก็ถูกทำลายโดยมิเกล อัลมิรอน ที่ย้ายไปนิวคาสเซิลยูไนเต็ด[45] เดวีส์ลงฝึกซ้อมกับไบเอิร์นครั้งแรกเมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน ค.ศ. 2018[46] และได้ลงเล่นนัดแรกเมื่อวันที่ 12 มกราคม ค.ศ. 2019 ในเทเลกอมคัพนัดชิงชนะเลิศที่พบกับโบรุสซีอาเมินเชินกลัทบัค ซึ่งไบเอิร์นสามารถเอาชนะการยิงลูกโทษหลังจากที่เสมอในเวลาแบบไม่มีประตู[47] เดวีส์ลงเล่นนัดแรกในบุนเดิสลีกาเมื่อวันที่ 27 มกราคม ในนัดที่พบกับเฟาเอ็ฟเบ ชตุทท์การ์ท โดยเขาลงเล่นเป็นตัวสำรองแทนที่กีงส์แล กอมาน ช่วยให้ทีมเอาชนะไปได้ 3–1[48] เขาทำประตูแรกให้กับไบเอิร์นในวันที่ 17 มีนาคม โดยเป็นประตูสุดท้ายในนัดที่เอาชนะไมนทซ์ 05 6–0[49] ทำให้เขา ด้วยวัยเพียง 18 ปี 4 เดือน 15 วัน กลายเป็นผู้เล่นที่อายุน้อยที่สุดที่ทำประตูให้ไบเอิร์น นับตั้งแต่ที่ Roque Santa Cruz เคยทำไว้เมื่อ 20 ปีที่แล้ว เขายังเป็นผู้เล่นชาวแคนาดาคนแรกที่ทำประตูให้กับไบเอิร์น[50] วันที่ 18 พฤษภาคม ค.ศ. 2019 เดวีส์ชนะเลิศบุนเดิสลีกาสมัยแรก หลังจากที่ไบเอิร์นมี 78 คะแนน เหนือโบรุสซีอาดอร์ทมุนท์ในตารางเพียง 2 คะแนนเท่านั้น สัปดาห์ถัดมา เดวีส์ชนะเลิศเดเอ็ฟเบ-โพคาลสมัยแรก หลังจากที่ไบเอิร์นเอาชนะแอร์เบ ไลพ์ซิช 3–0 ในเดเอ็ฟเบ-โพคาล 2019 รอบชิงชนะเลิศ แม้ว่าในนัดนั้นเขาจะไม่ได้ลงเล่นก็ตาม[51]
เดวีส์ลงเล่นเป็นตัวจริงในลีกครั้งแรกกับไบเอิร์นในนัดที่ 9 ของบุนเดิสลีกา ฤดูกาล 2019–20 เขาลงเล่นครบ 90 นาที ช่วยให้ทีมเปิดบ้านเอาชนะอูนีโอนแบร์ลีนไปได้ 2–1[52] เขาลงเล่นนัดแรกในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกเมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน ค.ศ. 2019 ในนัดที่เอาชนะโอลิมเบียโกส 2–0[53] ตลอดฤดูกาล 2019–20 เดวีส์เล่นในตำแหน่งแบ็กซ้ายเพื่อเปิดโอกาสให้ดาวิด อาลาบา เล่นในตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ็กได้ เขาได้รับคำชื่นชนจากผลงานในตำแหน่งนี้ โดยเขาอาจถือเป็นหนึ่งในแบ็กซ้ายที่ดีที่สุดในโลกเลยก็ได้[54] วันที่ 25 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2020 เดวีส์มีส่วนช่วยให้รอแบร์ต แลวันดอฟสกี ทำประตูในนัดที่บุกชนะเชลซี 3–0 ในเลกแรกของรอบ 16 ทีมสุดท้ายในแชมเปียนส์ลีก ผลงานของเขาในนัดนั้นได้รับคำชื่นชมผ่านสื่อต่าง ๆ นักวิจารณ์ฟุตบอล แกรี ไลน์เกอร์ ชมว่าเดวีส์เล่นฟุตบอลได้ "อย่างสวยงาม" ในขณะที่อดีตนักฟุตบอลชายทีมชาติสหรัฐ สจวต โฮลเดน กล่าวว่า เขาเป็น "แบ้กซ้ายระดับโลก"[55]
เดือนเมษายน ค.ศ. 2020 ไบเอิร์นมิวนิกกับเดวีส์ ตกลงในขยายสัญญาจนถึงปี 2025 โดยสัญญานี้สามารถขยายเพิ่มได้อีกสองปี[56]
เมื่อบุนเดิสลีกากลับมาแข่งขันใหม่ หลังจากที่หยุดพักไปเนื่องจากการระบาดทั่วของไวรัสโคโรนา เดวีส์ได้ลงเล่นเป็นตัวจริงในนัดที่พบกับไอน์ทรัคท์ฟรังค์ฟวร์ทและโบรุสซีอาดอร์ทมุนท์ เขาทำประตูและแอสซิสต์ในนัดที่พบกับฟรังค์ฟวร์ท และหยุดเกมรุกของอาลิง โฮลัน กองหน้าของดอร์ทมุนท์ที่วิ่งด้วยความเร็ว 35.3 กิโลเมตรต่อชั่วโมง[57] วันที่ 16 เมษายน ค.