ผลต่างระหว่างรุ่นของ "อาสนวิหารวินเชสเตอร์"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
Horus (คุย | ส่วนร่วม)
Setawut (คุย | ส่วนร่วม)
(ไม่แตกต่าง)

รุ่นแก้ไขเมื่อ 04:18, 31 ธันวาคม 2560

มหาวิหารวินเชสเตอร์
Winchester Cathedral
ทางเดินกลางของมหาวิหารวินเชสเตอร์
แผนที่
51°3′38″N 1°18′47″W / 51.06056°N 1.31306°W / 51.06056; -1.31306
ที่ตั้งวินเชสเตอร์ เทศมณฑลแฮมป์เชอร์
ประเทศ สหราชอาณาจักร
นิกายแองกลิคัน
เว็บไซต์มหาวิหารวินเชสเตอร์
ชื่อเดิมOld Minster
สถานะอาสนวิหาร
เหตุการณ์ที่ฝังศพเจน ออสเตน, หน้าต่างประดับกระจกสีแบบพรีราฟาเอลไลท์
ประเภทสถาปัตย์กางเขน
รูปแบบสถาปัตย์กอทิก
ปีสร้างค.ศ. 1079
แล้วเสร็จค.ศ. 1093

มหาวิหารวินเชสเตอร์ (อังกฤษ: Winchester Cathedral) เป็นอาสนวิหารของคริสตจักรแห่งอังกฤษ ตั้งอยู่ที่เมืองวินเชสเตอร์ เทศมณฑลแฮมป์เชอร์ สหราชอาณาจักร ตัวอาสนวิหารปัจจุบันเริ่มสร้างเมื่อ ค.ศ. 1079 และเสร็จ เมื่อ ค.ศ. 1093

สถาปัตยกรรมก่อนสมัยโรมาเนสก์

มหาวิหารแรกสุดก่อตั้งเมื่อค. ศ. 642 ตรงด้านเหนือของมหาวิหารปัจจุบัน มหาวิหารเดิมรู้จักกันในนามว่า “Old Minster” (มินสเตอร์เดิม) วัดมาเป็นอารามเมื่อปีค.ศ. 971 นักบุญสวิธัน (Saint Swithun) ถูกฝังไว้ใกล้มหาวิหารเดิมก่อนที่จะถูกย้ายมาฝังที่มหาวิหารใหม่ที่สร้างแบบโรมาเนสก์ หรือที่เรียกกันว่า “สถาปัตยกรรมนอร์มัน” ที่อังกฤษ “Mortuary chests” (หีบ หรือ กล่อง) ซึ่งเชื่อกันว่าข้างในบรรจุกระดูกของพระเจ้าแผ่นดินแซ็กซอนเช่นพระเจ้าเอ็ดวี (Edwy of England) และพระนางเอลจิวา พระมเหสี (Elgiva) ซึ่งเดิมฝังอยู่ที่มหาวิหารเก่าแต่ต่อมาก็ย้ายไปฝังที่มหาวิหารปัจจุบัน มหาวิหารเดิมถูกรื้อทิ้งเมื่อปีค.ศ. 1093

ประวัติ

ตัวมหาวิหารปัจจุบันเริ่มสร้างเมื่อปี ค.ศ. 1079 ภายใต้การนำของบิชอปวอล์คลิน (Bishop Walkelin) เมื่อวันที่ 8 เมษายน ค.ศ. 1093 นักพรตก็ย้ายจากมหาวิหารเดิมไปสู่มหาวิหารใหม่ต่อหน้าผู้มาเข้าร่วมพิธีจากทั่วอังกฤษ

บริเวณที่เก่าที่สุดของมหาวิหารปัจจุบันคือที่ฝังศพภายใต้วัด (crypt) ซึ่งสร้างเมื่อคริสต์ศตวรรษที่ 11 ในสมัยพระเจ้าวิลเลียมที่ 2 ที่รู้จักกันในนามวิลเลียม รูฟัส (William Rufus) พระราชโอรสในพระเจ้าวิลเลียมที่ 1 ผู้ซึ่งต่อมาถูกฝังไว้ในมหาวิหารเมื่อวันที่ 11 สิงหาคม ค.ศ. 1100 หลังจากที่สิ้นพระชนม์จากอุบัติเหตุจากการล่าสัตว์ที่ New Forest

หอเตี้ยเหนือจุดตัดระหว่างทางเดินกลางกับแขนกางเขนของโบสถ์เริ่มสร้างเมื่อปี ค.ศ. 1202 เพื่อแทนหอเดิมที่ทลายลงมาเพราะดินบริเวณที่สร้างมหาวิหารนั้นไม่แน่น ลักษณะของสถาปัตยกรรมของมหาวิหารเป็นแบบโรมาเนสก์แท้ ถึงแม้การก่อสร้างจะทำต่อมาจนถึงสมัยคริสต์ศตวรรษที่ 14

เมื่อปี ค.ศ. 1394 ก็เริ่มการบูรณะปรับรูปแบบทางเดินกลางที่สร้างแบบโรมาเนสก์โดยอาจารย์ช่างหินวิลเลียม วินฟอร์ด (William Wynford) และทำต่อมาจนถึงคริสต์ศตวรรษที่ 16 รวมทั้งการเพิ่มจรมุข (Ambulatory) เพื่อให้มีเนื้อที่เพียงพอสำหรับนักแสวงบุญที่มาทำการสักการะนักบุญสวิทเธิร์นที่โบสถ์

อารามเซนต์สวิธันคณะเบเนดิกตินถูกยุบเลิกตามการยุบอารามเมื่อปี ค.ศ. 1539 ระเบียงฉันนบถและหอประชุมนักบวชถูกรื้อทิ้งแต่มหาวิหารยังเป็นมหาวิหารต่อมา

ระหว่างปีค.ศ. 1905 - ปี ค.ศ. 1912 มีการปฏิสังขรณ์โดย ที จี แจ็คสัน (T.G. Jackson) ที่สำคัญคือการป้องกันไม่ให้มหาวิหารทรุดลงมาทั้งหลัง พื้นที่สร้างมหาวิหารเป็นพื้นที่ที่มีน้ำขังทางกำแพงด้านใต้และด้านตะวันออกซึ่งต้องให้นักประดาน้ำวิลเลียม วอลคเคอร์ (William Walker) เอาถุงคอนกรีตเข้าไปอัดไว้ใต้ฐาน 25,000 ถุงและ ก้อน คอนกรีตอีก 115,000 ก้อน และ อิฐอีก 900,000 ก้อน วอลคเคอร์ใช้เวลาดำน้ำ 6 ชั่วโมงต่อวันเป็นเวลา 6 ปี (ค.ศ. 1906 - ปี ค.ศ. 1912) ในสภาพที่มืดมิดและมีความลึกถึง 6 เมตร วิลเลียม วอลคเคอร์จึงเป็นคนที่มีบทบาทสำคัญมากในการอนุรักษ์มหาวิหารที่เราเห็นกันอยู่ทุกวันนี้ เพื่อเป็นการตอบแทนคุณความดีของวอลคเคอร์ สมเด็จพระราชินีนาถวิคตอเรียพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ Royal Victorian Order ชั้น MVO ให้แก่วิลเลียม วอลคเคอร์

ดูเพิ่ม

แหล่งข้อมูลอื่น

สมุดภาพ