ดิสเลิฟ (เพลงมารูนไฟฟ์)
"ดิสเลิฟ" | ||||
---|---|---|---|---|
![]() | ||||
ซิงเกิลโดยมารูนไฟฟ์ | ||||
จากอัลบั้มซองส์อะเบาต์เจน | ||||
วางจำหน่าย | 27 มกราคม 2004 | |||
บันทึกเสียง | 2001-02 ที่ลอสแอนเจลิส, แคลิฟอร์เนีย | |||
แนวเพลง | ป็อปร็อก | |||
ความยาว | 3:27 4:25 | |||
ค่ายเพลง | อ็อกโทน | |||
ผู้ประพันธ์เพลง | แอดัม เลอวีน, เจสซี คาร์ไมเคิล | |||
โปรดิวเซอร์ | แมตต์ วอลเลซ, มาร์ก เอ็นเดิร์ต | |||
ลำดับซิงเกิลของมารูนไฟฟ์ | ||||
|
"ดิสเลิฟ" (อังกฤษ: This Love) เป็นเพลงของวงดนตรีแนวป็อปร็อกอเมริกัน มารูนไฟฟ์ เขียนโดยนักร้องนำ แอดัม เลอวีน และมือคีย์บอร์ด เจสซี คาร์ไมเคิล จากอัลบั้มเปิดตัว ซองส์อะเบาต์เจน (ค.ศ. 2002) เพลงบรรเลงนำด้วยเปียโน ตามด้วยเครื่องตีสังเคราะห์ในทันที และตามด้วยเสียงกีตาร์วนซ้ำไปมา
เนื้อเพลงพูดถึงการเลิกรากับแฟนเก่าของเลอวีน เขาเผยว่าเพลงถูกเขียน "ในเวลาที่ใช้เวลากับอารมณ์มากที่สุด" ในชีวิต (most emotionally trying time)[1] เขาเล่าว่าในเนื้อเพลงมีความหมกมุ่นในกามารมณ์ (erotic) อย่างที่สุด[2] "ดิสเลิฟ" ได้รับการยกย่องอย่างมาก โดยนักวิจารณ์สังเกตจากดนตรี เพลงออกจำหน่ายวันที่ 27 มกราคม ค.ศ. 2004 เป็นซิงเกิลที่สองของอัลบั้ม ซองส์อะเบาต์เจน
เพลงขึ้นถึงสิบอันดับแรกในหลายชาร์ต ติดอันดับหนึ่งในชาร์ตย่อยของบิลบอร์ดมากมาย เช่นบนชาร์ตฮอตอะดัลต์ท็อป 40 แทร็กส์ มิวสิกวิดีโอมีข้อถกเถียงในเรื่องฉากลึกซึ้งระหว่างเขากับแฟนสาวในขณะนั้น "ดิสเลิฟ" ทำให้มารูนไฟฟ์ชนะรางวัลเอ็มทีวีมิวสิกอะวอร์ด สาขาศิลปินหน้าใหม่ยอดเยี่ยม แลพเป็นเพลงที่ถูกเปิดมากที่สุดอันดับสามในปี ค.ศ. 2004 เพลงยังได้รางวัลแกรมมี สาขา การขับร้องยอดเยี่ยมโดยศิลปินคู่หรือกลุ่มที่มีนักร้อง ในปี ค.ศ. 2006 และเป็นหนึ่งในเพลงที่ประสบความสำเร็จที่สุดของมารูนไฟฟ์จนถึงปัจจุบัน[3]
เบื้องหลัง
[แก้]"ดิสเลิฟ" เป็นซิงเกิลที่สองจากอัลบั้ม ซองส์อะเบาต์เจน ของมารูนไฟฟ์ จากบทสัมภาษณ์กับเอ็มทีวีนิวส์ในเดือนสิงหาคม ค.ศ. 2002 นักร้องนำ แอดัม เลอวีน เผยว่าเขาเขียนเพลงนี้ในวันที่คนรักสาวของเขาแยกทางไปเมื่อเขาเลิกรากัน[4] ในอีกบทสัมภาษณ์หนึ่ง เลอวีนเผยว่าเพลงเขียนขึ้น "ในเวลาที่ใช้เวลากับอารมณ์มากที่สุด" (most emotionally trying time) ในชีวิต เขายังเสริมว่า "ผมกำลังประสบความสัมพันธ์ที่กำลังจะจบลง แต่จริง ๆ แล้วผมรู้สึกตื่นเต้นเช่นกัน เพราะวงของผมกำลังจะทำเพลง และผมก็ดีใจมากที่จะได้ไปที่สตูดิโออัดเสียง เธอได้ออกจากเมืองไปจริง ๆ ภายในช่วงวันที่ผมกำลังเขียนเนื้อร้องเพลง ดิสเลิฟ ดังนั้นผมจึงอยู่ในสภาวะทางอารมณ์ที่จะเขียนเพลงจากปัญหาเหล่านั้นได้"[1]
