ขุนพันธ์
ขุนพันธ์ | |
---|---|
ภาพใบปิดภาพยนตร์ | |
กำกับ | ก้องเกียรติ โขมศิริ |
เขียนบท | ก้องเกียรติ โขมศิริ |
นักแสดงนำ | |
ดนตรีประกอบ | เทิดศักดิ์ จันทร์ปาน |
ผู้จัดจำหน่าย | สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล[1] |
วันฉาย | 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2559 |
ความยาว | 110 นาที[2] |
ประเทศ | ไทย |
ภาษา | ไทย ฝรั่งเศส ญี่ปุ่น |
ทำเงิน | 61.74 ล้านบาท (กรุงเทพมหานคร ปริมณฑล และเชียงใหม่) |
ต่อจากนี้ | ขุนพันธ์ 2 |
ข้อมูลจาก IMDb | |
ข้อมูลจากสยามโซน |
ขุนพันธ์ เป็นภาพยนตร์ไทยที่เข้าฉายในปี พ.ศ. 2559 ที่อิงจากเรื่องราวชีวิตของขุนพันธรักษ์ราชเดช (บุตร พันธรักษ์) ผู้เป็นนายตำรวจ นำแสดงโดย อนันดา เอเวอร์ริ่งแฮม และ กฤษดา สุโกศล แคลปป์[3] กำกับโดยก้องเกียรติ โขมศิริ[4] โดยมีภาคต่อคือ ขุนพันธ์ 2 และ ขุนพันธ์ 3
ขุนพันธ์ ทำรายได้รวม 61.74 ล้านบาท (เฉพาะกรุงเทพมหานคร ปริมณฑล และจังหวัดเชียงใหม่) ถือเป็นภาพยนตร์ไทยที่ทำรายได้มากที่สุดอันดับ 3 ประจำปี 2559[5]
เรื่องย่อ
[แก้]ปี พ.ศ. 2483 หลังปราบเสือกรับ คำทองได้สำเร็จ ร้อยตำรวจโท ขุนพันธรักษ์ราชเดชได้รับภารกิจให้ไปสืบข่าวอัลฮาวียะลู จอมโจรแบ่งแยกดินแดน ผู้ครอบครอง "ไตรภาคี" ของหายาก 3 สิ่งที่เชื่อว่ามีพลังวิเศษ ขุนพันธ์แฝงตัวเข้าไปอยู่ในหมู่บ้านชาวประมงที่มีผู้นำคือ ไข่โถ และทำงานในสโมสรงาช้างของหลวงโอฬาร ข้าราชการผู้ฉ้อฉลที่หลอกใช้อัลฮาวียะลูเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว ด้านอัลฮาวียะลูเค้นถามตำรวจสองนายที่รอดชีวิตจากการถูกกองโจรของตนซุ่มโจมตีจนพบว่า ยังมีตำรวจนายหนึ่งแฝงตัวอยู่ในพื้นที่ ขุนพันธ์เดินทางไปพบพ่อของอัลฮาวียะลูและพบว่าในวัยเด็ก อัลฮาวียะลูเคยเทิดทูนพ่อ แต่สูญเสียแม่จากเหตุชุลมุนระหว่างพ่อของเขากับตำรวจ จึงทำให้อัลฮาวียะลูห่างเหินกับพ่อและเกลียดตำรวจมาก เขาตั้งกองโจรขึ้นมาเพื่อปกครองพื้นที่แถบเทือกเขาบูโด เวลาต่อมา ขุนพันธ์ไปพบมาลัย น้องสาวของไข่โถก่อนจะถูกกองโจรของอัลฮาวียะลูซุ่มโจมตี ขุนพันธ์ถูกยิงแต่หนีรอดไปได้
