ผณินทรา ภัคเกษม
ผณินทรา ภัคเกษม | |
|---|---|
| ข้อมูลส่วนบุคคล | |
| เกิด | 17 มิถุนายน พ.ศ. 2483 อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ ประเทศไทย |
| คู่สมรส | ส่งสุข ภัคเกษม |
ผณินทรา ภัคเกษม (เกิด 17 มิถุนายน พ.ศ. 2483) เป็นนักการเมืองสตรีชาวไทย อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดเชียงใหม่ ประธานมูลนิธิส่งสุข และประธานกรรมการบริหารกลุ่มมิตรภาพสมาชิกรัฐสภาไทย-ญี่ปุ่น เป็นภรรยาส่งสุข ภัคเกษม[1]
ประวัติ
[แก้]ผณินทรา เกิดเมื่อวันที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2483 ที่ตำบลสันพระเนตร อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่[2] เป็นบุตรนายหยวกปอ นางสมนา แซ่อึ้ง ด้านครอบครัวสมรสกับนายส่งสุข ภัคเกษม มีบุตร 1 คน คือ ภควดี ภัคเกษม
สำเร็จการศึกษาระดับประถมศึกษา จากโรงเรียนศรีวิทยา จังหวัดเชียงใหม่ และระดับมัธยมศึกษาจากโรงเรียนเรยีนาเชลีวิทยาลัย
การทำงาน
[แก้]ผณินทราได้เข้าสู่งานการเมืองครั้งแรกโดยลงสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากการชักชวนของนายไกรสร ตันติพงศ์[3] อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดเชียงใหม่ ให้ลงสมัครคู่กับสามี ในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2519 และนับเป็นสตรีคนแรกที่ได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดเชียงใหม่
จากนั้นมาก็ได้เว้นวรรคทางการเมืองเรื่อยมา จนกระทั่งได้รับการชักชวนจากพรรคไทยรักไทยให้ลงสมัครรับเลือกตั้งอีกครั้ง ในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2544[4] และได้รับการเลือกตั้งอีก 2 สมัย โดยสามารถเอาชนะอดีต ส.ส.ในพื้นที่หลายสมัยอย่าง นายอำนวย ยศสุขได้ขาดลอย[5] ต่อมาภายหลังการยุบพรรคพลังประชาชน นางผณินทรา ก็ไม่ได้เข้าร่วมงานกับพรรคเพื่อไทย จึงเป็นการวางเมืองทางการเมืองไปโดยปริยาย
ผณินทราเป็นผู้หนึ่งที่ยื่นคำร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่ามาตรา 12 แห่งพระราชบัญญัติชื่อบุคคล พ.ศ. 2505 ขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญวินัยฉัยว่าขัดจริง จึงเป็นผลให้ตั้งแต่วันที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2546 ผู้หญิงไทย สามารถเลือกใช้นามสกุลของตนเองได้ แม้จะทำการสมรสตามกฎหมายแล้วก็ตาม[6][7]
เครื่องราชอิสริยาภรณ์
[แก้]- พ.ศ. 2547 –
เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือก ชั้นที่ 1 ประถมาภรณ์ช้างเผือก (ป.ช.)[8] - พ.ศ. 2545 –
เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ชั้นที่ 1 ประถมาภรณ์มงกุฎไทย (ป.ม.)[9]
อ้างอิง
[แก้]- ↑ จับรหัส"ทักษิณ"ขึ้นเหนือช่วยเขตอ่อน-เชียงใหม่ไม่ชัวร์[ลิงก์เสีย]
- ↑ "ประวัติผู้สมัคร ส.ส." คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2007-12-30. สืบค้นเมื่อ 2012-07-08.
- ↑ นักการเมืองท้องถิ่นจังหวัดเชียงใหม่. กรุงเทพฯ : สถาบันพระปกเกล้า. 2551[ลิงก์เสีย]
- ↑ ดราม่าแม่เกิบ'ศรีเรศ' ส.ส.อมก๋อย
- ↑ "สำเนาที่เก็บถาวร" (PDF). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2019-04-21. สืบค้นเมื่อ 2019-04-21.
- ↑ "ศาล รธน. ปลดแอกหญิงเลือกใช้นามสกุล". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2011-06-04. สืบค้นเมื่อ 2012-07-08.
- ↑ คำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือกและเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย เก็บถาวร 2022-06-28 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, เล่ม ๑๒๑ ตอนที่ ๒๓ ข หน้า ๖๖, ๒๖ พฤศจิกายน ๒๕๔๗
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือกและเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย[ลิงก์เสีย], เล่ม ๑๑๙ ตอนที่ ๒๑ ข หน้า ๑๐๑, ๔ ธันวาคม ๒๕๔๕
- บุคคลที่เกิดในปี พ.ศ. 2483
- บุคคลที่ยังมีชีวิตอยู่
- บุคคลจากอำเภอสันทราย
- ชาวไทยเชื้อสายจีน
- นักการเมืองสตรีชาวไทย
- คู่สมรสของนักการเมืองไทย
- สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดเชียงใหม่
- สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ
- นักการเมืองพรรคประชาธิปัตย์
- นักการเมืองพรรคไทยรักไทย
- พรรคพลังประชาชน (พ.ศ. 2541)
- บุคคลจากโรงเรียนเรยีนาเชลีวิทยาลัย
- ผู้ได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ป.ช.
- ผู้ได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ป.ม.
- นักการเมืองจากจังหวัดเชียงใหม่