ดนตรีและเนื้อเพลง
[แก้]ระหว่างการทำเพลง "ดิสเลิฟ" วงกล่าวว่าเพลงมีอิทธิพลจากนักดนตรี สตีวี วันเดอร์[5][6] ท่อนหลายท่อนเขียนในคีย์ C ฮาร์มอนิกไมเนอร์ และท่อนคอรัสเขียนด้วยคีย์ Eb เมเจอร์ จังหวะดนตรีเป็นอัตราจังหวะ 4 4 (common time) และเร็ว 95 จังหวะต่อนาที[7] การเริ่มเพลง "ดิสเลิฟ" เริ่มด้วยความเด่นของเปียโน[8] มารูนไฟฟ์เรียก "ดิสเลิฟ" ว่าเป็นเพลงป็อปร็อกโดยพื้นฐาน[9] โดยดนตรีที่มีมากกว่าเพลงทั่วไปคือ มีเสียงบิดกีตาร์แบบร็อกอยู่หลายครั้ง[5] และถือว่าเป็นเพลงป็อปร็อก[10]ที่เต็มไปด้วยอารมณ์[3] ตามคำกล่าวของจอห์นนี ลอฟตัส จากเว็บไซต์ออลมิวสิก ดนตรีในเพลงมี "การเลียนแบบจังหวะอาร์แอนด์บีย้อนยุคได้อย่างลื่นไหล ไปสู่เพลงป็อปที่ทรงพลัง"[11] ลอฟตัสรู้สึกว่าเพลงนำเสนอ "เสียงดัดของเลอวีนคลอกับเสียงเปียโนที่หนักหน่วงกับเครื่องตีในช่วงท้ายเพลง (ทั้งดนตรีสดและดนตรีสังเคราะห์) ที่เล่นหนุนกัน กล่าวคือมีทั้งท่อนร้องประสานเสียงสูง และเสียงเครื่องสังเคราะห์ที่สนุกสนาน และฟลุต ได้อย่างลงตัว"[11] ลอฟตัสยังเสริมว่า เนื้อเพลงมี "เรื่องเพศ" ในท่อนที่ร้องว่า "I tried my best to feed her appetite / To keep her coming every night / So hard to keep her satisfied."[11] สตีฟ มอร์ส จากหนังสือพิมพ์เดอะบอสตันโกลบ บรรยายเสียงของเพลงว่าเป็น "นิทานชวนโยกแต่ดูดดื่มเกี่ยวกับการเลิกรา"[12] เมแกน บาร์ด จากหนังสือพิมพ์ เดอะเดลีแคมปัส เสริมว่า เพลงมี "เสียงร้องแบบสตีวี วันเดอร์ และจังหวะอาร์แอนด์บีที่ฟังออกเป็นฟังก์"[6] ในเพลงฉบับขยาย ยาว 4 นาที 26 วินาที สามารถได้ยินท่อนคอรัสของซิงเกิลต่อไป "ชีวิลบีเลิฟด์" ตั้งแต่นาทีที่ 3:21 ถึง 3:42 ในระหว่างท่อนจบเพลง[13]
ในบทสัมภาษณ์กับนิตยสารโรลลิงสโตน เมื่อถามเกี่ยวกับเนื้อเพลงที่ร้องว่า "Keep her coming every night" และ "Sinking my fingertips into every inch of you" เลอวีนกล่าวว่า "ใช่แล้ว มันเป็นเรื่องเพศแน่นอน ผมเบื่อกับเนื้อเพลงธรรมดาที่ว่า 'Ooh, baby' และ 'I love you' และอะไร ๆ กำกวมแบบนี้ ผมคิดว่ายิ่งผมทำให้ชัดเจนโดยไม่ได้ต้องชัดเจนที่สุดนั้นเป็นวิธีการที่ใช้ได้แล้ว