หลังฟื้นจากอาการบาดเจ็บ ขุนพันธ์ไปพบหลวงโอฬารที่สถานีตำรวจในฐานะสารวัตรคนใหม่ ขุนพันธ์สั่งพักราชการหลวงโอฬารในข้อหาต้องสงสัยฆ่าจเรตำรวจและซ่องโจร ด้านหลวงโอฬารท้าให้ขุนพันธ์หาหลักฐานมายืนยันให้ได้ภายใน 3 วัน หลังจากนั้น ขุนพันธ์ออกปราบชุมโจรต่าง ๆ และประกาศให้โจรทั้งหลายมาลงทะเบียนเลิกเป็นโจรแลกกับการจับเป็น ระหว่างนั้นตำรวจใต้บัญชาของขุนพันธ์แจ้งข่าวว่า กองโจรของอัลฮาวียะลูกำลังฆ่าล้างหมู่บ้านชาวประมงที่เคยช่วยชีวิตขุนพันธ์ไว้ ก่อนที่ขุนพันธ์จะสู้กับบุหงา ลูกน้องของหลวงโอฬารและใช้อาคมจนพบว่า บุหงาต้องมาทำงานนี้เพราะเป็นหนี้ชีวิตอัลฮาวียะลู
ขุนพันธ์กับตำรวจนายอื่น ๆ ไปที่หมู่บ้านและพบว่าชาวบ้านบางส่วนหนีเข้าไปอยู่ในป่า ขุนพันธ์จึงให้ชาวบ้านหนีไปขึ้นรถไฟของทหารญี่ปุ่น แต่ทั้งหมดถูกกองโจรนำโดย เสือสัง ลูกน้องมือขวาของอัลฮาวียะลูไล่ตามมา ขุนพันธ์สู้กับกองโจรก่อนจะสู้กับเสือสังบนหลังคารถไฟจนเสือสังถูกแทงตาย ขุนพันธ์และตำรวจนายอื่น ๆ รวมถึงไข่โถและมาลัยย้อนกลับไปที่สโมสรงาช้างเพื่อเผชิญหน้ากับหลวงโอฬาร เมื่อไปถึง กลุ่มของขุนพันธ์ปะทะกับกองโจรของอัลฮาวียะลู ทำให้ตำรวจใต้บัญชาของขุนพันธ์ ไข่โถและมาลัยถูกยิงตาย ส่วนหลวงโอฬารหนีรอดไปได้ ขุนพันธ์สู้กับอัลฮาวียะลูตัวต่อตัว และทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับพ่อของอัลฮาวียะลูคือช่วยปลดปล่อยวิญญาณของอัลฮาวียะลู ก่อนจะแทงอัลฮาวียะลูจนตาย เวลาต่อมา ขุนพันธ์ตามล่าหลวงโอฬารและยิงหลวงโอฬารจนตาย
ในฉากหลังเครดิต ขุนพันธ์นั่งคุยอยู่กับเสือใบและบอกให้เสือใบมอบตัวเพื่อแลกกับการจับเป็น ซึ่งนำไปสู่เหตุการณ์ในภาค 2
นักแสดง
[แก้]นักแสดงนำ
[แก้]- อนันดา เอเวอร์ริ่งแฮม รับบทเป็น พล.ต.ต. ขุนพันธรักษ์ราชเดช (ขุนพันธ์) (บุตร พันธรักษ์)
- กฤษดา สุโกศล แคลปป์ รับบทเป็น อัลฮาวียะลู (อาแวสะดอ ตาและ)
- พิมลรัตน์ พิศลยบุตร รับบทเป็น บุหงา
- ชูพงษ์ ช่างปรุง รับบทเป็น เสือสังข์
- ภคชนก์ โวอ่อนศรี รับบทเป็น หลวงโอฬาร
- สนธยา ชิตมณี รับบทเป็น ไข่โถ
- กานต์พิสชา เกตุมณี รับบทเป็น มาลัย
นักแสดงสมทบ
[แก้]- บุญส่ง นาคภู่ รับบทเป็น สารวัตรดอกรัก
- ศุทธสิทธิ์ พจน์ฐศักดิ์ รับบทเป็น พลเผือก
- อาเด็น วังทอง รับบทเป็น ดาบบัง
- วรภัทร จิตต์แก้ว รับบทเป็น พลกบ
นักแสดงรับเชิญ
[แก้]- สันติ ลุนเผ่ รับบทเป็น หลวงอดุลเดชจรัส
- ชุมพร เทพพิทักษ์ รับบทเป็น คนแจวเรือ
- อารักษ์ อมรศุภศิริ รับบทเป็น เสือใบ
การจัดฉาย
