ข้ามไปเนื้อหา

หวยในประเทศไทย

หน้าถูกกึ่งป้องกัน
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

หวย เป็นการพนันโดยผู้เสี่ยงทายต้องเลือกหรือซื้อหมายเลขหวยที่ต้องการ แล้วรอการออกรางวัล ตามจำนวนที่ตกลง ในประเทศไทยมีหวยทั้งแบบถูกกฎหมายและผิดกฎหมาย

ประวัติ

หวยเกิดขึ้นราวปี พ.ศ. 2375 รัชกาลที่ 3 ซึ่งเป็นช่วงขาดแคลน ข้าวยากหมากแพง คนไม่ยอมนำเงินมาใช้ เอาเงินไปฝังไว้ในดิน ต่อมาได้แก้ปัญหาเรื่องนี้ด้วยการตั้งหวย จึงโปรดเกล้าฯ ให้พระศรีไชยบาล (จีนหง) (ภายหลังเลื่อนยศเป็นพระยาศรีไชยบาล) ตั้งโรงหวยขึ้นมาตั้งแต่บัดนั้น

หวยในระยะแรกจะเล่นอยู่ในกลุ่มชาวจีน เรียกว่า "ฮวยหวย" (花會) แปลว่า ชุมนุมดอกไม้ เพราะเริ่มแรกเขียนตัวหวยเป็นรูปดอกไม้ ต่อมาจึงเปลี่ยนเป็นชื่อคนจีน โดยทำเป็นแผ่นป้ายเล็ก ๆ จำนวน 34 ป้าย แล้วเขียนชื่อของผู้มีชื่อเสียงในสมัยโบราณเอาไว้บนป้าย ให้แทงว่าจะออกเป็นชื่อใคร ถ้าทายถูกเจ้ามือจ่าย 30 ต่อหนึ่ง ต่อมาเมื่อการพนันแพร่ระบาดสู่สังคมไทย จึงได้มีการออกหวยที่เป็นอักษรไทย (ซึ่งใช้ตัวอักษร 36 ตัว) จึงมีชื่อเรียกว่า "หวย ก ข" โดยโรงหวยเป็นของรัฐที่มีเอกชน เป็นผู้ได้รับสัมปทานดำเนินการ ทั้งนี้นายอากรหวย ได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์เป็น "ขุนบาล" หรือ "ขุนบาน" โดยรายได้จากอากรหวยมีเป็นจำนวนมาก และได้กลายเป็นรายได้ที่สำคัญของรัฐ

ความต้องการเล่นหวยมีมากกว่าที่รัฐจะจัดให้เล่นได้ จึงได้เกิดขุนบานเถื่อนขึ้นทั่วประเทศ ในรัชสมัยของรัชกาลที่ 5 ทรงมีพระราชดำริ ที่จะยกเลิกการเล่นพนัน แต่เนื่องจากอากรหวยเป็นรายได้ที่สำคัญ จึงได้ทรงยกเลิกอากรบ่อนเบี้ยก่อน และค่อยมีการยกเลิกอากรหวยในสมัยรัชกาลที่ 6

ในรัชสมัยของรัชกาลที่ 5 ได้มีการออกล็อตเตอรีขึ้นเป็นครั้งแรก เพื่อหารายได้บำรุงการกุศล และได้มีการออกล็อตเตอรีในวาระพิเศษอีกหลายครั้ง โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อบำรุงสาธารณกุศล เช่นปรากฏข้อความบนหน้าหนังสือพิมพ์ บางกอกไตมส์ ฉบับวันที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2461 ได้ลงประกาศผู้โชคดีที่ได้รับรางวัลที่ 1 มีมูลค่ารางวัล 145,000 บาท[1]