ศ. 2020 เดวีส์ลงเล่นให้กับไบเอิร์นในนัดที่เอาชนะแวร์เดอร์เบรเมิน 1–0 ช่วยให้ไบเอิร์นชนะเลิศบุนเดิสลีกาเป็นสมัยที่ 8 ติดต่อกัน แม้ว่านัดนั้นเขาจะถูกไล่ออกจากสนามด้วยใบเหลืองที่สองในนาทีที่ 79 แต่ก่อนหน้านั้น เขาทำสถิติวิ่งเร็วที่สุดในลีกด้วยความเร็ว 36.51 กิโลเมตรต่อชั่วโมง[58] เขาได้รับรางวัลผู้เล่นหน้าใหม่ยอดเยี่ยมของลีกประจำฤดูกาล 2019–20[5] วันที่ 14 สิงหาคม ค.ศ. 2020 เดวีส์ที่ลงเล่นในตำแหน่งแบ็กซ้าย แอสซิสต์ให้โยชัว คิมมิช ทำประตูในนัดที่พบกับบาร์เซโลนาในรอบก่อนรองชนะเลิศแชมเปียนส์ลีก ซึ่งสุดท้ายแล้วไบเอิร์นเอาชนะไปได้ถึง 8–2[59] ในวันที่ 23 สิงหาคม ค.ศ. 2020 เขาลงเล่นเป็นตัวจริงในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก นัดชิงชนะเลิศ ที่พบกับปารีแซ็ง-แฌร์แม็ง ซึ่งสุดท้ายแล้ว ไบเอิร์นเอาชนะไปได้ 1–0 และคว้าทริปเปิลแชมป์[60] ทำให้เดวีส์กลายเป็นผู้เล่นชาวแคนาดาคนแรกที่ชนะเลิศแชมเปียนส์ลีก[61]
ทีมชาติ
[แก้]ชุดเยาวชน
[แก้]แม้ว่าจะเป็นชาวไลบีเรียโดยกำเนิด เดวีส์ถูกเรียกติดค่ายทีมชาติแคนาดารุ่นอายุไม่เกิน 15 และ 18 ปีใน ค.ศ. 2014 และ 2015 ตามลำดับ[2] ในวันที่ 17 มีนาคม ค.ศ. 2016 เขาถูกเรียกติดทีมชาติแคนาดารุ่นอายุไม่เกิน 20 ในนัดกระชับมิตรที่จะพบกับอังกฤษ[62][63] ในเดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 2016 เดวีส์ถูกเรียกทีมชาติแคนาดารุ่นอายุไม่เกิน 17 ปี ซึ่งเขาสามารถทำสองประตูใส่จาเมกาได้[64] เขาได้รับรางวัลผู้เล่นชายแคนาดายอดเยี่ยมรุ่นอายุไม่เกิน 17 ปีแห่งปี 2016 หลังจากที่ทำผลงานอันยอดเยี่ยมในนัดกระชับมิตร[65] ในเดือนมีนาคม ค.ศ. 2017 เดวีส์สัมภาษณ์ว่า เขาอยากเป็นตัวแทนของแคนาดาซึ่งเป็นหนึ่งในความฝันของเขา[66] ในปีเดียวกันนี้เอง เขาได้รางวัลผู้เล่นชายแคนาดายอดเยี่ยมรุ่นอายุไม่เกิน 17 ปีเป็นครั้งที่สอง หลังจากที่ทำผลงานอันยอดเยี่ยมกับทีมชุดใหญ่[67]
ชุดใหญ่
[แก้]เนื่องจากเดวีส์เกิดที่กาบองและมีสัญชาติไลบีเรีย เขาจึงมีสิทธิ์เลือกเล่นให้กับทั้งทีมชาติกานาและทีมชาติไลบีเรีย[68] อย่างไรก็ตาม วันที่ 6 มิถุนายน ค.ศ. 2017 เดวีส์ได้รับสัญชาติแคนาดา เขาจึงมีสิทธิ์ที่จะเลือกเล่นให้กับทีมชาติแคนาดาด้วยเช่นกัน[13] ในวันเดียวกันนั้นเอง เขามีชื่อติดทีมชาติชุดใหญ่ในนัดกระชับมิตรที่จะพบกับกือราเซา[69] นอกจากนี้ ยังมีชื่อติดทีมชาติชุดเบื้องต้น 40 คนสำหรับแข่งขันคอนคาแคฟโกลด์คัพ 2017[70] เมื่อเดวีส์ลงเล่นในนัดกระชับมิตรที่พบกับกือราเซา เขาได้กลายเป็นผู้เล่นอายุน้อยที่สุดที่ได้ลงเล่นให้กับทีมชาติด้วยวัยเพียง 16 ปี[71] วันที่ 27 มิถุนายน เขามีชื่อติดทีมชุด 23 คนสุดท้ายสำหรับการแข่งขันโกลด์คัพ 2017[72] นัดแรกของแคนาดาในรายการแข่งขัน เดวีส์ทำสองประตูช่วยให้ทีมเอาชนะเฟรนช์เกียนา 4–2 เขาจึงกลายเป็นผู้เล่นอายุน้อยที่สุดที่ทำประตูในโกลด์คัพ[73][74] ต่อมาในนัดที่สอง เขาทำประตูใส่คอสตาริกา ช่วยให้ทีมเสมอ 1–1[75] เขาได้รับรางวัลรองเท้าทองคำจากการเป็นผู้ทำประตูสูงสุดประจำรายการ ได้รับรางวัลผู้เล่นดาวรุ่งยอดเยี่ยมประจำรายการ และติดทีมยอดเยี่ยมประจำรายการด้วย[76]
