พระเทพสังวรญาณ (พวง สุขินฺทฺริโย)
บทความนี้ต้องการการจัดหน้า จัดหมวดหมู่ ใส่ลิงก์ภายใน หรือเก็บกวาดเนื้อหา ให้มีคุณภาพดีขึ้น คุณสามารถปรับปรุงแก้ไขบทความนี้ได้ และนำป้ายออก พิจารณาใช้ป้ายข้อความอื่นเพื่อชี้ชัดข้อบกพร่อง |
บทความนี้ยังต้องการเพิ่มแหล่งอ้างอิงเพื่อพิสูจน์ความถูกต้อง |
พระเทพสังวรญาณ (พวง สุขินฺทฺริโย) | |
---|---|
ส่วนบุคคล | |
เกิด | 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2470 (81 ปี 301 วัน ปี) |
มรณภาพ | 2 เมษายน พ.ศ. 2552 |
นิกาย | ธรรมยุติกนิกาย |
การศึกษา | นักธรรมเอก |
ตำแหน่งชั้นสูง | |
ที่อยู่ | วัดศรีธรรมาราม ยโสธร |
อุปสมบท | 24 พฤศจิกายน 2490 |
พรรษา | 62 |
ตำแหน่ง | อดีตเจ้าอาวาสวัดศรีธรรมาราม อดีตรองเจ้าคณะภาค 10 (ธรรมยุต) อดีตที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 10 (ธรรมยุต) |
พระเทพสังวรญาณ หรือที่ประชนชนทั่วไปมักเรียกองค์ท่านว่า หลวงตาพวง ได้รับการขนานนามว่า พระอริยเจ้าแห่งลุ่มน้ำชี เป็นพระภิกษุคณะธรรมยุติกนิกาย ชาวจังหวัดยโสธร เคยดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าอาวาสวัดศรีธรรมาราม, เจ้าคณะจังหวัดยโสธร (ธ), รองเจ้าคณะภาค 10 (ธ) และที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 10 (ธ)
ประวัติ
[แก้]กำเนิด
[แก้]พระเทพสังวรญาณ หรือ หลวงตาพวง สุขินทริโย มีนามเดิมว่า “พวง” นามสกุล “ลุล่วง” ถือกำเนิดเมื่อวันศุกร์ที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2470 ตรงกับวันขึ้น 6 ค่ำ เดือน 6 ปีเถาะ ที่บ้านศรีฐาน ตำบลกระจาย อำเภอคำเขื่อนแก้ว จังหวัดอุบลราชธานี (ปัจจุบันคือตำบลศรีฐาน อำเภอป่าติ้ว จังหวัดยโสธร) เป็นบุตรคนที่ 4 ของนายเนียม และนางบัพพา ลุล่วง มีพี่น้องร่วมบิดา มารดา จำนวน 6 คน เป็นชาย 3 คนและหญิง 3 คน ดังต่อไปนี้
- นายจันทา ลุล่วง อดีตกำนันตำบลกระจาย อ.ป่าติ้ว จ.ยโสธร (ถึงแก่กรรม)
- นางผา ละม่อม (ถึงแก่กรรม)
- นางสา วันเที่ยง (ถึงแก่กรรม)
- หลวงตาพวง สุขินทริโย
- หลวงตาสรวง สิริปุญโญ อดีตเจ้าอาวาสวัดศรีฐานใน ต.ศรีฐาน อ.ป่าติ้ว จ.ยโสธร (มรณภาพ)
- นางจำปา ป้องกัน
ต้นตระกูลเดิมของหลวงตาพวง สุขินทริโย เป็นชาวนานับถือศาสนาพุทธมาแต่ดั้งเดิม โยมบิดาและโยมมารดา มีศรัทธาในพระพุทธศาสนาเป็นอย่างยิ่ง ทำบุญตักบาตรหรือถวายภัตตาหารเป็นประจำทุกวันไม่ได้ขาด ยึดมั่นในขนบธรรมเนียมประเพณีมาโดยตลอด มีบุตรชายก็ต้องให้บวชพระเสียก่อนทุกคน ทั้งหลวงตาและน้องชายคือ หลวงตาสรวง สิริปุญโญ หลังจากบวชตามประเพณีแล้วได้มีศรัทธาในพระพุทธศาสนา จึงครองสมณเพศมาจนถึงปัจจุบัน สภาพความเป็นอยู่ของบ้านศรีฐานในสมัยนั้น