ข้ามไปเนื้อหา

อัลฟอนโซ เดวีส์

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
อัลฟอนโซ เดวีส์
เดวีส์กับไบเอิร์นมิวนิกใน ค.ศ. 2019
ข้อมูลส่วนตัว
ชื่อเต็ม อัลฟอนโซ บอยล์ เดวีส์
วันเกิด (2000-11-02) 2 พฤศจิกายน ค.ศ. 2000 (24 ปี)
สถานที่เกิด บูดูบูราม กานา
ส่วนสูง 1.81 เมตร (5 ฟุต 11 นิ้ว)[1]
ตำแหน่ง แบ็กซ้าย, ปีก
ข้อมูลสโมสร
สโมสรปัจจุบัน
ไบเอิร์นมิวนิก
หมายเลข 19
สโมสรเยาวชน
2005 เอ็ดมันตันอินเตอร์เนชันนัลส์
2006–2014 เอ็ดมันตันสไตรเกอส์
2015–2016 ไวต์แคปส์เรซิเดนซี
สโมสรอาชีพ*
ปี ทีม ลงเล่น (ประตู)
2016 แวนคูเวอร์ไวต์แคปส์ 2 11 (2)
2016–2018 แวนคูเวอร์ไวต์แคปส์ 65 (8)
2019 ไบเอิร์นมิวนิก 2 6 (0)
2019– ไบเอิร์นมิวนิก 92 (5)
2025- เรอัล มาดริด 0 (0)
ทีมชาติ
2016 แคนาดา อายุไม่เกิน 17 ปี 2 (1)
2016 แคนาดา อายุไม่เกิน 20 ปี 1 (0)
2017– แคนาดา 37 (13)
*นัดที่ลงเล่นและประตูที่ยิงให้แก่สโมสรเฉพาะลีกในประเทศเท่านั้น
ข้อมูลล่าสุด ณ วันที่ 5 พฤศจิกายน 2022
‡ ข้อมูลการลงเล่นและประตูให้แก่ทีมชาติล่าสุด
ณ วันที่ 1 ธันวาคม 2022

อัลฟอนโซ บอยล์ เดวีส์ (อังกฤษ: Alphonso Boyle Davies; เกิดวันที่ 2 พฤศจิกายน ค.ศ. 2000)[2] เป็นนักฟุตบอลอาชีพชาวแคนาดาที่เล่นในตำแหน่งแบ็กซ้ายหรือปีกให้กับไบเอิร์นมิวนิกในบุนเดิสลีกาและทีมชาติแคนาดา

เดวีส์เป็นผู้เล่นคนแรกที่เกิดในคริสตทศวรรษ 2000 ที่ได้ลงเล่นในเมเจอร์ลีกซอกเกอร์ เขาย้ายจากแวนคูเวอร์ไวต์แคปส์ไปยังไบเอิร์นมิวนิกในเดือนมกราคม ค.ศ. 2019 แบบไม่มีค่าตัว และเซ็นสัญญาจนถึง ค.ศ. 2023[3][4] เขาได้รับรางวัลผู้เล่นหน้าใหม่ยอดเยี่ยมประจำบุนเดิสลีกา ฤดูกาล 2019–20[5]

ในเดือนมิถุนายน ค.ศ. 2017 เขากลายเป็นผู้เล่นอายุน้อยที่สุดที่ได้ลงเล่นให้กับทีมชาติแคนาดา[6] เขาทำสองประตูในนัดที่พบกับเฟรนช์เกียนาในคอนคาแคฟโกลด์คัพปี 2017 ทำให้เขากลายเป็นผู้เล่นอายุน้อยที่สุดที่ทำประตูให้กับทีมชาติแคนาดา ผู้เล่นอายุน้อยที่สุดที่ทำประตูในคอนคาแคฟโกลด์คัพ และผู้เล่นคนแรกที่เกิดในคริสตทศวรรษ 2000 ที่ทำประตูในรายการแข่งขันหลักระดับทวีป[7]

ชีวิตช่วงต้น

[แก้]

เดวีส์เกิดที่ค่ายลี้ภัยบูดูบูรามในประเทศกานา บิดามารดาเป็นชาวไลบีเรีย[8][9] เดิมที เดเบ เดวีส์ (บิดา) และวิกตอเรีย เดวีส์ (มารดา) เคยอาศัยในมอนโรเวีย เมืองหลวงของประเทศไลบีเรีย[10] ต่อมาได้ลี้ภัยในช่วงสงครามกลางเมืองไลบีเรียครั้งที่สองพร้อมกับชาวไลบีเรียอีก 450,000 คน[11][12] เมื่ออัลฟอนโซอายุได้ 5 ขวบ ครอบครัวของเขาได้ย้ายไปอาศัยที่เอ็ดมันตันในประเทศแคนาดา[6][11] ในวันที่ 6 มิถุนายน ค.ศ. 2017 เขาได้รับสัญชาติแคนาดา[13] เขามีพี่น้องทั้งหมด 6 คน โดยเขาเป็นบุตรลำดับที่ 4[14]

เดวีส์เข้าศึกษาที่โรงเรียนมัธยมต้นเซนต์นิโคลัสคาทอลิกในเขตโรงเรียนคาทอลิกเอ็ดมันตัน เพื่อนร่วมทีมฟุตบอลโรงเรียนของเขา ออเนสฟอร์ ฮามิส กล่าวว่า "ฟุตบอลเป็นสิ่งที่เขาต้องการ แต่ภาษานั้นยังคงเป็นปัญหา"[15] เพื่อนร่วมชมรมละครชาวแคนาดาที่อพยพมาจากไลบีเรียและเป็นเพื่อนสนิทกับเขา เชอร์นอ ฟานบูลเล กล่าวว่า เขาพูดภาษาอังกฤษแบบไลบีเรีย[15]

สโมสรอาชีพ

[แก้]

เยาวชน

[แก้]

ในช่วงวัยเด็กที่เอ็ดมันตัน เดวีส์เริ่มเล่นฟุตบอลกับฟรีฟุตตี ลีกฟุตบอลหลังเลิกเรียนสำหรับนักเรียนประถมในเมืองที่ไม่สามารถลงทะเบียนค่าใช้จ่ายและอุปกรณ์[16] หลังจากที่เล่นให้กับเอ็ดมันตันอินเตอร์เนชันนัลส์และเอ็ดมันตันสไตรเกอส์ เดวีส์ในวัย 14 ปี ย้ายไปไวต์แคปส์เรสซิเดนซีเมื่อ ค.ศ. 2015[17][8][18]