จนกระทั่งรัฐบาลภายหลังการเปลี่ยนแปลงการปกครอง ใน พ.ศ. 2475 ได้ให้มีการออกล็อตเตอรี่เป็นประจำ และในปี พ.ศ. 2482 ได้มีการจัดตั้งสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ให้มีการออกล็อตเตอรี่เป็นประจำ การเล่นหวยจึงได้เปลี่ยนมาใช้เลขท้าย ของล็อตเตอรี่ เป็นการออกหวยแทนหวย ก ข แบบเดิม

สลากกินแบ่งรัฐบาล

สลากกินแบ่งรัฐบาล คือล็อตเตอรีชนิดหนึ่งในประเทศไทย ผู้ที่ต้องการจะขายต้องขออนุญาตจากสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลก่อน ในปัจจุบันออกทุกวันที่ 1 และ 16 ของเดือน ยกเว้น

  • งวด 30 ธันวาคม เปลี่ยนไปออกรางวัล

ในวันที่ 2 มกราคม เนื่องจากเป็นวันหยุดราชการวันขึ้นปีใหม่

หมายเหตุ :

  • งวดวันที่ 1 มิถุนายน 2558 เลื่อนการออกรางวัลเป็นวันที่ 2 มิถุนายน 2558 เนื่องจากเป็นวันวิสาขบูชา วันที่ 16 สิงหาคม 2558 เลื่อนการออกรางวัลเป็นเวลา 11.30 - 13.00 น.
  • งวดวันที่ 16 ธันวาคม 2558 เลื่อนการออกรางวัลเป็นวันที่ 17 ธันวาคม 2558 เนื่องจากมีพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก
  • งวดวันที่ 1 มีนาคม 2561 เลื่อนการออกรางวัลเป็นวันที่ 2 มีนาคม 2561 เนื่องจากเป็นวันมาฆบูชา
  • งวดวันที่ 16 กรกฎาคม 2562 เลื่อนการออกรางวัลเป็นวันที่ 15 กรกฎาคม 2561 เนื่องจากเป็นวันอาสาฬหบูชา
  • งวดวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2565 เลื่อนการออกรางวัลเป็นวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2565 เนื่องจากเป็นวันมาฆบูชา
  • งวดวันที่ 1 สิงหาคม 2566 เลื่อนการออกรางวัลเป็นวันที่ 31 กรกฎาคม 2566 เนื่องจากเป็นวันอาสาฬหบูชา

ปัจจุบันสำนักงานฯ จัดพิมพ์และจำหน่ายสลากงวดละไม่ต่ำกว่า 50 ชุด โดยชุดที่ 01–50 เป็นสลากธรรมดา ชุดที่ 51–100 เป็นสลากการกุศล มีตัวเลข 000000–999999 เหมือนกันทุกชุด (สลากก่อนปี พ.ศ. 2538 จะเป็นแบบตัวเลข 7 หลัก ตั้งแต่ 0000000–9999999) โดยสลากใบจะมีอยู่ 2 ฉบับคู่กัน นั่นคือหนึ่งใบจะมีหมายเลขเดียวกันสองชุด ทำให้มีสิทธิ์ได้รับรางวัลเป็นสองเท่าจากที่กำหนดไว้ อย่างไรก็ตามหากสลากมีเพียงหมายเลขชุดเดียว อันเนื่องจากการแบ่งขายหรือการพิมพ์ที่ผิดพลาด หากถูกรางวัลก็จะได้รับเงินรางวัลไปชุดเดียว หรือถ้าถูกรางวัลมากกว่าหนึ่งประเภทในสลากใบเดียวกัน ก็รับเงินรางวัลไปตามจำนวนที่ถูก

ตั้งแต่งวด 1 สิงหาคม พ.ศ. 2558 เป็นต้นไป ยกเลิกรางวัลที่ 1 พิเศษ (รางวัลแจ็กพอต) แต่เพิ่มเงินรางวัลที่ 1 จาก 2 ล้านบาท เป็น 3 ล้านบาท [2]

