หม่อมเจ้าอมรสมานลักษณ์ กิติยากร
หม่อมเจ้าอมรสมานลักษณ์ กิติยากร | |
---|---|
หม่อมเจ้า ชั้น 5 | |
![]() | |
หม่อม | หม่อมพิณ กิติยากร ณ อยุธยา |
ชายา | หม่อมเจ้าชวลิตโอภาศ กิติยากร หม่อมเจ้าจีริกา กิติยากร |
บุตร | 6 คน |
ราชวงศ์ | จักรี |
พระบิดา | พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระจันทบุรีนฤนาถ |
พระมารดา | หม่อมเจ้าอัปษรสมาน กิติยากร |
ประสูติ | 17 มกราคม พ.ศ. 2440 |
สิ้นชีพิตักษัย | 14 สิงหาคม พ.ศ. 2511 (71 ปี) |
หม่อมเจ้าอมรสมานลักษณ์ กิติยากร (17 มกราคม พ.ศ. 2440 – 14 สิงหาคม พ.ศ. 2511) เป็นพระโอรสใน พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระจันทบุรีนฤนาถ กับหม่อมเจ้าอัปษรสมาน กิติยากร เป็นพระปิตุลาในพระพันปีฯในรัชกาลที่ 10
พระประวัติ[แก้]
หม่อมเจ้าอมรสมานลักษณ์ กิติยากร เป็นโอรสองค์ที่ 2 ใน พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระจันทบุรีนฤนารถฯ (พระองค์เจ้ากิติยากรวรลักษณ์) กับหม่อมเจ้าอัปษรสมาน กิติยากร ประสูติเมื่อวันที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2439ณ วังปากคลองผดุงกรุงเกษม (วังเทเวศร์ ในปัจจุบัน) นับเป็นนัดดาองค์ใหญ่ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อชันษาประมาณ 6 ปี พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวฯ มีพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าฯ ให้เสด็จไปประทับในพระบรมมหาราชวัง จากนั้นทรงเข้าศึกษาชั้นต้นที่โรงเรียนราชวิทยาลัย (สมัยสายสวลีภิรมย์) จนชันษาประมาณ 11 ปี เสด็จไปศึกษา Public school ที่อังกฤษ และทรงศึกษาเพิ่มเติมด้านภาษาฝรั่งเศสที่ประเทศสวิสเซอร์แลนด์
ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าฯ ให้หม่อมเจ้าอมรสมานลักษณ์เสด็จไปศึกษาด้านวิชาการทหารที่ประเทศฝรั่งเศส ทรงเข้าศึกษาที่โรงเรียนการทหารปืนใหญ่และทหารช่าง (École d'application de l'artillerie et du génie) ณเมือง Fontaineblau จนสำเร็จการศึกษา และทรงสอบคัดเลือกเข้าเรียนโรงเรียนนายร้อย Polytechnique ที่ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งเป็นโรงเรียนวิชาการทหารขั้นสูงที่สอบเข้าได้ยาก ทรงเป็นคนไทยคนแรก และเป็นคนเอเซียคนที่สองที่สามารถสอบคัดเลือกเข้าเรียนในโรงเรียนแห่งนี้ได้ ขณะที่ทรงศึกษาในชั้นปีสุดท้าย ประเทศไทย (ประเทศสยามในขณะนั้น) ได้เข้าร่วมกับฝ่ายสัมพันธมิตรในการทำสงครามโลกครั้งที่ 1 หม่อมเจ้าอมรสมานลักษณ์ ทรงเข้าร่วมเป็นทหารอาสาในครั้งนี้ด้วย ภายหลังทรงได้รับพระราชทานสัญญาบัตรเป็นนายร้อยตรีจากพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว
หลังสงครามโลกครั้งที่ 1 สิ้นสุดลง หม่อมเจ้าอมรสมานลักษณ์ทรงกลับมาศึกษาต่อจนสำเร็จการศึกษา จึงเสด็จกลับประเทศไทย ทรงเข้ารับราชการในกรมพาณิชย์และสถิติพยากรณ์ กระทรวงพระคลังมหาสมบัติเพื่อช่วยงานพระบิดาคือ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระจันทบุรีนฤนาถ ทรงได้รับมอบหมายให้จัดตั้งหน่วยงานใหม่ขึ้นเป็นครั้งแรกในประเทศไทย เป็นการสำรวจภาวะทางเศรษฐกิจ (Economic survey) ภายใต้ชื่อ งานท่องสื่อทางทรัพย์ ทรงปฏิบัติภารกิจได้ดี ทั้งในด้านการวางแผน เป้าหมาย การทดลองสำรวจและให้ความรู้แก่เจ้าหน้าที่ในการสำรวจ รวบรวม และคำนวณผลการสำรวจโดยใช้วิชาสถิติเป็นหลัก ซึ่งต่อมาหน่วยงานนี้ได้ถูกยกฐานะขึ้นเป็นกอง ชื่อ กองสืบความรู้เอคอนอมิค หม่อมเจ้าอมรสมานลักษณ์ทรงดำรงตำแหน่งเจ้ากรมแห่งกองนี้ตลอดมา จนปี พ.ศ. 2469 ในรัชสมัยพระบาทสมเด้จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว เกิดภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ รัฐบาลต้องลดค่าใช้จ่ายลงอย่างมาก กองสืบความรู้เอคอนอมิค ถูกยุบลง หม่อมเจ้าอมรสมานลักษณ์ได้รับคำสั่งให้ไปรับราชการทางกรมรถไฟแผ่นดิน หลังจากนั้น จึงทรงลาออกจากราชการ
เมื่อทรงออกจากราชการแล้ว หม่อมเจ้าอมรสมานลักษณ์ ทรงประกอบธุรกิจส่วนองค์ ซึ่งทรงสนใจด้านการกสิกรรม จึงทรงเริ่มปลูกปาล์มน้ำมันขึ้นที่ตำบลบ้านปริก อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา นับเป็นคนไทยคนแรกที่ปลูกปาล์มน้ำมันเพื่อการค้า และทรงย้ายไปสร้างตำหนักและประทับอยู่ที่สงขลาเป็นการถาวรร่วมกับชายาคือ หม่อมเจ้าชวลิตโอภาส (รพีพัฒน์) และบุตร ธิดา
ในปี พ.ศ. 2482 หม่อมเจ้าอัปษรสมาน (เทวกุล) กิติยากร สิ้นชีพิตักษัย หม่อมเจ้าอมรสมานลักษณ์ทรงรับมรดกโรงภาพยนตร์พัฒนากร (สิริรามา) จึงทรงบริหารโรงภาพยนตร์ต่อมา โรงภาพยนตร์แห่งนี้เป็นที่แรกที่เริ่มการพากย์หนังเป็นภาษาไทย โดยมีทิดเขียว ศิลป์ สีบุญเรือง เป็นผู้ริเริ่มการพากย์หนังขึ้นจนแพร่หลายไปทั่วประเทศ
เสกสมรส[แก้]
หม่อมพิณ กิติยากร ณ อยุธยา[แก้]
มีธิดา 1 คน คือ
- หม่อมราชวงศ์วีณา กิติยากร
หม่อมเจ้าชวลิตโอภาศ กิติยากร[แก้]
มีโอรสธิดา 3 คน คือ
- หม่อมราชวงศ์กิตินัดดา กิติยากร
- หม่อมราชวงศ์อมราภินพ กิติยากร สมรสกับแจแน็ท กิติยากร ณ อยุธยา (สกุลเดิม กริมม์)
- หม่อมราชวงศ์กิติอัจฉรา ปวนะฤทธิ์ สมรสกับสมิทธิ์ ปวนะฤทธิ์
หม่อมเจ้าจีริกา กิติยากร[แก้]
มีโอรสธิดา 2 คน คือ
- หม่อมราชวงศ์กิติสมาน กิติยากร สมรสกับระเบียบ กิติยากร ณ อยุธยา
- หม่อมราชวงศ์จีริก กิติยากร
สิ้นชีพิตักษัย[แก้]
หม่อมเจ้าอมรสมานลักษณ์ สิ้นชีพิตักษัยเมื่อ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2511 มีพิธีพระราชทานเพลิงศพเมื่อวันที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2511 ณ เมรุหลวงหน้าพลับพลาอิศริยาภรณ์ วัดเทพศิรินทราวาส
เครื่องราชอิสริยาภรณ์[แก้]
- พ.ศ. 2462 –
เครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า ชั้นที่ 3 ตติยจุลจอมเกล้า (ต.จ.) (ฝ่ายหน้า)[1] ดำรงราชตระกูล พระเจ้าพี่ยาเธอ กรมพระจันทบุรีนฤนาถ ป.จ.ว.
พงศาวลี[แก้]
อ้างอิง[แก้]
- กิติวัฒนา (ไชยันต์) ปกมนตรี, หม่อมราชวงศ์. สายพระโลหิตในพระพุทธเจ้าหลวง, กรุงเทพ. ดีเอ็มจี, 2551
- กัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์, สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้า. จุฬาลงกรณ์ราชสันตติวงศ์ พระนามพระราชโอรส พระราชธิดา และพระราชนัดดา, กรุงเทพ. บรรณกิจ 1991, 2548