ไวต์แคปส์ 2

[แก้]

หลังจากที่ย้ายร่วมแวนคูเวอร์ไวต์แคปส์ในช่วงก่อนเปิดฤดูกาล 2016[19] เขาได้เซ็นสัญญากับทีมสำรองในยูไนเต็ดซอกเกอร์ลีกเมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2016[20] เขากลายเป็นผู้เล่นอายุน้อยที่สุดที่เซ็นสัญญาในยูไนเต็ดซอกเกอร์ลีก ด้วยวัยเพียง 15 ปี 3 เดือน เดวีส์ลงเล่นระดับอาชีพครั้งแรกในเดือนเมษายน ค.ศ. 2016 ด้วยวัยเพียง 15 ปี 5 เดือน[21] ในวันที่ 15 พฤษภาคม ค.ศ. 2016 เขาทำประตูแรกในระดับอาชีพ ทำให้เขากลายเป็นผู้เล่นอายุน้อยที่สุดที่ทำประตูในยูไนเต็ดซอกเกอร์ลีก ด้วยวัยเพียง 15 ปี 6 เดือน[22][a] สำหรับในฤดูกาล 2016 เขาทำสองประตูจากการลงเล่น 11 นัดในยูไนเต็ดซอกเกอร์ลีก[23]

แวนคูเวอร์ไวต์แคปส์

[แก้]

เดวีส์มีชื่อในทีมไวต์แคปส์สำหรับการแข่งขันคะเนเดียนแชมเปียนชิปฤดูกาล 2016 โดยมีสัญญาระยะสั้น[24] วันที่ 1 มิถุนายน ค.ศ. 2016 เขาลงเล่นนัดแรกให้กับทีมชุดใหญ่ในเลกแรกของแชมเปียนชิปนัดที่พบกับออตตาวาฟิวรี และได้ลงเล่นในเลกที่สองที่แวนคูเวอร์[25]

วันที่ 15 กรกฎาคม ค.ศ. 2016 เดวีส์เซ็นสัญญากับทีมชุดใหญ่จนถึงปี 2018 โดยมีตัวเลือกในการขยายสัญญาจนถึงฤดูกาล 2019 และ 2020 ณ เวลาที่เซ็นสัญญา เขากลายเป็นผู้เล่นอายุน้อยที่สุดที่อยู่ในเมเจอร์ลีกซอกเกอร์ในตอนนั้น และเป็นผู้เล่นอายุน้อยที่สุดอันดับที่สามที่เซ็นสัญญาในเมเจอร์ลีกซอกเกอร์[26] เดวีส์ลงเล่นนัดแรกในเมเจอร์ลีกซอกเกอร์เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม ค.ศ. 2016 ทำให้เขากลายเป็นผู้เล่นอายุน้อยที่สุดอันดับที่สองที่ลงเล่นในเมเจอร์ลีกซอกเกอร์ รองจากเฟรดดี อาดู[27] ในเดือนกันยายน ค.ศ. 2016 เขาทำประตูแรกให้กับทีมชุดใหญ่ในคอนคาแคฟแชมเปียนส์ลีก ฤดูกาล 2016–17 นัดที่พบกับสปอร์ติงแคนซัสซิตี เขายิงประตูในช่วงทดเวลาช่วยให้ทีมผ่านเข้าสู่รอบแพ้คัดออก[28] และในเดือนเดียวกันนี้เอง เขากลายเป็นผู้เล่นอายุน้อยที่สุดอันดับที่สองที่ลงเล่นเป็นตัวจริงในเมเจอร์ลีกซอกเกอร์ ในนัดที่พบกับโคโลราโดแรปิดส์[29] วันที่ 2 ตุลาคม ค.ศ. 2016 เขายิงลูกโทษในนัดที่พบกับซีแอตเทิลซาวเดอส์[30] ระหว่างฤดูกาล 2016 เดวีส์ลงเล่นในเมเจอร์ลีกซอกเกอร์ 8 นัด[31] คะเนเดียนแชมเปียนชิป 4 นัด[31] และคอนคาแคฟแชมเปียนส์ลีก 3 นัด[32]

หลังจากที่ทำผลงานน่าประทับใจในเมเจอร์ลีกซอกเกอร์ เดวีส์ได้รับความสนใจจากสโมสรยุโรปหลายแห่ง ซึ่งรวมถึง แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด เชลซี และลิเวอร์พูล[33] เขามีชื่อติดหนึ่งใน 60 ผู้เล่นดาวรุ่งที่ดีที่สุดในโลกประจำปี 2017[34] ในนัดเปิดสนามฤดูกาล 2018 เขาทำประตูและแอสซิสต์ให้เคย์ คามารา ทำประตูในการพบกับมอนทรีออลอิมแพ็ค[35] วันที่ 10 มิถุนายน ค.ศ. 2018 เขาทำหนึ่งประตูและสามแอสซิสต์ในนัดที่เอาชนะออร์แลนโดซิตี 5–2[36] และทำสองประตูและสองแอสซิสต์ในนัดที่เอาชนะมินเนโซตายูไนเต็ด 4–2 ในวันที่ 29 กรกฎาคม[37]

วันที่ 29 มิถุนายน ค.ศ. 2018 เดวีส์มีชื่อติดทีมรวมดาราเมเจอร์ลีกซอกเกอร์ในเกมออลสตาร์ 2018 เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม ในนัดที่พบกับยูเวนตุส[38] เขาได้ลงเล่นในนัดนั้น ซึ่งสุดท้ายแล้วทีมรวมดาราพ่ายแพ้ในการยิงลูกโทษ 3–5 หลังจากที่เสมอในเวลา 1–1[39] เดวีส์ได้รับรางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมแห่งปีของสโมสรเมื่อวันที่ 24 ตุลาคม[40] และยังได้รับรางวัลประตูยอดเยี่ยมแห่งปีของสโมสรด้วย[41] ในนัดสุดท้ายที่เขาลงเล่นให้กับแวนคูเวอร์เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม เขาทำสองประตูช่วยให้ทีมเอาชนะพอร์ตแลนด์ทิมเบอส์ไปได้ 2–1[42]