วันที่ 30 พฤษภาคม ค.ศ. 2019 เดวีส์มีชื่อติดทีมชาติสำหรับการแข่งขันโกลด์คัพ 2019[77] ต่อมาในคอนคาแคฟเนชันส์ลีก 2019–20 ลีกเอ เขาได้ลงเล่นทั้งสองนัดที่พบกับคิวบาในวันที่ 7 และ 10 กันยายน ค.ศ. 2019 โดยในนัดที่สอง เขายิงประตูชัยช่วยให้ทีมเอาชนะไปได้ 1–0[78] ในเดือนตุลาคม ค.ศ. 2019 เดวีส์มีส่วนช่วยให้แคนาดาสามารถเอาชนะสหรัฐได้เป็นครั้งแรกในรอบ 34 โดยเขาเป็นผู้ทำประตูแรกในนัดนั้น ช่วยให้ทีมเอาชนะไปได้ 2–0 ในเนชันส์ลีก[79]
รูปแบบการเล่น
[แก้]แม้ว่าเดวีส์จะเล่นในตำแหน่งฟูลแบ็กฝั่งซ้ายเป็นหลัก แต่เขาก็สามารถเล่นในตำแหน่งวิงส์แบ็ก กองกลางฝั่งซ้าย หรือปีกได้ เนื่องจากเขาสามารถเลี้ยงลูก สร้างสรรค์เกม ตัดเกม และวิ่งได้อย่างไม่เหน็ดเหนื่อย เขาเป็นผู้เล่นดาวรุ่งที่น่าจับตามองมากคนหนึ่งจากสื่อ[11][80]
ชีวิตส่วนตัว
[แก้]เขาคบหาดูใจกับจอร์ดีน ฮุยตีมา นักฟุตบอลหญิงในตำแหน่งกองหน้าของปารีแซ็ง-แฌร์แม็ง มาตั้งแต่เดือนกันยายน ค.ศ. 2017[81] ในเดือนกันยายน ค.ศ. 2019 เขาเข้าค่ายฝึกซ้อมของไบเอิร์นช้าและถูกปรับ 20,000 ยูโรเนื่องจากเขาไปเยี่ยมเธอที่ปารีส[82] และในเดือนมิถุนายน ค.ศ. 2020 สื่อฝรั่งเศสระแวงว่าเดวีส์อาจสนใจที่จะได้ฮุยตีมาเซ็นสัญญากับทีมหญิงของไบเอิร์น[83]
สถิติอาชีพ
[แก้]สโมสร
[แก้]สโมสร | ฤดูกาล | ลีก | ถ้วย[b] | ทวีป | อื่น ๆ | ทั้งหมด | ||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
ระดับ | ลงเล่น | ประตู | ลงเล่น | ประตู | ลงเล่น | ประตู | ลงเล่น | ประตู | ลงเล่น | ประตู | ||
แวนคูเวอร์ไวต์แคปส์ 2 | 2016 | USL | 11 | 2 | — | — | 0 | 0 | 11 | 2 | ||
แวนคูเวอร์ไวต์แคปส์ | 2016 | MLS | 8 | 0 | 4 | 0 | 3[c] | 1 | — | 15 | 1 | |
2017 | MLS | 26 | 0 | 2 | 2 | 4[c] | 1 | 1[d] | 0 | 33 | 3 | |
2018 | MLS | 31 | 8 | 2 | 0 | — | — | 33 | 8 | |||
รวม | 65 | 8 | 8 | 2 | 7 | 2 | 1 | 0 | 81 | 12 | ||
ไบเอิร์นมิวนิก | 2018–19 | Regionalliga Bayern | 3 | 0 | — | — | 2[e] | 0 | 5 | 0 | ||
2019–20 | 3. Liga | 3 | 0 | — | — | — | 3 | 0 | ||||
รวม | 6 | 0 | — | — | 2 | 0 | 8 | 0 | ||||
ไบเอิร์นมิวนิก | 2018–19 | บุนเดิสลีกา | 6 | 1 | 0 | 0 | 0 | 0 | — | 6 | 1 | |
2019–20 | บุนเดิสลีกา | 29 | 3 | 5 | 0 | 8[f] | 0 | 1[g] | 0 | 43 | 3 | |
2020–21 | บุนเดิสลีกา | 23 | 1 | 2 | 0 | 6[f] | 0 | 4[h] | 0 | 35 | 1 | |
2021–22 | บุนเดิสลีกา | 22 | 0 | 1 | 0 | 7[f] | 0 | 1[g] | 0 | 31 | 0 | |
2022–23 | บุนเดิสลีกา | 12 | 0 | 1 | 1 | 5[f] | 0 | 1[g] | 0 | 19 | 1 | |
รวม | 92 | 5 | 9 | 1 | 25 | 0 | 7 | 0 | 133 | 6 | ||
รวมทั้งหมด | 174 | 15 | 17 | 3 | 32 | 2 | 10 | 0 | 233 | 20 |
หมายเหตุ
- ↑ เขาถือครองสถิตินี้จนถึงปี 2020
- ↑ คะเนเดียนแชมเปียนชิปและเดเอ็ฟเบ-โพคาล
- ↑ 3.0 3.1 ลงเล่นในคอนคาแคฟแชมเปียนส์ลีก
- ↑ ลงเล่นในเมเจอร์ลีกซอกเกอร์คัพ รอบเพลย์ออฟ
- ↑ ลงเล่นในรอบเพลย์ออฟเลื่อนชั้นสู่ 3. Liga
- ↑ 6.0 6.1 6.2 6.3 ลงเล่นในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก
- ↑ 7.0 7.1 7.2 ลงเล่นในเดเอ็ฟเอ็ล-ซูเพอร์คัพ
- ↑ ลงเล่นหนึ่งนัดในยูฟ่าซูเปอร์คัพ, หนึ่งนัดในเดเอ็ฟเอ็ล-ซูเพอร์คัพ, สองนัดในฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลก
