จิตรวรรณ หวังศุภกิจโกศล

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
จิตรวรรณ หวังศุภกิจโกศล
ข้อมูลส่วนบุคคล
เกิด18 ตุลาคม พ.ศ. 2509 (56 ปี)
จังหวัดนครราชสีมา
พรรคการเมืองภูมิใจไทย (2554–2564)
เพื่อไทรวมพลัง (2564–ปัจจุบัน)

จิตรวรรณ หวังศุภกิจโกศล เป็นอดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดนครราชสีมา สังกัดพรรคเพื่อแผ่นดินจากการเลือกตั้ง พ.ศ. 2550 และเป็นอดีตนายกเทศมนตรีตำบลเสิงสาง

ประวัติ[แก้]

จิตรวรรณ หวังศุภกิจโกศล (สกุลเดิม จิตรพิทักษ์เลิศ) เกิดเมื่อวันที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2509 มีพี่น้องเป็นนักการเมืองคือ ว่าที่ ร.ต.วิชัย จิตรพิทักษ์เลิศ เลขาธิการพรรคเพื่อไทรวมพลัง มนัสมนต์ จิตรพิทักษ์เลิศ และ ยลดา หวังศุภกิจโกศล[1]

จิตรวรรณ สำเร็จการศึกษาศิลปศาสตรบัณฑิต สาขารัฐศาสตร์ จากคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง เธอสมรสกับสมศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล อดีตสมาชิกวุฒิสภาจังหวัดนครราชสีมา

การทำงาน[แก้]

จิตรวรรณ หวังศุภกิจโกศล เคยได้รับเลือกตั้งเป็นนายกเทศมนตรีตำบลเสิงสาง อำเภอเสิงสาง จังหวัดนครราชสีมา ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2543 จนถึงปี พ.ศ. 2550 จากนั้นจึงได้เข้าสู่งานการเมืองระดับชาติ โดยได้รับเลือกตั้งในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2550 เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดนครราชสีมาสมัยแรก ในนามพรรคเพื่อแผ่นดิน พร้อมกับ ประนอม โพธิ์คำ

ในปี พ.ศ. 2564 เธอได้เริ่มก่อตั้งพรรคการเมืองขึ้น โดยใช้ชื่อว่า "พรรคเพื่อไทรวมพลัง"[2] โดยมีพี่ชาย และหลานชายเป็นเลขาธิการพรรค และหัวหน้าพรรค จนกระทั่งในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2566 พรรคเพื่อไทรวมพลัง ได้รับเลือกตั้ง ส.ส.แบบแบ่งเขตในพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี 2 ที่นั่ง ท่ามกลางการกล่าวถึงพรรคดังกล่าวว่าเป็นม้ามืดในการเลือกตั้งครั้งนี้[3]

เครื่องราชอิสริยาภรณ์[แก้]

อ้างอิง[แก้]

  1. เปิดตัวหลานเมีย "วีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล" นำพรรคใหม่ นอมินีสีน้ำเงิน
  2. พลิกปูม “กำนันป้อ” วางมือ “ค่ายสีน้ำเงิน” จ่อซบ “พลังป้อม”
  3. พรรคเพื่อไทรวมพลัง มาจากไหน? ม้ามืดคว้า 2 ที่นั่ง ส.ส.อุบลราชธานี
  4. ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือกและเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ประจำปี ๒๕๕๔, เล่ม ๑๒๘ ตอนที่ ๒๔ ข หน้า ๗๒, ๒ ธันวาคม ๒๕๕๔
  5. ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือกและเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ประจำปี ๒๕๕๒, เล่ม ๑๒๖ ตอนที่ ๑๖ ข หน้า ๑๓๑, ๔ ธันวาคม ๒๕๕๒