ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ราชอาณาจักรกัสติยา"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Narutzy (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
Darkydury (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 37: บรรทัด 37:
'''ราชอาณาจักรกัสติยา''' ({{lang-es|Reino de Castilla}}) เป็น[[ราชอาณาจักร]]ของ[[ยุคกลาง]]ของ[[คาบสมุทรไอบีเรีย]]ที่เริ่มก่อตัวเป็นอิสระขึ้นในคริสต์ศตวรรษที่ 9 โดยการเป็นอาณาจักรเคานต์แห่งกัสติยาที่เป็น[[อาณาจักรบริวาร]] (vassal) ของ[[ราชอาณาจักรเลออน]] ชื่อ "กัสติยา" มาจากคำที่ว่าแปลว่า[[ปราสาท]] เพราะในบริเวณนั้นมีปราสาทอยู่หลายปราสาท กัสติยาเป็นราชอาณาจักรหนึ่งที่ต่อมาก่อตั้งขึ้นเป็น[[ราชบัลลังก์กัสติยา]]และ[[สเปน|ราชบัลลังก์สเปน]]ในที่สุด
'''ราชอาณาจักรกัสติยา''' ({{lang-es|Reino de Castilla}}) เป็น[[ราชอาณาจักร]]ของ[[ยุคกลาง]]ของ[[คาบสมุทรไอบีเรีย]]ที่เริ่มก่อตัวเป็นอิสระขึ้นในคริสต์ศตวรรษที่ 9 โดยการเป็นอาณาจักรเคานต์แห่งกัสติยาที่เป็น[[อาณาจักรบริวาร]] (vassal) ของ[[ราชอาณาจักรเลออน]] ชื่อ "กัสติยา" มาจากคำที่ว่าแปลว่า[[ปราสาท]] เพราะในบริเวณนั้นมีปราสาทอยู่หลายปราสาท กัสติยาเป็นราชอาณาจักรหนึ่งที่ต่อมาก่อตั้งขึ้นเป็น[[ราชบัลลังก์กัสติยา]]และ[[สเปน|ราชบัลลังก์สเปน]]ในที่สุด


<br />

== การสืบราชบัลลังก์ ==


ราชอาณาจักรกัสติยาถูกสถาปนาขึ้นในปี ค.ศ. 1065 โดย[[พระเจ้าซันโชที่ 2 แห่งกัสติยาและเลออน|พระเจ้าซันโชที่ 2 แห่งเลออนและกัสติยา]] [[พระเจ้าเฟร์นันโดที่ 1 แห่งกัสติยา|พระเจ้าเฟร์นันโดที่ 1 แห่งเลออน]]เคยเป็นเคานต์แห่งกัสติยา ต่อมาพระองค์กลายเป็นกษัตริย์แห่ง[[ราชอาณาจักรเลออน|เลออน]]ตามสิทธิ์ของภรรยา [[ซันชาแห่งเลออน]] ทรงกลายเป็นกษัตริย์แห่งเลออนและกัสติยาในปี ค.ศ. 1037 และเมื่อพระองค์สิ้นพระชนม์ในปี ค.ศ. 1065 กัสติยาและเลออนถูกแบ่งให้กับพระโอรส ซันโชกลายเป็นกษัตริย์แห่งกัสติยา ขณะที่[[พระเจ้าอัลฟอนโซที่ 6 แห่งเลออนและกัสติยา|อัลฟอนโซ]]เป็นกษัตริย์แห่งเลออน พระเจ้าซันโชยังเป็นกษัตริย์แห่งเลออนระยะสั้นๆ หลังปลดพระอนุชาออกจากตำแหน่ง ทำให้กลายเป็นกษัตริย์แห่งเลออนและกัสติยา แต่ในปี ค.ศ. 1065 สองราชอาณาจักรก็ไม่ได้รวมเป็นหนึ่งเดียวกันอีกต่อไป พระเจ้าซันโชอภิเษกสมรสกับอัลเบร์ตา แต่ข้อมูลของอัลเบร์ตามีไม่มาก ทั้งคู่ไม่มีพระโอรสธิดาด้วยกัน ผู้สืบทอดต่อตำแหน่งของพระองค์คือพระอนุชา พระเจ้าอัลฟอนโซที่ 6 คนเดียวกับที่พระองค์เคยปลดออกจากตำแหน่ง