ทีมชาติ
[แก้]- ณ วันที่ 1 ธันวาคม 2022 [84]
แคนาดา | ||
---|---|---|
ปี | ลงเล่น | ประตู |
2017 | 6 | 3 |
2018 | 3 | 0 |
2019 | 8 | 2 |
2021 | 13 | 5 |
2022 | 7 | 3 |
รวมทั้งหมด | 37 | 13 |
ประตูในนามทีมชาติ
[แก้]- ณ วันที่ 1 ธันวาคม 2022 [84]
ลำดับ | วันที่ | สนาม | คู่แข่ง | ประตู | ผล | รายการแข่งขัน |
---|---|---|---|---|---|---|
1 | 7 กรกฎาคม 2017 | เรดบูลล์อารีนา, แฮร์ริสัน สหรัฐ | เฟรนช์เกียนา | 3–0 | 4–2 | คอนคาแคฟโกลด์คัพ 2017 |
2 | 4–2 | |||||
3 | 11 กรกฎาคม 2017 | สนามกีฬาบีบีวีเอ ฮิวสตัน สหรัฐ | คอสตาริกา | 1–0 | 1–1 | |
4 | 10 กันยายน 2019 | ศูนย์กีฬาทรูมัน บอดเดน จอร์จทาวน์ หมู่เกาะเคย์แมน | คิวบา | 1–0 | 1–0 | คอนคาแคฟเนชันส์ลีก 2019–20 ลีกเอ |
5 | 15 ตุลาคม 2019 | บีเอ็มโอฟีลด์, โทรอนโต แคนาดา | สหรัฐ | 1–0 | 2–0 | |
6 | 29 มีนาคม 2021 | ไอเอ็มจีอะคาเดมี เบรเดนตัน สหรัฐ | หมู่เกาะเคย์แมน | 4–0 | 11–0 | ฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก |
7 | 9–0 | |||||
8 | 5 มิถุนายน 2021 | อารูบา | 5–0 | 7–0 | ||
9 | 8 มิถุนายน 2021 | SeatGeek Stadium บริดจ์วิว สหรัฐ | ซูรินาม | 1–0 | 4–0 | |
10 | 13 ตุลาคม 2021 | BMO Field โทรอนโต แคนาดา | ปานามา | 2–1 | 4–1 | ฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก |
11 | 9 มิถุนายน 2022 | BC Place, แวนคูเวอร์ แคนาดา | กูราเซา | 1–0 | 4–0 | คอนคาแคฟเนชันส์ลีก ฤดูกาล 2022–23 ลีกเอ |
12 | 3–0 | |||||
13 | 27 พฤศจิกายน 2022 | Khalifa International Stadium, Al Rayyan, กาตาร์ | โครเอเชีย | 1–0 | 1–4 | ฟุตบอลโลก 2022 |
เกียรติประวัติ
[แก้]สโมสร
[แก้]ไบเอิร์นมิวนิก
- บุนเดิสลีกา: 2018–19, 2019–20, 2020–21,[85] 2021–22, 2022–23
- เดเอ็ฟเบ-โพคาล: 2018–19, 2019–20
- เดเอ็ฟเอ็ล-ซูเพอร์คัพ: 2020, 2022
- ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก: 2019–20[86]
- ยูฟ่าซูเปอร์คัพ: 2020[87]
- ฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลก: 2020[88]
รางวัลส่วนตัว
[แก้]- ผู้เล่นชายชาวแคนาดารุ่นอายุไม่เกิน 17 ปียอดเยี่ยมแห่งปี: 2016,[65] 2017[67]
- รางวัล Bright Future คอนคาแคฟโกลด์คัพ: 2017[89]
- รางวัลรองเท้าทองคำ คอนคาแคฟโกลด์คัพ: 2017[90]
- ทีมยอดเยี่ยม คอนคาแคฟโกลด์คัพ: 2017[90]
- ออลสตาร์ เมเจอร์ลีกซอกเกอร์: 2018[38]
- ผู้เล่นยอดเยี่ยมแห่งปี แวนคูเวอร์ไวต์แคปส์: 2018[41]
- ประตูยอดเยี่ยมแห่งปี แวนคูเวอร์ไวต์แคปส์: 2018[41]
- ผู้เล่นชายชาวแคนาดายอดเยี่ยมแห่งปี: 2018,[91] 2020[92]
- ผู้เล่นหน้าใหม่ยอดเยี่ยมแห่งเดือน บุนเดิสลีกา: พฤษภาคม 2020[93]
- ผู้เล่นหน้าใหม่ยอดเยี่ยมแห่งฤดูกาล บุนเดิสลีกา: 2019–20[5]
- ทีมยอดเยี่ยมแห่งฤดูกาล บุนเดิสลีกา: 2020–21[94]
- ทีมยอดเยี่ยมแห่งฤดูกาล บุนเดิสลีกา โดย kicker: 2019–20[95]
- ทีมยอดเยี่ยมแห่งฤดูกาล ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก: 2019–20[96]
- กองหลังยอดเยี่ยมแห่งฤดูกาลของยูฟ่า อันดับที่ 2: 2019–20[97]
