ขุนพันธ์ 3
ขุนพันธ์ 3 | |
---|---|
ใบปิดภาพยนตร์ | |
กำกับ | ก้องเกียรติ โขมศิริ |
อำนวยการสร้าง | สมศักดิ์ เตชะรัตนประเสริฐ |
นักแสดงนำ | |
บริษัทผู้สร้าง | |
วันฉาย | 1 มีนาคม พ.ศ. 2566 |
ความยาว | 155 นาที |
ทำเงิน | 49.85 ล้านบาท (กรุงเทพ, ปริมณฑล และเชียงใหม่) |
ก่อนหน้านี้ | ขุนพันธ์ 2 |
ขุนพันธ์ 3 (อังกฤษ: Khun Pan 3) เป็นภาพยนตร์ไทยแนวแอ็คชั่น - กระตุกขวัญ จากค่ายสหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล ภาคต่อของ ขุนพันธ์ ที่ออกฉายในปี พ.ศ. 2559 และ ขุนพันธ์ 2 ที่ออกฉายในปี พ.ศ. 2561 จากการกำกับของก้องเกียรติ โขมศิริ นำแสดงโดยอนันดา เอเวอริ่งแฮม มาริโอ้ เมาเร่อ และภาคิน คำวิลัยศักดิ์ ออกฉายครั้งแรกในวันที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2566[1]
โดยในวันอาทิตย์ที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2565 ก้องเกียรติพร้อมด้วยอนันดาและมาริโอ้ได้ไปให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับภาพยนตร์เรื่อง ขุนพันธ์ 3 ภายในงาน Thailand Comic Con 2022 พร้อมกับเปิดตัวทีเซอร์ตัวอย่างแรกของภาพยนตร์[1] และได้มีการจัดฉายภาพยนตร์เรื่อง ขุนพันธ์ 3 รอบปฐมทัศน์เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566 ที่โรงภาพยนตร์พารากอนซีนีเพล็กซ์ สยามพารากอน[2]
นักแสดง
[แก้]นักแสดงนำ
[แก้]นายตำรวจมือปราบผู้พิชิต 4 เสือร้ายภาคกลางและจอมโจรแห่งหุบเขาบูโด สัญลักษณ์แห่งความยุติธรรมอันริบหรี่ในสังคมไทย เจ้าของดาบแดงเหล็กพระยาพิชัย กริชอาคม และปืนสั้นอาคมขลัง หลังจากศึกใหญ่ที่รังโจรครั้งสุดท้าย ได้กลับไปใช้ชีวิตที่บ้านเกิดพร้อมลูกเมีย และยังคงเป็นแสงสว่างอันริบหรี่ในยุคสมัยที่มืดมนตราบจนหมดสิ้นลมหายใจ
- มาริโอ้ เมาเร่อ รับบท เสือมเหศวร (ศวร เภรีวงศ์)
ตัวแทนคนรุ่นใหม่ มีเหตุผล หนักแน่นในเป้าหมาย ต้องการที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิตของคนที่ถูกสังคมตราหน้าว่าเป็นคนเลว พกของขลังอย่าง "พระมเหศวร" ขึ้นชื่อเรื่องความแคล้วคลาดจากอันตราย หลังจากศึกใหญ่ที่รังโจรครั้งสุดท้าย ได้พบกับสาวิตรีอีกครั้ง
- ภาคิน คำวิลัยศักดิ์ รับบท เสือดำ
เสือตัวสุดท้าย ที่เกิดจากความแค้นและแรงพยาบาท จิตใจตกอยู่ในความมืดมน มีความแค้นต่อขุนพันธ์จนถึงขั้นต้องการปลิดชีพด้วยมือของตนเอง เป็นคนใจร้อน กล้าได้กล้าเสีย ตรงไปตรงมา ยืดมั่นในวิถีของลูกผู้ชาย ตาต่อตาฟันต่อฟัน อาศัยปืนลูกโม่คู่และลูกซองสั้นในการต่อสู้แบบดุเดือด หลังจากศึกใหญ่ที่รังโจรครั้งสุดท้าย ได้ถูกวิสามัญหมู่โดยตำรวจ