พระมเหสีของพระเจ้าอัลฟอนโซคือ[[แอนเญ็สแห่งอากีแตน พระราชินีแห่งเลออนและกัสติยา|แอนเญ็สแห่งอากีแตน]] แอนเญ็สเป็นพระราชินีแห่งกัสติยาคนแรกที่มีข้อมูลอย่างอื่นนอกเหนือจากชื่อ พระองค์เป็นบุตรสาวของ[[กีโยมที่ 8 ดยุคแห่งอากีแตน]]และอาจจะสิ้นพระชนม์ในปี ค.ศ. 1077 ในปี ค.ศ. 1079 พระเจ้าอัลฟอนโซอภิเษกสมรสกับ[[กงสต็องซ์แห่งบูร์กอญ]] ทั้งคู่มีพระโอรสธิดาด้วยกันหลายคน แต่มีเพียงพระธิดาชื่อ[[สมเด็จพระราชินีนาถอูร์รากาที่ 1 แห่งเลออน|อูร์รากา]]คนเดียวที่รอดชีวิตจนถึงวัยผู้ใหญ่ กงสต็องซ์สิ้นพระชนม์ในปี ค.ศ. 1093 ในปีเดียวกันนั้นพระองค์อภิเษกสมรสกับหญิงชื่อแบร์ตาซึ่งสิ้นพระชนม์ในปี ค.ศ. 1099 จากนั้นพระองค์อภิเษกสมรสกับหญิงชื่ออิซาเบล ทั้งคู่มีพระธิดาด้วยกันสองคน อิซาเบลอาจสิ้นพระชนม์ในปี ค.ศ. 1077 แล้วพระองค์ก็อภิเษกสมรสกับหญิงชื่อเบียทริซ ทั้งคู่ไม่มีพระโอรสธิดาด้วยกัน เบียทริซสิ้นพระชนม์หลังพระองค์ ผู้สืบทอดต่อของพระเจ้าอัลฟองโซคืออูร์รากาผู้เป็นพระธิดา


อูร์รากาเคยแต่งงานกับ[[แรมงแห่งบูร์กอญ]]ตอนพระชนมายุ 8 พรรษา ทั้งคู่มีพระธิดาและพระโอรสที่มีชีวิตรอดอย่างละคน อูร์รากาเป็นม่ายในปี ค.ศ. 1077 และกำลังเจรจาเรื่องการอภิเษกสมรสในตอนที่พระบิดาสิ้นพระชนม์ มีการเสนอให้อภิเษกสมรสกับ[[พระเจ้าอัลฟอนโซที่ 1 แห่งอารากอน|พระเจ้าอัลฟอนโซที่ 1 แห่งอารากอนและนาวาร์]] แต่อูร๋รากาต่อต้านข้อเสนอนี้ ด้วยเป็นความประสงค์ของพระบิดาผู้ล่วงลับ พระองค์จึงต้องยอมตกลง ทั้งคู่อภิเษกสมรสกันในปี ค.ศ. 1109 แต่การแต่งงานจุดชนวนให้เกิดการก่อกบฏขึ้นทันที ทั้งคู่แยกกันอยู่ในปี ค.ศ. 1110 พระองค์มีคนรักซึ่งทรงมีบุตรนอกสมรสด้วยสองคน พระองค์สิ้นพระชนม์ในวันที่ 8 มีนาคม ค.ศ. 1126 ผู้สืบทอดตำแหน่งต่อคือ[[พระเจ้าอัลฟอนโซที่ 7 แห่งเลออนและกัสติยา|พระเจ้าอัลฟอนโซที่ 7]] ผู้เป็นพระโอรส