- ทีมยอดเยี่ยมแห่งปีของยูฟ่า: 2020[98]
- ทีมหน้าใหม่ยอดเยี่ยมแห่งปี ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก: 2020[99]
- ทีมฟุตบอลชายยอดเยี่ยมของโลกโดย IFFHS: 2020[100]
- รางวัล Lou Marsh (ชนะเลิศร่วมกัน): 2020[101]
- FIFA FIFPro World11: 2020[102][103]
- รางวัล Lionel Conacher: 2020[104]
อ้างอิง
[แก้]- ↑ "Alphonso Davies Bayern Munich Profile". January 8, 2019. สืบค้นเมื่อ October 19, 2019.
- ↑ 2.0 2.1 "Alphonso Davies". Canada Soccer. สืบค้นเมื่อ March 11, 2018.
- ↑ "FC Bayern verpflichtet Alphonso Davies bis 2023" [Bayern commits Alphonso Davies until 2023]. FC Bayern Munich (ภาษาเยอรมัน). July 25, 2018. สืบค้นเมื่อ July 25, 2018.
- ↑ 4.0 4.1 Lindberg, Austin (July 25, 2018). "Bayern Munich sign Canadian teen Alphonso Davies in MLS-record deal". ESPN. สืบค้นเมื่อ July 25, 2018.
- ↑ 5.0 5.1 5.2 Decourcy, Mike (June 19, 2020). "Bayern Munich's Alphonso Davies beats tough competition to Bundesliga Rookie of the Year award". The Sporting News. สืบค้นเมื่อ June 19, 2020.
- ↑ 6.0 6.1 Buhler, Andy (July 5, 2017). "Canadian soccer phenom Alphonso Davies' talent belies his youth". The Star. สืบค้นเมื่อ July 8, 2017.
- ↑ Schuller, Rudi. "Davies becomes first 2000s-born player to score at a top level international tournament". Goal.com. สืบค้นเมื่อ July 8, 2017.
- ↑ 8.0 8.1 "Alphonso Davies: The Bayern Munich winger born in a refugee camp". BBC. September 26, 2019.
- ↑ Asano, Naoko. "Whitecaps phenom Davies receives Canadian citizenship, 1st senior call-up". Sportsnet. สืบค้นเมื่อ June 7, 2017.
- ↑ Becoming Canadian: The Alphonso Davies Story. Vancouver Whitecaps FC's YouTube channel. June 6, 2017. From 1:00 to 2:00.
- ↑ 11.0 11.1 11.2 Penfold, Chuck (July 26, 2018). "Bayern Munich: Who is new signing Alphonso Davies?". Deutsche Welle. สืบค้นเมื่อ July 27, 2018.
- ↑ "The Civil War and the Refugee Crisis in Liberia". สืบค้นเมื่อ July 24, 2018.
- ↑ 13.0 13.1 "Alphonso Davies receives Canadian citizenship and first senior call-up to Canada". June 6, 2017. สืบค้นเมื่อ June 6, 2017.
- ↑ Willes, Ed (July 4, 2017). "Whitecaps' Davies never doubted rise from refugee camp to soccer splendour". The Province.
- ↑ 15.0 15.1 Leavitt, Kieran (July 25, 2018). "Edmonton's soccer community remembers Alphonso Davies' local legacy prior to Bayern Munich signing". StarMetro. Edmonton.
- ↑ "Success of soccer star Alphonso Davies shines spotlight on Free Footie program". cbc.ca (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ June 15, 2020.
- ↑ "Alphonso Davies". kicker.de (ภาษาเยอรมัน). สืบค้นเมื่อ February 2, 2019.
- ↑ "Whitecaps FC Profile: Alphonso Davies". สืบค้นเมื่อ February 24, 2016.