ชาวบ้านส่วนใหญ่ยึดอาชีพทำนาเป็นหลัก ไม่ได้ทำไร่มันสำปะหลังหรือปลูกปอเช่นในปัจจุบัน ในสมัยก่อนชีวิตความเป็นอยู่ค่อนข้างดี มีสัตว์ป่า ป่าไม้ พืชพรรณ ธัญญาหาร อุดมสมบูรณ์ นอกจากนั้นชาวบ้านศรีฐาน ยังมีอาชีพการทำหมอนขิด ที่มีชื่อเสียง ส่งออกขายทั่วประเทศ เป็นรายได้เสริมอีกทางหนึ่ง ครอบครัวของหลวงตาถือได้ว่าอยู่ในระดับปานกลาง มีความเป็นอยู่สบาย ไม่เดือดร้อน มีอาชีพทำนาเป็นหลัก มีนาอยู่ 3 แปลง แต่จำไม่ได้ว่ามีแปลงละกี่ไร่ โดยมีลูกๆ ช่วยกันทำนา นอกจากนั้นก็เลี้ยงวัวเลี้ยงควายตามวิถีชีวิตดั้งเดิมของคนในชนบท หลวงตาเองก็ได้ช่วยบิดา มารดา ทำนามาตั้งแต่เด็ก ๆ และหากมีเวลาว่างก็จะนำวัวควายออกไปเลี้ยงเป็นประจำเพื่อแบ่งเบาภาระของโยมบิดามารดา
การศึกษา
[แก้]- พ.ศ. 2486 สอบไล่ได้นักธรรมชั้นตรี
- พ.ศ. 2487 สอบไล่ได้นักธรรมชั้นโท
- พ.ศ. 2488 สอบไล่ได้นักธรรมชั้นเอก
บรรพชา และอุปสมบท
[แก้]ท่านบรรพชาเป็นสามเณร เมื่อวันที่ 20 มีนาคม พ.ศ. 2485 ณ พัทธสีมาอุโบสถวัดสระแก้ว อำเภอพิบูลมังสาหาร จังหวัดอุบลราชธานี โดยมีพระครูพิบูลสมณกิจ เป็นพระอุปัชฌาย์ และอุปสมบทเป็นพระภิกษุ เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2491 ณ อุเปกขสีมา(สีมาน้ำ) วัดป่าบ้านหนองโดก ตำบลช้างมิ่ง อำเภอพรรณานิคม จังหวัดสกลนคร โดยมีพระธรรมเจดีย์ (จูม พนฺธุโล) เป็นพระอุปัชฌาย์ หลวงปู่อ่อน ญาณสิริ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ หลวงปู่ฝั้น อาจาโร เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า สุขินฺทริโย แปลว่า ผู้มีความสุขเป็นใหญ่[1] หลังจากอุปสมบทแล้ว พระภิกษุพวง สุขินทริโย ก็ได้เข้าศึกษาอบรมธรรมกับหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ที่วัดป่าบ้านหนองผือ ตำบลนาใน อำเภอพรรณานิคม จังหวัดสกลนคร ต่อมาได้ฝากตัวเป็นศิษย์ และขอนิสัยจากหลวงปู่ฝั้น อาจาโร ที่วัดป่าภูธรพิทักษ์ บ้านธาตุนาเวง ตำบลพังขว้าง อำเภอเมืองสลกนคร จังหวัดสกลนคร
ชีวิตในเพศบรรพชิต
[แก้]- พรรษาที่ 1 (พ.ศ. 2491) อุปสมบท ณ โบสถ์น้ำ วัดป่าบ้านหนองโดก ตำบลช้างมิ่ง อำเภอพรรณานิคม จังหวัดสกลนคร โดยมีพระธรรมเจดีย์ (จูม พันธุโล) เป็นพระอุปัชฌาย์, พระอาจารย์อ่อน ญาณสิริ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระอาจารย์ฝั้น อาจาโร เป็นอนุสาวนาจารย์ หลังจากอุปสมบทแล้ว ไปจำพรรษาที่วัดป่าท่าสองคอน ตำบลพรรณา อำเภอพรรณานิคม จังหวัดสกลนคร
- พรรษาที่ 2 (พ.ศ. 2492) ย้ายไปจำพรรษาร่วมกับหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ที่วัดป่าบ้านหนองผือ ตำบลนาใน อำเภอพรรณานิคม จังหวัดสกลนคร ซึ่งเป็นพรรษาสุดท้ายของหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