พระเจ้าอัลฟอนโซอภิเษกสมรสกับ[[เบเรงเกลาแห่งบาร์เซโลนา]]ในปี ค.ศ. 1128 ทั้งคู่มีพระโอรสธิดาด้วยกันแปดคน เบเรงเกลาสิ้นพระชนม์ในปี ค.ศ. 1149 และพระองค์อภิเษกสมรสใหม่กับ[[ริเชซาแห่งโปแลนด์ พระราชินีแห่งกัสติยา|ริเชซาแห่งโปแลนด์]] ทั้งคู่มีพระโอรสธิดาด้วยกันสองคน พระเจ้าอัลฟองโซนำธรรมเนียมการแบ่งราชอาณาจักรให้พระโอรสกลับมาใช้ ซันโชกลายเป็น[[พระเจ้าซันโชที่ 3 แห่งกัสติยา]] ขณะที่เฟร์นันโดกลายเป็น[[พระเจ้าเฟร์นันโดที่ 2 แห่งเลออน]] พระเจ้าซันโชแต่งงานกับ[[บลังกาแห่งนาวาร์ พระราชินีแห่งกัสติยา|บลังกาแห่งนาวาร์]]ในปี ค.ศ. 1151 ทั้งคู่มีพระโอรสที่รอดชีวิตคนเดียว พระองค์สืบทอดตำแหน่งต่อจากพระบิดาในปี ค.ศ. 1157 แต่เพียงหนึ่งปีต่อมาก็สิ้นพระชนม์ พระโอรสวัยสองพรรษากลายเป็น[[พระเจ้าอัลฟอนโซที่ 8 แห่งกัสติยา|พระเจ้าอัลฟองโซที่ 8 แห่งกัสติยา]] การสำเร็จราชการแผ่นดินก่อให้เกิดความวุ่นวายและพรมแดนของพระองค์ส่วนหนึ่งถูดพระปิตุลาพิชิตไปได้ พระองค์ต้องการพันธมิตรที่แข็งแกร่งและทรงได้มาหนึ่งคน คือ [[พระเจ้าเฮนรีที่ 2 แห่งอังกฤษ]] เมื่อพระองค์อภิเษกสมรสกับ[[เอเลนอร์แห่งอังกฤษ พระราชินีแห่งกัสติยา|เอเลนอร์แห่งอังกฤษ]] พระธิดาของพระเจ้าเฮนรีที่ 2 ทั้งคู่มีพระโอรสธิดาด้วยกันสิบเอ็ดคน แต่ไม่ใช่ทุกคนที่มีชีวิตรอดถึงวัยผู้ใหญ่ เมื่อพระเจ้าอัลฟองโซสิ้นพระชนม์ในปี ค.ศ. 1214 ผู้สืบทอดต่อตำแหน่งคือ[[พระเจ้าเอนริเกที่ 1 แห่งกัสติยา|พระเจ้าเอนริเก]] พระโอรสคนสุดท้องและพระโอรสคนเดียวที่มีชีวิตรอด พระองค์ไม่ได้อภิเษกสมรสและสิ้นพระชนม์ตอนพระชนมายุ 13 พรรษา ผู้สืบทอดตำแหน่งต่อจากพระองค์คือ[[เบเรงเกลาแห่งกัสติยา|เบเรงเกลา]]ผู้เป็นพระเชษฐภคินี
<br />
[[ไฟล์:506-Castile 1210.png|thumb|ราชอาณาจักรกัสติยาในปี ค.ศ. 1210]]
เบเรงเกลาเคยแต่งงานกับคอนราดที่ 2 ดยุคแห่งสวาเบียในปี ค.ศ. 1187 แต่การแต่งงานไม่สมบูรณ์และคอนราดสิ้นพระชนม์ในปี ค.ศ. 1196 ในปี ค.ศ. 1197 พระองค์อภิเษกสมรสกับ[[พระเจ้าอัลฟอนโซที่ 9 แห่งเลออน|พระเจ้าอัลฟองโซที่ 9 แห่งเลออน]] ลูกพี่ลูกน้องลำดับที่หนึ่งที่อยู่ห่างกันหนึ่งขั้น เพื่อรักษาสันติภาพระหว่างสองราชอาณาจักร สมเด็จพระสันตะปาปาไม่ยอมรับการแต่งงานด้วยเหตผลว่าเป็นการร่วมประเวณีกันของญาติใกล้ชิด ขณะกำลังต่อสู้กับพระสันตะปาปา ทั้งคู่มีพระโอรสธิดาด้วยกันสี่คน สุดท้ายทั้งคู่ก็พ่ายแพ้เรื่องการแต่งงาน แต่พระโอรสธิดาของทั้งคู่ถูกพิจารณาว่าเป็นบุตรตามกฎหมาย เมื่อพระอนุชาสิ้นพระชนม์ เบเรงเกลากลัวว่าอดีตพระสวามีจะพยายามอ้างสิทธิ์ในบัลลังก์ พระองค์ตระหนักว่ากัสติยาจำเป็นต้องมีผู้นำทางทหารที่แท้จริงจึงทรงสละบัลลังก์ให้พระโอรสของพระองค์ในปีนั้น พระโอรสของพระองค์กลายเป็น[[พระเจ้าเฟร์นันโดที่ 3 แห่งกัสติยา]] พระองค์ยังอยู่เคียงข้างพระโอรสในฐานะที่ปรึกษาของกษัตริย์ เมื่อพระสวามีสิ้นพระชนม์ในปี ค.ศ. 1230 พระองค์พยายามยกราชอาณาจักรเลออนให้พระธิดาสองคนจากการแต่งงานครั้งแรก เบเรงเกลาเป็นคนเจรจาต่อรองและสุดท้ายพระธิดาทั้งสองก็ยอมรับเงินก้อนโตเพื่อแลกกับการสละสิทธิ์ในบัลลังก์ พระเจ้าเฟร์นันโดจึงกลายเป็นกษัตริย์แห่งเลออน