ไบเอิร์นมิวนิก

[แก้]

วันที่ 25 กรกฎาคม ค.ศ. 2018 แวนคูเวอร์ประกาศว่าไบเอิร์นมิวนิกในบุนเดิสลีกา บรรลุข้อตกลงในการคว้าตัวเดวีส์ด้วยค่าตัวหลายล้านดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม เขาจะยังลงเล่นให้กับแวนคูเวอร์ในฤดูกาล 2018 ก่อนที่จะย้ายไปไบเอิร์นในเดือนมกราคม ค.ศ. 2019[43][44] ค่าตัวในการย้ายอยู่ที่ 13.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ พร้อมโบนัสในการเพิ่มค่าตัวเป็น 22 ล้านดอลลาร์สหรัฐ นับเป็นผู้เล่นที่มีค่าตัวสูงที่สุดที่ย้ายออกจากเมเจอร์ลีกซอกเกอร์[4] แต่สถิตินี้ก็ถูกทำลายโดยมิเกล อัลมิรอน ที่ย้ายไปนิวคาสเซิลยูไนเต็ด[45] เดวีส์ลงฝึกซ้อมกับไบเอิร์นครั้งแรกเมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน ค.ศ. 2018[46] และได้ลงเล่นนัดแรกเมื่อวันที่ 12 มกราคม ค.ศ. 2019 ในเทเลกอมคัพนัดชิงชนะเลิศที่พบกับโบรุสซีอาเมินเชินกลัทบัค ซึ่งไบเอิร์นสามารถเอาชนะการยิงลูกโทษหลังจากที่เสมอในเวลาแบบไม่มีประตู[47] เดวีส์ลงเล่นนัดแรกในบุนเดิสลีกาเมื่อวันที่ 27 มกราคม ในนัดที่พบกับเฟาเอ็ฟเบ ชตุทท์การ์ท โดยเขาลงเล่นเป็นตัวสำรองแทนที่กีงส์แล กอมาน ช่วยให้ทีมเอาชนะไปได้ 3–1[48] เขาทำประตูแรกให้กับไบเอิร์นในวันที่ 17 มีนาคม โดยเป็นประตูสุดท้ายในนัดที่เอาชนะไมนทซ์ 05 6–0[49] ทำให้เขา ด้วยวัยเพียง 18 ปี 4 เดือน 15 วัน กลายเป็นผู้เล่นที่อายุน้อยที่สุดที่ทำประตูให้ไบเอิร์น นับตั้งแต่ที่ Roque Santa Cruz เคยทำไว้เมื่อ 20 ปีที่แล้ว เขายังเป็นผู้เล่นชาวแคนาดาคนแรกที่ทำประตูให้กับไบเอิร์น[50] วันที่ 18 พฤษภาคม ค.ศ. 2019 เดวีส์ชนะเลิศบุนเดิสลีกาสมัยแรก หลังจากที่ไบเอิร์นมี 78 คะแนน เหนือโบรุสซีอาดอร์ทมุนท์ในตารางเพียง 2 คะแนนเท่านั้น สัปดาห์ถัดมา เดวีส์ชนะเลิศเดเอ็ฟเบ-โพคาลสมัยแรก หลังจากที่ไบเอิร์นเอาชนะแอร์เบ ไลพ์ซิช 3–0 ในเดเอ็ฟเบ-โพคาล 2019 รอบชิงชนะเลิศ แม้ว่าในนัดนั้นเขาจะไม่ได้ลงเล่นก็ตาม[51]

เดวีส์ลงเล่นเป็นตัวจริงในลีกครั้งแรกกับไบเอิร์นในนัดที่ 9 ของบุนเดิสลีกา ฤดูกาล 2019–20 เขาลงเล่นครบ 90 นาที ช่วยให้ทีมเปิดบ้านเอาชนะอูนีโอนแบร์ลีนไปได้ 2–1[52] เขาลงเล่นนัดแรกในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกเมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน ค.ศ. 2019 ในนัดที่เอาชนะโอลิมเบียโกส 2–0[53] ตลอดฤดูกาล 2019–20 เดวีส์เล่นในตำแหน่งแบ็กซ้ายเพื่อเปิดโอกาสให้ดาวิด อาลาบา เล่นในตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ็กได้ เขาได้รับคำชื่นชนจากผลงานในตำแหน่งนี้ โดยเขาอาจถือเป็นหนึ่งในแบ็กซ้ายที่ดีที่สุดในโลกเลยก็ได้[54] วันที่ 25 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2020 เดวีส์มีส่วนช่วยให้รอแบร์ต แลวันดอฟสกี ทำประตูในนัดที่บุกชนะเชลซี 3–0 ในเลกแรกของรอบ 16 ทีมสุดท้ายในแชมเปียนส์ลีก ผลงานของเขาในนัดนั้นได้รับคำชื่นชมผ่านสื่อต่าง ๆ นักวิจารณ์ฟุตบอล แกรี ไลน์เกอร์ ชมว่าเดวีส์เล่นฟุตบอลได้ "อย่างสวยงาม" ในขณะที่อดีตนักฟุตบอลชายทีมชาติสหรัฐ สจวต โฮลเดน กล่าวว่า เขาเป็น "แบ้กซ้ายระดับโลก"[55]

เดือนเมษายน ค.ศ. 2020 ไบเอิร์นมิวนิกกับเดวีส์ ตกลงในขยายสัญญาจนถึงปี 2025 โดยสัญญานี้สามารถขยายเพิ่มได้อีกสองปี[56]

