ตะพาบไต้หวัน
ตะพาบไต้หวัน | |
---|---|
สถานะการอนุรักษ์ | |
การจำแนกชั้นทางวิทยาศาสตร์ | |
โดเมน: | ยูแคริโอต Eukaryota |
อาณาจักร: | สัตว์ Animalia |
ไฟลัม: | สัตว์มีแกนสันหลัง Chordata |
ชั้น: | สัตว์เลื้อยคลาน Reptilia |
อันดับ: | เต่า Testudines |
อันดับย่อย: | อันดับย่อยเต่า Cryptodira |
วงศ์: | วงศ์ตะพาบ Trionychidae |
สกุล: | ตะพาบจีน Pelodiscus (Wiegmann, 1835)[1] |
สปีชีส์: | Pelodiscus sinensis |
ชื่อทวินาม | |
Pelodiscus sinensis (Wiegmann, 1835)[1] | |
ชื่อพ้อง | |
ดูข้อความ |
ตะพาบไต้หวัน (อังกฤษ: Chinese softshelled turtle; จีน: 中華鱉; พินอิน: zhōnghuá biē; ชื่อวิทยาศาสตร์: Pelodiscus sinensis) ตะพาบชนิดหนึ่ง ไม่ใช่ตะพาบพันธุ์พื้นเมืองของไทย แต่เป็นตะพาบที่พบได้ในภูมิภาคเอเชียตะวันออก เช่น จีน, ไต้หวัน, ญี่ปุ่น, เกาหลีเหนือ, เกาหลีใต้ ตลอดจนรัสเซีย และเวียดนาม มีรูปร่างคล้ายตะพาบสวน (Amyda cartilaginea) ที่พบได้ในประเทศไทย แต่ตะพาบไต้หวันมีขนาดเล็กกว่า โตเต็มมีขนาดกระดองประมาณ 25 เซนติเมตร มีนิสัยดุร้าย
ลักษณะกระดองเป็นทรงรีเล็กน้อย ลักษณะโครงร่างแบบผิวกระดองเรียบมีกระดองส่วนที่นิ่มหรือเชิงค่อนข้างมาก มีหัวใหญ่ คอ ยาวมาก ปากแหลม ฟันคมและแข็งแรง เมื่อยังเล็กกระดองเป็นสีเขียวเข้มด้านท้องจะมีสีส้มและสีดำสลับ 5-6 ตำแหน่ง ใต้ท้องมีสีขาว เมื่อโตเต็มวัยกระดองจะเป็นสีเขียวอมเหลือง บริเวณขอบตาจะมีสีเหลืองเห็นได้ชัดเจน ตรงกลางกระดองจะมีรอยขีดขวางลำตัว 6-7 ขีด ส่วนท้องอ่อนนุ่มมีสีขาวอมชมพูหรือสีเหลืองอ่อน ๆ
นิยมรับประทานโดยทำเป็นซุป นิยมกันมากในแบบอาหารจีนและอาหารญี่ปุ่น ทำให้นิยมเลี้ยงเป็นสัตว์เศรษฐกิจ ที่ปัจจุบันนิยมเลี้ยงมากกว่าตะพาบสวน เพราะโตได้เร็วและแพร่ขยายพันธุ์ได้เร็วกว่า และยังนิยมเลี้ยงเป็นสัตว์เลี้ยงสวยงามอีกด้วย โดยเฉพาะในตัวที่เป็นเผือก แต่ในด้านสิ่งแวดล้อมขณะนี้พบเป็นเผ่าพันธุ์ต่างถิ่น ที่รุกรานที่อยู่อาศัยและที่วางไข่ของตะพาบและเต่าพื้นเมืองของไทย
ปัจจุบัน มีฟาร์มเพาะเลี้ยงกันในประเทศไทยแถบจังหวัดภาคตะวันออก เช่น ระยอง, ชลบุรี, ตราด และเพชรบุรี[4][5]
ความเชื่อ
[แก้]ในความเชื่อของญี่ปุ่น ตะพาบไต้หวันมีชื่อเรียกว่า ซึปปง (ญี่ปุ่น: すっぽん) เป็นสัตว์น้ำที่พบได้ทั่วไปในแหล่งน้ำของญี่ปุ่น โดยในบางครั้งจะมีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Pelodiscus japonica (ซึ่งถือเป็นชนิดย่อย) เชื่อกันว่าซึปปงเป็นสาเหตุที่ทำให้เด็กจมน้ำเสียชีวิตเช่นเดียวกับ กัปปะ ซึ่งเป็นพรายน้ำ
เรื่องราวของซึปปงถูกรวบรวมไว้ในหนังสือรวบรวมเรื่องแปลกเหนือธรรมชาติของญี่ปุ่นในปี ค.ศ. 1812 เกี่ยวกับพ่อค้าคนหนึ่งชื่อ คิโระกุ (亀六) อาศัยอยู่ที่นิอิกะตะ ทำการค้าขายซุปตะพาบน้ำ ด้วยการฆ่าขายเป็นจำนวนร้อย ๆ ตัว เป็นเวลานาน คืนหนึ่ง ขณะที่นอนหลับอยู่เขาฝันว่าที่นอนซึ่งเขานอนอยู่นั้นก็เปลี่ยนสภาพเป็นสิ่งที่อ่อนหยุ่นคล้ายน้ำ และรอบตัวก็มีแต่ตะพาบน้ำคืบคลานมาทำร้ายเขา และกัดเข้าที่คอ จนเขาสะดุ้งตื่น ภรรยาเขาถามว่าเกิดอะไรขึ้น และคืนต่อ ๆ มาก็ฝันในลักษณะเช่นนี้ทุกคืน จนท้ายที่สุดเขาต้องยุติอาชีพนี้และออกบวช[6]
ชื่อพ้อง
[แก้]ชื่อพ้องของตะพาบชนิดนี้มีจำนวนมาก โดยมีตัวอย่างดังนี้:[7]
- Testudo rostrata Thunberg, 1787 (nomen suppressum)
- Testudo striata Suckow, 1798
- Testudo semimembranacea Hermann, 1804 (nomen suppressum et rejectum)
- Emydes rostrata – Brongniart, 1805