ในปี ค.ศ. 1219 พระเจ้าเฟร์นันโดอภิเษกสมรสกับ[[อลิซาเบธแห่งโฮเฮินสเตาเฟิน|อลิซาเบธแห่งสวาเบีย]] ทั้งคู่มีพระโอรสธิดาด้วยกันสิบคน อลิซาเบธสิ้นพระชนม์ด้วยพระชนมายุ 30 พรรษา กษัตริย์อภิเษกสมรสใหม่กับ[[ฌวน เคานเตสแห่งปงธิว]] ทั้งคู่มีพระโอรสธิดาด้วยกันห้าคน


ราชสำนักถูกผสานเข้าด้วยกันและถูกมองว่าเป็นจุดเริ่มต้นของ[[ราชบัลลังก์กัสติยา]]
<br />

== อ้างอิง ==

* [https://www.historyofroyalwomen.com/castile/lost-kingdoms-kingdom-crown-castile/ Lost Kingdoms: Kingdom and Crown of Castile: History of Royal Women]

<br />
== ดูเพิ่ม ==
== ดูเพิ่ม ==
* [[ราชอาณาจักร]]
* [[ราชอาณาจักร]]
บรรทัด 42: บรรทัด 73:


{{เรียงลำดับ|กัสติยา}}
{{เรียงลำดับ|กัสติยา}}
{{โครงประวัติศาสตร์}}

[[หมวดหมู่:ประมุขในประเทศสเปน]]
[[หมวดหมู่:ประมุขในประเทศสเปน]]
[[หมวดหมู่:พระมหากษัตริย์คาสตีล|*]]
[[หมวดหมู่:พระมหากษัตริย์คาสตีล|*]]

รุ่นแก้ไขเมื่อ 23:25, 21 ธันวาคม 2561

ราชอาณาจักรกัสติยา

Reino de Castilla
ค.ศ. 1035–ค.ศ. 1230
ธงชาติราชอาณาจักรกัสติยา
ธงชาติ
ตราแผ่นดินของราชอาณาจักรกัสติยา
ตราแผ่นดิน
ราชอาณาจักรกัสติยาก่อนที่จะผนวกราชอาณาจักรโตเลโดในคริสต์ศตวรรษที่ 11
ราชอาณาจักรกัสติยาก่อนที่จะผนวกราชอาณาจักรโตเลโดในคริสต์ศตวรรษที่ 11
สถานะราชอาณาจักร
เมืองหลวงไม่มีการกำหนด (บูร์โกส, บายาโดลิด และโตเลโดเป็นศูนย์กลางสำคัญ)
ภาษาทั่วไปสเปน (กัสติยา), บาสก์, โมซาราบิก และอาหรับถิ่นอัลอันดะลุส
ศาสนา
คริสต์ศาสนา (โรมันคาทอลิก), อิสลาม และยูดาย
การปกครองราชาธิปไตย
ยุคประวัติศาสตร์ยุคกลาง
• โรดริโกเป็นเคานต์แห่งกัสติยา
ค.ศ. 1035
• อาณาจักรเคานต์แห่งกัสติยารวมกับเคานต์เฟร์นัน กอนซาเลซ
ค.ศ. 931
• กัสติยากลายเป็นราชอาณาจักร
ค.ศ. 1035
• รวมกับเลออน
ค.ศ. 1230 ค.ศ. 1230
ก่อนหน้า
ราชอาณาจักรเลออน