เมื่อบุนเดิสลีกากลับมาแข่งขันใหม่ หลังจากที่หยุดพักไปเนื่องจากการระบาดทั่วของไวรัสโคโรนา เดวีส์ได้ลงเล่นเป็นตัวจริงในนัดที่พบกับไอน์ทรัคท์ฟรังค์ฟวร์ทและโบรุสซีอาดอร์ทมุนท์ เขาทำประตูและแอสซิสต์ในนัดที่พบกับฟรังค์ฟวร์ท และหยุดเกมรุกของอาลิง โฮลัน กองหน้าของดอร์ทมุนท์ที่วิ่งด้วยความเร็ว 35.3 กิโลเมตรต่อชั่วโมง[57] วันที่ 16 เมษายน ค.ศ. 2020 เดวีส์ลงเล่นให้กับไบเอิร์นในนัดที่เอาชนะแวร์เดอร์เบรเมิน 1–0 ช่วยให้ไบเอิร์นชนะเลิศบุนเดิสลีกาเป็นสมัยที่ 8 ติดต่อกัน แม้ว่านัดนั้นเขาจะถูกไล่ออกจากสนามด้วยใบเหลืองที่สองในนาทีที่ 79 แต่ก่อนหน้านั้น เขาทำสถิติวิ่งเร็วที่สุดในลีกด้วยความเร็ว 36.51 กิโลเมตรต่อชั่วโมง[58] เขาได้รับรางวัลผู้เล่นหน้าใหม่ยอดเยี่ยมของลีกประจำฤดูกาล 2019–20[5] วันที่ 14 สิงหาคม ค.ศ. 2020 เดวีส์ที่ลงเล่นในตำแหน่งแบ็กซ้าย แอสซิสต์ให้โยชัว คิมมิช ทำประตูในนัดที่พบกับบาร์เซโลนาในรอบก่อนรองชนะเลิศแชมเปียนส์ลีก ซึ่งสุดท้ายแล้วไบเอิร์นเอาชนะไปได้ถึง 8–2[59] ในวันที่ 23 สิงหาคม ค.ศ. 2020 เขาลงเล่นเป็นตัวจริงในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก นัดชิงชนะเลิศ ที่พบกับปารีแซ็ง-แฌร์แม็ง ซึ่งสุดท้ายแล้ว ไบเอิร์นเอาชนะไปได้ 1–0 และคว้าทริปเปิลแชมป์[60] ทำให้เดวีส์กลายเป็นผู้เล่นชาวแคนาดาคนแรกที่ชนะเลิศแชมเปียนส์ลีก[61]

ทีมชาติ

[แก้]
เดวีส์กับแคนาดาในนัดที่พบกับโดมินิกาที่โทรอนโตในเดือนตุลาคม ค.ศ. 2018

ชุดเยาวชน

[แก้]

แม้ว่าจะเป็นชาวไลบีเรียโดยกำเนิด เดวีส์ถูกเรียกติดค่ายทีมชาติแคนาดารุ่นอายุไม่เกิน 15 และ 18 ปีใน ค.ศ. 2014 และ 2015 ตามลำดับ[2] ในวันที่ 17 มีนาคม ค.ศ. 2016 เขาถูกเรียกติดทีมชาติแคนาดารุ่นอายุไม่เกิน 20 ในนัดกระชับมิตรที่จะพบกับอังกฤษ[62][63] ในเดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 2016 เดวีส์ถูกเรียกทีมชาติแคนาดารุ่นอายุไม่เกิน 17 ปี ซึ่งเขาสามารถทำสองประตูใส่จาเมกาได้[64] เขาได้รับรางวัลผู้เล่นชายแคนาดายอดเยี่ยมรุ่นอายุไม่เกิน 17 ปีแห่งปี 2016 หลังจากที่ทำผลงานอันยอดเยี่ยมในนัดกระชับมิตร[65] ในเดือนมีนาคม ค.ศ. 2017 เดวีส์สัมภาษณ์ว่า เขาอยากเป็นตัวแทนของแคนาดาซึ่งเป็นหนึ่งในความฝันของเขา[66] ในปีเดียวกันนี้เอง เขาได้รางวัลผู้เล่นชายแคนาดายอดเยี่ยมรุ่นอายุไม่เกิน 17 ปีเป็นครั้งที่สอง หลังจากที่ทำผลงานอันยอดเยี่ยมกับทีมชุดใหญ่[67]

ชุดใหญ่

[แก้]

เนื่องจากเดวีส์เกิดที่กาบองและมีสัญชาติไลบีเรีย เขาจึงมีสิทธิ์เลือกเล่นให้กับทั้งทีมชาติกานาและทีมชาติไลบีเรีย[68] อย่างไรก็ตาม วันที่ 6 มิถุนายน ค.ศ. 2017 เดวีส์ได้รับสัญชาติแคนาดา เขาจึงมีสิทธิ์ที่จะเลือกเล่นให้กับทีมชาติแคนาดาด้วยเช่นกัน[13] ในวันเดียวกันนั้นเอง เขามีชื่อติดทีมชาติชุดใหญ่ในนัดกระชับมิตรที่จะพบกับกือราเซา[69] นอกจากนี้ ยังมีชื่อติดทีมชาติชุดเบื้องต้น 40 คนสำหรับแข่งขันคอนคาแคฟโกลด์คัพ 2017[70] เมื่อเดวีส์ลงเล่นในนัดกระชับมิตรที่พบกับกือราเซา เขาได้กลายเป็นผู้เล่นอายุน้อยที่สุดที่ได้ลงเล่นให้กับทีมชาติด้วยวัยเพียง 16 ปี[71] วันที่ 27 มิถุนายน เขามีชื่อติดทีมชุด 23 คนสุดท้ายสำหรับการแข่งขันโกลด์คัพ 2017[72] นัดแรกของแคนาดาในรายการแข่งขัน เดวีส์ทำสองประตูช่วยให้ทีมเอาชนะเฟรนช์เกียนา 4–2 เขาจึงกลายเป็นผู้เล่นอายุน้อยที่สุดที่ทำประตูในโกลด์คัพ[73][74] ต่อมาในนัดที่สอง เขาทำประตูใส่คอสตาริกา ช่วยให้ทีมเสมอ 1–1[75] เขาได้รับรางวัลรองเท้าทองคำจากการเป็นผู้ทำประตูสูงสุดประจำรายการ ได้รับรางวัลผู้เล่นดาวรุ่งยอดเยี่ยมประจำรายการ และติดทีมยอดเยี่ยมประจำรายการด้วย[76]

วันที่ 30 พฤษภาคม ค.ศ. 2019 เดวีส์มีชื่อติดทีมชาติสำหรับการแข่งขันโกลด์คัพ 2019[77] ต่อมาในคอนคาแคฟเนชันส์ลีก 2019–20 ลีกเอ เขาได้ลงเล่นทั้งสองนัดที่พบกับคิวบาในวันที่ 7 และ 10 กันยายน ค.ศ. 2019 โดยในนัดที่สอง เขายิงประตูชัยช่วยให้ทีมเอาชนะไปได้ 1–0[78] ในเดือนตุลาคม ค.ศ. 2019 เดวีส์มีส่วนช่วยให้แคนาดาสามารถเอาชนะสหรัฐได้เป็นครั้งแรกในรอบ 34 โดยเขาเป็นผู้ทำประตูแรกในนัดนั้น ช่วยให้ทีมเอาชนะไปได้ 2–0 ในเนชันส์ลีก[79]

