อวย เกตุสิงห์
บทความนี้ไม่มีการอ้างอิงจากแหล่งที่มาใด |
ศาสตราจารย์เกียรติคุณ เรือโท นายแพทย์ อวย เกตุสิงห์ | |
---|---|
เกิด | อวย เกตุสิงห์ 3 กันยายน พ.ศ. 2451 ตำบลรังสิต อำเภอรังสิต จังหวัดพระนคร |
เสียชีวิต | 20 ธันวาคม พ.ศ. 2533 (82 ปี) |
สัญชาติ | ไทย |
อาชีพ | แพทย์, อาจารย์ |
องค์การ | คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยแพทยศาสตร์ |
มีชื่อเสียงจาก | บิดาแห่งแพทย์แผนไทยประยุกต์ |
ตำแหน่ง | อาจารย์ |
คู่สมรส | พญ.ม.ร.ว.ส่งศรี เกษมศรี (2452–2552) |
ศาสตราจารย์เกียรติคุณ เรือโท นายแพทย์ อวย เกตุสิงห์ เป็นแพทย์ชาวไทย เกิดเมื่อวันที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2451 เป็นชาวจังหวัดพระนคร สำเร็จการศึกษาแพทยศาสตรบัณฑิต เกียรตินิยมอันดับหนึ่ง จาก คณะแพทยศาสตร์และศิริราชพยาบาล จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย แล้วได้ทุนไปศึกษาเพิ่มเติมที่มหาวิทยาลัยในประเทศเยอรมนี ก่อนจะกลับมาเป็นอาจารย์ที่ภาควิชาสรีรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล อวยได้รับการยกย่องว่าเป็นนายแพทย์ที่มีความรู้ทางพระพุทธศาสนาสูง รู้จักประยุกต์ใช้คำสอนของพระพุทธศาสนาเพื่อประโยชน์ทางการบำบัดผู้ป่วยกับวิชาแพทย์แผนใหม่รุ่นบุกเบิกของไทย ในขณะเดียวกัน ท่านยังเป็นนายแพทย์ผู้บุกเบิกเอาวิชาความรู้ทางวิทยาศาสตร์ และแพทยศาสตร์มาประยุกต์และได้รับสมญานามว่าเป็น บิดาแห่งแพทย์แผนไทยประยุกต์
ประวัติ
[แก้]อวยเกิดเมื่อวันที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2451 ณ ตำบลรังสิต อำเภอรังสิต จังหวัดพระนคร เป็นบุตรคนที่สองของรองอำมาตย์เอก หลวงศรีนาวาพล (อู่ เกตุสิงห์) และนางลูกจันทร์ ศรีนาวาพล มีพี่น้องรวม 7 คน อวยได้รับการศึกษาภาษาไทย ภาษาอังกฤษ และกวีนิพนธ์จากบิดาแต่ก่อนครั้งเข้าวัยเรียน และได้รับการหล่อหลอมให้เป็นผู้มีคุณธรรม จริยธรรมจากคุณยาย อวยเริ่มต้นการศึกษาในระดับประถมศึกษา ณ โรงเรียนประถมจักรวรรดิ และศึกษาต่อในระดับมัธยมศึกษา ณ โรงเรียนมัธยมวัดบพิตรภิมุขและโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัยตามอันดับ และเข้าสอบชิงทุนศึกษา ณ ต่างประเทศ แต่พลาดทุนดังกล่าวจึงเปลี่ยนมุ่งหมายสู่การศึกษาด้านแพทยศาสตร์
อวยเข้าศึกษา ณ โรงเรียนเตรียมแพทย์ที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในคณะอักษรศาสตร์และวิทยาศาสตร์ และศึกษาต่อในคณะแพทยศาสตร์และศิริราชพยาบาล จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และเมื่อเริ่มฝึกปฏิบัติ ณ โรงพยาบาลศิริราชนั้น ได้ศึกษาในแผนกวิชาสรีรวิทยา อวยเป็นเด็กที่เรียนเก่งจนได้รับทุนของพระยาอุเทนเทพโกสินทร์สำหรับการสอบได้เป็นอันดับหนึ่ง เมื่อจบการศึกษาแล้วนั้น (เวชชบัณฑิต) ได้รับรางวัลเหรียญทองสำหรับการเรียนยอดเยี่ยมตลอดหลักสูตรและรางวัลเหรียญทองแดงสำหรับความเป็นเยี่ยมในวิชาสรีรวิทยา พยาธิวิทยา อายุรศาสตร์ ศัลยศาตร์ และสูติศาสตร์-นรีเวชวิทยา
อวยเข้ารับราชการเป็นอาจารย์และทำงานพร้อมศึกษาต่อ ณ คณะแพทยศาสตร์และศิริราชพยาบาล และสอบได้ปริญญาแพทยศาสตรดุษฎีบัณฑิตใน พ.ศ. 2478 ในปีต่อมาอวยสามารถสอบทุนอเล็กซานเดอร์ ฟอน ฮุมโบลท์ ไปศึกษาเพิ่มเติมในวิชาสรีรวิทยา เภสัชวิทยา และเคมี ณ มหาวิทยาลัยฮัมเบิร์ก ประเทศเยอรมนี ภายหลังสำเร็จการศึกษาแล้วนั้น อวยได้กลับมาปฏิบัติหน้าที่เป็นอาจารย์คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล โดยได้ดำรงตำแหน่งสำคัญต่างๆ อาทิ หัวหน้าแผนกสรีรวิทยา, รองอธิการบดี มหาวิทยาลัยแพทยศาสตร์ (มหาวิทยาลัยมหิดลในปัจจุบัน), หัวหน้าแผนกเภสัชวิทยา คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยแพทยศาสตร์, คณบดีคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยแพทยศาสตร์ (ปัจจุบันสังกัดจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย), รักษาการผู้อำนวยการศูนย์วิทยาศาสตร์การกีฬาองค์การส่งเสริมกีฬาแห่งประเทศไทย นอกจากนี้ อวยยังเป็นบิดาแห่งแพทย์แผนไทยประยุกต์ เป็นผู้บุกเบิกก่อตั้ง อายุรเวทวิทยาลัย ให้ความสำคัญแก่วิธีการรักษาแบบตะวันออก ตามแนวของหมอชีวกโกมารภัจจ์
เขาเคยได้รับแต่งตั้งเป็นสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ในปี พ.ศ. 2516[1]
อวยสมรสกับแพทย์หญิง หม่อมราชวงศ์ส่งศรี เกษมศรี ธิดาในหม่อมเจ้าปฏิพัทธเกษมศรี เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2486 มีบุตรธิดาคือ ดร.ศิวพร เกตุสิงห์
