ข้ามไปเนื้อหา

กาลา (นักฟุตบอลเกิด พ.ศ. 2532)

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
กาลา
กาลาขณะลงเล่นให้กับเซบิยาใน ค.ศ. 2013
ข้อมูลส่วนตัว
ชื่อเต็ม ฆวน ตอร์เรส รุยซ์
วันเกิด (1989-11-26) 26 พฤศจิกายน ค.ศ. 1989 (35 ปี)
สถานที่เกิด เลบริฆา สเปน
ส่วนสูง 1.87 m (6 ft 1 12 in)
ตำแหน่ง กองหลังกลาง
ข้อมูลสโมสร
สโมสรปัจจุบัน
กาดิซ
หมายเลข 16
สโมสรเยาวชน
อันโตเนียโน
2000–2008 เซบิยา
สโมสรอาชีพ*
ปี ทีม ลงเล่น (ประตู)
2008–2010 เซบิยา เบ 34 (1)
2010–2014 เซบิยา 32 (5)
2010–2011การ์ตาเฆนา (ยืมตัว) 25 (3)
2011–2012อาเอกเอเธนส์ (ยืมตัว) 13 (1)
2014 คาร์ดิฟฟ์ซิตี 8 (2)
2015 กรานาดา 7 (0)
2015–2018 เฆตาเฟ 73 (6)
2018 เหอหนานเจียนเย 11 (0)
2018–2019 ลัสปัลมัส 30 (1)
2019– กาดิซ 51 (4)
ทีมชาติ
2008 สเปน อายุไม่เกิน 19 ปี 1 (0)
*นัดที่ลงเล่นและประตูที่ยิงให้แก่สโมสรเฉพาะลีกในประเทศเท่านั้น
ข้อมูลล่าสุด ณ วันที่ 4 เมษายน ค.ศ. 2021

ฆวน ตอร์เรส รุยซ์ (สเปน: Juan Torres Ruiz; เกิดวันที่ 26 พฤศจิกายน ค.ศ. 1989) หรือที่รู้จักกันในชื่อ กาลา (Cala) เป็นนักฟุตบอลชาวสเปน ปัจจุบันลงเล่นให้กับสโมสรกาดิซในลาลิกาในตำแหน่งกองหลังตัวกลาง (เซ็นเตอร์แบ็ก)

สโมสรอาชีพ

[แก้]

เซบิยา

[แก้]

กาลา เกิดในเลบริฆา, จังหวัดเซบียา, แคว้นอันดาลูเซียอา เขาเข้าร่วมทีมเยาวชนของเซอา อันโตเนียโน ก่อนที่จะเข้าร่วมทีมเยาวชนของเซบิยา ในปี ค.ศ. 2000 และจบการศึกษาฟุตลอจากที่นี่ เขาลงเล่นในระดับอาชีพครั้งแรกในฤดูกาล ฤดูกาล 2007–08 ให้กับทีมสำรองของเซบิยา ซึ่งลงเล่นอยู่ในเซกุนดาดิบิซิออน, ในวันที่ 9 ธันวาคม ค.ศ. 2009 เขาลงเลนให้กับทีมชุดใหญ่เป็นครั้งแรกในรายการยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก รอบแบ่งกลุ่ม พบกับเรนเจอส์ ที่รามอน ซันเชซ ปิซฆวน โดยทีมของเขาเอาชนะไปด้วยคะแนน 1–0 [1]

กาลา ได้รับโอกาสลงเล่นนัดแรกในลาลิกา ในวันที่ 7 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2010 ในเกมที่ทีมของเขาแพ้ให้กับเรอัลซาราโกซา 2–1 ที่ลาโรมาเรดา[2] ในวันที่ 10 เมษายน กาลา ทำประตูแรกกับทีมได้ในเกมที่พบกับมาลากา ช่วยให้ทีมเอาชนะไปด้วยคะแนน 2–1 ก่อนที่ในอีก 2 เกมลีกถัดมากับ เรอัลบายาโดลิด และเอสปอร์ตินเดฆิฆอน เขาก็ทำ 1 ประตูได้เช่นกัน[3][4][5][6]

