เกิลส์เจเนอเรชัน

หน้าถูกกึ่งป้องกัน
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

เกิลส์เจเนอเรชัน
เกิลส์เจเนอเรชันในเดือนสิงหาคม 2022 จากซ้ายไปขวา: ซันนี, ทิฟฟานี, ฮโยย็อน, ยุนอา, ซอฮย็อน, ยูรี, แทย็อน และซูย็อง
เกิลส์เจเนอเรชันในเดือนสิงหาคม 2022
จากซ้ายไปขวา: ซันนี, ทิฟฟานี, ฮโยย็อน, ยุนอา, ซอฮย็อน, ยูรี, แทย็อน และซูย็อง
ข้อมูลพื้นฐาน
ที่เกิดโซล เกาหลีใต้
แนวเพลง
ช่วงปี2007–ปัจจุบัน
ค่ายเพลง
กลุ่มย่อย
สมาชิก
อดีตสมาชิก
เว็บไซต์girlsgeneration.smtown.com
ชื่อภาษาเกาหลี
ฮันกึล
ฮันจา
อาร์อาร์Sonyeo Sidae
เอ็มอาร์Sonyŏ Sidae
ชื่อภาษาญี่ปุ่น
คันจิ少女時代
ฮิรางานะしょうじょじだい
เฮ็ปเบิร์นปรับปรุงShōjo Jidai
คุนเรชิกิSyôjo Jidai

เกิลส์เจเนอเรชัน (เกาหลี소녀시대; อาร์อาร์Sonyeo Sidae; โซนยอชีแด หรือ SNSD; อังกฤษ: Girls' Generation) เป็นเกิร์ลกรุปเกาหลีใต้ สังกัดเอสเอ็มเอนเตอร์เทนเมนต์ในปี ค.ศ. 2007[1][2]ประกอบด้วยสมาชิกจำนวนแปดคนคือ แทย็อน, ซันนี, ทิฟฟานี, ฮโยย็อน, ยูรี, ซูย็อง, ยุนอา และซอฮย็อน (ในอดีตมีสมาชิกเก้าคน อีกหนึ่งคนคือ เจสสิกา ออกจากกลุ่มในเดือนกันยายน ค.ศ. 2014)[3][4]

ในเบื้องแรก เกิลส์เจเนอเรชันได้รับความสนใจระดับหนึ่งจากผลงานเพลงบางเพลง เช่น "อินทูเดอะนิวเวิลด์" และ "คิสซิงยู" จนกระทั่งในปี ค.ศ. 2009 พวกเธอได้รับความนิยมอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเพลง "จี" ติดตลาดและได้รับการขนานนามว่าเป็น "เพลงแห่งทศวรรษ" ประจำเกาหลีใต้[5] กลุ่มเกิลส์เจเนอเรชันมีสถานะมั่นคงในอุตสาหกรรมดนตรีเกาหลีใต้มากขึ้นเมื่อเผยแพร่เพลงถัด ๆ มาในช่วงปี ค.ศ. 2010–2011 คือ "เทลมียัวร์วิช", "โอ!", "รันเดวิลรัน" และ "ฮูต" ต่อมาในปี ค.ศ. 2011 กลุ่มได้เริ่มดำเนินการตลาดในประเทศญี่ปุ่นอยู่ระยะหนึ่งจึงกลับไปบ้านเกิดแล้วเผยแพร่เพลง "เดอะบอยส์" ซึ่งได้รับการปล่อยตัวถึงสามภาษาคือ เกาหลี ญี่ปุ่น และอังกฤษ ซึ่งนับเป็นเพลงภาษาอังกฤษเพลงแรกของกลุ่มอีกด้วย ในช่วงห้าปีที่ผ่านมากลุ่มมียอดขายรวม 4.4 ล้านอัลบั้ม และ 30 ล้านซิงเกิล[6][7] จากความนิยมที่พุ่งสูงขึ้นในเกาหลีใต้เป็นเหตุให้กลุ่มอยู่ในรายชื่อ "นักร้องประจำชาติ" และ "กลุ่มนักร้องหญิงแห่งชาติ"[8] โพลซีซา ยังจัดให้กลุ่มอยู่ในรายชื่อ "ผู้สร้างความบันเทิงที่มีอิทธิพลมากที่สุด" ประจำปี ค.ศ. 2011 และ 2012 ซึ่งสร้างประวัติศาสตร์เป็นกลุ่มนักร้องหญิงกลุ่มแรกที่อยู่ในรายชื่ออีกด้วย[9]เอเชียทูเดย์ ยังจัดให้กลุ่มอยู่อันดับที่ 44 จาก 50 ในรายชื่อ "ผู้ทรงอิทธิพลในเกาหลี" ประจำปี ค.ศ. 2011[10] นิตยสาร ฟอบส์ ยังกล่าวถึงเกิลส์เจเนอเรชันว่าเป็น "ผู้สร้างความบันเทิงที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดในเกาหลีใต้" ในปี ค.ศ. 2011[6]