[แก้]ภาพยนตร์ชุดนี้เดิมมีกำหนดจัดฉายในปี พ.ศ. 2559 แต่ได้รับการเลื่อนมาฉายต้นปี พ.ศ. 2560 แล้วสมกับการเป็นภาพยนตร์เปิดปี 2560 เนื่องจากต้องใช้เวลาอย่างมากในการทำเทคนิคพิเศษ[6]
การตอบรับและคำวิจารณ์
[แก้]ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
รางวัล
[แก้]ปี พ.ศ. | รางวัล | สาขา | ผล |
---|---|---|---|
2561 | รางวัลภาพยนตร์แห่งชาติ สุพรรณหงส์ ครั้งที่ 27 | รางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยม (อนันดา เอเวอร์ริ่งแฮม) | เสนอชื่อเข้าชิง |
รางวัลนักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม (กฤษดา สุโกศล แคลปป์) | ได้รับรางวัล | ||
รางวัลกำกับศิลป์ยอดเยี่ยม | เสนอชื่อเข้าชิง | ||
รางวัลออกแบบเครื่องแต่งกายยอดเยี่ยม | ได้รับรางวัล | ||
รางวัลเทคนิคพิเศษการแต่งหน้ายอดเยี่ยม | ได้รับรางวัล | ||
รางวัลเทคนิคพิเศษการสร้างภาพพิเศษยอดเยี่ยม | ได้รับรางวัล |
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
ภาคต่อ
[แก้]ภาคนี้เล่าเรื่องต่อเนื่องมา ในยุคที่กฎหมายอ่อนแอ คนชั่วครองเมือง ทุกพื้นที่ภาคกลางถูกครอบครองด้วยอิทธิพลแห่งเสือฝ้ายและเสือใบที่ลือกันว่า ทั้งแกร่ง ทั้งเดือด และอาคมแรงกล้าที่สุดจนไม่เคยมี “ตำรวจ” คนไหนเฉียดใกล้แม้แต่ปลายเล็บ ขณะนั้น “ขุนพันธ์” ถูกบีบให้พักราชการ คงไม่มีที่ไหนที่จะเหมาะกับเขาเท่าการแฝงตัวเป็นหนึ่งในโจรเชิ้ตดำของ “เสือฝ้าย” และ “เสือใบ” เพื่อปราบปรามเหล่าร้ายเหล่านี้ให้หมดสิ้น
อ้างอิง
[แก้]- ↑ สหมงคลฟิล์มฯ เตรียมฉาย “ขุนพันธ์” หนังแอ็คชั่นไทยเรื่องยิ่งใหญ่แห่งปี ขีดสุดความมันส์แอ็คชั่นไล่ล่าของ “นายตำรวจที่ฆ่าไม่ได้ และมหาโจรที่ตายไม่เป็น”
- ↑ ขุนพันธ์ Nangdee
- ↑ จากเรื่องจริง! ชมตัวอย่าง "ขุนพันธ์" "อนันดา" ปะทะวิชาอาคม "น้อย วงพรู"
- ↑ ชมตัวอย่างแรก 'ขุนพันธ์' จากเรื่องจริงของมือปราบผู้ใช้อาคมสยบเหล่าโจร - โพสต์ทูเดย์
- ↑ "เปิดรายได้หนังทำเงินปี 2559 ในไทย ฝั่งเทศ กัปตันอเมริกา คว้าไป ส่วนฝั่งไทย หลวงพี่แจ๊ส ครอง". มติชน. 16 กันยายน 2562.
- ↑ หนังไทยฟอร์มยักษ์แห่งปี - thairath.co.th
แหล่งข้อมูลอื่น
[แก้]- ขุนพันธ์ เก็บถาวร 2016-06-28(Date mismatch) ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- ขุนพันธ์ ที่สยามโซน