ราชอาณาจักรกัสติยา (สเปน: Reino de Castilla) เป็นราชอาณาจักรของยุคกลางของคาบสมุทรไอบีเรียที่เริ่มก่อตัวเป็นอิสระขึ้นในคริสต์ศตวรรษที่ 9 โดยการเป็นอาณาจักรเคานต์แห่งกัสติยาที่เป็นอาณาจักรบริวาร (vassal) ของราชอาณาจักรเลออน ชื่อ "กัสติยา" มาจากคำที่ว่าแปลว่าปราสาท เพราะในบริเวณนั้นมีปราสาทอยู่หลายปราสาท กัสติยาเป็นราชอาณาจักรหนึ่งที่ต่อมาก่อตั้งขึ้นเป็นราชบัลลังก์กัสติยาและราชบัลลังก์สเปนในที่สุด


การสืบราชบัลลังก์

ราชอาณาจักรกัสติยาถูกสถาปนาขึ้นในปี ค.ศ. 1065 โดยพระเจ้าซันโชที่ 2 แห่งเลออนและกัสติยา พระเจ้าเฟร์นันโดที่ 1 แห่งเลออนเคยเป็นเคานต์แห่งกัสติยา ต่อมาพระองค์กลายเป็นกษัตริย์แห่งเลออนตามสิทธิ์ของภรรยา ซันชาแห่งเลออน ทรงกลายเป็นกษัตริย์แห่งเลออนและกัสติยาในปี ค.ศ. 1037 และเมื่อพระองค์สิ้นพระชนม์ในปี ค.ศ. 1065 กัสติยาและเลออนถูกแบ่งให้กับพระโอรส ซันโชกลายเป็นกษัตริย์แห่งกัสติยา ขณะที่อัลฟอนโซเป็นกษัตริย์แห่งเลออน พระเจ้าซันโชยังเป็นกษัตริย์แห่งเลออนระยะสั้นๆ หลังปลดพระอนุชาออกจากตำแหน่ง ทำให้กลายเป็นกษัตริย์แห่งเลออนและกัสติยา แต่ในปี ค.ศ. 1065 สองราชอาณาจักรก็ไม่ได้รวมเป็นหนึ่งเดียวกันอีกต่อไป พระเจ้าซันโชอภิเษกสมรสกับอัลเบร์ตา แต่ข้อมูลของอัลเบร์ตามีไม่มาก ทั้งคู่ไม่มีพระโอรสธิดาด้วยกัน ผู้สืบทอดต่อตำแหน่งของพระองค์คือพระอนุชา พระเจ้าอัลฟอนโซที่ 6 คนเดียวกับที่พระองค์เคยปลดออกจากตำแหน่ง