เกิลส์เจเนอเรชัน ได้เดบิวต์ที่ญี่ปุ่นในปี ค.ศ. 2010 ภายใต้การดูแลของค่ายนะยุตะเวฟ โดยการปล่อยเวอร์ชันญี่ปุ่นจากเพลงฮิตของพวกเธออย่าง "เทลมียัวร์วิช" และ "จี" อัลบั้มชุดแรกในญี่ปุ่นของพวกเธอ เกิลส์เจเนอเรชัน ออกจำหน่ายในเดือนมิถุนายน ค.ศ. 2011 ซึ่งกลายเป็นอัลบั้มโดยกลุ่มนักร้องเกาหลีที่มียอดขายมากที่สุดในประวัติศาสตร์บนชาร์ตออริคอนอีกด้วย[11]

ในเดือนเมษายน ค.ศ. 2012 เกิลส์เจเนอเรชันได้ขยายอุตสาหกรรมโดยตั้งกลุ่มย่อยชื่อ "เกิลส์เจเนอเรชันทีทีเอส" หรือเรียกโดยย่อว่า "แททิซอ" (TaeTiSeo) มีสมาชิกคือ แทย็อน ทิฟฟานี และซอฮย็อน เปิดตัวด้วยอัลบั้ม ทวิงเกิล สามารถขึ้นสูงสุดเป็นอันดับที่ 126 บนบิลบอร์ด 200 ซึ่งเป็นอันดับที่สูงที่สุดเท่าที่เคยมีมาในอัลบั้มเคป๊อปขณะนั้น[12]

ในเดือนมกราคม ค.ศ. 2013 กลุ่มกลับคืนสู่วงการเพลงเกาหลีด้วยการออกสตูดิโออัลบั้มชุดที่สี่ของพวกเธอ ไอก็อตอะบอย ซึ่งกลายเป็นเพลงฮิตอย่างรวดเร็วทั้งในประเทศและทั่วโลก[13] เปิดตัวอันดับหนึ่งบนชาร์ต บิลบอร์ด "เวิลด์อัลบั้ม"[14] ตามมาด้วยการแสดงสดและทัวร์คอนเสิร์ต เกิลส์แอนด์พีซ: เจแปนเซคันด์ทัวร์ ในเดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ. 2012[15]

ที่มาของชื่อ

ชื่อของกลุ่มในภาษาเกาหลีคือ โซนยอชิแด (เกาหลี: 소녀시대) ซึ่งเป็นคำรากศัพท์ แปลเป็นภาษาเกาหลีว่า "ยุคของหญิงสาว" พวกเธอยังเป็นที่รู้จักในชื่อ โซชิ (소시) หรือ เอสเอ็นเอสดี ซึ่งชื่อทั้งสองถูกเรียกแบบย่อมาจากชื่อของกลุ่มในภาษาเกาหลี[16] และเนื่องจากชื่อของกลุ่มมีคำยืมจากภาษาจีน ทำให้ชื่อของกลุ่มในจีนและญี่ปุ่นคล้ายคลึงกัน ในญี่ปุ่นชื่อของกลุ่มออกเสียงว่า โชโจจิได (ญี่ปุ่น; 少女時代)[17] ส่วนในภาษาจีนกลางออกเสียงว่า เช่านฺหวี่ฉือไต้ (จีน: 少女时代)[18]

ประวัติ

2000–08: การรวมกลุ่มและเปิดตัว

ในช่วงเวลาก่อนการเปิดตัว สมาชิกบางกลุ่มได้เกี่ยวข้องกับวงการบันเทิงเรียบร้อยแล้วเช่น ยุนอา ผ่านการออดิชันสำหรับ มิวสิกวิดีโอ, ละคร และภาพยนตร์ มากกว่า 200 รายการ ก่อนจะกลายมาเป็นนักร้องสมาชิกเกิลส์เจเนอเรชัน[19] ซูย็อง เคยเปิดตัวในฐานะศิลปินดูโอชื่อ Route θ ที่ญี่ปุ่น ก่อนที่วงจะถูกยุบหนึ่งปีภายหลังจากการเปิดตัวในปี ค.ศ. 2002[20][21]