รูปแบบการเล่น

[แก้]

แม้ว่าเดวีส์จะเล่นในตำแหน่งฟูลแบ็กฝั่งซ้ายเป็นหลัก แต่เขาก็สามารถเล่นในตำแหน่งวิงส์แบ็ก กองกลางฝั่งซ้าย หรือปีกได้ เนื่องจากเขาสามารถเลี้ยงลูก สร้างสรรค์เกม ตัดเกม และวิ่งได้อย่างไม่เหน็ดเหนื่อย เขาเป็นผู้เล่นดาวรุ่งที่น่าจับตามองมากคนหนึ่งจากสื่อ[11][80]

ชีวิตส่วนตัว

[แก้]

เขาคบหาดูใจกับจอร์ดีน ฮุยตีมา นักฟุตบอลหญิงในตำแหน่งกองหน้าของปารีแซ็ง-แฌร์แม็ง มาตั้งแต่เดือนกันยายน ค.ศ. 2017[81] ในเดือนกันยายน ค.ศ. 2019 เขาเข้าค่ายฝึกซ้อมของไบเอิร์นช้าและถูกปรับ 20,000 ยูโรเนื่องจากเขาไปเยี่ยมเธอที่ปารีส[82] และในเดือนมิถุนายน ค.ศ. 2020 สื่อฝรั่งเศสระแวงว่าเดวีส์อาจสนใจที่จะได้ฮุยตีมาเซ็นสัญญากับทีมหญิงของไบเอิร์น[83]

สถิติอาชีพ

[แก้]

สโมสร

[แก้]
ณ วันที่ 5 พฤศจิกายน 2022 [23][31]
สโมสร ฤดูกาล ลีก ถ้วย[b] ทวีป อื่น ๆ ทั้งหมด
ระดับ ลงเล่น ประตู ลงเล่น ประตู ลงเล่น ประตู ลงเล่น ประตู ลงเล่น ประตู
แวนคูเวอร์ไวต์แคปส์ 2 2016 USL 11 2 0 0 11 2
แวนคูเวอร์ไวต์แคปส์ 2016 MLS 8 0 4 0 3[c] 1 15 1
2017 MLS 26 0 2 2 4[c] 1 1[d] 0 33 3
2018 MLS 31 8 2 0 33 8
รวม 65 8 8 2 7 2 1 0 81 12
ไบเอิร์นมิวนิก 2018–19 Regionalliga Bayern 3 0 2[e] 0 5 0
2019–20 3. Liga 3 0 3 0
รวม 6 0 2 0 8 0
ไบเอิร์นมิวนิก 2018–19 บุนเดิสลีกา 6 1 0 0 0 0 6 1
2019–20 บุนเดิสลีกา 29 3 5 0 8[f] 0 1[g] 0 43 3
2020–21 บุนเดิสลีกา 23 1 2 0 6[f] 0 4[h] 0 35 1
2021–22 บุนเดิสลีกา 22 0 1 0 7[f] 0 1[g] 0 31 0
2022–23 บุนเดิสลีกา 12 0 1 1 5[f] 0 1[g] 0 19 1
รวม 92 5 9 1 25 0 7 0 133 6
รวมทั้งหมด 174 15 17 3 32 2 10 0 233 20

หมายเหตุ

  1. เขาถือครองสถิตินี้จนถึงปี 2020
  2. คะเนเดียนแชมเปียนชิปและเดเอ็ฟเบ-โพคาล
  3. 3.0 3.1 ลงเล่นในคอนคาแคฟแชมเปียนส์ลีก
  4. ลงเล่นในเมเจอร์ลีกซอกเกอร์คัพ รอบเพลย์ออฟ
  5. ลงเล่นในรอบเพลย์ออฟเลื่อนชั้นสู่ 3. Liga
  6. 6.0 6.1 6.2 6.3 ลงเล่นในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก
  7. 7.0 7.1 7.2 ลงเล่นในเดเอ็ฟเอ็ล-ซูเพอร์คัพ
  8. ลงเล่นหนึ่งนัดในยูฟ่าซูเปอร์คัพ, หนึ่งนัดในเดเอ็ฟเอ็ล-ซูเพอร์คัพ, สองนัดในฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลก

ทีมชาติ

[แก้]
ณ วันที่ 1 ธันวาคม 2022 [84]
แคนาดา
ปี ลงเล่น ประตู
2017 6 3
2018 3 0
2019 8 2
2021 13 5
2022 7 3
รวมทั้งหมด 37 13

ประตูในนามทีมชาติ

[แก้]
ณ วันที่ 1 ธันวาคม 2022 [84]
ลำดับ วันที่ สนาม คู่แข่ง ประตู ผล รายการแข่งขัน
1 7 กรกฎาคม 2017 เรดบูลล์อารีนา, แฮร์ริสัน สหรัฐ ธงชาติเฟรนช์เกียนา เฟรนช์เกียนา 3–0 4–2 คอนคาแคฟโกลด์คัพ 2017
2 4–2
3 11 กรกฎาคม 2017 สนามกีฬาบีบีวีเอ ฮิวสตัน สหรัฐ ธงชาติคอสตาริกา คอสตาริกา 1–0 1–1
4 10 กันยายน 2019 ศูนย์กีฬาทรูมัน บอดเดน จอร์จทาวน์ หมู่เกาะเคย์แมน ธงชาติคิวบา คิวบา 1–0 1–0 คอนคาแคฟเนชันส์ลีก 2019–20 ลีกเอ
5 15 ตุลาคม 2019 บีเอ็มโอฟีลด์, โทรอนโต แคนาดา ธงชาติสหรัฐ สหรัฐ 1–0 2–0
6 29 มีนาคม 2021 ไอเอ็มจีอะคาเดมี เบรเดนตัน สหรัฐ ธงชาติหมู่เกาะเคย์แมน หมู่เกาะเคย์แมน 4–0 11–0 ฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก
7 9–0
8 5 มิถุนายน 2021 ธงชาติอารูบา อารูบา 5–0 7–0
9 8 มิถุนายน 2021 SeatGeek Stadium บริดจ์วิว สหรัฐ ธงชาติซูรินาม ซูรินาม 1–0 4–0
10 13 ตุลาคม 2021 BMO Field โทรอนโต แคนาดา ธงชาติปานามา ปานามา 2–1 4–1 ฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก
11 9 มิถุนายน 2022 BC Place, แวนคูเวอร์ แคนาดา ธงชาติกูราเซา กูราเซา 1–0 4–0 คอนคาแคฟเนชันส์ลีก ฤดูกาล 2022–23 ลีกเอ
12 3–0
13 27 พฤศจิกายน 2022 Khalifa International Stadium, Al Rayyan, กาตาร์ ธงชาติโครเอเชีย โครเอเชีย 1–0 1–4 ฟุตบอลโลก 2022