ตั้งแต่งวด 1 กันยายน พ.ศ. 2558 เป็นต้นไป รางวัลเลขท้าย 3 ตัว 4 รางวัล เปลี่ยนเป็นรางวัลเลขหน้า 3 ตัว 2 รางวัล และรางวัลเลขท้าย 3 ตัว 2 รางวัล [2]

ตั้งแต่งวด 1 กันยายน พ.ศ. 2560 เป็นต้นไป ได้มีการเปลี่ยนรูปแบบสลากจาก 1 ใบ มี 2 ฉบับคู่ เป็นฉบับละ 1 ใบ โดยยังจำหน่ายในราคาเดียวกับแบบ 1 ใบมี 2 ฉบับคู่

สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลจัดทำโครงการ สลากดิจิทัล หรือ หวย 80 บาท เริ่มจำหน่าย ในวันที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2565 ผ่านทางแอปพลิเคชันเป๋าตัง[3]

รางวัล

สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลกำหนดรางวัลที่ถูกรางวัล[4] ได้แก่

  • รางวัลที่ 1 มีจำนวน 1 รางวัล

เงินรางวัลรางวัลละ 6,000,000 บาท

  • รางวัลที่ 2 มีจำนวน 5 รางวัล

เงินรางวัลรางวัลละ 200,000 บาท

  • รางวัลที่ 3 มีจำนวน 10 รางวัล

เงินรางวัลรางวัลละ 80,000 บาท

  • รางวัลที่ 4 มีจำนวน 50 รางวัล

เงินรางวัลรางวัลละ 40,000 บาท

  • รางวัลที่ 5 มีจำนวน 100 รางวัล

เงินรางวัลรางวัลละ 20,000 บาท

  • รางวัลข้างเคียงรางวัลที่ 1 มีจำนวน 2 รางวัล

เงินรางวัลรางวัลละ 100,000 บาท

  • รางวัลเลขหน้า 3 ตัว มีจำนวน 2,000 รางวัล

เงินรางวัลรางวัลละ 4,000 บาท

  • รางวัลเลขท้าย 3 ตัว มีจำนวน 2,000 รางวัล

เงินรางวัลรางวัลละ 4,000 บาท

  • รางวัลเลขท้าย 2 ตัว มีจำนวน 10,000 รางวัล

เงินรางวัลรางวัลละ 2,000 บาท

สลากกินแบ่งรัฐบาลหกหลัก

สลากกินแบ่งรัฐบาลหกหลัก (Lottery 6: L6) หรือเรียกกันว่า หวย L6 เริ่มขายมาตั้งแต่วันที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2566 (ในงวด 1 ตุลาคม) แบ่งเป็นสลากใบ 80 ล้านฉบับ และสลากดิจิทัล 21 ล้านฉบับ โดยสลากใบมีลักษณะเหมือนกับสลากที่ขายอยู่ในปัจจุบันทุกประการ รวมถึงพิมพ์ข้อความ L6 แบบใบ ลงบนสลากด้วย ส่วนสลากดิจิทัลจะไม่มีการจัดพิมพ์ แต่จะมีข้อมูลที่อยู่ในระบบดิจิทัล มีการพิมพ์ข้อความ L6 แบบดิจิทัล บนสลาก และทำการซื้อขายผ่านแอปเป๋าตัง[5]

สลากเลขท้าย 3 ตัวและ 2 ตัว

สลากเลขท้าย 3 ตัวและ 2 ตัว หรือเรียกกันโดยทั่วไปว่า หวยบนดิน เป็นนโยบายหนึ่งของรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ริเริ่ม มีจุดประสงค์เพื่อนำ หวยใต้ดิน ซึ่งผิดกฎหมาย มาผ่านกระบวนการทางกฎหมายและปรับปรุงให้เป็นของรัฐบาล อีกทั้งยังเป็นการกวาดล้างเจ้ามือหวยใต้ดิน และนำรายได้ไปสร้างประโยชน์แก่ประเทศชาติ โครงการสำคัญที่นำรายได้จากหวยบนดินไปใช้ คือ โครงการหนึ่งอำเภอหนึ่งทุน (ODOS)