สาวน้อยทั้งหลายจะชอบมัน และมันคงจะไม่เข้าหูของปู่ย่าตายายผมเลย แต่กับแฟนเก่าของผมแล้ว มันเหมือนเอาอิฐหนักหนึ่งตันทุบเข้าที่ศีรษะของเธอ มันสมบูรณ์แบบดี"[2] เขายังให้ความเห็นกับการที่เอ็มทีวีเล่นและแก้เพลงให้เข้ากับมิวสิกวิดีโอ โดยใส่ตัดคำว่า coming ออกจากท่อนที่ว่า "keep her coming every night" ด้วย[5] เลอวีนกล่าวว่า "ตอนนี้เอ็มทีวีเพิ่งแก้ไขภาษาไป พวกเขาไม่ให้ผมพูด 'keep her coming every night' และนำคำว่า sinking ออกจาก 'sinking my fingertips' มันเหมือนกับจีนคอมมิวนิสต์เลย มันพิลึกสิ้นดี"[2]
การตอบรับ
[แก้]เพลงได้รับคำยกย่องจากนักวิจารณ์เพลง ในบทวิจารณ์อัลบั้มจากนิตยสารโรลลิงสโตน คริสเตียน ฮอร์ด เขียนว่า "ความเคลิบเคลิ้มโรแมนติกแบบในเมือง ของแอดัม เลอวีน ใช้ได้ผลเมื่อวงของเขาเริ่มทำเพลงขึ้นมาจริง ๆ เสียที อย่างเพลง 'ดิสเลิฟ' ที่ใช้เปียโนและกีตาร์แบบเจมส์ บราวน์สร้างฐานซึ่งเลอวีนสามารถครอบงำความงาม (รวมถึงตัวเขา) ได้"[14] เจสัน ทอมสัน จากป็อปแมตเทอส์ ออกความเห็นว่า ในเพลง "ดิสเลิฟ" และ "มัสต์เก็ตเอาต์" เจสซี คาร์ไมเคิล มือคีย์บอร์ด "ทำให้นึกถึงงานของบริตนีย์ สเปียส์ และเดอะนิวแรดิคัลส์ ตามลำดับ"[15] แซม เบเรสกี จากหนังสือพิมพ์เดลีโลโบ ซึ่งดูจะกระตือรือร้นเรื่องอัลบั้มน้อยกว่าคนอื่น ยกย่องวงต่อเพลง "ดิสเลิฟ" ว่า "'ดิสเลิฟ' เป็นเพลงแรกที่ชวนนึกย้อนไปที่ดนตรีแบบแบ็กบีต (backbeat) อย่างเพลง "ซูเปอร์สติชัน" ของสตีวี วันเดอร์ มันอาจชวนให้เต้นแท็ป โยกศีรษะ หรือแม้กระทั่งส่ายก้น ถ้าเล่นเสียงดัง ๆ"[16]
ในเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 2004 นักดนตรี จอห์น เมเยอร์ กล่าวกับนิตยสารโรลลิงสโตนว่า เขาชอบอัลบั้มซองส์อะเบาต์เจน เมเยอร์ยังมีทัศนคติที่ดีต่อเพลงดังกล่าว "เมื่อผมได้ฟังเพลง 'ดิสเลิฟ' มันเป็นดั่งสถานการณ์ที่จุดชนวนระเบิดแล้วถอยออกมา มันเป็นเพลงที่สมบูรณ์แบบเพลงหนึ่งที่คุณอยากจะเขียนขึ้น"[5] ซิงเกิลนี้ยังเพิ่มเสน่ห์ให้วงมารูนไฟฟ์ และช่วยให้วงเป็นหนึ่งในวงดนตรีแจ้งเกิดใน ค.ศ. 2004[3] เพลงยังถูกทำใหม่โดยคานเย เวสต์ ตั้งชื่อว่า "ดิสเลิฟ (รีมิกซ์โดยคานเย เวสต์)" เมื่อเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 2004[17] วงได้ออกอีพีชื่อ 1.22.03.อะคูสติก ซึ่งมีเพลง "ดิสเลิฟ" ในฉบับอะคูสติก[18] เพลงยังถูกบรรจุในวิดีโอเกม กีตาร์ฮีโร: ออนทัวร์ ใน ค.ศ. 2008 ด้วย[19]
บนชาร์ตเพลง