ในฤดูกาลถัดมา กาลา ได้ย้ายร่วมทีมการ์ตาเนกา ในเซกุนดาดิบิซิออน[7] โดยเขาได้ลงเล่นนัดแรกในวันที่ 11 กันยายน ค.ศ. 2010 ในนัดเหย้ากับบาร์เซโลนา เบ พร้อมกับทำประตูได้เป็นประตูแรกของเกม ช่วยให้ทีมเอาชนะได้ด้วยคะแนน 5–1[8]

ในวันที่ 5 กรกฎาคม ค.ศ. 2011 กาลา ได้บรรลุข้อตกลงในการย้ายร่วมทีมอาเอกเอเธนส์ ซึ่งในขณะนั้นมีมาโนโล กิเมเนซ อดีตหัวหน้าผู้ฝึกสอนเซบิยาที่ให้กับโอกาสเขาลงเล่นกับทีมชุดใหญ่ของเซบิยาคุมทีมอยู่ [9] โดยเขาได้ลงเล่นนัดแรกกับทีมในวันที่ 18 สิงหาคม ค.ศ. 2011 ในรายการยูฟ่ายูโรปาลีก รอบเพลย์-ออฟ นัดแรก กับดีนาโมทบิลีซี โดยทีมของเขาเอาชนะไปด้วยคะแนน 1–0 (รวมผลสองนัดชนะ 2–1)[10], โดยรวมแล้วเขาลงเล่น 21 นัดให้กับทีมและทำได้ 1 ประตูในเกมที่ทีมเอาชนะอาริสเทสซาโลนิกิ 3–0 ในซูเปอร์ลีกกรีซ[11], ในเดือนมกราคม ค.ศ. 2012 เขาถูกเซบิยาเรียกคืนกลับสู่ทีม โดยเข้ามาแทนที่ของมาร์ติน กาเซเรส ที่ทีมขายออกไปให้กับยูเวนตุส โดยเซบิยาได้จ่ายค่าชดเชยให้กับ อาเอกเอเธนส์ 60,000 ยูโร[12] ในฤดูกาล 2013–14 เขาลงเล่นให้กับทีมในยูฟ่ายูโรปาลีก 8 นัด ช่วยให้ทีมชนะรอบเพลย์-ออฟ และเป็นแชมป์ของกลุ่มในรอบแบ่งกลุ่ม ก่อนที่สุดท้าย เซบิยา จะคว้าแชมป์ได้ในช่วงเดือนพฤษภาคม หลังจากที่ กาลา ย้ายไปคาร์ดิฟฟ์ซิตีแล้ว[13], ในวันที่ 21 ธันวาคม ค.ศ. 2013 เขาลงเล่นนัดสุดท้ายให้กับเซบิยา โดยพบกับบิยาร์เรอัล โดยในเกมนี้เขาทำประตูแรกของเกมได้จากลูกโหม่งในนาทีที่ 24 จากลูกเปิดบอลของอิวัน ราคิทิช ก่อนที่ กาลา จะโดนใบแดงไล่ออกจากสนามในนาทีที่ 86 โดยทีมของเขาเอาชนะไปได้ด้วยคะแนน 1–2[14]

คาร์ดิฟฟ์ซิตี

[แก้]
กาลา (เสื้อสีแดงคนกลาง) ขณะลงเล่นให้กับคารืดิฟฟ์ซิตี พบกับลิเวอร์พูล ในเดือนมีนาคม ค.ศ. 2014

ในวันที่ 7 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2014 กาลา ได้ย้ายร่วมทีม คาร์ดิฟฟ์ซิตี สโมสรในประเทศเวลส์ ภายใต้การคุมทีมของอูเลอ กึนนาร์ ซูลชาร์ โดยมีสัญญา 2 ปีครึ่ง[15] เขาลงเล่นให้กับทีมเป็นครั้งแรกในอีก 8 วันถัดมา ในเกมเอฟเอคัพ รอบ 16 ทีมสุดท้าย ที่พวกเขาแพ้ให้กับวีแกนแอทเลติก ที่คาร์ดิฟฟ์ซิตีสเตเดียม 1–2 โดยได้ลงเล่นครบเต็มเกม[16] ก่อนที่ในวันที่ 22 เดือนเดียวกัน กาลา จะได้ลงเล่นในเกมลีกครั้งแรกพบกับฮัลล์ซิตี โดยทีมของเขาแพ้ไปด้วยคะแนน 0–4[17]

