หม่อมเจ้าพระสมเด็จพระพุฒาจารย์ (ทัด)

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
หม่อมเจ้าพระสมเด็จพระพุฒาจารย์ (ทัด)
สมเด็จพระพุฒาจารย์ (ทัด เสนีวงศ์).jpg
เจ้าคณะอรัญวาสีและเจ้าคณะใหญ่คณะกลาง
ดำรงตำแหน่งพ.ศ. 2437 - 2443
ถัดไปพระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าพระอรุณนิภาคุณากร
เจ้าอาวาสวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม
ดำรงตำแหน่งพ.ศ. 2434 - 2443
ก่อนหน้าพระพิมลธรรม (อ้น)
ถัดไปพระอุบาฬีคุณูปมาจารย์ (ปาน)
เจ้าอาวาสวัดระฆังโฆสิตาราม
ดำรงตำแหน่งพ.ศ. 2415 - 2437
ก่อนหน้าสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พฺรหฺมรํสี)
ถัดไปสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (หม่อมราชวงศ์เจริญ ญาณฉนฺโท)
ราชวงศ์เสนีวงศ์ (ราชวงศ์จักรี)
พระบิดาพระสัมพันธวงศ์เธอ กรมหลวงเสนีบริรักษ์
พระมารดาหม่อมบุญมา
ประสูติ9 ตุลาคม พ.ศ. 2365
หม่อมเจ้าทัด
ชีพิตักษัย10 มิถุนายน พ.ศ. 2443 (78 ปี)

หม่อมเจ้าพระสมเด็จพระพุฒาจารย์ พระนามเดิม หม่อมเจ้าทัด ราชสกุลเสนีวงศ์ (9 ตุลาคม พ.ศ. 2365 - 10 มิถุนายน พ.ศ. 2443) อดีตเจ้าคณะอรัญวาสี เจ้าคณะใหญ่คณะกลาง และเจ้าอาวาสวัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร

พระประวัติ[แก้]

หม่อมเจ้าพระสมเด็จพระพุฒาจารย์ มีพระนามเดิมว่าหม่อมเจ้าทัด ประสูติเมื่อวันพุธ แรม 9 ค่ำ เดือน 11 ปีมะเมีย[1] ตรงกับวันที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2365 เป็นพระโอรสในพระสัมพันธวงศ์เธอ กรมหลวงเสนีบริรักษ์ กับหม่อมบุญมา

ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว หม่อมเจ้าทัดได้ผนวชเป็นสามเณรที่วัดพระศรีรัตนศาสดาราม แล้วไปเล่าเรียนกับพระมหาโต ที่วัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหาร จนอายุครบอุปสมบทในปี พ.ศ. 2385 จึงผนวชเป็นภิกษุที่วัดพระศรีรัตนศาสดาราม มีสมเด็จพระอริยวงษญาณ (ด่อน) เป็นพระอุปัชฌาย์ พระมหาโตเป็นพระกรรมวาจาจารย์ ผนวชแล้วไปประทับที่วัดระฆังโฆสิตารามตามเดิม

พ.ศ. 2392 ได้สอบพระปริยัติธรรมซึ่งจัดที่วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ได้เป็นเปรียญธรรม 3 ประโยค ถึงปี พ.ศ. 2404 ได้สอบอีกที่วัดพระศรีรัตนศาสดาราม ได้เพิ่มอีก 4 ประโยค รวมเป็นเปรียญธรรม 7 ประโยค

พ.ศ. 2407 ได้รับแต่งตั้งเป็นพระราชาคณะที่ หม่อมเจ้าพุทธุปบาทปิลันทน์

ต่อมาในปี พ.ศ. 2415 ตรงกับสมัยรัชกาลที่ 5 จึงได้เป็นเจ้าอาวาสวัดระฆังฯ แทนสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) ที่มรณภาพ[2]

พ.ศ. 2430 เป็นพระราชาคณะผู้ใหญ่ที่ หม่อมเจ้าพระพุทธุปบาทปิลันธน์พระธรรมเจดีย์ กระวีวงษนายก ตรีปิฎกบัณฑิตย มหาคณฤศร บวรสังฆาราม คามวาสี[3] ต่อมาย้ายไปครองวัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร และว่าการคณะกลาง[4]

พ.ศ. 2435 ได้เลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะเจ้าคณะรองฝ่ายเหนือที่ หม่อมเจ้าพระพิมลธรรม์ มหันตคุณ วิบุลปรีชาญาณนายก ตรีปิฎกคุณาลังการภูษิต อุตรทิศคณฤศร บวรสังฆาราม คามวาสี[5]

พ.ศ. 2437 ได้รับสถาปนาเป็นสมเด็จพระราชาคณะเจ้าคณะอรัญวาสีและเจ้าคณะใหญ่คณะกลางที่ หม่อมเจ้าพระสมเด็จพระพุฒาจารย์ อเนกสถานปรีชา สัปตวิสุทธิจริยาสมบัติ นิพัทธธุตคุณ สิริสุนทรพรตจาริก อรัญญิกมหาปรินายก ตรีปิฎกโกศล วิมลมัชฌิมคณฤศร บวรสังฆาราม คามวาสี อรัญญวาสี[6]

หม่อมเจ้าพระสมเด็จพระพุฒาจารย์สิ้นชีพิตักษัยด้วยพระโรคชรา เมื่อวันอาทิตย์ ขึ้น 13 ค่ำ เดือน 7 ปีชวด ตรงกับวันที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2443 เวลาบ่าย 2 โมงเศษ สิริชันษา 77 ปี 244 วัน ได้รับโกศไม้สิบสองประกอบศพ[7] ได้รับพระราชทานเพลิงศพพร้อมกับสมเด็จพระวันรัต (แดง สีลวฑฺฒโน) เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2444[8]

อ้างอิง[แก้]

  1. สมมอมรพันธุ์, พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระ. เรื่องตั้งพระราชาคณะผู้ใหญ่ในกรุงรัตนโกสินทร์ เล่ม ๑. กรุงเทพฯ : กรมศิลปากร, 2545. 428 หน้า. หน้า 137-40. ISBN 974-417-530-3
  2. สมประสงค์ ทรัพย์พาลี. ๑๐๑ จุลจักรี ๑๐๑ ปี จุลจอมเกล้า. กรุงเทพ : [ม.ป.พ.], พิมพ์ครั้งที่ 1 พ.ศ. 2555. 154 หน้า. ISBN 9786169092605
  3. ราชกิจจานุเบกษา, ตั้งตำแหน่งพระสงฆ, เล่ม 4, หน้า 325
  4. ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศกรมพระธรรมการ, เล่ม 6, หน้า 215-6
  5. ราชกิจจานุเบกษา, คำประกาศตั้งตำแหน่งพระสงฆ์, เล่ม 9, หน้า 461-2
  6. ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศตั้งตำแหน่งพระสงฆ์, เล่ม 11, หน้า 309
  7. ราชกิจจานุเบกษา, ข่าวสิ้นชีพตักไษย หม่อมเจ้าพระสมเด็จพระพุฒาจาริย์, เล่ม 17, ตอน 12, 19 มิถุนายน 2443, หน้า 118
  8. ราชกิจจานุเบกษา, การศพหม่อมเจ้าพระสมเด็จพระพุฒาจารย์แลสมเด็จพระวันรัต, เล่ม 17, ตอน 48, 19 กุมภาพันธ์ 2443, หน้า 687