[แก้]ซิงเกิลออกอากาศในวิทยุในอเมริกาเหนือในเดือนมกราคม ค.ศ. 2004 แม้ว่ามิวสิกวิดีโอจะออกใน 6 เดือนถัดมา[20] "ดิสเลิฟ" ขึ้นชาร์ตบิลบอร์ดฮอต 100 ขึ้นถึงอันดับที่ 5[21] เพลงฉบับรีมิกซ์โดยจูเนียร์ แวสเคซ ขึ้นอันดับหนึ่งบนชาร์ตบิลบอร์ดฮอตแดนซ์มิวสิก/คลับเพลย์[22] เพลงยังขึ้นชาร์ตฮอตแดนซ์แอร์เพลย์ที่อันดับ 18 ด้วย[23] "ดิสเลิฟ" ขึ้นอันดับหนึ่งบนบิลบอร์ดท็อป 40 เมนสตรีม[11] เพลงยังขึ้นอันดับหนึ่งบนชาร์ตบิลบอร์ดฮอตอะดัลต์ท็อป 40 แทร็กส์[11][22] และค้างอยู่ตรงนั้นนาน 10 สัปดาห์ เพลงมียอดดาวน์โหลดสูงสุดใน ค.ศ. 2004 ใน ค.ศ. 2007 เพลงกลับเข้าชาร์ตบิลบอร์ดฮอตดิจิตอลซองส์ที่อันดับ 36[23] นับถึงเดือนมิถุนายน ค.ศ. 2014 เพลงขายได้ 2,120,000 ชุดในสหรัฐอเมริกา[24]
"ดิสเลิฟ" ขึ้นสิบอันดับแรกใน 12 ประเทศ ในสหราชอาณาจักร เพลงขึ้นอันดับ 3 ในชาร์ตซิงเกิลแห่งสหราชอาณาจักรเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม ค.ศ. 2004[25][26] เพลงขึ้นสิบอันดับแรกในฝรั่งเศส เบลเยียม และออสเตรเลีย[27][28] ขึ้นถึงห้าอันดับแรกในนอร์เวย์ สวิตเซอร์แลนด์ เนเธอร์แลนด์ ออสเตรีย และนิวซีแลนด์[27] นอกจากนี้ "ดิสเลิฟ" ยังเข้าชาร์ตในชาร์ตเพลงของประเทศอิตาลี สวิส เยอรมนี และไอร์แลนด์ด้วย[28]
มิวสิกวิดีโอ
[แก้]มิวสิกวิดีโอเพลง "ดิสเลิฟ" กำกับโดยโซฟี มุลเลอร์ วิดีโอรวมฉากร้องเพลงจากวงในสวนที่สร้างขึ้นในสตูดิโอแม็ก เซ็นเน็ต และฉากแอดัม เลอวีนแยกทางกับผู้หญิงคนหนึ่ง[1] เลอวีนกล่าวว่า แนวคิดของมิวสิกวิดีโอยึดแบบจากศิลปินพรินซ์ "เรื่องเพศสัมพันธ์ทำให้คนสับสนเช่นกัน วิดีโอตัวนั้นเป็นอะไรที่ป็อปสตาร์มาก ๆ"[29]
มิวสิกวิดีโอเพลง "ดิสเลิฟ" มีเลอวีน กับเคลลี แม็กคี คนรักของเขาขณะนั้น ร่วมแสดงในฉากดูดดื่มหลายฉาก วิดีโอมีมุมกล้องที่สร้างสรรค์ โดยเลี่ยงการตรวจสอบจากคณะกรรมการกลางกำกับดูแลกิจการสื่อสาร (Federal Communications Commission)[30] จากนั้นจึงเกิดวิดีโอฉบับที่ปกปิดฉากดังกล่าวด้วยกลุ่มดอกไม้ที่สร้างจากคอมพิวเตอร์เผยแพร่สู่ตลาดที่อนุรักษ์นิยมมากขึ้น[31] เมื่อมีคนถามเลอวีนเกี่ยวกับวิดีโอ เลอวีนตอบว่า "มันไม่แปลกนัก และไม่เกี่ยวกับเพศอย่างน่าประหลาดใจ มันดูสะดวกสบายดี ผมไม่ได้เต็มไปด้วยราคะหรืออะไร ซึ่งมันแปลกเพราะผมถ่ายทำร่วมกับแฟนของผม"[32]