กาลา ทำประตูแรกให้กับทีมได้ในวันที่ 15 มีนาคม ค.ศ. 2014 ในเกมที่พวกเขาแพ้ให้กับเอฟเวอร์ตัน[18] ในวันที่ 12 เมษายน เขาทำประตูที่สองให้กับทีมได้ในเกมที่พวกเขาออกไปเยือนเซาแทมป์ตัน เป็นประตุขึ้นนำ 1–0 และช่วยให้ทีมเอาชนะไปด้วยคะแนนนี้[19] ในอีก 15 วันถัดมาเขาถูกใบแดงไล่ออกจากสนามเป็นครั้งแรกกับคาร์ดิฟฟ์ โดยนัดนี้พวกเชาแพ้ให้กับซันเดอร์แลนด์ 0–4 ที่สเตเดียมออฟไลต์[20] ก่อนที่ในสัปดาห์ถัดมาทีมของเขาจะตกชั้นหลังจากแพ้ให้กับนิวคาสเซิล 0–3

ในฤดูกาล 2014-15 เขาได้ลงเล่นเพียงนัดเดียวในฤดูกาล 2014–15 ก่อนที่เขาจะถูกยกเลิกสัญญาในวันที่ 3 ธันวาคม ค.ศ. 2014 โดยก่อนหน้านี้เขาเคยวิจารณ์สโมสรผ่านทาง ทวิตเตอร์ หลังจากที่เขาถูกส่งไปฝึกกับโรงเรียนฟุตบอลของสโมสร[21]

กรานาดา และเฆตาเฟ

[แก้]

หลังจากเขามีข่าวเชื่อมโยงว่าอาจย้ายร่วมทีม เฆตาเฟ เป็นอย่างมาก, กาลา ได้เซ็นสัญญาร่วมทีมกรานาดา ทีมร่วมลีกลาลิกา ในวันที่ 28 มกราคม ค.ศ. 2015[22] ในวันที่ 23 กุมภาพันธ์ ค.ส. 2015 เขาได้ลงเล่นกับทีมครั้งแรก ในเกมที่พวกเขาแพ้ให้กับเลบันเต 1–2 ในลาลิกา ที่สนามเอสตาดีซิวตัตเดบาเลนเซีย ตลอดฤดูกาลเขาได้ลงเล่นเพียง 7 นัด และไม่ได้รับการต่อสัญญา หลังจากที่เขาเป็นส่วนเกินของทีมของ โฆเซ รามอน ซันโดวัล ผู้จัดการทีมคนใหม่ของสโมสร[23]

เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน ค.ศ. 2015 กาลา ได้บรรลุข้อตกลงย้ายร่วมทีมเฆตาเฟ เป็นระยะเวลาสามปี[24] ในวันที่ 4 มกราคม ปีถัดมา เขาทำประตูแรกให้กับทีมได้สำเร็จในเกมเยือนกับเอสปอร์ตินเดฆิฆอน โดยทีมของเขาเอาชนะไปด้วยคะแนน 2–1 นับเป็นประตูแรกของเขาในลาลิกา ในรอบ 2 ปี[25]

ในวันที่ 6 สิงหาคม ค.ศ. 2016 กาลา ได้ย้ายร่วมทีม อันจีมาคัชคาลา ด้วยสัญญายืมตัว โดยมีเงื่อนไขในการสามารถซื้อขาดได้หลังจบฤดูกาล[26] ในอีก 7 วันต่อมาเขาก็ประกาศการกลับมาอยุ่กับเฆตาเฟผ่าน อินสตราแกรม โดยอ้างว่ามีปัญหาส่วนตัว[27] ขณะที่ อันจีมาคัชคาล แถลงข่าวระบุว่า กาลา กลับไปสเปนเพื่อดูแลน้องชายของเขาที่กำลังมีปัญหาสุขภาพ[28]

เหอหนานเจียนเย

[แก้]

ในวันที่ 1 มีนาคม ค.ศ. 2018 กาลา ได้เซ็นสัญญาร่วมทีม เหอหนานเจียนเย ในประเทศจีน โดยมีรายงานว่ามีค่าการย้ายทีมที่ 1.5 ล้านยูโร [29] เขาลงเล่นนัดแรกให้กับทีม ในไชนิสซูเปอร์ลีกในวันรุ่งขึ้น พบกับเทียนจินฉวนเจียน ที่สนามกีฬาเจิ้งโจวฮังไฮ โดยทีมของเขาแพ้ไปด้วยคะแนน 0–4

