ผลต่างระหว่างรุ่นของ "สุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ"
Copelonian (คุย | ส่วนร่วม) ล สังกัดพรรค |
ไม่มีความย่อการแก้ไข ป้ายระบุ: การแก้ไขแบบเห็นภาพ แก้ไขจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขจากเว็บสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่ |
||
บรรทัด 46: | บรรทัด 46: | ||
== บทบาท == |
== บทบาท == |
||
สุรเชษฐ์ได้มีบทบาท โดยการอภิปรายความเห็นในฐานะกรรมาธิการหรือสมาชิกผู้แทนราษฎรดังนี้ |
สุรเชษฐ์ได้มีบทบาท โดยการอภิปรายความเห็นในฐานะกรรมาธิการหรือสมาชิกผู้แทนราษฎรดังนี้ |
||
=== กรณีขยายสัมปทานสัญญาทางด่วนของรัฐบาล === |
|||
สุรเชษฐ์ได้อภิปรายในสภาผู้แทนราษฎรว่าได้ตรวจสอบพบความไม่ชอบมาพากลทั้งหมด 3 ประเด็น ได้แก่ |
|||
# รัฐบาลได้มีความเร่งรีบผิดปกติ โดยปกติแล้วจะได้มีการนัดประชุมบอร์ดเดือนละครั้ง แต่กลับมีการประชุมพิเศษ (ลับ) เสมือนมีคำสั่งรีบเร่งให้แล้วเสร็จโดยเร็วที่สุด |
|||
# สัญญาฉบับร่าง ได้ทำการร่างจากทางบริษัท โดยปกติแล้วโครงการที่มีขนาดใหญ่จำต้องมีคณะกรรมการการทางพิเศษร่เป็นผู้ร่าง ซึ่งการให้บริษัทเป็นผู้ร่างส่งผลกระทบต่องบประมาณทางการเงินจำนวนมาก |
|||
# หากพิจารณษจาก คำสั่ง นายกฯที่ 10/2562 ที่มีเนื้อหาสาระสำคัญเกี่ยวกับการปลดผู้ว่าการทางพิเศษแห่งประเทศไทยนั้น สันนิษฐานได้ว่า ผู้ว่าฯการทางพิเศษต้องการทำงานอย่างรอบคอบ ซึ่งเคยมีการเสนอตั้งพิจารณาหลายด้าน อย่างไรก็ตาม หากสัญญาสัมปทานเหล่านี้สำเร็จรัฐบาลจะสามารถขยายเวลาสัมปทานทางด่วนออกไปอีก 30 ปี ซึ่งสามารถคิดมูลค่าความเสียหายได้ถึง 4.3 แสนล้านบาท |
|||
กรรมาธิการที่ได้มีการขอสงวนความเห็นทำการอภิปรายในเรื่องของการพิจารณารถไฟฟ้าบีทีเอส ได้มีความคิดเห็นตรงกับเสียงข้างมากกล่าวคือไม่ควรขยายสัญญาสัปทาน ขณะที่ในการสงวนความคิดเห็นเรื่องของการต่ออายุสัปทานทางด่วนอีก 30 ปีนั้น สุรเชษฐ์ได้อยู่ฝ่ายกรรมาธิการเสียงข้างน้อย ให้ความเห็นว่าไม่ควรขยายสัญญาสัปทานเช่นกัน |
|||
== อ้างอิง == |
== อ้างอิง == |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 18:39, 9 เมษายน 2563
สุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ | |
---|---|
เริ่มดำรงตำแหน่ง 27 พฤษภาคม 2561 | |
ข้อมูลส่วนบุคคล | |
เกิด | 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2521 กรุงเทพมหานคร ประเทศไทย |
พรรคการเมือง | พรรคอนาคตใหม่ (พ.ศ. 2561-2563) พรรคก้าวไกล (พ.ศ. 2563-ปัจจุบัน) |
การศึกษา | โรงเรียนสามเสนวิทยาลัย โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา |
ศิษย์เก่า | จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย มหาวิทยาลัยรัฐยูทาห์ |
อาชีพ |
|
สุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ[1] (ชื่อเล่น เชษฐ์, เกิด 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2521) คือนักการเมืองและนักวิชาการชาวไทยโดยเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทย ชุดที่ 25 แบบบัญชีรายชื่อ[2] ให้คำปรึกษานโยบายด้านคมนาคม[3]ของอดีตพรรคอนาคตใหม่ และเคยเป็นอาจารย์ที่สถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชียโดยมีประสบการณ์ในการทำงานที่มีความเชี่ยวชาญเป็นพิเศษทางด้านการคมนาคม[4] หลังพรรคอนาคตใหม่ถูกยุบ สุรเชษฐ์ย้ายไปสังกัดพรรคก้าวไกล