- พรรษาที่ 3 (พ.ศ. 2493) หลังจากหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต มรณภาพ และเสร็จงานพระราชทานเพลิงศพหลวงปู่มั่นแล้ว ไปจำพรรษากับหลวงปู่ฝั้น อาจาโร ที่วัดป่าภูธรพิทักษ์ธาตุนาเวง อำเภอเมืองสกลนคร จังหวัดสกลนคร
- พรรษาที่ 4-5 (พ.ศ. 2594-2495) จำพรรษาที่วัดป่าภูธรพิทักษ์ธาตุนาเวง อำเภอเมืองสกลนคร จังหวัดสกลนคร ร่วมกับหลวงปู่ฝั้น อาจาโร
- พรรษาที่ 6 (พ.ศ. 2496) หลวงปู่ฝั้น อาจาโร เกิดนิมิตระหว่างนั่งสมาธิในกลางพรรษาว่าเห็นถ้ำที่สว่างไสว เหมาะแก่การปฏิบัติ จึงได้ไปค้นหาจนพบถ้ำขาม แล้วได้บุกเบิกจนเป็นวัดถ้ำขาม อำเภอพรรณานิคม จังหวัดสกลนครในปัจจุบัน ในพรรษานั้น หลวงตาพวง สุขินทริโยได้ไปบุกเบิกถ้ำขามและจำพรรษาที่นั่น
- พรรษาที่ 7-8 (พ.ศ. 2497-2498) กลับมาจำพรรษาที่วัดป่าภูธรพิทักษ์ธาตุนาเวง อำเภอเมืองสกลนคร จังหวัดสกลนคร
- พรรษาที่ 9 (พ.ศ. 2499) กลับบ้านศรีฐาน อำเภอป่าติ้ว จังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งเป็นบ้านเกิด เพราะโยมบิดาเสียชีวิต ประกอบกับพระอาจารย์บุญช่วย ซึ่งเป็นเจ้าอาวาสวัดศรีฐานในใน ที่เคยเป็นพระอาจารย์สมัยบวชเป็นเณร เกิดอาพาธ จึงอยู่ดูแลรับใช้ปรนนิบัติ
- พรรษาที่ 10 (พ.ศ. 2500) พระอาจารย์บุญช่วย ธัมวโร เจ้าอาวาสวัดศรีฐานใน อำเภอป่าติ้ว จังหวัดอุบลราชธานี มรณภาพ ไม่มีพระภิกษุดูแลวัด ชาวบ้านจึงนิมนต์ให้รักษาการเจ้าอาวาสวัดศรีฐานในใน เพื่อดูแลวัด
- พรรษาที่ 11 (พ.ศ. 2501) ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดศรีฐานในในอย่างเป็นทางการ
- พรรษาที่ 12-18 (พ.ศ. 2502-2508) จำพรรษาที่วัดศรีฐานใน บูรณะปฏิสังขรณ์วัดศรีฐานในจนมีความเจริญรุ่งเรือง
- พรรษาที่ 19 (พ.ศ. 2509) ได้รับแต่งตั้งเป็นพระครูฐานานุกรม ในราชทินนามที่ พระครูใบฎีกา พวง สุขินทริโย
- พรรษาที่ 20 (พ.ศ. 2510) จำพรรษาที่วัดศรีฐานใน อำเภอป่าติ้ว จังหวัดอุบลราชธานี
- พรรษาที่ 21 (พ.ศ. 2511) เนื่องจากวัดศรีธรรมาราม อำเภอยโสธร จังหวัดอุบลาชธานี ไม่มีเจ้าอาวาส เจ้าคณะจังหวัดและชาวบ้านไปนิมนต์ให้มาเป็นเจ้าอาวาส จึงได้ย้ายมาจำพรรษาที่วัดศรีธรรมาราม อำเภอยโสธร จังหวัดอุบลราชธานี
- พรรษาที่ 22 (พ.ศ. 2512) ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าคณะตำบลในเมือง อำเภอยโสธร
- พรรษาที่ 23 (พ.ศ. 2513) ได้รับแต่งตั้งเป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นตรี ในราชทินนามที่ พระครูอมรวิสุทธิ์
- พรรษาที่ 24 (พ.ศ. 2514) พัฒนาวัดศรีธรรมาราม อำเภอยโสธร จังหวัดอุบลราชธานี