- อารักษ์ อมรศุภศิริ รับบท เสือใบ (ใบ สะอาดดี)
อดีตเชิ้ตดำที่หลบหนีจากการจำคุก มาช่วยเหลือขุนพันธ์หรือเสือบุตร์ เพื่อนร่วมสาบาน หลังจากศึกใหญ่ที่รังโจรครั้งสุดท้าย ได้หลบหนีการจับกุมอีกครั้ง ออกเดินทางไปพร้อมกับเบี้ย
- ษริกา สารทศิลป์ศุภา รับบท สาวิตรี
หมอหญิงหนึ่งเดียวแห่งชุมโจรเชิ้ตขาว เป็นเสมือนอีกมันสมองให้กับเสือมเหศวร เพื่อนร่วมอุดมการณ์และพัฒนาเป็นความรัก
- ภูมิภัทร ถาวรศิริ รับบท ร.อ.ทัตเทพ
ทหารหนุ่มไฟแรง บุตรชายที่เกิดจากภรรยาน้อยของท่านจอมพล ต้องการความเป็นใหญ่และอำนาจบารมี ไม่เชื่อในเรื่องศาสตร์อาคม หลังจากศึกใหญ่ที่รังโจรครั้งสุดท้าย ได้อำนาจขึ้นเป็นนักการเมือง และถูกความชั่วร้ายครอบงำ ชักจูงสู่ความชั่วอย่างเต็มรูปแบบ
- ชิดจันทร์ ห่ง รับบท ครูนุ่น
ภรรยาของขุนพันธ์ สนับสนุนทุกๆความคิดเห็นของสามี
นักแสดงสมทบ
[แก้]- ประทีป หาญอุดมลาภ
- โอริเวอร์ บีเวอร์ รับบท ท่านรองเสนาธิการ ตัวอย่างของผู้มีอิทธิพลในสังคมที่เห็นได้ทั่วไปในยุคปัจจุบัน
- คมสัน ขจรไพศาลสุข รับบท เสือเบี้ย ลูกน้องและสมุนคู่ใจของเสือใบ
- รุจรวี จีระเดชากุล รับบท ชบา ลูกสาวเสือคุ้ม แก๊งโจรชุดดำ ภรรยาเสือเจิด ที่เติบโตในชุมโจร
นักแสดงรับเชิญ
[แก้]- ณัทธนพล ทินโรจน์ รับบท เสือเจิด
ชายใบ้ผู้ว่องไวดุจลิงลม ต้องการที่จะนำพาชีวิตของเขาไปพบกับความสุข แต่สุดท้ายก็จบชีวิตด้วยฝีมือของทัตเทพ
- พลตรี วันชนะ สวัสดี รับบท เสือฝ้าย (ฝ้าย เพ็ชนะ) จอมพลเสือแห่งสุพรรณ
วิญญาณโจรที่ได้มาช่วยขุนพันธ์ มีความสามาถในการหยุดการเคลื่อนไหวและปล่อยคลื่นสะท้อนพลัง อาศัยพลังจากคาถาตวาดฟ้าหิมพานต์ อดีตคือจอมพลเสือผู้ทรงบารมีแห่งสุพรรณ เสียชีวิตจากการถูกนายตำรวจสังหารจนเสียชีวิตด้วยค้อนปอนด์และผ้าถุงที่เปื้อนประจำเดือนเพศหญิงทำให้อาคมเสื่อม
- กฤษดา สุโกศล แคลปป์ รับบท อัลฮาวียะลู / รายออาจิ ผีร้ายแห่งหุบเขาบูโด
วิญญาณโจรที่ได้มาช่วยขุนพันธ์ มีความสามารถในการดูดกลืนพลังชีวิตและสิ่งของอาคม อาศัยพลังจากกริช อดีตคือมหาขุนโจรที่ต้องการล้างบางคนโฉดชั่วและคืนความสงบสุขให้ชาวบ้าน แต่สุดท้ายศรัทธาที่มีต่อเจ้านายก็ถูกหักหลังโดยเจ้านายผู้กระหายในอำนาจและบารมี
- ชลัฏ ณ สงขลา รับบท พันตำรวจเอกหลวงเดชจำรัส
ตำรวจที่ยึดมั่นในความถูกต้องแต่สุดท้ายก็ต้องแพ้ให้กับอำนาจของผู้มีอิทธิพล