ผู้ใช้:Patt olive

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

หลวงปู่โฉม อรุโณ (แห่งเทือกเขาพนมรุ้ง)[แก้]

หลวงปู่โฉม อรุโณ วัดอัมภาราม พระผู้สมถะเรียบง่าย แห่งเทือกเขาพนมรุ้ง ท่านเกิดเมื่อวันที่ 22 กรฎาคม 2471 ท่านเกิดที่ บ้านหว่าน หมู่ที่ 4 ต.ตาเป็ก อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ เป็นพระเกจิอาจารย์แห่งอีสานใต้ และเป็นเจ้าอาวาสวัดอัมภาราม

ประวัติ[แก้]

พระครูอรุณคุณากร

(โฉม อรุโณ)
คำนำหน้าชื่อพระครู
ชื่ออื่นหลวงพ่อโฉม,หลวงปู่โฉม,พระครูอรุณคุณากร
ส่วนบุคคล
เกิด22 กรฎาคม 2471
ตำบลตาเป็ก
อำเภอนางรอง จังหวัดบุรีรัมย์ ประเทศสยาม (95 ปี 11 วัน ปี)
นิกายมหานิกาย
ตำแหน่งชั้นสูง
ที่อยู่วัดอัมภาราม อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์
พรรษา75
ตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดอัมภาราม,ที่ปรึกษาเจ้าคณะอำเภอเฉลิมพระเกียรติ

โยมพ่อท่านชื่อ มอญ โยมแม่ท่านชื่อ แต๊ะ ปัจจุบันอายุ 95 ปี 73 พรรษาอยู่วัดอัมภาราม อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์

ศิษย์สายตรงหลวงปู่สุข วัดโพธิ์ทรายทองและหลวงปู่เทิ่ง ฆงคปัญโญ วัดอัมภาราม เจ้าอาวาสวัดในอดีตผู้โด่งดังด้านเมตตามหานิยม อย่างเอกอุซึ่งหลวงปู่เทิ่งก็ถ่ายทอดสรรพวิชาต่างๆ

ให้หลวงปู่โฉมจนหมดสิ้นพร้อมกับนำหลวงปู่โฉมไปฝากตัวศึกษาวิชาอาคมต่างๆต่อกับหลวงพ่อมั่น วัดบ้านตาจง , หลวงพ่อเพียร วัดบ้านถนนหัก ,หลวงปู่เป็น วัดเจริญนิมิตรและหลวงปู่สุข ธัมมโชโต วัดโพธิ์ทรายทอง ฯลฯ

หลังจากที่หลวงปู่เทิ่ง มรณะภาพในปี พ. ศ. ๒๔๙๘ ชาวบ้านตาเป๊กก็นิมนต์หลวงปู่โฉม อรุโณ ขึ้นเป็นเจ้าอาวาส ซึ่งหลวงปู่โฉมท่านก็ทำหน้าที่เจ้าอาวาสที่เรียกได้ว่าพระผู้สร้างและพัฒนาความเจริญสู่วัดและชาวบ้านตลอดมา

แต่หลวงปู่โฉมท่านก็ไปๆมาๆศึกษาวิชาอาคมต่างๆกับหลวงปู่สุข วัดโพธิ์ทรายทอง พร้อมกับครูบาสร้อย วัดมงคลคีรีเขต จ.ตาก ,หลวงพ่อแผน วัดบ้านหนองติม ,หลวงพ่อเชือน วัดบ้านตาจง

ซึ่งปัจจุบันศิษย์สายตรงของหลวงปู่สุข วัดโพธิ์ทรายทอง เหลือเพียงหลวงปู่โฉมกับหลวงพ่อแผนเท่านั้น และหลวงพ่อแผนเคยพูดในงานพุทธาภิเษกที่วัดเขาพระอังคาร ในพิธีนั้นหลวงพ่อแผนเข้ามากราบหลวงปู่โฉม

และบอกว่าใครจะได้วิชาหลวงปู่สุขหมดเท่าอาจารย์โฉม ฉันเห็นท่านอยู่กับหลวงปู่สุขตั้งแต่ฉันยังเป็นเด็กน้อยแน่ะ และอาจารย์อีกรูปที่สำคัญของหลวงปู่โฉมคือหลวงปู่เป็น โฆสกาโม วัดเจริญนิมิต บ้านยายคำ

ผู้มีตำนานเหาะเหินเดินอากาศ มหาอุดหยุดกระสุนนี้ท่านเก่งมาก หลวงปู่โฉมเรียนวิชากับหลวงปู่เป็นตั้งแต่ทำน้ำมนต์แก้อาถรรพ์ ทำตะกรุดหยุดปืน ทำยันต์พยนต์ศึกวิชาพรหมสี่หน้ามหากำบัง วิชาลงหลังปัทมึน

และวิชาพรหมมหาเสน่ห์ จนเจนจบทุกวิชาในขณะนั้นเองหลวงปู่โฉมได้รู้จักกับหลวงปู่หงษ์พรหมปัญโญซึ่งมาเรียนวิชากับหลวงปู่เป็นเช่นกันเรียกได้ว่าเป็นศิษย์สายเดียวกันเอง