เกียรติประวัติ

[แก้]

สโมสร

[แก้]

ไบเอิร์นมิวนิก

รางวัลส่วนตัว

[แก้]

อ้างอิง

[แก้]
  1. "Alphonso Davies Bayern Munich Profile". January 8, 2019. สืบค้นเมื่อ October 19, 2019.
  2. 2.0 2.1 "Alphonso Davies". Canada Soccer. สืบค้นเมื่อ March 11, 2018.
  3. "FC Bayern verpflichtet Alphonso Davies bis 2023" [Bayern commits Alphonso Davies until 2023]. FC Bayern Munich (ภาษาเยอรมัน). July 25, 2018. สืบค้นเมื่อ July 25, 2018.
  4. 4.0 4.1 Lindberg, Austin (July 25, 2018). "Bayern Munich sign Canadian teen Alphonso Davies in MLS-record deal". ESPN. สืบค้นเมื่อ July 25, 2018.
  5. 5.0 5.1 5.2 Decourcy, Mike (June 19, 2020). "Bayern Munich's Alphonso Davies beats tough competition to Bundesliga Rookie of the Year award". The Sporting News. สืบค้นเมื่อ June 19, 2020.
  6. 6.0 6.1 Buhler, Andy (July 5, 2017). "Canadian soccer phenom Alphonso Davies' talent belies his youth". The Star. สืบค้นเมื่อ July 8, 2017.
  7. Schuller, Rudi. "Davies becomes first 2000s-born player to score at a top level international tournament". Goal.com. สืบค้นเมื่อ July 8, 2017.
  8. 8.0 8.1 "Alphonso Davies: The Bayern Munich winger born in a refugee camp". BBC. September 26, 2019.
  9. Asano, Naoko. "Whitecaps phenom Davies receives Canadian citizenship, 1st senior call-up". Sportsnet. สืบค้นเมื่อ June 7, 2017.
  10. Becoming Canadian: The Alphonso Davies Story. Vancouver Whitecaps FC's YouTube channel. June 6, 2017. From 1:00 to 2:00.
  11. 11.0 11.1 11.2 Penfold, Chuck (July 26, 2018). "Bayern Munich: Who is new signing Alphonso Davies?". Deutsche Welle. สืบค้นเมื่อ July 27, 2018.
  12. "The Civil War and the Refugee Crisis in Liberia". สืบค้นเมื่อ July 24, 2018.
  13. 13.0 13.1 "Alphonso Davies receives Canadian citizenship and first senior call-up to Canada". June 6, 2017. สืบค้นเมื่อ June 6, 2017.
  14. Willes, Ed (July 4, 2017). "Whitecaps' Davies never doubted rise from refugee camp to soccer splendour". The Province.
  15. 15.0 15.1 Leavitt, Kieran (July 25, 2018). "Edmonton's soccer community remembers Alphonso Davies' local legacy prior to Bayern Munich signing". StarMetro. Edmonton.
  16. "Success of soccer star Alphonso Davies shines spotlight on Free Footie program". cbc.ca (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ June 15, 2020.
  17. "Alphonso Davies". kicker.de (ภาษาเยอรมัน). สืบค้นเมื่อ February 2, 2019.
  18. "Whitecaps FC Profile: Alphonso Davies". สืบค้นเมื่อ February 24, 2016.
  19. Weber, Marc. "Caps give youth a chance in 15-year-old Alphonso Davies". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ May 31, 2016. สืบค้นเมื่อ February 24, 2016.
  20. "Whitecaps FC sign teenagers Matthew Baldisimo and Alphonso Davies to WFC2". February 23, 2016. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2019-03-27. สืบค้นเมื่อ February 24, 2016.
  21. "Whitecaps FC 2 on Twitter". สืบค้นเมื่อ July 17, 2016.
  22. "USL on Twitter". สืบค้นเมื่อ July 17, 2016.
  23. 23.0 23.1 "Alphonso Davies profile". Soccerway.
  24. "Whitecaps FC submit 20-man roster in advance of Wednesday's Amway Canadian Championship semifinal | Vancouver Whitecaps FC". May 31, 2016.
  25. "Vancouver Whitecaps on Twitter". สืบค้นเมื่อ July 17, 2016.
  26. "Whitecaps FC add 15-year-old Residency product Alphonso Davies to MLS roster". Vancouver Whitecaps FC. July 15, 2016.
  27. "Youngster Alphonso Davies impresses in MLS debut for Whitecaps". Sportsnet. July 16, 2016.
  28. "SCCL quarterfinal berth: CLINCHED!!!". Vancouver Whitecaps FC Official Twitter. September 13, 2016.
  29. Stephen, Colin (September 24, 2016). "Whitecaps' Alphonso Davies, 15, is second-youngest starter in MLS history". MLS Official Website.
  30. Boehm, Charles (October 3, 2016). "Vancouver Whitecaps 1, Seattle Sounders 2". Major League Soccer. สืบค้นเมื่อ July 8, 2017.
  31. 31.0 31.1 31.2 "Alphonso Davies » Club matches". World Football. สืบค้นเมื่อ July 27, 2018.
  32. "Alphonso Davies » CONCACAF Champions League 2016/2017". World Football. สืบค้นเมื่อ July 27, 2018.
  33. Dyer, Kristian. "Source: Alphonso Davies being trailed by three English Premier League giants". Metro.us. สืบค้นเมื่อ July 9, 2017.
  34. "Next Generation 2017: 60 of the best young talents in world football". The Guardian. สืบค้นเมื่อ January 1, 2018.
  35. Boehm, Charles (March 4, 2018). "Recap: Vancouver Whitecaps FC vs. Montreal Impact". MLS.
  36. Dyck, Darryl (June 10, 2018). "Alphonso Davies has goal, three assists to lead Whitecaps past Orlando City". The Globe and Mail.
  37. "Bayern Munich-bound Alphonso Davies destroys Loons as Whitecaps win". Major League Soccer. July 29, 2018. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2019-12-12. สืบค้นเมื่อ July 29, 2018.
  38. 38.0 38.1 "2018 MLS All-Star Roster". MLSsoccer.com. Major League Soccer. June 29, 2018. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2019-06-26. สืบค้นเมื่อ June 16, 2018.