ประเภทของสลาก แบ่งเป็น

รางวัลของสลากแบ่งออกเป็น 3 ตัวตรง, 3 ตัวโต๊ด, 2 ตัวบน, 2 ตัวล่าง ผู้ซื้อสามารถเลือกหมายเลขใดก็ได้กรอกลงในช่อง อีกทั้งยังมีการกรอกชื่อผู้ขาย ส่วนการออกรางวัลนั้นอ้างอิงหมายเลขรางวัลของสลากกินแบ่งรัฐบาล ออกรางวัลตั้งแต่งวด 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546 จนถึงงวด 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2549 รวมทั้งสิ้น 80 งวด และสามารถทำการตรวจหวยได้ที่นี้ ที่สำคัญเงินที่ได้จากการจำหน่ายสลากกินแบ่ง คิดเป็นจำนวนเงิน 1.34 แสนล้านบาท เป็นกำไรหลังหักค่าใช้จ่ายแล้ว 2.95 หมื่นล้านบาท[6]

หลังจากเกิดรัฐประหาร พ.ศ. 2549 การออกหวยบนดินต้องสิ้นสุดลง ด้วยรัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ สั่งยกเลิกนโยบายหวยบนดิน และเมื่อวันที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2552 ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองได้พิพากษาว่า การออกหวยบนดินไม่ชอบด้วยกฎหมาย อันเป็นการฝ่าฝืนพระราชบัญญัติเงินคงคลัง พ.ศ. 2491 มาตรา 4 และมาตรา 13 ให้ดำเนินคดีตามพระราชบัญญัติสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล พ.ศ. 2517 มาตรา 23 และมาตรา 27 แก่คณะรัฐมนตรีชุด พ.ต.ท.ทักษิณ และคณะกรรมการสลากฯ ในสมัยนั้น รวม 47 คน[6]

สลากออนไลน์

หวยออนไลน์ยังคงเป็นสิ่งผิดกฎหมาย มีผลตอบแทนสูงกว่าหวยรัฐเพื่อสร้างแรงจูงใจ ยังมีทั้งหวยไทย มาเลย์ ลาว ไปจนถึงจับยี่กีที่นิยมเล่นกันตามชุมชนในอดีต บางชนิดออกวันละหลายรอบ[7]

หวยนักษัตร

หวยนักษัตร สำนักงานสลากฯ เป็นผู้จำหน่ายผ่านระบบออนไลน์ โดยกำหนดหลักที่ใส่ภาพ 4 หลัก ผู้เล่นเลือกรูปภาพนักษัตรใดก็ได้จากทั้งหมด 12 ภาพ ไปใส่ตามหลักที่มีอยู่ 4 หลัก ให้ครบ 4 รูปภาพ โดยสามารถเลือกรูปซ้ำได้ ผู้ถูกรางวัล คือ ถูกรางวัล 4 ภาพตรง กับถูกรางวัล 4 ภาพสลับหลัก (โต๊ด) โดยโอกาสถูกแบบตรงนั้นอยู่ที่ 1 ต่อ 20,736 รูปแบบ ส่วนถูกแบบโต๊ดอยู่ที่ 42 ต่อ 20,736 รูปแบบ การจ่ายเงินรางวัลนั้น นำมาจาก 60% ของยอดขายสลากในแต่ละงวด ส่วนที่เหลืออีก 40% นำเป็นรายได้ส่งกระทรวงการคลัง[8]