ท่านยังเป็นศิษย์ศึกษาวิชาอาคมกับอีกหลายอาจารย์รวมทั้งหลวงปู่ผาด วัดบ้านกรวดด้วย และท่านเองก็ได้เป็นสหมิกธรรมกับหลวงพ่อฤทธิ์ วัดชลประทานราชดำริ, หลวงพ่อชื่น วัดบ้านตาอี

ซึ่งท่านทั้งสามสนิทสนมไปมาหาสู่กันเสมอและท่านได้เคยธุดงค์พร้อมกับหลวงปู่ฤทธิ์และหลวงพ่อเชือน วัดบ้านตาจง จนพบกับหลวงพ่อกวย วัดโฆษิตาราม แต่ด้วยท่านเป็นพระสมถะจึงไม่ค่อยมีวัตถุมงคลให้ได้เห็นกัน

แต่ในวงการพระเครื่องของบุรีรัมย์เป็นที่รู้จักกันว่าท่านเป็นเกจิอาจารย์ที่ขลังมากๆองค์หนึ่ง ในปัจจุบัน

ระวัติการศึกษาวิทยาคม[แก้]

หลวงพ่อโฉม อรุโณ ท่านเป็นพระสงฆ์ที่เปี่ยมข้อวัตรปฏิบัติและความเพียรในการศึกษาหาภูมิความรู้ทั้งด้านการศึกษาธรรมบาลี ข้อธรรมต่างๆ รวมถึงคาถาอาคมวิชาเล้นลับต่างๆอีกมากมาย

หลวงปู่ท่านได้เล่าให้ฟังว่าสมัยก่อนการจะไปขอเรียนวิชาอาคมใดๆนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายต้องคอยปรนนิบัติทดสอบจริตกริยาต่างๆก่อนจนกระทั่งผู้เป็นอาจารย์ไว้ใจจึงถ่ายทอดวิชาความรู้ต่างๆให้อย่างเต็มที่

การไปเรียนวิชาอาคมที่สำคัญหลักๆของหลวงพ่อโฉม อรุโณนั้น ก็มีหลวงพ่อเทิ่ง ฆังคปัญโญ เจ้าอาวาสองค์ก่อนหลวงพ่อโฉมผู้เป็นยอดแห่งเกจิอาจารย์ด้านเมตตามหานิยมหลวงพ่อโฉมท่านได้เรียนวิชาทางด้านมหานิยม

และวิชาลงเทียนมัทรี วิชาสาลิกามหาเสน่ห์และวิชาสายทางแคล้วคลาดเช่นตะกรุดคู่ชีวิต ตะกรุดชัยวรมัน ตะกรุดกันพรายเป็นต้นซึ่งชาวบ้านตาเป๊กและใกล้เคียงต่างรู้ดีว่าหลวงพ่อโฉม ท่านเก่งมหานิยมไม่เคยเป็นสองรองใครเลย

เพียงแต่หลวงพ่อท่านไม่เคยออกตัวว่าทำได้ถ้าไม่ใช่คนพื้นที่จะไม่เคยได้ของดีจากหลวงพ่อโฉมท่านเลยหลวงพ่อโฉมท่านกล่าวเสมอว่าพระที่พูดว่าเก่งพูดว่าทำได้มันเป็นอาบัติ เราทำได้เราเก่งอย่างไรให้นิ่งไว้ถึงเวลาคงได้สงเคราะห์

ผู้ที่เดือดร้อนเอง และบัดนี้ก็ถึงเวลาแล้วที่พวกเราสาธุชนคนดีทั้งหลายจะได้ไปกราบไหว้ขอพรพระสงฆ์ผู้บริสุทธิ์ไกลจากกิเลสแล้วมีพลังบารมีสามารถขจัดปัดเป่าทุกข์ภัยเป็นที่พึ่งแก่สาธุชนได้ทุกชั้นวรรณะไม่ว่ายากดีมีรวย

หลวงพ่อท่านไม่เคยถือเลยขอแค่ได้ไปสัมผัสรอยยิ้มที่เปี่ยมด้วยบารมีของหลวงพ่อท่านรับรองว่าชีวิตจะดีขึ้นอย่างแน่นอน ร้านค้าร้านขายต่างอยากได้ของดีจากหลวงพ่อโฉมท่านไว้บูชาเพราะความศักดิ์สิทธิ์ทางด้านโชคลาภมหานิยม

นั้นค้าขายรับรองไม่มีใครรู้จักคำว่าขาดทุน องค์ต่อมาคือหลวงพ่อสุข ธัมมโชโต แห่งวัดโพธิ์ทรายทอง อำเภอละหานทราย จังหวัดบุรีรัมย์ เกจิที่ดังที่สุดในแดนอีสานใต้ วัตถุมงคลของหลวงพ่อสุขนั้นปัจจุบันหายากยิ่งกว่าทอง