วิดีโอเป็นที่ถกเถียงจนทำให้นักวิจารณ์ออกความเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้[32] ซิลเวีย แพตเทอร์สัน จากหนังสือพิมพ์เดอะเดลีเทเลกราฟ บรรยายถึงวิดีโอว่า "วิดีโดป็อปโป๊" (porno-pop video)[29] เมื่อไมเคิล แมดเดน มือเบส ได้มีโอกาสออกความเห็นต่อข้อถกเถียงนี้ เขากล่าวว่ามันเป็น "ปฏิกิริยาเกินเหตุที่ไร้สาระ" (an absurd over-reaction)[33]
การแสดงสดและการนำมาทำใหม่
[แก้]มารูนไฟฟ์แสดงเพลง "ดิสเลิฟ" สดในรายการแซตเทอร์เดย์ไนต์ไลฟ์ ("SNL")[34] เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ. 2004 วงชนะรางวัลเอ็มทีวีวิดีโอมิวสิกอะวอร์ด สาขา ศิลปินหน้าใหม่ยอดเยี่ยม จากมิวสิกวิดีโอเพลง "ดิสเลิฟ" ใน ค.ศ. 2004[35][36] ในปีเดียวกันนั้น เพลงได้เข้าชิงรางวัลชอยส์ร็อกแทร็ก ในงานประกาศรางวัลทีนชอยส์อะวอดส์[37] จากระบบนีลเซน บีดีเอส "ดิสเลิฟ" ถูกเปิดมากเป็นอันดับที่สามใน ค.ศ. 2004 ทั้งหมด 438,589 ครั้ง[38] ในงานประกาศรางวัลแกรมมีครั้งที่ 48 เพลงชนะรางวัลแกรมมีสาขาขับร้องป็อปยอดเยี่ยมโดยศิลปินคู่หรือกลุ่มที่มีนักร้องนำ[39][40]
เพลงดังกล่าวปรากฏเป็นแทร็กในวิดีโอเกม กีตาร์ฮีโร: ออนทัวร์ สำหรับเครื่องนินเทนโด ดีเอส รวมถึงเป็นส่วนหนึ่งของเนื้อหาดาวน์โหลดเสริมสำหรับเกมกีตาร์ฮีโร 5 (ร่วมกับเกม แบนด์ฮีโร เนื่องจากใช้แคตาล็อกเดียวกัน)
รายชื่อแทร็ก
[แก้]ลำดับ | ชื่อเพลง | ยาว |
---|---|---|
1. | "ดิสเลิฟ" (ฉบับจากอัลบั้ม) | 3:27 |
2. | "ดิสเลิฟ" (วิดีโอ) | 3:24 |
3. | "ฮาร์ดเดอร์ทูบรีด" (อะคูสติก) | |
4. | "เดอะซัน" (อะคูสติก) |
ชาร์ตเพลงและการรับรอง
[แก้]
ชาร์ตซิงเกิลประจำสัปดาห์[แก้]
|
ชาร์ตประจำปี[แก้]
ยอดขายและการรับรอง[แก้]
|
เพลงในรูปแบบอื่น ๆ
[แก้]- เพลงฉบับรีมิกซ์ผลิตโดยคานเย เวสต์ และมิรี เบนอารี ขับร้องโดยจอห์น เลเจนด์
- นักร้องชาวเกาหลีใต้ จี-ดรากอน ซื้อลิขสิทธิ์เพลง นำมาเขียนเนื้อเพลงใหม่ แล้วนำไปร้องในภาษาเกาหลี มิวสิกวิดีโอออกอากาศวันที่ 2 ตุลาคม ค.ศ. 2008 ทางช่องวายจีเอนเตอร์เทนเมนต์ ในยูทูบ[84]
- ใน ค.ศ. 2013 นักร้องชาวอเมริกัน มาร์โลว์ โรซาโด นำเพลงมาร้องใหม่ในแนวซัลซา และออกเป็นซิงเกิล[85] ขึ้นอันดับ 36 ในชาร์ตบิลบอร์ดทรอปิคัลซองส์[86]
อ้างอิง
[แก้]- ↑ 1.0 1.1 1.2 Moss, Corey (August 21, 2003). "Tattooed, Request-Line-Ringing Fans Afford Maroon 5 Another Video". MTV News. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2008-02-24. สืบค้นเมื่อ May 4, 2009.