พระมเหสีของพระเจ้าอัลฟอนโซคือแอนเญ็สแห่งอากีแตน แอนเญ็สเป็นพระราชินีแห่งกัสติยาคนแรกที่มีข้อมูลอย่างอื่นนอกเหนือจากชื่อ พระองค์เป็นบุตรสาวของกีโยมที่ 8 ดยุคแห่งอากีแตนและอาจจะสิ้นพระชนม์ในปี ค.ศ. 1077 ในปี ค.ศ. 1079 พระเจ้าอัลฟอนโซอภิเษกสมรสกับกงสต็องซ์แห่งบูร์กอญ ทั้งคู่มีพระโอรสธิดาด้วยกันหลายคน แต่มีเพียงพระธิดาชื่ออูร์รากาคนเดียวที่รอดชีวิตจนถึงวัยผู้ใหญ่ กงสต็องซ์สิ้นพระชนม์ในปี ค.ศ. 1093 ในปีเดียวกันนั้นพระองค์อภิเษกสมรสกับหญิงชื่อแบร์ตาซึ่งสิ้นพระชนม์ในปี ค.ศ. 1099 จากนั้นพระองค์อภิเษกสมรสกับหญิงชื่ออิซาเบล ทั้งคู่มีพระธิดาด้วยกันสองคน อิซาเบลอาจสิ้นพระชนม์ในปี ค.ศ. 1077 แล้วพระองค์ก็อภิเษกสมรสกับหญิงชื่อเบียทริซ ทั้งคู่ไม่มีพระโอรสธิดาด้วยกัน เบียทริซสิ้นพระชนม์หลังพระองค์ ผู้สืบทอดต่อของพระเจ้าอัลฟองโซคืออูร์รากาผู้เป็นพระธิดา


อูร์รากาเคยแต่งงานกับแรมงแห่งบูร์กอญตอนพระชนมายุ 8 พรรษา ทั้งคู่มีพระธิดาและพระโอรสที่มีชีวิตรอดอย่างละคน อูร์รากาเป็นม่ายในปี ค.ศ. 1077 และกำลังเจรจาเรื่องการอภิเษกสมรสในตอนที่พระบิดาสิ้นพระชนม์ มีการเสนอให้อภิเษกสมรสกับพระเจ้าอัลฟอนโซที่ 1 แห่งอารากอนและนาวาร์ แต่อูร๋รากาต่อต้านข้อเสนอนี้ ด้วยเป็นความประสงค์ของพระบิดาผู้ล่วงลับ พระองค์จึงต้องยอมตกลง ทั้งคู่อภิเษกสมรสกันในปี ค.ศ. 1109 แต่การแต่งงานจุดชนวนให้เกิดการก่อกบฏขึ้นทันที ทั้งคู่แยกกันอยู่ในปี ค.ศ. 1110 พระองค์มีคนรักซึ่งทรงมีบุตรนอกสมรสด้วยสองคน พระองค์สิ้นพระชนม์ในวันที่ 8 มีนาคม ค.ศ. 1126 ผู้สืบทอดตำแหน่งต่อคือพระเจ้าอัลฟอนโซที่ 7 ผู้เป็นพระโอรส


พระเจ้าอัลฟอนโซอภิเษกสมรสกับเบเรงเกลาแห่งบาร์เซโลนาในปี ค.ศ. 1128 ทั้งคู่มีพระโอรสธิดาด้วยกันแปดคน เบเรงเกลาสิ้นพระชนม์ในปี ค.ศ. 1149 และพระองค์อภิเษกสมรสใหม่กับริเชซาแห่งโปแลนด์ ทั้งคู่มีพระโอรสธิดาด้วยกันสองคน พระเจ้าอัลฟองโซนำธรรมเนียมการแบ่งราชอาณาจักรให้พระโอรสกลับมาใช้ ซันโชกลายเป็นพระเจ้าซันโชที่ 3 แห่งกัสติยา ขณะที่เฟร์นันโดกลายเป็นพระเจ้าเฟร์นันโดที่ 2 แห่งเลออน พระเจ้าซันโชแต่งงานกับบลังกาแห่งนาวาร์ในปี ค.ศ. 1151 ทั้งคู่มีพระโอรสที่รอดชีวิตคนเดียว พระองค์สืบทอดตำแหน่งต่อจากพระบิดาในปี ค.ศ. 1157 แต่เพียงหนึ่งปีต่อมาก็สิ้นพระชนม์ พระโอรสวัยสองพรรษากลายเป็นพระเจ้าอัลฟองโซที่ 8 แห่งกัสติยา การสำเร็จราชการแผ่นดินก่อให้เกิดความวุ่นวายและพรมแดนของพระองค์ส่วนหนึ่งถูดพระปิตุลาพิชิตไปได้ พระองค์ต้องการพันธมิตรที่แข็งแกร่งและทรงได้มาหนึ่งคน คือ พระเจ้าเฮนรีที่ 2 แห่งอังกฤษ เมื่อพระองค์อภิเษกสมรสกับเอเลนอร์แห่งอังกฤษ พระธิดาของพระเจ้าเฮนรีที่ 2 ทั้งคู่มีพระโอรสธิดาด้วยกันสิบเอ็ดคน แต่ไม่ใช่ทุกคนที่มีชีวิตรอดถึงวัยผู้ใหญ่ เมื่อพระเจ้าอัลฟองโซสิ้นพระชนม์ในปี ค.ศ. 1214 ผู้สืบทอดต่อตำแหน่งคือพระเจ้าเอนริเก พระโอรสคนสุดท้องและพระโอรสคนเดียวที่มีชีวิตรอด พระองค์ไม่ได้อภิเษกสมรสและสิ้นพระชนม์ตอนพระชนมายุ 13 พรรษา ผู้สืบทอดตำแหน่งต่อจากพระองค์คือเบเรงเกลาผู้เป็นพระเชษฐภคินี