  39. Roberson, Doug (August 1, 2018). "Martinez scores but MLS All-Stars fall to Juventus in front of record crowd". AJC.com. The Atlanta Journal-Constitution. สืบค้นเมื่อ August 1, 2018.
  40. Adams, J.J. (October 24, 2018). "Alphonso Davies named Caps' player of the year". The Province. สืบค้นเมื่อ October 30, 2018.
  41. 41.0 41.1 41.2 "Winners announced for 2018 Whitecaps FC Player Awards, presented by BMO". whitecapsfc.com. Vancouver Whitecaps FC. October 24, 2018. สืบค้นเมื่อ October 30, 2018.
  42. Little, Simon (October 28, 2018). "Emotional sendoff as Alphonso Davies plays final game as Vancouver Whitecap".
  43. "Alphonso Davies: Bayern Munich sign 17-year-old for MLS record fee". BBC. July 26, 2018.
  44. "Whitecaps FC agree to MLS record-breaking transfer of Homegrown midfielder Alphonso Davies to Germany's most storied club FC Bayern Munich". Vancouver Whitecaps FC. July 25, 2018. สืบค้นเมื่อ July 25, 2018.
  45. "Miguel Almiron completes record transfer from Atlanta to Newcastle". MLS Soccer. January 31, 2019. สืบค้นเมื่อ January 31, 2019.
  46. Uersfeld, Stephan (November 22, 2018). "Canada's Alphonso Davies 'very excited' as Bayern Munich career begins". ESPN. สืบค้นเมื่อ November 22, 2018.
  47. Devji, Farhan (January 13, 2019). "Alphonso Davies shows attacking flair in Bayern Munich debut". สืบค้นเมื่อ January 19, 2019.
  48. "Alphonso Davies makes league debut for Bayern Munich in win". CBC. January 27, 2019. สืบค้นเมื่อ February 1, 2019.
  49. Echegaray, Luis Miguel (March 17, 2019). "Alphonso Davies Scores First Ever Goal for Bayern Munich in Huge Win Over Mainz". Sports Illustrated. สืบค้นเมื่อ March 17, 2019.
  50. "James Rodriguez hat-trick and maiden Alphonso Davies goal send Bayern Munich top after crushing Mainz win". Bundesliga. March 17, 2019. สืบค้นเมื่อ March 18, 2019.
  51. "Robert Lewandowski hits brace as Bayern Munich beat RB Leipzig in DFB Cup final to seal the double". bundesliga.com. สืบค้นเมื่อ May 26, 2019.
  52. "Davies lauds Lewandowki". bundesliga.com. สืบค้นเมื่อ October 28, 2019.
  53. "Robert Lewandowski on target again as Bayern Munich down Olympiacos to reach UEFA Champions League last 16". bundesliga.com. November 6, 2019. สืบค้นเมื่อ November 6, 2019.
  54. "Squawka Scout: Is Alphonso Davies the world's best left-back-in-waiting?". squawka.com. May 20, 2020.
  55. "Alphonso Davies shines in Bayern Munich's 3–0 Champions League win at Chelsea". Global News. February 25, 2020. สืบค้นเมื่อ March 19, 2020.
  56. "Bayern extends Davies until 2025". TSN. สืบค้นเมื่อ April 20, 2020.
  57. Davidson, Neil (May 27, 2020). "Alphonso Davies turning heads, winning over Bayern fans with speed and smarts". The Canadian Press. สืบค้นเมื่อ May 27, 2020 – โดยทาง CBC.
  58. Williams, Rob (June 16, 2020). "Alphonso Davies sets new Bundesliga speed record in title-clinching match". dailyhive.com. สืบค้นเมื่อ June 16, 2020.
  59. "'Unbelievable' Davies killed Barca belief - Kimmich". ESPN. August 14, 2020. สืบค้นเมื่อ August 23, 2020.
  60. "Bayern Munich beat Paris Saint-Germain to win Champions League". ESPN. August 23, 2020. สืบค้นเมื่อ August 23, 2020.
  61. "Edmonton's Alphonso Davies wins Champions League title with Bayern Munich". CTV News Edmonton. August 23, 2020. สืบค้นเมื่อ August 24, 2020.
  62. "Canada Soccer selects players for England youth friendly". Canada Soccer. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2018-09-18. สืบค้นเมื่อ July 17, 2016.
  63. "Alphonso Davies joins Canada's U-20 soccer team". สืบค้นเมื่อ March 27, 2016.
  64. "Alphonso Davies scores for Canada's under-17 squad in friendly win over Jamaica". Vancouver Province. The Canadian Press. November 26, 2016. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ November 29, 2016. สืบค้นเมื่อ November 29, 2016.
  65. 65.0 65.1 "Davies and Rose win 2016 Canadian U-17 Players of the Year". Canada Soccer. December 13, 2016. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2020-02-19. สืบค้นเมื่อ 2020-08-24.
  66. "'His talent was evident': Alphonso Davies is dropping jaws, one at a time". Vancouver Province. March 30, 2017. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2018-06-22. สืบค้นเมื่อ 2020-08-24.
  67. 67.0 67.1 "Davies & Huitema named Canadian U-17 Players of the Year for Canada Soccer". Canada Soccer. December 11, 2017. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2020-02-19. สืบค้นเมื่อ 2020-08-24.
  68. "Alphonso Davies, symbole de la mosaïque canadienne" (ภาษาฝรั่งเศส). Le Temps. June 3, 2020. สืบค้นเมื่อ June 18, 2020.
  69. Clipperton, Joshua (June 6, 2017). "Teen's soccer journey takes him from refugee camp to Canada's national team". Canadian Broadcasting Corporation. The Canadian Press. สืบค้นเมื่อ October 30, 2018.
  70. "Canada Soccer releases 40-man Provisional List for CONCACAF Gold Cup". Canada Soccer. June 6, 2017. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2019-05-29. สืบค้นเมื่อ 2020-08-26.
  71. Heidenreich, Phil (June 14, 2017). "Teen soccer star from Edmonton impresses in history making debut for Team Canada". globalnews.ca. Global News. สืบค้นเมื่อ October 30, 2018.