- ↑ 2.0 2.1 2.2 Scaggs, Austin (March 24, 2004). "Q&A: Adam Levine". Rolling Stone. สืบค้นเมื่อ May 4, 2009.[ลิงก์เสีย]
- ↑ 3.0 3.1 3.2 D'Angelo, Joe (March 8, 2004). "Maroon 5: A Room Of Their Own". MTV News. p. 1. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2004-04-02. สืบค้นเมื่อ May 4, 2009.
- ↑ Moss, Corey (August 27, 2002). "Maroon 5 Aspire To Inspire Sexuality, Crying". MTV News. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2008-11-06. สืบค้นเมื่อ May 4, 2009.
- ↑ 5.0 5.1 5.2 5.3 Hoard, Christian (May 19, 2004). "Maroon 5's White Funk". Rolling Stone. สืบค้นเมื่อ May 4, 2009.[ลิงก์เสีย]
- ↑ 6.0 6.1 Bard, Meghan (April 1, 2003). "Get down with Maroon 5". The Daily Campus. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2011-07-08. สืบค้นเมื่อ May 4, 2009.
- ↑ "Maroon 5 Digital Sheet Music: This Love". Musicnotes. สืบค้นเมื่อ February 11, 2010.
- ↑ Batey, Angus (August 14, 2004). "The gonna be famous five". The Times. p. 1. สืบค้นเมื่อ May 4, 2009.[ลิงก์เสีย]
- ↑ Cairns, Dan (April 22, 2007). "Five wise up in LA". The Times. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2021-11-09. สืบค้นเมื่อ May 4, 2009.
- ↑ "Rick, Star 94.1". San Diego Reader. Star 94.1. November 8, 2007. สืบค้นเมื่อ May 4, 2009.
- ↑ 11.0 11.1 11.2 11.3 11.4 "This Love — Maroon 5". Allmusic. สืบค้นเมื่อ May 4, 2009.
- ↑ Morse, Steve (May 21, 2004). "Maroon 5". The Boston Globe. สืบค้นเมื่อ May 4, 2009.
- ↑ http://home.no/telefonbok9/Maroon5.jpg.mp3
- ↑ Hoard, Christian (March 11, 2003). "Maroon 5: Songs About Jane". Rolling Stone. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2008-12-29. สืบค้นเมื่อ May 4, 2009.
- ↑ Thompson, Jason (June 25, 2002). "Maroon 5: Songs About Jane". PopMatters. สืบค้นเมื่อ May 4, 2009.
- ↑ Beresky, Sam (July 31, 2003). "Maroon 5 falls short of their influences". Daily Lobo. สืบค้นเมื่อ May 4, 2009.[ลิงก์เสีย]
- ↑ D'Angelo, Joe (May 13, 2004). "Maroon 5 Turn To Kanye West For 'This Love' Remix; Record Track For Spidey". MTV News. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2009-05-06. สืบค้นเมื่อ May 4, 2009.
- ↑ Moss, Corey (June 7, 2004). "Maroon 5 Plan To Keep It Hot And Steamy In Next Video". MTV News. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2004-12-01. สืบค้นเมื่อ May 5, 2009.
- ↑ Lammers, Dirk (June 30, 2008). "For Those About to Rock, Wii Salute You". Fox News. Associated Press. สืบค้นเมื่อ May 4, 2009.
- ↑ "Total Request Live". 2004-07-12. 60 นาที. MTV.
{{cite episode}}
:|series=
ไม่มีหรือว่างเปล่า (help) - ↑ "Maroon 5 tops singles chart with record leap". Billboard. Reuters. May 3, 2007. สืบค้นเมื่อ May 5, 2009.
- ↑ 22.0 22.1 "Maroon 5 > Charts & Awards". Allmusic. สืบค้นเมื่อ May 4, 2009.
- ↑ 23.0 23.1 "This Love — Maroon 5". Billboard. Nielsen Business Media, Inc. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ February 15, 2010. สืบค้นเมื่อ February 15, 2010.
- ↑ 24.0 24.1 Trust, Gary (June 15, 2014). "Ask Billboard: MAGIC!'s 'Rude' Revives Reggae". Billboard. Prometheus Global Media.
- ↑ "Maroon 5 crowns US album charts". BBC News Online. May 31, 2007. สืบค้นเมื่อ May 4, 2009.
- ↑ "Chart Stats — Maroon 5 - This Love". Chart Stats. May 1, 2004. สืบค้นเมื่อ May 5, 2009.