ราชอาณาจักรกัสติยาในปี ค.ศ. 1210

เบเรงเกลาเคยแต่งงานกับคอนราดที่ 2 ดยุคแห่งสวาเบียในปี ค.ศ. 1187 แต่การแต่งงานไม่สมบูรณ์และคอนราดสิ้นพระชนม์ในปี ค.ศ. 1196 ในปี ค.ศ. 1197 พระองค์อภิเษกสมรสกับพระเจ้าอัลฟองโซที่ 9 แห่งเลออน ลูกพี่ลูกน้องลำดับที่หนึ่งที่อยู่ห่างกันหนึ่งขั้น เพื่อรักษาสันติภาพระหว่างสองราชอาณาจักร สมเด็จพระสันตะปาปาไม่ยอมรับการแต่งงานด้วยเหตผลว่าเป็นการร่วมประเวณีกันของญาติใกล้ชิด ขณะกำลังต่อสู้กับพระสันตะปาปา ทั้งคู่มีพระโอรสธิดาด้วยกันสี่คน สุดท้ายทั้งคู่ก็พ่ายแพ้เรื่องการแต่งงาน แต่พระโอรสธิดาของทั้งคู่ถูกพิจารณาว่าเป็นบุตรตามกฎหมาย เมื่อพระอนุชาสิ้นพระชนม์ เบเรงเกลากลัวว่าอดีตพระสวามีจะพยายามอ้างสิทธิ์ในบัลลังก์ พระองค์ตระหนักว่ากัสติยาจำเป็นต้องมีผู้นำทางทหารที่แท้จริงจึงทรงสละบัลลังก์ให้พระโอรสของพระองค์ในปีนั้น พระโอรสของพระองค์กลายเป็นพระเจ้าเฟร์นันโดที่ 3 แห่งกัสติยา พระองค์ยังอยู่เคียงข้างพระโอรสในฐานะที่ปรึกษาของกษัตริย์ เมื่อพระสวามีสิ้นพระชนม์ในปี ค.ศ. 1230 พระองค์พยายามยกราชอาณาจักรเลออนให้พระธิดาสองคนจากการแต่งงานครั้งแรก เบเรงเกลาเป็นคนเจรจาต่อรองและสุดท้ายพระธิดาทั้งสองก็ยอมรับเงินก้อนโตเพื่อแลกกับการสละสิทธิ์ในบัลลังก์ พระเจ้าเฟร์นันโดจึงกลายเป็นกษัตริย์แห่งเลออน


ในปี ค.ศ. 1219 พระเจ้าเฟร์นันโดอภิเษกสมรสกับอลิซาเบธแห่งสวาเบีย ทั้งคู่มีพระโอรสธิดาด้วยกันสิบคน อลิซาเบธสิ้นพระชนม์ด้วยพระชนมายุ 30 พรรษา กษัตริย์อภิเษกสมรสใหม่กับฌวน เคานเตสแห่งปงธิว ทั้งคู่มีพระโอรสธิดาด้วยกันห้าคน


ราชสำนักถูกผสานเข้าด้วยกันและถูกมองว่าเป็นจุดเริ่มต้นของราชบัลลังก์กัสติยา

อ้างอิง


ดูเพิ่ม