เครื่องราชอิสริยาภรณ์
[แก้]ไทย
[แก้]- พ.ศ. 2525 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือก ชั้นสูงสุด มหาปรมาภรณ์ช้างเผือก (ม.ป.ช.)[2]
- พ.ศ. 2508 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ชั้นสูงสุด มหาวชิรมงกุฎ (ม.ว.ม.)[3]
- พ.ศ. 2516 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า ชั้นที่ 2 ทุติยจุลจอมเกล้าวิเศษ (ท.จ.ว.) (ฝ่ายหน้า)[4]
- พ.ศ. 2509 – เหรียญดุษฎีมาลา เข็มศิลปวิทยา (ร.ด.ม.(ศ))[5]
- พ.ศ. 2484 – เหรียญช่วยราชการเขตภายใน การรบสงครามอินโดจีน (ช.ร.)[6]
- พ.ศ. 2501 – เหรียญจักรพรรดิมาลา (ร.จ.พ.)[7]
- พ.ศ. 2509 – เหรียญลูกเสือสดุดี ชั้นที่ 1[8]
ต่างประเทศ
[แก้]- เยอรมนีตะวันตก : พ.ศ. 2513 - ดาส โกรสเซ่ แฟร์ดีนสทครอยทซ์
อ้างอิง
[แก้]- ↑ "พระบรมราชโองการ แต่งตั้งสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ" (PDF). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2015-09-27. สืบค้นเมื่อ 2014-07-08.
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, แจ้งความสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ เก็บถาวร 2016-03-04 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, เล่ม ๙๙ ตอนที่ ๑๘๔ ง ฉบับพิเศษ หน้า ๓๙, ๑๗ ธันวาคม ๒๕๒๕
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, แจ้งความสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์, เล่ม ๘๒ ตอนที่ ๑๑๑ ง ฉบับพิเศษ หน้า ๑๓, ๒๓ ธันวาคม ๒๕๐๘
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, แจ้งความสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า เก็บถาวร 2016-03-04 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, เล่ม ๙๐ ตอนที่ ๕๑ ง ฉบับพิเศษ หน้า ๑๓, ๑๐ พฤษภาคม ๒๕๑๖
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, แจ้งความสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเหรียญดุษฎีมาลา เข็มศิลปวิทยา เก็บถาวร 2016-03-04 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, เล่ม ๘๓ ตอนที่ ๑๓ ง หน้า ๗๗๐, ๑๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๐๙
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, แจ้งความสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องพระราชทานเหรียญช่วยราชการเขตต์ภายใน, เล่ม ๕๘ ตอนที่ ๐ ง หน้า ๓๙๔๘, ๔ พฤศจิกายน ๒๔๘๔
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, แจ้งความสำนักคณะรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ เก็บถาวร 2021-07-15 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, เล่ม ๗๕ ตอนที่ ๑๐๙ ง หน้า ๓๓๔๑, ๒๓ ธันวาคม ๒๕๐๑
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, แจ้งความกระทรวงศึกษาธิการ เรื่อง พระราชทานเหรียญลูกเสือสดุดี, เล่ม ๘๓ ตอนที่ ๕๘ ง ฉบับพิเศษ หน้า ๗, ๘ กรกฎาคม ๒๕๐๙
แหล่งข้อมูลอื่น
[แก้]- ฐานข้อมูล เก็บถาวร 2007-10-23 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- ฐานข้อมูล
- บุคคลที่เกิดในปี พ.ศ. 2451
- บุคคลที่เสียชีวิตในปี พ.ศ. 2533
- แพทย์ชาวไทย
- บุคคลจากคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล
- บุคคลจากคณะแพทยศาสตร์และศิริราชพยาบาล จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
- บุคคลจากคณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
- ผู้ได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ม.ป.ช.
- ผู้ได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ม.ว.ม.
- ผู้ได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ท.จ.ว.
- ผู้ได้รับเหรียญ ร.ด.ม.(ศ)
- อาจารย์คณะแพทยศาสตร์
- อาจารย์คณะเภสัชศาสตร์
- อาจารย์คณะครุศาสตร์ - ศึกษาศาสตร์
- ผู้ได้รับปริญญากิตติมศักดิ์จากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่
- บุคคลจากโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย
- บุคคลจากคณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
- สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ
- ราชบัณฑิต
- ผู้ได้รับปริญญากิตติมศักดิ์จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
- ผู้ได้รับปริญญากิตติมศักดิ์จากมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