- ↑ 27.0 27.1 "Maroon 5 - This Love". Austrian Charts. March 21, 2004. สืบค้นเมื่อ May 5, 2009.
- ↑ 28.0 28.1 "Maroon 5 - This Love — Music Charts". Music Square. สืบค้นเมื่อ May 5, 2009.
- ↑ 29.0 29.1 Patterson, Sylvia (August 24, 2007). "Maroon 5: They will be loved". The Daily Telegraph. สืบค้นเมื่อ May 4, 2009.
- ↑ Uncensored music video for "This Love" ที่ยูทูบ
- ↑ "This Love — Maroon 5 - Music Video". MTV. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2010-10-06. สืบค้นเมื่อ May 7, 2009.
- ↑ 32.0 32.1 D'Angelo, Joe; Evan James (January 26, 2004). "Chart Topping And Topless Girl All Part Of Maroon 5 Singer's Plan". MTV News. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2008-02-25. สืบค้นเมื่อ May 4, 2009.
- ↑ Bergmann, Caitlin. "An iVillage Exclusive Q&A with Maroon 5". iVillage. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2007-08-18. สืบค้นเมื่อ July 25, 2007.
- ↑ "Christina Aguilera/Maroon 5". Saturday Night Live. ฤดูกาล 29. ตอน 558. 2004-02-21. 90-92 นาที. NBC.
- ↑ Silverman, Stephen M. (August 30, 2004). "Jay-Z, OutKast Tie for 4 MTV Video Awards". People. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2009-06-02. สืบค้นเมื่อ May 5, 2009.
- ↑ "OutKast, Jay-Z Big Winners at Patriotic VMAs". Fox News. August 30, 2004. สืบค้นเมื่อ May 4, 2009.
- ↑ "Maroon 5 to Release Live/Acoustic EP; Nabs Five Teen Choice Nominations; Announces Summer Slate of Television Appearances". Business Wire. June 8, 2004. สืบค้นเมื่อ May 4, 2009.
- ↑ Vineyard, Jennifer (January 5, 2005). "Usher's 'Yeah!' Was Most Played Song Of 2004". MTV News. VH1. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2011-06-05. สืบค้นเมื่อ May 4, 2009.
- ↑ "List of Grammy winners". CNN: Showbiz/Music. February 9, 2006. สืบค้นเมื่อ May 4, 2009.
- ↑ "Complete List of 48th Annual Grammy Award Winners". Fox News. Associated Press. February 8, 2006. สืบค้นเมื่อ May 4, 2009.
- ↑ "Maroon 5 – This Love". ARIA Top 50 Singles.
- ↑ "Maroon 5 – This Love" (in German). Ö3 Austria Top 40.
- ↑ "Maroon 5 – This Love" (in Dutch). Ultratop 50.
- ↑ "Maroon 5 – This Love" (in French). Ultratop 50.
- ↑ "Maroon 5 – This Love" (in French). Les classement single.
- ↑ "Top 50 Singles - Εβδομάδα 10-16/10" (ภาษากรีก). IFPI Greece. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2004-10-17. สืบค้นเมื่อ November 11, 2012.
- ↑ "Archívum – Slágerlisták – MAHASZ" (in Hungarian). Rádiós Top 40 játszási lista. Magyar Hanglemezkiadók Szövetsége. สืบค้นเมื่อ December 9, 2010.
- ↑ "Chart Track: Week 25, 2004". Irish Singles Chart.
- ↑ "Maroon 5 – This Love". Top Digital Download.
- ↑ "Nederlandse Top 40 – Maroon 5" (in Dutch). Dutch Top 40.
- ↑ "Maroon 5 – This Love" (in Dutch). Single Top 100. สืบค้นเมื่อ October 9, 2015.
- ↑ "Maroon 5 – This Love". Top 40 Singles.
- ↑ "Maroon 5 – This Love". VG-lista.
- ↑ "Nielsen Music Control". เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2007-10-27. สืบค้นเมื่อ 2015-10-16.
- ↑ "Arhiva romanian top 100: Editia 41, saptamina 11.10 - 17.10, 2004". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2005-01-18. สืบค้นเมื่อ 2015-05-09.
{{cite web}}
: CS1 maint: bot: original URL status unknown (ลิงก์) - ↑ "Official Scottish Singles Sales Chart Top 100". Official Charts Company. สืบค้นเมื่อ October 9, 2015.
- ↑ "Maroon 5 – This Love". Singles Top 100.