- ↑ Weber, Marc. "Caps give youth a chance in 15-year-old Alphonso Davies". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ May 31, 2016. สืบค้นเมื่อ February 24, 2016.
- ↑ "Whitecaps FC sign teenagers Matthew Baldisimo and Alphonso Davies to WFC2". February 23, 2016. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2019-03-27. สืบค้นเมื่อ February 24, 2016.
- ↑ "Whitecaps FC 2 on Twitter". สืบค้นเมื่อ July 17, 2016.
- ↑ "USL on Twitter". สืบค้นเมื่อ July 17, 2016.
- ↑ 23.0 23.1 "Alphonso Davies profile". Soccerway.
- ↑ "Whitecaps FC submit 20-man roster in advance of Wednesday's Amway Canadian Championship semifinal | Vancouver Whitecaps FC". May 31, 2016.
- ↑ "Vancouver Whitecaps on Twitter". สืบค้นเมื่อ July 17, 2016.
- ↑ "Whitecaps FC add 15-year-old Residency product Alphonso Davies to MLS roster". Vancouver Whitecaps FC. July 15, 2016.
- ↑ "Youngster Alphonso Davies impresses in MLS debut for Whitecaps". Sportsnet. July 16, 2016.
- ↑ "SCCL quarterfinal berth: CLINCHED!!!". Vancouver Whitecaps FC Official Twitter. September 13, 2016.
- ↑ Stephen, Colin (September 24, 2016). "Whitecaps' Alphonso Davies, 15, is second-youngest starter in MLS history". MLS Official Website.
- ↑ Boehm, Charles (October 3, 2016). "Vancouver Whitecaps 1, Seattle Sounders 2". Major League Soccer. สืบค้นเมื่อ July 8, 2017.
- ↑ 31.0 31.1 31.2 "Alphonso Davies » Club matches". World Football. สืบค้นเมื่อ July 27, 2018.
- ↑ "Alphonso Davies » CONCACAF Champions League 2016/2017". World Football. สืบค้นเมื่อ July 27, 2018.
- ↑ Dyer, Kristian. "Source: Alphonso Davies being trailed by three English Premier League giants". Metro.us. สืบค้นเมื่อ July 9, 2017.
- ↑ "Next Generation 2017: 60 of the best young talents in world football". The Guardian. สืบค้นเมื่อ January 1, 2018.
- ↑ Boehm, Charles (March 4, 2018). "Recap: Vancouver Whitecaps FC vs. Montreal Impact". MLS.
- ↑ Dyck, Darryl (June 10, 2018). "Alphonso Davies has goal, three assists to lead Whitecaps past Orlando City". The Globe and Mail.
- ↑ "Bayern Munich-bound Alphonso Davies destroys Loons as Whitecaps win". Major League Soccer. July 29, 2018. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2019-12-12. สืบค้นเมื่อ July 29, 2018.
- ↑ 38.0 38.1 "2018 MLS All-Star Roster". MLSsoccer.com. Major League Soccer. June 29, 2018. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2019-06-26. สืบค้นเมื่อ June 16, 2018.
- ↑ Roberson, Doug (August 1, 2018). "Martinez scores but MLS All-Stars fall to Juventus in front of record crowd". AJC.com. The Atlanta Journal-Constitution. สืบค้นเมื่อ August 1, 2018.
- ↑ Adams, J.J. (October 24, 2018). "Alphonso Davies named Caps' player of the year". The Province. สืบค้นเมื่อ October 30, 2018.
- ↑ 41.0 41.1 41.2 "Winners announced for 2018 Whitecaps FC Player Awards, presented by BMO". whitecapsfc.com. Vancouver Whitecaps FC. October 24, 2018. สืบค้นเมื่อ October 30, 2018.
- ↑ Little, Simon (October 28, 2018). "Emotional sendoff as Alphonso Davies plays final game as Vancouver Whitecap".
- ↑ "Alphonso Davies: Bayern Munich sign 17-year-old for MLS record fee". BBC. July 26, 2018.
- ↑ "Whitecaps FC agree to MLS record-breaking transfer of Homegrown midfielder Alphonso Davies to Germany's most storied club FC Bayern Munich". Vancouver Whitecaps FC. July 25, 2018. สืบค้นเมื่อ July 25, 2018.
- ↑ "Miguel Almiron completes record transfer from Atlanta to Newcastle". MLS Soccer. January 31, 2019. สืบค้นเมื่อ January 31, 2019.
- ↑ Uersfeld, Stephan (November 22, 2018). "Canada's Alphonso Davies 'very excited' as Bayern Munich career begins". ESPN. สืบค้นเมื่อ November 22, 2018.
- ↑ Devji, Farhan (January 13, 2019). "Alphonso Davies shows attacking flair in Bayern Munich debut". สืบค้นเมื่อ January 19, 2019.
- ↑ "Alphonso Davies makes league debut for Bayern Munich in win". CBC. January 27, 2019. สืบค้นเมื่อ February 1, 2019.
- ↑ Echegaray, Luis Miguel (March 17, 2019). "Alphonso Davies Scores First Ever Goal for Bayern Munich in Huge Win Over Mainz". Sports Illustrated. สืบค้นเมื่อ March 17, 2019.