- พรรษาที่ 25 (พ.ศ. 2515) อำเภอยโสธร จังหวัดอุบลราชธานี ยกฐานะเป็นจังหวัด ได้รับแต่งตั้งให้รักษาการในตำแหน่งเจ้าคณะจังหวัดยโสธร (โดยไม่ได้เป็นเจ้าคณะอำเภอมาก่อน)
- พรรษาที่ 26 (พ.ศ. 2516) ได้รับแต่งตั้งเป็นพระราชาคณะชั้นสามัญ ในราชทินนามที่ พระสุนทรธรรมภาณ และได้รับตำแหน่งเป็นเจ้าคณะจังหวัดยโสธรอย่างเป็นทางการ
- พรรษาที่ 27-33 (พ.ศ. 2516-2523) จำพรรษาที่วัดศรีธรรมาราม อำเภอเมืองยโสธร จังหวัดยโสธร
- พรรษาที่ 34 (พ.ศ. 2524) หลังจากบูรณะซ่อมแซมพระอุโบสถวัดศรีธรรมาราม อำเภอเมืองยโสธร จังหวัดยโสธร เสร็จเรียบร้อย ได้ย้ายไปจำพรรษาที่วัด กม.3 ตำบลตาดทอง อำเภอเมืองยโสธร จังหวัดยโสธร
- พรรษาที่ 35-46 (พ.ศ. 2525-2536) กลับมาจำพรรษาที่วัดศรีธรรมาราม อำเภอเมืองยโสธร จังหวัดยโสธร โดยตลอด พัฒนาวัดศรีธรรมารามจนเจริญก้าวหน้าและได้รับจนได้รับยกย่องให้เป็นวัดพัฒนา ตัวอย่างในปี พ.ศ. 2528 และยกระดับเป็นพระอารามหลวง ในปี พ.ศ. 2532
- พรรษาที่ 47 (พ.ศ. 2537) ได้รับการแต่งตั้งเป็นพระราชาคณะชั้นราช ในราชทินนามที่ พระราชธรรมสุธี และได้รับพระราชทานธรรมจักรทองคำจากสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในปี พ.ศ. 2537
- พรรษาที่ 51 (พ.ศ. 2541) ได้รับแต่งตั้งเป็นรองเจ้าคณะภาค 10 (ธรรมยุต)
- พรรษาที่ 54 (พ.ศ. 2544) ได้รับการแต่งตั้งเป็นพระราชาคณะชั้นเทพ ในราชทินนามที่ พระเทพสังวรญาณ
- พรรษาที่ 52 (พ.ศ. 2542) สร้างวัดป่าใหม่นิคมพัฒนาราม บ้านนิคม ตำบลกระจาย อำเภอป่าติ้ว จังหวัดยโสธร และจำพรรษาอยู่ที่นี่จนถึงปัจจุบัน
- พรรษาที่ 62 (พ.ศ. 2552 ) หลวงตามรณภาพ พระราชทานเพลิงศพเมื่อวันที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2553
ตำแหน่ง และหน้าที่
[แก้]- พ.ศ. 2501 เจ้าอาวาสวัดศรีฐานใน
- พ.ศ. 2511 เจ้าอาวาสวัดศรีธรรมาราม
- พ.ศ. 2512 เจ้าคณะตำบลในเมือง
- พ.ศ. 2516 เจ้าคณะจังหวัดยโสธร (ธ)
- พ.ศ. 2532 เจ้าอาวาสวัดศรีธรรมาราม (พระอารามหลวง)
- พ.ศ. 2537 รองเจ้าคณะภาค 10 (ธ)
- พ.ศ. 2542 ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 10 (ธ)
การสาธารณสงเคราะห์
[แก้]สร้างวัดป่าใหม่นิคมพัฒนาราม
[แก้]เดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2542 หลวงตาพวงได้กลับมาบ้านศรีฐาน บ้านเกิดของท่าน ได้ดำริที่จะสร้างวัดที่บ้านนิคม ต.กระจาย อ.ป่าติ้ว เพื่อให้ชาวบ้านได้พึ่งพิง เดือนมิถุนายน พ.