  72. Zeitlin, Dave (June 27, 2017). "Canada names nine MLS players to 23-man CONCACAF Gold Cup roster".
  73. "Teen Alphonso Davies scores 2 in Canada's Gold Cup win". Canadian Broadcasting Corporation. สืบค้นเมื่อ July 8, 2017.
  74. "Canada walks away with win and lessons learned in Gold Cup opener". Sportsnet.ca. สืบค้นเมื่อ July 8, 2017.
  75. "Canada stays atop Group A with impressive 1:1 draw with Costa Rica at CONCACAF Gold Cup". canadasoccer.com. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2019-03-27. สืบค้นเมื่อ 2020-08-26.
  76. Schuller, Rudi. "Canada's Alphonso Davies wins trio of Gold Cup awards". Sporting News. สืบค้นเมื่อ July 29, 2017.
  77. "Together We Rise: Canada Soccer announces squad for the 2019 Concacaf Gold Cup". canadasoccer.com. May 30, 2019. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2019-06-03. สืบค้นเมื่อ June 25, 2019.
  78. "Alphonso Davies scores as Canada beats Cuba in Nations League". Sportsnet. September 10, 2019.
  79. Joshua Kloke (October 15, 2019). "Canada's historic win over the U.S. cements Alphonso Davies as the face of the program". The Athletic.
  80. "Scout Report: Alphonso Davies - Speedy Canadian Winger". Outside of the Boot. August 15, 2018. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2020-01-24. สืบค้นเมื่อ August 14, 2020.
  81. "Does Canada have a new power soccer couple in Alphonso Davies and Jordyn Huitema?". toronto.citynews.ca. November 23, 2018. สืบค้นเมื่อ April 21, 2020.
  82. "Bayern Munich's Alphonso Davies was fined €20k by Niko Kovač after being four hours late to practice". Bavarian Football Works. September 2, 2019.
  83. Alvarez, Marc (June 6, 2020). "Alphonso Davies aimerait que sa copine passe du PSG au Bayern". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2020-06-07. สืบค้นเมื่อ 2020-08-26.
  84. 84.0 84.1 "NFT profile". National Football Teams. สืบค้นเมื่อ July 12, 2017.
  85. "Bayern Munich crowned Bundesliga champions". Bundesliga. May 8, 2021. สืบค้นเมื่อ May 8, 2021.
  86. "Bayern win the champions league". espn.com. 23 July 2020. สืบค้นเมื่อ 23 July 2020.
  87. "Joker Javi Martinez köpft Bayern zum Supercup". kicker.de (ภาษาเยอรมัน). September 24, 2020. สืบค้นเมื่อ September 24, 2020.
  88. "Pavard completes sextuple for dominant Bayern". FIFA.com. February 11, 2021. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2021-02-11. สืบค้นเมื่อ February 11, 2021.
  89. "Canada's Davies merits Young Player Award presented by Scotiabank". goldcup.org. July 26, 2017. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ July 26, 2017. สืบค้นเมื่อ July 27, 2017.
  90. 90.0 90.1 "Alphonso Davies wins Young Player, Golden Boot and Best XI at Gold Cup 2017". canadasoccer.com. July 26, 2017. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2020-02-19. สืบค้นเมื่อ July 27, 2017.
  91. Molinaro, John (December 12, 2018). "Alphonso Davies named Canadian men's player of the year". sportsnet.ca. Sportsnet. สืบค้นเมื่อ December 12, 2018.
  92. "Alphonso Davies wins 2020 Canadian Player of the Year Award presented by Allstate". canadasoccer.com. Canadian Soccer Association. December 3, 2020. สืบค้นเมื่อ December 3, 2020.
  93. "Davies named Bundesliga rookie of the month". tsn.ca. TSN. June 12, 2020. สืบค้นเมื่อ June 12, 2020.
  94. "The 2020/21 Bundesliga Team of the Season!". Bundesliga. May 15, 2021. สืบค้นเมื่อ May 17, 2021.
  95. "Sechsmal Bayern, einmal Gladbach: Die kicker-Elf der Saison (2019/20)" (ภาษาเยอรมัน). kicker. July 3, 2020. สืบค้นเมื่อ September 3, 2020.
  96. "UEFA Champions League Squad of the Season". UEFA. August 28, 2020. สืบค้นเมื่อ August 28, 2020.
  97. "Joshua Kimmich: Champions League Defender of the Season". UEFA. August 1, 2020. สืบค้นเมื่อ October 1, 2020.
  98. "UEFA.com fans' Team of the Year 2020 revealed". UEFA. January 20, 2021. สืบค้นเมื่อ January 20, 2021.
  99. "Champions League breakthrough team of 2020". uefa.com. December 30, 2020. สืบค้นเมื่อ January 1, 2021.
  100. "IFFHS WORLD AWARDS 2020 - THE WINNERS". IFFHS. December 4, 2020. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2021-01-29. สืบค้นเมื่อ December 4, 2020.
  101. "Davies, Duvernay-Tardif named co-winners of 2020 Lou Marsh Trophy". Toronto: The Sports Network. December 8, 2020. สืบค้นเมื่อ December 8, 2020.
  102. "Lucy Bronze and Robert Lewandowski are The Best of 2020". FIFA. December 17, 2020. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2021-04-30. สืบค้นเมื่อ December 17, 2020.
  103. "The FIFA FIFPRO Men's World 11 of 2019-2020 - FIFPRO World Players' Union". FIFPRO (ภาษาอังกฤษ). December 17, 2020. สืบค้นเมื่อ December 18, 2020.
  104. "Alphonso Davies wraps up remarkable year with Bayern by winning Lionel Conacher Award". Yahoo! Sports Canada. December 29, 2020. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2021-01-27. สืบค้นเมื่อ December 30, 2020.

แหล่งข้อมูลอื่น

[แก้]