ลัสปัลมัส

[แก้]

ในวันที่ 7 กรกฎาคม ค.ศ. 2018 กาลา ได้ย้ายร่วมทีมอูเด ลัสปัลมัส ในเซกุนดาดิบิซิออน ด้วยสัญญาสองปี เขาได้ลงสนามนัดแรกกับทีมในวันที่ 19 สิงหาคม ในเกมลีกกับเรอุส เดปอร์ติอู โดยทีมองเขาเอาชนะไปด้วยคะแนน 2–0 ก่อนที่จะทำประตูแรกได้ในเกมกับเซเด ลูโก โดยทีมของเขาแพ้ไปด้วยคะแนน 4–2 และเป็นประตูเดียวให้กับสโมสรของเขา[30], โดยตลอดฤดูกาลเขาลงเล่น 30 นัด เขาได้ยกเลิกสัญญากับสโมสรหลังจบฤดูกาลในวันที่ 18 มิถุนายน ค.ศ. 2019[31]

กาดิซ

[แก้]

ในวันที่ 17 กรกฎาคม ค.ศ. 2019 กาลา ได้ย้ายร่วมทีมกาดิซ ซึ่งขณะนั้นเล่นอยู่ในเซกุนดาดิบิซิออน ด้วยสัญญา 5 ปี[32] โดยเขาได้ลงเล่นกับทีมนัดแรกในเกมลีกที่พวกเขาออกไปเยือนเซเด มิรันเดส ช่วยให้ทีมเอาชนะไปด้วยคะแนน 1–2 โดยได้ลงเล่นครบ 90 นาที, ในวันที่ 24 มกราคม ค.ศ. 2020 เขาทำประตูแรกให้กับทีมได้ในเกมเหย้ากับราซินซันดันเดร์ ในนาทีที่ 90+2 โดยเป็นประตูเดียวในนัดนี้ทำให้ กาดิซ เก็บ 3 แต้มได้สำเร็จ[33], โดยในฤดูกาลแรกของ กาลา ได้ลงเล่นรวม 27 นัด และช่วยให้ทีมเลื่อนชั้นสู่ลีกสูงสุดได้สำเร็จ[34][35]

ในวันที่ 4 เมษายน ค.ส. 2021 กาลา ได้ทำประตูแรกในรอบ 2 ปีในลาลิกาได้สำเร็จ ในเกมที่พวกเขาพบกับบาเลนเซีย ที่รามอน เด การ์รันซา เป็นประตูขึ้นนำ 1–0 ในนาทีที่ 14, ก่อนที่ในนาทีที่ 31 เขาจะถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้เหยียดเชื้อชาติ มุคตาร์ เดียกาบี ซึ่ง เดียกาบี ได้เดินออกจากสนามพร้อมกับเพื่อนร่วมทีมบาเลนเซียทั้งหมดทำให้เกมต้องหยุดลงราว 20 นาที หลังจากได้รับแจ้งจากผู้ตัดสินว่าพวกเขาจะถูกปรับแพ้การแข่งขันหากยังไม่กลับมาลงสนาม ในเวลาต่อมาพวกเขาก็กลับมาทำการแข่งขันอีกครั้งและได้เปลี่ยนตัว เดียกาบี ออกจากสนามขณะที่ กาลา ยังคงเล่นต่อจนจบครึ่งแรก โดยผลจบลงด้วยชัยชนะของ กาดิซ ด้วยคะแนน 2–1[36][37][38] ขณะที่ในอีก 2 วันต่อมา กาลา ได้แถลงข่าวต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยอ้างว่าเขาเพียงแค่ขอให้เดียกาบี "อย่ามายุ่งกับฉัน" และ เดียกาบี ก็เข้าใจผิดในสิ่งที่ กาลา พูดว่าเป็นการเหยียดเชื้อชาติ[39] บาเลนเซีย ได้ออกแถลงการณ์ไม่นานหลังจากนั้น ประณามการปฏิเสธของเขาว่า "ฆวน กาลา เราไม่เชื่อนาย" "ประธานสโมสร และมูคตาร์ เดียคาบี้ จะร่วมมือกันสู้เพื่อพิสูจน์การกระทำผิดในครั้งนี้ เพื่อผลประโยชน์ของวงการฟุตบอล" ก่อนที่ในวันรุ่งขึ้นราชสหพันธ์ฟุตบอลสเปน ยืนยันว่าเหตุการณ์นี้อยู่ระหว่างการสอบสวนอย่างเป็นทางการ[40] และในที่สุดก็ไม่พบหลักฐานของเรื่องดังกล่าว[41]