- ↑ "James Rodriguez hat-trick and maiden Alphonso Davies goal send Bayern Munich top after crushing Mainz win". Bundesliga. March 17, 2019. สืบค้นเมื่อ March 18, 2019.
- ↑ "Robert Lewandowski hits brace as Bayern Munich beat RB Leipzig in DFB Cup final to seal the double". bundesliga.com. สืบค้นเมื่อ May 26, 2019.
- ↑ "Davies lauds Lewandowki". bundesliga.com. สืบค้นเมื่อ October 28, 2019.
- ↑ "Robert Lewandowski on target again as Bayern Munich down Olympiacos to reach UEFA Champions League last 16". bundesliga.com. November 6, 2019. สืบค้นเมื่อ November 6, 2019.
- ↑ "Squawka Scout: Is Alphonso Davies the world's best left-back-in-waiting?". squawka.com. May 20, 2020.
- ↑ "Alphonso Davies shines in Bayern Munich's 3–0 Champions League win at Chelsea". Global News. February 25, 2020. สืบค้นเมื่อ March 19, 2020.
- ↑ "Bayern extends Davies until 2025". TSN. สืบค้นเมื่อ April 20, 2020.
- ↑ Davidson, Neil (May 27, 2020). "Alphonso Davies turning heads, winning over Bayern fans with speed and smarts". The Canadian Press. สืบค้นเมื่อ May 27, 2020 – โดยทาง CBC.
- ↑ Williams, Rob (June 16, 2020). "Alphonso Davies sets new Bundesliga speed record in title-clinching match". dailyhive.com. สืบค้นเมื่อ June 16, 2020.
- ↑ "'Unbelievable' Davies killed Barca belief - Kimmich". ESPN. August 14, 2020. สืบค้นเมื่อ August 23, 2020.
- ↑ "Bayern Munich beat Paris Saint-Germain to win Champions League". ESPN. August 23, 2020. สืบค้นเมื่อ August 23, 2020.
- ↑ "Edmonton's Alphonso Davies wins Champions League title with Bayern Munich". CTV News Edmonton. August 23, 2020. สืบค้นเมื่อ August 24, 2020.
- ↑ "Canada Soccer selects players for England youth friendly". Canada Soccer. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2018-09-18. สืบค้นเมื่อ July 17, 2016.
- ↑ "Alphonso Davies joins Canada's U-20 soccer team". สืบค้นเมื่อ March 27, 2016.
- ↑ "Alphonso Davies scores for Canada's under-17 squad in friendly win over Jamaica". Vancouver Province. The Canadian Press. November 26, 2016. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ November 29, 2016. สืบค้นเมื่อ November 29, 2016.
- ↑ 65.0 65.1 "Davies and Rose win 2016 Canadian U-17 Players of the Year". Canada Soccer. December 13, 2016. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2020-02-19. สืบค้นเมื่อ 2020-08-24.
- ↑ "'His talent was evident': Alphonso Davies is dropping jaws, one at a time". Vancouver Province. March 30, 2017. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2018-06-22. สืบค้นเมื่อ 2020-08-24.
- ↑ 67.0 67.1 "Davies & Huitema named Canadian U-17 Players of the Year for Canada Soccer". Canada Soccer. December 11, 2017. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2020-02-19. สืบค้นเมื่อ 2020-08-24.
- ↑ "Alphonso Davies, symbole de la mosaïque canadienne" (ภาษาฝรั่งเศส). Le Temps. June 3, 2020. สืบค้นเมื่อ June 18, 2020.
- ↑ Clipperton, Joshua (June 6, 2017). "Teen's soccer journey takes him from refugee camp to Canada's national team". Canadian Broadcasting Corporation. The Canadian Press. สืบค้นเมื่อ October 30, 2018.
- ↑ "Canada Soccer releases 40-man Provisional List for CONCACAF Gold Cup". Canada Soccer. June 6, 2017. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2019-05-29. สืบค้นเมื่อ 2020-08-26.
- ↑ Heidenreich, Phil (June 14, 2017). "Teen soccer star from Edmonton impresses in history making debut for Team Canada". globalnews.ca. Global News. สืบค้นเมื่อ October 30, 2018.
- ↑ Zeitlin, Dave (June 27, 2017). "Canada names nine MLS players to 23-man CONCACAF Gold Cup roster".
- ↑ "Teen Alphonso Davies scores 2 in Canada's Gold Cup win". Canadian Broadcasting Corporation. สืบค้นเมื่อ July 8, 2017.
- ↑ "Canada walks away with win and lessons learned in Gold Cup opener". Sportsnet.ca. สืบค้นเมื่อ July 8, 2017.
- ↑ "Canada stays atop Group A with impressive 1:1 draw with Costa Rica at CONCACAF Gold Cup". canadasoccer.com. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2019-03-27. สืบค้นเมื่อ 2020-08-26.
- ↑ Schuller, Rudi. "Canada's Alphonso Davies wins trio of Gold Cup awards". Sporting News. สืบค้นเมื่อ July 29, 2017.