หวยใต้ดิน

หวยใต้ดิน เป็นสลากที่ตั้งขึ้นกันเองภายในชุมชน ผู้เล่นจะเขียนตัวเลขที่ตนเองต้องการเสี่ยงโชค 2-3 หลักลงในรายการเรียกว่า "โพย" ระบุว่าต้องการซื้อหมายเลขนี้จำนวนเท่าใด ในราคาเท่าไร (จำนวน×ราคา) และมีคนเดินโพยคอยรวบรวมโพยเหล่านั้นไปส่งที่เจ้ามือหวยใต้ดินในชุมชน หรือส่งต่อกันไปเป็นทอดในกลุ่มเจ้ามือ การออกรางวัลจะใช้ผลจากเลขรางวัลของสลากกินแบ่งรัฐบาลหรือสลากออมสินมาเปรียบเทียบ เงินรางวัลไม่แน่นอนขึ้นอยู่กับอัตราของเจ้ามือ หรือไม่ได้รางวัลเลยถ้าเจ้ามือกินรวบ หวยใต้ดินเป็นสิ่งผิดกฎหมายซึ่งไม่ได้ขออนุญาตการเสี่ยงโชคจากเจ้าหน้าที่ หวยใต้ดินมีศัพท์เฉพาะที่ใช้ในวงการดังนี้

  • 3 ตัวบน - เลขท้าย 3 ตัวของรางวัลที่ 1
  • 2 ตัวบน - เลขท้าย 2 ตัวของรางวัลที่ 1
  • 3 ตัวล่าง - รางวัลเลขท้าย 3 ตัวที่ออก 4 รางวัลตามปกติ
  • 2 ตัวล่าง - รางวัลเลขท้าย 2 ตัวที่ออก 1 รางวัลตามปกติ
  • วิ่งบน - เลขเหมือน 3 ตัวบนอย่างน้อยหนึ่งตัว
  • วิ่งล่าง - เลขเหมือน 2 ตัวล่างอย่างน้อยหนึ่งตัว
  • เต็ง, ตรง - เหมือนกับเลขที่ออกตรงตามหลัก
  • โต๊ด - เหมือนกับเลขที่ออกแต่สลับหลัก

พฤติกรรมการเล่นหวย

สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล นำเงินส่งรายได้แผ่นดินร้อยละ 23 จากรายได้การขายสลากกินแบ่งรัฐบาล[9] จากข้อมูลปี 2560 สำนักงานสลากฯ นำส่งรายได้แผ่นดิน 30,947.72 ล้านบาท[10] ข้อมูลในปีเดียวกันนี้คนไทยซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาล 21.434 ล้านคน เฉลี่ย 9 งวดต่อปี[11]

จากข้อมูลปี 2544 มีผู้เล่นหวยใต้ดินทั่วประเทศสูงถึง 23.7 ล้านคน วงเงินการค้าหวยใต้ดิน มีมูลค่าระหว่าง 92,000 ถึง 542,000 ล้านบาท กำไรบางส่วนของการขายหวยใต้ดิน เป็นส่วยให้กับเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือผู้มีอิทธิพลมากกว่าปีละ 11,000 ล้านบาท[12]

จากข้อมูลปี 2561 พบว่าร้อยละ 25 ของชาวไทยซื้อลอตเตอรี่และหวยใต้ดิน รวมเป็นเงินกว่า 250,000 ล้านบาทต่อปี และในปี 2552 ในช่วงเศรษฐกิจตกต่ำทั่วโลก ระบุว่ารายจ่ายในการซื้อลอตเตอรี่และหวยใต้ดิน ของคนไทยอยู่ที่ 340 บาท/เดือน หรือคิดเป็น 2.1% ต่อรายได้ทั้งหมด เมื่อเทียบกับปี 2560 ที่เศรษฐกิจไทยฟื้น รายจ่ายในด้านนี้อยู่ที่ 452 บาทต่อเดือน หรือคิดเป็น 2.1% ต่อรายได้ทั้งหมด และจากข้อมูลปี 2560 นี้ กลุ่มคนที่มีรายได้สูงกว่า 15,000 บาทต่อเดือน มีการซื้อลอตเตอรี่และหวยเฉลี่ยต่อเดือนอยู่ที่ 680 บาท คิดเป็น 1.2% ของรายได้ ขณะที่กลุ่มคนที่มีรายได้น้อยกว่า 15,000 บาทต่อเดือน ซื้อเฉลี่ย 350 บาท คิดเป็น 2.2% ของรายได้ สำหรับกลุ่มคนวัยสร้างครอบครัว (อายุ 35-55 ปี) ซื้อเฉลี่ยเดือนละ 500 บาท และวัยเกษียณที่เฉลี่ยต่อเดือนราว 400 บาท จากสถิตินี้ยังพบว่าร้อยละ 10 ของนักเรียนและนักศึกษาซื้อหวยต่อเดือนเฉลี่ยประมาณ 187 บาท[13]