ยิ่งกว่าเพชร หลวงพ่อโฉมท่านเป็นศิษย์ก้นกุฏิของหลวงพ่อสุขเลยขนาดว่าหลวงพ่อแผน วัดหนองติม ท่านถือเป็นศิษย์หลวงพ่อสุขอีกองค์หนึ่ง ท่านพูดไว้เสมอว่าหลวงพ่อโฉม นั้นท่านได้วิชาหลวงพ่อสุข

ไว้หมดแหละเพราะฉันเห็นท่านอยู่กับหลวงพ่อสุขตั้งแต่ฉันเป็นเด็กวัดแน๊ะ นี่คืออีกบทพิสูจน์ว่าหลวงพ่อโฉมท่านเก่งแค่ไหน ปัจจุบันคันธนูอาคมของหลวงพ่อสุขยังอยู่กับหลวงพ่อโฉมเลย ท่านทั้งหลายคิดเอาเถิด

ว่าท่านเรียนมาหมดแค่ไหน ท่านเคยเล่าให้ฟังตอนศิษย์จากกรุงเทพมาขอให้ท่านลงหลังให้ว่าหลวงพ่อสุขท่านไม่เคยลงเลขยันต์อะไรมากมายท่านว่าแค่นะตัวเดียวก็ขลังซึ่งปัจจุบันวิชาสายนี้ก็คงเหลือเพียงไม่กี่องค์ที่ทำได้

ท่านว่าหลวงพ่อสุขนี้เป็นพระอรหันต์มีพลังจิตลึกล้ำพิสดาร แล้วศิษย์เลยถามหลวงพ่อโฉมว่าแล้วหลวงพ่อล่ะท่านก็นิ่งอมยิ้มน้อยๆพร้อมพูดว่าอาจารย์ได้เท่าไหน ศิษย์ก็ทำได้เท่านั้นแหละโยม องค์ต่อมาคือหลวงพ่อเป็น โฆสกาโม

แห่งวัดเจริญนิมิตบ้านยายคำ เทพเจ้าแห่งวิชาอยู่ยงคงกระพัน ล่องหนหายตัว มหาอุตหยุดปืนท่านสำเร็จหมดท่านเป็นชาวเขมรท่านเก่งทางด้านวิชาอาคมเป็นเอกอุทุกด้านหลวงพ่อเป็นท่านสำเร็จหมด

หลวงพ่อโฉมท่านก็ได้เรียนวิชาหลวงพ่อเป็นไว้ทุกอย่างทุกตำราตอนที่ขึ้นครูเรียนนี้เองที่ท่านได้รู้จักหลวงปู่หงษ์แห่งสุสานทุ่งมน สุรินทร์ นับถือกันเป็นพี่น้องไปมาหาสู่กันเป็นประจำ หลวงพ่อโฉมท่านเล่าว่าสมัยก่อนจะถึงปีสองพันห้าร้อย

พระสงฆ์ยังสามารถแสดงอิทธิฤทธ์ได้หลวงพ่อเป็นถือเป็นบรมครูด้านอิทธิฤทธิ์เลยเพราะท่านทำได้หมดไม่ว่าหายตัว กำบังตัว เหาะเหินเดินอากาศ เสกว่านเสกยา ทำพยนต์ ทำพรายเทียน ทำตะกรุดสุดยอดแห่งความคงกระพัน

วิชาแหวนมหาอุต วิชาพรหมคุ้มภัย และวิชาโบราณสายพนมกุเลนอีกมากมาย หลวงพ่อโฉมท่านเคยเล่าว่าหลวงพ่อเป็นเหาะไปเอาปลาร้าจากเมืองเขมรมาตำส้มตำซึ่งศิษย์หลวงพ่อเป็นหลายท่านต่างยืนยันว่าจริง

ลูกศิษย์หลวงพ่อโฉมเกิดความอยากรู้จึงไปถาม นายพวง มาพิทักษ์ ซึ่งเป็นครูใหญ่โรงเรียนบ้านยายคำสมัยหลวงพ่อเป็นท่านยังไม่ละสังขารว่าใครเรียนวิชาหลวงพ่อเป็นไว้บ้าง ครูพวงท่านตอบเลยว่าหลวงพ่อโฉม

ท่านได้ไว้มากกว่าใครจริงไม่ต้องสงสัยเลยว่าประสบการณ์ต่างๆไม่ว่าจะยิงไม่ออก แทงไม่เข้า รถชนบ้าง ทำไมลูกศิษย์หลวงพ่อโฉมท่านรอดมาได้ตลอดเป็นเพราะท่านสำเร็จวิชาต่างๆอย่างสมบูรณ์นั่นเอง

และท่านก็ได้ศึกษาเรียนวิชาคมและทำตะกรุดกับหลวงหลวงพ่อเป็นจนได้เจอกับองค์หลวงปู่หงษ์ซึ่งตั้งแต่นั้นมาก็นับถือกันเป็นสหมิกธรรมไปมาหาสู่กันตลอดหลวงปู่หงส์ท่านย้ำเสมอว่าใครไปกราบหลวงปู่ท่านจะบอกเสมอมีโอกาสให้ไปกราบหลวงพ่อโฉมนะท่านเก่งมาก