- ↑ "Maroon 5 – This Love". Swiss Singles Chart.
- ↑ "Official Singles Chart Top 100". Official Charts Company. สืบค้นเมื่อ October 9, 2015.
- ↑ "Maroon 5 Chart History (Hot 100)". Billboard.
- ↑ "Maroon 5 Chart History (Adult Contemporary)". Billboard.
- ↑ "Maroon 5 Chart History (Adult Pop Songs)". Billboard.
- ↑ "Maroon 5 Chart History (Dance Mix/Show Airplay)". Billboard.
- ↑ "Maroon 5 Chart History (Dance Club Songs)". Billboard.
- ↑ "Maroon 5 Chart History (Pop Songs)". Billboard.
- ↑ "Pop Rock". Record Report. April 24, 2004. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2011-09-24. สืบค้นเมื่อ 2015-05-09.
- ↑ "2012년 07주차 Digital Chart" (ภาษาเกาหลี). Gaon Chart. January 5, 2013. สืบค้นเมื่อ October 9, 2015.
- ↑ "ARIA Charts - End Of Year Charts". สืบค้นเมื่อ May 4, 2013.
- ↑ "JAHRESHITPARADE SINGLES 2004". สืบค้นเมื่อ October 9, 2015.
- ↑ "JAAROVERZICHTEN 2004". สืบค้นเมื่อ October 9, 2015.
- ↑ "RAPPORTS ANNUELS 2004". สืบค้นเมื่อ October 9, 2015.
- ↑ "TOP 100 SINGLE-JAHRESCHARTS". สืบค้นเมื่อ October 9, 2015.
- ↑ "Top 100-Jaaroverzicht van 2004" (ภาษาดัตช์). สืบค้นเมื่อ October 9, 2015.
- ↑ "JAAROVERZICHTEN - SINGLE 2004" (ภาษาดัตช์). สืบค้นเมื่อ October 9, 2015.
- ↑ "Top Selling Singles of 2004". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2022-05-09. สืบค้นเมื่อ October 9, 2015.
- ↑ "SCHWEIZER JAHRESHITPARADE 2004". สืบค้นเมื่อ October 9, 2015.
- ↑ "End of Year 2004" (PDF). UKChartsPlus. สืบค้นเมื่อ October 9, 2015.
- ↑ "Top 100 Hits of 2004". สืบค้นเมื่อ September 9, 2014.
- ↑ "ARIA Charts – Accreditations – 2004 Singles" (PDF). Australian Recording Industry Association.
- ↑ "Canadian single certifications – Maroon 5 – This Love". Music Canada.
- ↑ *"South Korea Gaon Chart - 2011 Year End International Download Chart". Gaon Digital Chart. 2012. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-10-15. สืบค้นเมื่อ February 11, 2015.
- "South Korea Gaon Chart - 2012 Year End International Download Chart". Gaon Digital Chart. 2013. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-10-14. สืบค้นเมื่อ February 11, 2015.
- "South Korea Gaon Chart - 2013 Year End International Download Chart". Gaon Digital Chart. 2014. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2014-02-02. สืบค้นเมื่อ February 11, 2015.
- "South Korea Gaon Chart - 2014 Year End International Download Chart". Gaon Digital Chart. 2015. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ January 10, 2015. สืบค้นเมื่อ February 11, 2015.
- ↑ id MUST BE PROVIDED for UK CERTIFICATION.
- ↑ "American single certifications – Maroon 5 – This Love". Recording Industry Association of America.
- ↑ วิดีโอ ที่ยูทูบ
- ↑ "This Love/Que Amor (Spanglish Salsa Version) - Single". Amazon.com. สืบค้นเมื่อ June 20, 2013.
- ↑ "Marlow Rosado: Awards". Allmusic. Rovi. สืบค้นเมื่อ June 20, 2013.
- บทความที่มีลิงก์เสียตั้งแต่ตุลาคม 2024
- Cite certification used with missing parameters
- การใช้งานตารางการรับรองสำหรับภูมิภาคที่ไม่รองรับ
- หน้าที่ใช้ตารางการรับรองที่ไม่มีการรับรอง
- เพลงของมารูนไฟฟ์
- เพลงในปี พ.ศ. 2545
- ซิงเกิลในปี พ.ศ. 2547
- เพลงป็อปร็อก
- เพลงที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับเพศ
- เพลงที่ประพันธ์คำร้องโดยแอดัม เลอวีน