อ้างอิง

  1. "หวยเบอร์ "วันของเรา"". สำนักหอจดหมายเหตุแห่งชาติ.
  2. 2.0 2.1 เพิ่มรางวัลที่ 1เริ่มงวดนี้ รวย3ล้าน![ลิงก์เสีย], ข่าวสด
  3. "วิธีซื้อ "หวย" ผ่านแอปฯ "เป๋าตัง" 80 บาท ไม่โก่งราคา เริ่ม 2 มิ.ย.65". กรุงเทพธุรกิจ.
  4. "รางวัลที่ 1 ไม่มีแค่รางวัลเดียว! สงสัยไหม? ทำไมคนถูกหวยเยอะจัง?". อมรินทร์ทีวี.
  5. "ราชกิจจาฯ ออกสลากกินแบ่งรัฐบาลหกหลัก หวย L6 มีผลงวด 1 ต.ค.ลุ้น 180 ล้าน". ไทยรัฐ.
  6. 6.0 6.1 รัฐบาลบิ๊กตู่คืนชีพ"หวยบนดิน" ใช้แผนกิน2ต่อก่อน"เข้าฮอส"
  7. "รายงานพิเศษ : สนง.สลากฯ ออกผลิตภัณฑ์ใหม่ข่มหวยออนไลน์". ช่อง 7. 15 กรกฎาคม 2562. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2019-08-14. สืบค้นเมื่อ 14 สิงหาคม 2562. {{cite news}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |access-date= (help)
  8. "สลาก 12 นักษัตร...สู้ๆ". ไทยรัฐ. 13 สิงหาคม 2562. สืบค้นเมื่อ 14 สิงหาคม 2562. {{cite news}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |access-date= (help)
  9. "การจัดสรร รายได้นำส่งรัฐ". สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล. สืบค้นเมื่อ 1 สิงหาคม 2562. {{cite news}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |access-date= (help)
  10. "เปิดรายได้กองสลาก จากลอตเตอรี่ล้วนๆ ถูกกระจุกเสียกระจาย?". 2 สิงหาคม 2561. สืบค้นเมื่อ 1 สิงหาคม 2562. {{cite news}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |access-date= (help)
  11. พลวุฒิ สงสกุล (15 สิงหาคม 2561). "กองสลากฯ บ่อเงินรัฐบาล 10 ปีคนไทยซื้อลอตเตอรี่ 6.7 แสนล้านบาท ถูกรางวัล 4.3 แสนล้านบาท". สืบค้นเมื่อ 1 สิงหาคม 2562. {{cite news}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |access-date= (help)
  12. "หวยและพฤติกรรมเล่นหวยคนไทย". กรมสุขภาพจิต. สืบค้นเมื่อ 1 สิงหาคม 2562. {{cite news}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |access-date= (help)
  13. "คนไทยติดงอมแงม หวยรัฐ-หวยใต้ดิน". ไทยรัฐ. 21 ธันวาคม 2561. สืบค้นเมื่อ 1 สิงหาคม 2562. {{cite news}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |access-date= (help)

แหล่งข้อมูลอื่น