- ↑ "Together We Rise: Canada Soccer announces squad for the 2019 Concacaf Gold Cup". canadasoccer.com. May 30, 2019. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2019-06-03. สืบค้นเมื่อ June 25, 2019.
- ↑ "Alphonso Davies scores as Canada beats Cuba in Nations League". Sportsnet. September 10, 2019.
- ↑ Joshua Kloke (October 15, 2019). "Canada's historic win over the U.S. cements Alphonso Davies as the face of the program". The Athletic.
- ↑ "Scout Report: Alphonso Davies - Speedy Canadian Winger". Outside of the Boot. August 15, 2018. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2020-01-24. สืบค้นเมื่อ August 14, 2020.
- ↑ "Does Canada have a new power soccer couple in Alphonso Davies and Jordyn Huitema?". toronto.citynews.ca. November 23, 2018. สืบค้นเมื่อ April 21, 2020.
- ↑ "Bayern Munich's Alphonso Davies was fined €20k by Niko Kovač after being four hours late to practice". Bavarian Football Works. September 2, 2019.
- ↑ Alvarez, Marc (June 6, 2020). "Alphonso Davies aimerait que sa copine passe du PSG au Bayern". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2020-06-07. สืบค้นเมื่อ 2020-08-26.
- ↑ 84.0 84.1 "NFT profile". National Football Teams. สืบค้นเมื่อ July 12, 2017.
- ↑ "Bayern Munich crowned Bundesliga champions". Bundesliga. May 8, 2021. สืบค้นเมื่อ May 8, 2021.
- ↑ "Bayern win the champions league". espn.com. 23 July 2020. สืบค้นเมื่อ 23 July 2020.
- ↑ "Joker Javi Martinez köpft Bayern zum Supercup". kicker.de (ภาษาเยอรมัน). September 24, 2020. สืบค้นเมื่อ September 24, 2020.
- ↑ "Pavard completes sextuple for dominant Bayern". FIFA.com. February 11, 2021. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2021-02-11. สืบค้นเมื่อ February 11, 2021.
- ↑ "Canada's Davies merits Young Player Award presented by Scotiabank". goldcup.org. July 26, 2017. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ July 26, 2017. สืบค้นเมื่อ July 27, 2017.
- ↑ 90.0 90.1 "Alphonso Davies wins Young Player, Golden Boot and Best XI at Gold Cup 2017". canadasoccer.com. July 26, 2017. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2020-02-19. สืบค้นเมื่อ July 27, 2017.
- ↑ Molinaro, John (December 12, 2018). "Alphonso Davies named Canadian men's player of the year". sportsnet.ca. Sportsnet. สืบค้นเมื่อ December 12, 2018.
- ↑ "Alphonso Davies wins 2020 Canadian Player of the Year Award presented by Allstate". canadasoccer.com. Canadian Soccer Association. December 3, 2020. สืบค้นเมื่อ December 3, 2020.
- ↑ "Davies named Bundesliga rookie of the month". tsn.ca. TSN. June 12, 2020. สืบค้นเมื่อ June 12, 2020.
- ↑ "The 2020/21 Bundesliga Team of the Season!". Bundesliga. May 15, 2021. สืบค้นเมื่อ May 17, 2021.
- ↑ "Sechsmal Bayern, einmal Gladbach: Die kicker-Elf der Saison (2019/20)" (ภาษาเยอรมัน). kicker. July 3, 2020. สืบค้นเมื่อ September 3, 2020.
- ↑ "UEFA Champions League Squad of the Season". UEFA. August 28, 2020. สืบค้นเมื่อ August 28, 2020.
- ↑ "Joshua Kimmich: Champions League Defender of the Season". UEFA. August 1, 2020. สืบค้นเมื่อ October 1, 2020.
- ↑ "UEFA.com fans' Team of the Year 2020 revealed". UEFA. January 20, 2021. สืบค้นเมื่อ January 20, 2021.
- ↑ "Champions League breakthrough team of 2020". uefa.com. December 30, 2020. สืบค้นเมื่อ January 1, 2021.
- ↑ "IFFHS WORLD AWARDS 2020 - THE WINNERS". IFFHS. December 4, 2020. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2021-01-29. สืบค้นเมื่อ December 4, 2020.
- ↑ "Davies, Duvernay-Tardif named co-winners of 2020 Lou Marsh Trophy". Toronto: The Sports Network. December 8, 2020. สืบค้นเมื่อ December 8, 2020.
- ↑ "Lucy Bronze and Robert Lewandowski are The Best of 2020". FIFA. December 17, 2020. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2021-04-30. สืบค้นเมื่อ December 17, 2020.
- ↑ "The FIFA FIFPRO Men's World 11 of 2019-2020 - FIFPRO World Players' Union". FIFPRO (ภาษาอังกฤษ). December 17, 2020. สืบค้นเมื่อ December 18, 2020.
- ↑ "Alphonso Davies wraps up remarkable year with Bayern by winning Lionel Conacher Award". Yahoo! Sports Canada. December 29, 2020. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2021-01-27. สืบค้นเมื่อ December 30, 2020.
แหล่งข้อมูลอื่น
[แก้]- Alphonso Davies at WhitecapsFC.com
- อัลฟอนโซ เดวีส์ ที่ National-Football-Teams.com