ศ. 2542 ท่านได้ย้ายมาจำพรรษาที่วัดป่าใหม่นิคมพัฒนารามแห่งนี้ จากเดิมมีที่เพียงป่าช้าบ้านนิคมที่รกร้างมานานเพียง 10 ไร่ ปัจจุบันสามารถขยายออกไปได้กว่า 80 ไร่ ด้วยบารมีของท่าน ลูกศิษย์ลูกหาทั้งหลาย ก็ติดตามมาที่วัดป่าใหม่นิคมพัฒนารามเพื่อช่วยท่านพัฒนาวัดแห่งนี้ ได้เงินเพื่อใช้ในการสร้างวัดกว่า 7 ล้านบาท ท่านพาชาวบ้านตัดถนน ต่อไฟฟ้า นำความเจริญมาสู่มาตภูมิของท่านเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังพาชาวบ้านเข้าวัดทำบุญ ปฏิบัติธรรม พัฒนาจิตใจให้มีความสงบร่มเย็น เป็นที่พึ่งของชาวบ้านแถบนั้น ถึงแม้ว่าท่านจะดำรงสมณศักดิ์ถึงระดับท่านเจ้าคุณพระราชธรรมสุธี รองเจ้าคณะภาค 10 (ธ) อายุของท่านกว่า 75 ปีแล้ว ท่านก็ยังพาพระเณรในวัดบิณฑบาตทุกเช้าเป็นประจำทุกวัน อีกทั้งยังดูแลความเรียบร้อยภายในวัด ดูแลการก่อสร้างต่าง ๆ ด้วยตัวของท่านเองมิได้ขาด ท่านเป็นพระเถรานุเถระผู้ใหญ่ที่ทำงานหนักโดยไม่เห็นแก่ความเหน็ดเหนื่อย เป็นแบบอย่างที่ดีกับพระเณรรุ่นต่อ ๆ มาเป็นอย่างดี
สมณศักดิ์
[แก้]- พ.ศ. 2501 เป็นฐานานุกรม ที่พระครูใบฎีกาพวง สุขินทริโย
- พ.ศ. 2512 เป็นพระครูสัญญาบัตร ที่ พระครูอมรวิสุทธิ์
- 5 ธันวาคม พ.ศ. 2517 เป็น พระราชาคณะชั้นสามัญยก เจ้าคณะจังหวัด ที่ พระสุนทรธรรมภาณ ยโสธาการวิจิตร ธรรมิกคณิสสร
- 5 ธันวาคม พ.ศ. 2537 เป็น พระราชาคณะชั้นราช ที่ พระราชธรรมสุธี ศรีธรรมคณานุสิฏฐ์ ยติคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี
- 5 ธันวาคม พ.ศ. 2544 เป็น พระราชาคณะชั้นเทพ ที่ พระเทพสังวรญาณ ภาวนาวิธานนิวิฐ วิจิตรสีลคุณาภรณ์ ยติคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี
อาพาธ และมรณภาพ
[แก้]ตั้งแต่เดือนกันยายน พ.ศ. 2550 และรับการรักษาด้วยยาเคมีบำบัดอย่างต่อเนื่องที่โรงพยาบาลศิริราช ก่อนจะมาพักรักษาต่อที่โรงพยาบาลยโสธร เมื่อเวลา 10.54 น. ของวันที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2552 พระเทพสังวรญาณ (พวง สุขินทริโย) ได้ละสังขารเข้าสุ่แดนอนุปาทิเสสนิพพาน สิริรวมอายุ 82 ปี พรรษา 57 พรรษา ที่โรงพยาบาลยโสธร ตำบลตาดทอง อำเภอเมืองยโสธร จังหวัดยโสธร หลังจากอาพาธด้วยโรคมะเร็งท่อน้ำดีระยะสุดท้าย สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี เสด็จไปในการพระราชทานเพลิงศพเมื่อวันที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2553 ณ วัดศรีธรรมาราม อำเภอเมืองยโสธร จังหวัดยโสธร
อ้างอิง
[แก้]- ↑ https://sangkhatikan.com/monk_view.php?ID=15227
- ↑ "สำเนาที่เก็บถาวร". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2019-06-09. สืบค้นเมื่อ 2019-05-23.
- ↑ https://sangkhatikan.com/monk_view.php?ID=15227
- ↑ http://www.visityasothon.com/?destination=%E0%B8%9E%E0%B8%B4%E0%B8%9E%E0%B8%B4%E0%B8%98%E0%B8%A0%E0%B8%B1%E0%B8%93%E0%B8%91%E0%B9%8C%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%A7%E0%B8%87%E0%B8%95%E0%B8%B2%E0%B8%9E%E0%B8%A7%E0%B8%87