เกียรติประวัติ

[แก้]

เซบิยา

อ้างอิง

[แก้]
  1. "Gers' dismal campaign ends badly". ESPN Soccernet. 9 December 2009. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-10-26. สืบค้นเมื่อ 14 June 2011.
  2. "Zaragoza edge tempestuous clash". ESPN Soccernet. 7 February 2010. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-10-26. สืบค้นเมื่อ 14 June 2011.
  3. "Sevilla claim derby honours". ESPN Soccernet. 10 April 2010. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-10-26. สืบค้นเมื่อ 14 June 2011.
  4. "Valladolid boost survival hopes". ESPN Soccernet. 13 April 2010. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-10-26. สืบค้นเมื่อ 14 June 2011.
  5. "Nine-man Gijon thrashed". ESPN Soccernet. 17 April 2010. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-10-26. สืบค้นเมื่อ 14 June 2011.
  6. Vigil Morán, Alejandro (15 March 2011). "Un once de Primera... en Segunda" [Primera XI... in Segunda]. La Voz de Asturias (ภาษาสเปน). สืบค้นเมื่อ 27 February 2018.
  7. "Cala se va cedido al Cartagena" [Cala goes on loan to Cartagena] (ภาษาสเปน). Sevilla FC. 31 August 2010. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 18 September 2010. สืบค้นเมื่อ 14 June 2011.
  8. "Betis y Rayo Vallecano siguen marcando el ritmo" [Betis and Rayo Vallecano still setting the pace]. La Verdad (ภาษาสเปน). 11 September 2010. สืบค้นเมื่อ 14 December 2012.
  9. "El AEK de Atenas ficha a José Carlos y Juan Cala" [AEK Athens sign José Carlos and Juan Cala]. Diario AS (ภาษาสเปน). 5 July 2011. สืบค้นเมื่อ 1 May 2014.
  10. #16 Juan Gala Transfermarkt สืบค้นเมื่อ 7 เมษษยน ค.ศ. 2021
  11. Georgakopoulos, George (30 October 2011). "Panathinaikos conquers PAOK". Kathimerini. สืบค้นเมื่อ 15 March 2016.
  12. Guevara, Rocío (27 January 2012). "Cala vuelve al Sevilla para sustituir a Martín Cáceres" [Cala returns to Sevilla to replace Martín Cáceres]. Diario AS (ภาษาสเปน). สืบค้นเมื่อ 13 December 2012.
  13. 13.0 13.1 García, Enrique (26 May 2014). "Juan Cala: "El Sevilla es campeón de la Europa League, yo no"" [Juan Cala: "Sevilla are Europa League champions, I am not"]. Estadio Deportivo (ภาษาสเปน). สืบค้นเมื่อ 23 March 2016.
  14. #16 Juan Cala Transfermarkt สืบค้นเมื่อ 7 เมษายน ค.ศ. 2021
  15. "สำเนาที่เก็บถาวร". Cardiff City F.C. 7 February 2014. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-04-05. สืบค้นเมื่อ 7 February 2014.
  16. "Cardiff 1–2 Wigan". BBC Sport. 15 February 2014. สืบค้นเมื่อ 16 February 2014.
  17. Westall, Rob (22 February 2014). "Cardiff City 0–4 Hull City". BBC Sport. สืบค้นเมื่อ 20 December 2017.
  18. Magowan, Alistair (15 March 2014). "Everton 2–1 Cardiff". BBC Sport. สืบค้นเมื่อ 27 March 2014.
  19. Sanghera, Mandeep (12 April 2014). "Southampton 0–1 Cardiff". BBC Sport. สืบค้นเมื่อ 16 April 2014.
  20. Sanghera, Mandeep (27 April 2014). "Sunderland 4–0 Cardiff". BBC Sport. สืบค้นเมื่อ 27 April 2014.
  21. "Cardiff City: Juan Cala leaves Bluebirds". BBC Sport. 3 December 2014. สืบค้นเมื่อ 3 December 2014.