- Trionyx (Aspidonectes) sinensis Wiegmann, 1834 (nomen conservandum)
- Trionyx japonicus – Temminck & Schlegel, 1835
- Trionyx tuberculatus Cantor, 1842
- Pelodiscus sinensis – Fitzinger, 1843
- Tyrse perocellata Gray, 1844
- Trionyx perocellatus – Gray, 1856
- Trionyx schlegelii Brandt, 1857
- Potamochelys perocellatus – Gray, 1864
- Potamochelys tuberculatus – Gray, 1864
- Landemania irrorata Gray, 1869
- Landemania perocellata – Gray, 1869
- Trionyx peroculatus Günther, 1869 (ex errore)
- Gymnopus perocellatus – David, 1872
- Gymnopus simonii David, 1875 (nomen nudum)
- Ceramopelta latirostris Heude, 1880
- Cinctisternum bicinctum Heude, 1880
- Coelognathus novemcostatus Heude, 1880
- Coptopelta septemcostata Heude, 1880
- Gomphopelta officinae Heude, 1880
- Psilognathus laevis Heude, 1880
- Temnognathus mordax Heude, 1880
- Trionyx sinensis newtoni Bethencourt-Ferreira, 1897
- Tortisternum novemcostatum Heude, 1880
- Temnognanthus mordax – Boulenger, 1889
- Tyrse sinensis – Hay, 1904
- Amyda japonica – Stejneger, 1907
- Amyda schlegelii – Stejneger, 1907
- Amyda sinensis – Stejneger, 1907
- Amyda tuberculata – Schmidt, 1927
- Trionyx sinensis sinensis – Smith, 1931
- Trionyx sinensis tuberculatus – Smith, 1931
- Amyda schlegelii haseri Pavlov, 1932
- Amyda schlegelii licenti Pavlov, 1932
- Amyda sinensis sinensis – Mertens, Müller & Rust, 1934
- Amyda sinensis tuberculata – Mertens, Müller & Rust, 1934
- Trionyx schlegeli Chkhikvadze, 1987 (ex errore)
- Trionix sinensis – Richard, 1999
- Pelodiscus sinensis sinensis – Ferri, 2002
- Pelodiscus sinensis tuberculatus – Ferri, 2002
- Pelodiscus sinensis japonicus – Joseph-Ouni, 2004
อ้างอิง
[แก้]- ↑ 1.0 1.1 Rhodin 2010, p. 000.128
- ↑ Asian Turtle Trade Working Group (2000). "Pelodiscus sinensis". IUCN Red List of Threatened Species. 2000: e.T39620A97401140. doi:10.2305/IUCN.UK.2000.RLTS.T39620A10251914.en.{{cite iucn}}: error: |doi= / |page= mismatch (help)
- ↑ "Appendices | CITES". cites.org. สืบค้นเมื่อ 2022-01-14.
- ↑ การเพาะเลี้ยงตะพาบน้ำพันธุ์ไต้หวัน จากกรมประมง
- ↑ ตะพาบไต้หวัน[ลิงก์เสีย]
- ↑ Suppon
- ↑ Fritz, Uwe; Havaš, Peter (2007). "Checklist of Chelonians of the World" (PDF). Vertebrate Zoology. 57 (2): 319–320. ISSN 1864-5755. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2010-12-17. สืบค้นเมื่อ 29 May 2012.
บรรณานุกรม
[แก้]- Rhodin, Anders G.J.; Paul van Dijk, Peter; Iverson, John B.; Shaffer, H. Bradley (2010-12-14). "Turtles of the World 2010 Update: Annotated Checklist of Taxonomy, Synonymy, Distribution and Conservation Status" (PDF). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2010-12-15. สืบค้นเมื่อ 2010-12-15.
- Wiegmann, A. F. A. 1835. Beiträge zur Zoologie, gesammelt auf einer Reise um die Erde, von Dr. F. J. F. Meyen. Amphibien ". Nova Acta Acad. Leopold.-Carol. 17: 185-268. ("Trionyx (Aspidonectes ) sinensis ", new species, pp. 189–195). (in German).