ประวัติ
สุรเชษฐ์สำเร็จการศึกษาในระดับปริญญาตรีด้านวิศวกรรมโยธาจากคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยใน พ.ศ. 2542 แล้วเข้าศึกษาต่อระดับปริญญาโท ด้านการวางแผนและบริหารจัดการโครงสร้างพื้นฐานจากสถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย ซึ่งสำเร็จการศึกษาใน พ.ศ. 2544 แล้วเข้าศึกษาต่อในระดับปริญญาเอกด้านวิศวกรรมขนส่งและจราจรที่มหาวิทยาลัยรัฐยูทาห์ ประเทศสหรัฐ
สุรเชษฐ์เคยเป็นนักวิจัยและอาจารย์พิเศษในมหาวิทยาลัยและสถาบันวิจัยหลายแห่ง อาทิ ประเทศไทย ประเทศนอร์เวย์ และ ประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นต้น อีกทั้งยังเคยได้รับตำแหน่ง ประธาน เลขานุการและกรรมการโครงการหรือคณะทำงาน มากกว่า 20 คณะ ทั้งในลักษณะของการจัดซื้อจัดจ้าง การตรวจการจ้าง หรือการทำงานเพื่อให้บรรลุผลตามวัตถุประสงค์ที่กำหนด โดยจากประสบการณ์การลงมือทำงานจริงที่มีความหลากหลายในภาคปฏิบัติ ส่งผลให้ ดร.สุรเชษฐ์ ได้รับเลือกให้มาเป็นอาจารย์ประจำที่สถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย โดยดำรงตำแหน่งอาจารย์ประจำสาขาวิชาวิศวกรรมขนส่ง สำนักวิชาวิศวกรรมและเทคโนโลยี สถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย
เมื่อเดือนมีนาคม พ.ศ. 2561 ดร.สุรเชษฐ์ ได้ลาออกจาก สถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเซีย (Asian Institute of Technology : AIT) เพื่อตัดสินใจเข้าร่วมงานกับ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ และผู้ที่มีความคิดเห็นแนวทางทางการเมืองอีกจำนวนมาก เพื่อลุกขึ้นสู้ด้วยประณิธานที่แรงกล้า โดยพลักดันนโยบายที่ดีต่อประชาชนและประเทศชาติในภาพรวมอย่างแท้จริง ภายใต้ พรรคการเมืองชื่อ พรรคอนาคตใหม่ พรรคการเมืองแห่งความหวัง ที่จะสร้างสรรค์ประเทศไทยที่มีอนาคตอยู่เคึยงคู่กับประชาชน
การทำงาน
- รองประธานคณะกรรมาธิการการคมนาคม รองประธานคณะอนุกรรมาธิการ คณะอนุกรรมาธิการเพื่อพิจารณาศึกษาความปลอดภัยทางถนนและคมนาคม
- รองประธานคณะกรรมาธิการ คณะกรรมาธิการศึกษาการจัดทำและติดตามการบริหารงบประมาณ สภาผู้แทนราษฎร
- คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาการขยายสัญญาสัมปทานทางด่วนและรถไฟฟ้าบีทีเอส (BTS) สภาผู้แทนราษฎร (ตั้งแต่ เดือนกรกฎาคม ถึง สิงหาคม พ.ศ. 2562)
- รองประธานคณะกรรมาธิการ คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 งบประมาณแผ่นดินของไทย พ.ศ. 2563[5]สภาผู้แทนราษฎร (ตั้งแต่ เดือนตุลาคม ถึง ธันวาคม พ.ศ. 2562)
- ที่ปรึกษาคณะอนุกรรมาธิการ คณะอนุกรรมาธิการครุภัณฑ์ ที่ดิน สิ่งก่อสร้าง และรัฐวิสาหกิจ สภาผู้แทนราษฎร (ตั้งแต่ เดือนพฤศจิกายน ถึง ธันวาคม พ.ศ. 2562)
การแถลงนโบาย
สุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ ได้แถลงนโยบายของพรรคอนาคตใหม่ (16 ธันวาคม พ.ศ.2562) ได้แก่ นโยบาย "ขนส่งสาธารณะเพื่อทุกคน" เป็นนโยบายที่จะผลักดันให้ภาครัฐ ควรจะนำงบประมาณไปทำการพัฒนาระบบขนส่งสาธารณะให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นกว่าเดิม เพื่อประชาชน มากกว่าการนำงบประมาณด้านคมนาคมส่วนใหญ่ไปทำการสร้าง หรือ ซ่อมถนน โดยไม่คำนึงถึงปัญหาที่จะเกิดขึ้น กล่าวคือ การสร้าง และ ซ่อมถนนจะส่งผลเชิงบังคับให้ประชาชนส่วนใหญ่ซื้อ รถยนต์ ทั้งนี้ การซื้อรถยนต์ถือได้ว่าเป็นการสูญสิ้นต้นทุนทางชีวิตในระดับหนึ่ง (ค่าซ่อมบำรุงหรือค่าประกัน) และ ก่อให้เกิดมลพิษในสังคม ด้วยเหตุนี้ สุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ และ พรรคอนาคตใหม่ ได้ทำการแจงข้อเสียของปัญหาดังกล่าวดังนี้
- การสูญเสียโอกาส เนื่องจากค่าเวลาเฉลี่ยในการเดินทางของประชาชนไทย อยู่ที่ประมาณ 120 บาท / คน / ชั่วโมง
- ประเทศไทยเกิดอุบัติเหตุทางถนนมากเป็นอันดับ 9 ของโลก
- ประเทศไทยต้องนำเข้าน้ำมันดิบถึง 640,000 ล้านบาท / ปี
- การสร้างถนนจำนวนมาก ก่อให้เกิดปัญหาเรื่องการกระจายตัวของเมืองอย่างไร้ทิศทางและขาดประสิทธิภาพ กล่าวคือ เมืองพัฒนาในแนวราบแทนที่จะพัฒนาแนวดิ่ง
- ส่งผลให้ประชาชนที่มีรายได้น้อยขาดโอกาสในการเดินทาง เนื่องจากการเดินทางมีต้นทางในการเดินทางที่สูง
นโยบายดังกล่าว จึงมีจุดประสงค์ที่สำคัญในการพัฒนา "ขนส่งสาธารณะเพื่อทุกคน" โดยผลักดันการสร้างระบบขนส่งสาธารณะ ในรูปแบบของ "ระบบราง" เนื่องจากระบบรางเป็นระบบที่มีคุณภาพที่ดี ค่าโดยสารมีความเหมาะสม สามารถเข้าถึงได้ง่าย และที่สำคัญอย่างยิ่ง ระบบรางใช้พลังงานน้อยกว่าระบบขนส่งรูปแบบอื่นถึง 9 เท่า ปล่อยก๊าซเรือนกระจกน้อยกว่า 3 เท่า และใช้พื้นที่น้อยกว่า 20 เท่า โดยการพัฒนาระบบรางจะต้องพัฒนาระบบขนส่งสาธารณะ ยกตัวอย่างเช่น รถเมล์ระบบไฟฟ้า เรือ ตลอดจนแท็กซี่และมอเตอร์ไซค์รับจ้าง ในทุกหัวเมืองควบคู่กันไปด้วยเพื่อประสิทธิภาพในการขนส่งในลักษณะระบบขนส่งโครงข่ายรองตามความเหมาะสมของแต่ละสภาพพื้นที่
อีกทั้ง การผลักดันระบบขนส่งสาธารณะแบบรางสามารถส่งเสริมเศรษฐกิจของประเทศไทยได้ โดยอุตสาหกรรมรถไฟ สามารถสร้างอาชีพการงานให้แก่ประชาชนได้ 150,000 ตำแหน่ง อีกทั้งสามารถก่อให้เกิดเม็ดเงินหมุนเวียนจำนวน 540,000 ล้านบาท / ปี
บทบาท
สุรเชษฐ์ได้มีบทบาท โดยการอภิปรายความเห็นในฐานะกรรมาธิการหรือสมาชิกผู้แทนราษฎรดังนี้
อ้างอิง
- ↑ สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎดร.สุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ
- ↑ "ประกาศคณะกรรมการการเลือกต้ง เรื่อง ผลการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ" (PDF). ราชกิจจานุเบกษา. 2019-05-08. สืบค้นเมื่อ 2019-06-11.
- ↑ นโยบายขนส่งสาธารณะเพื่อทุกคน
- ↑ The Daily Dose - สัมภาษณ์ ดร.สุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ แห่งพรรคอนาคตใหม่ - FULL EP
- ↑ งบประมาณแผ่นดินของไทย พ.ศ. 2563
แหล่งข้อมูลอื่น
- บุคคลที่ไม่ได้อธิบายความสำคัญตั้งแต่สิงหาคม 2019
- บุคคลที่เกิดในปี พ.ศ. 2521
- ข้าราชการพลเรือนชาวไทย
- อาจารย์คณะวิศวกรรมศาสตร์
- วิศวกรชาวไทย
- นักการเมืองไทย
- สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยแบบบัญชีรายชื่อ
- พรรคอนาคตใหม่
- พรรคก้าวไกล
- บุคคลจากโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา
- นิสิตเก่าคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
- บุคคลจากสถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย
- บทความเกี่ยวกับ ชีวประวัติ ที่ยังไม่สมบูรณ์