  22. "Juan Cala, quinto refuerzo del Granada CF en el mercado de invierno" [Juan Cala, fifth addition of Granada CF in the winter transfer window] (ภาษาสเปน). Granada CF. 28 January 2015. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 31 January 2015. สืบค้นเมื่อ 28 January 2015.
  23. Piñero, Julio (28 May 2015). "El Granada ya no cuenta con Cala" [Granada cease to count on Cala]. Marca (ภาษาสเปน). สืบค้นเมื่อ 25 June 2015.
  24. "Cala futbolista del Getafe" [Cala footballer of Getafe] (ภาษาสเปน). Getafe CF. 25 June 2015. สืบค้นเมื่อ 25 June 2015.
  25. "Sporting Gijon 1–2 Getafe: Getafe put end to poor away form". Sky Sports. 4 January 2016. สืบค้นเมื่อ 15 March 2016.
  26. "Cala cedido" [Cala loaned] (ภาษาสเปน). Getafe CF. 6 August 2016. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2020-11-20. สืบค้นเมื่อ 6 August 2016.
  27. "Juan Cala deja el Anzhi y regresa al Getafe" [Juan Cala leaves Anzhi and returns to Getafe]. Marca (ภาษาสเปน). 13 August 2016. สืบค้นเมื่อ 13 August 2016.
  28. Хуан Торрес Кала вернулся в Испанию [Juan Cala Torres returned to Spain] (ภาษารัสเซีย). Anzhi Makhachkala. 12 August 2016. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-08-17. สืบค้นเมื่อ 16 August 2016.
  29. "Juan Cala se marcha al Henan Jianye" [Juan Cala goes to Henan Jianye] (ภาษาสเปน). Sport You. 1 March 2018. สืบค้นเมื่อ 8 July 2018.
  30. #16 Juan Cala Transfermarkt สืบค้นเมื่อ 9 เมษายน ค.ศ. 2021
  31. "Juan Cala leaves UD Las Palmas". UD Las Palmas. 18 June 2019. สืบค้นเมื่อ 24 June 2019.
  32. "Juan Cala se convierte en el séptimo fichaje" [Juan Cala becomes the seventh signing] (ภาษาสเปน). Cádiz CF. 17 July 2019. สืบค้นเมื่อ 17 July 2019.
  33. #16 Juan Cala Transfermarkt สืบค้นเมื่อ 11 เมษายน ค.ศ. 2021
  34. Corrigan, Dermot (13 July 2020). "Cadiz, the club and city where the rules are different, finally return to La Liga". The Athletic. สืบค้นเมื่อ 4 April 2021.
  35. "Juan Cala" (ภาษาสเปน). La Voz Digital. 9 September 2020. สืบค้นเมื่อ 4 April 2021.
  36. Picó, Diego (4 April 2021). "Gana el Cádiz, perdemos todos" [Cádiz win, we all lose]. Marca (ภาษาสเปน). สืบค้นเมื่อ 4 April 2021.
  37. "El Valencia abandona el partido en Cádiz por presuntos insultos racistas de Cala a Diakhaby" [Valencia leave match in Cádiz due to alleged racial insults of Cala to Diakhaby]. Marca (ภาษาสเปน). 4 April 2021. สืบค้นเมื่อ 4 April 2021.
  38. "Valencia: Alleged racist comment sees team leave pitch". BBC Sport. 4 April 2021. สืบค้นเมื่อ 4 April 2021.
  39. "Juan Cala: "I'm going to defend my reputation and the fact I'm innocent"". Cádiz CF. 6 April 2021. สืบค้นเมื่อ 6 April 2021.
  40. "Juan Cala: Spanish FA open proceedings against Cadiz player over alleged racist abuse of Valencia's Mouctar Diakhaby". Sky Sports. 7 April 2021. สืบค้นเมื่อ 7 April 2021.
  41. Lowe, Sid (9 April 2021). "La Liga finds no evidence Juan Cala racially abused Mouctar Diakhaby". The Guardian. สืบค้นเมื่อ 9 April 2021.

แหล่งข้อมูลอื่น

[แก้]