สมาชิกคนแรกของกลุ่มมาจากการฝึกฝนเป็นศิลปินฝึกหัดของค่ายเอสเอ็มเอนเตอร์เทนเมนต์ ซึ่งก็คือเจสสิกา ในปี ค.ศ. 2000 หลังจากที่เธอและน้องสาวของเธอ คริสตัล ช็อง ถูกพบโดยแมวมองในห้างสรรพสินค้า ขณะกำลังพักผ่อนในเกาหลี[22] ตามมาด้วยซูย็อง และฮโยย็อน ที่ได้เข้าสู่ค่ายเอสเอ็มจากการออดิชันในปี ค.ศ. 2000 ซึ่งก่อนหน้านี้ฮโยย็อนเคยเรียนเต้นสำหรับการออดิชัน ยูรีคือสมาชิกคนถัดมาที่ได้เข้าสู่ค่ายเป็นศิลปินฝึกหัดของเอสเอ็ม จากการประกวดเต้น เอสเอ็มเบสท์แดนเซอร์ ปี ค.ศ. 2001 ยุนอาเข้ามาในปี ค.ศ. 2002 จากการออดิชันโดยการร้องและเต้นเพลงของนักร้องที่เธอชื่นชอบคือ โบอา และบริตนีย์ สเปียส์[23] ซอฮย็อน คือสมาชิกกลุ่มที่อายุน้อยที่สุด ถูกพบโดยแมวมองของเอสเอ็มที่สถานีรถไฟใต้ดิน หลังจากนั้นเธอได้ออดิชันในปี ค.ศ. 2003 ด้วยการร้องเพลงเด็ก[24]

เกิลส์เจเนอเรชันขณะแสดงในการแข่งขันวอลเลย์บอลชายหาดในปี ค.ศ. 2008 ที่จัมซิลอารีนา ในโซล

แทย็อน ผู้นำกลุ่มซึ่งเข้ามาในปี ค.ศ. 2004 หลังจากชนะเลิศการประกวดร้องเพลงในรายการ เอสเอ็มยูทซิงงิงคอมเพติชัน[25][26] ในปีเดียวกัน ทิฟฟานี ได้เข้าร่วมออดิชัน หลังถูกทาบทามโดยเอสเอ็มที่ลอสแอนเจลิส และร่วมงานกับบริษัทในเดือนตุลาคม ค.ศ. 2004.[27][28] สมาชิกคนสุดท้ายคือ ซันนี ซึ่งเป็นศิลปินฝึกหัดของเอสเอ็มตั้งแต่ปี ค.ศ. 1998 และฝึกฝนเป็นเวลา 5 ปี ก่อนที่จะย้ายไปบริษัทสตาร์เวิลด์ ที่ซึ่งเธอได้ฝึกฝนเป็นศิลปินดูเอ็ตที่ชื่อว่า ชูการ์ แต่ในท้ายที่สุดก็ไม่ได้เปิดตัว จนในปี ค.ศ. 2007 ซันนีย้ายกลับมาอยู่เอสเอ็มเอนเตอร์เทนเมนต์ จากคำแนะนำของอะยุมิ ฮะมะซะกิ และกลายเป็นสมาชิกเกิลส์เจเนอเรชันในเวลาต่อมา[29]

ในเดือนกรกฎาคม ค.ศ. 2007 เกิลส์เจเนอเรชันได้เปิดตัวเป็นครั้งแรกอย่างไม่เป็นทางการในรายการ เอ็มเน็ต สคูลออฟร็อก โดยเพลงที่ใช้แสดงคือซิงเกิลชุดแรกของพวกเธอที่ชื่อ "อินทูเดอะนิวเวิลด์" (다시 만난 세계; Dasi mannan segye).[30] เกิลส์เจเนอเรชันเปิดตัวอย่างเป็นทางการครั้งแรกในวันที่ 5 สิงหาคม ค.ศ. 2007 ในรายการอินกีกาโย ทางช่องเอสบีเอส[31] หลังจากนั้นไม่นาน เกิลส์เจเนอเรชันปล่อยสตูดิโออัลบั้มชุดแรกโดยตั้งชื่อกลุ่มให้เป็นชื่ออัลบั้ม ในเดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 2007 โดยมีเพลง "เกิลส์เจเนอเรชัน" (소녀시대; Sonyeo sidae) ซึ่งรีเมกมาจากเพลงของอี ซึง-ช็อล ปี ค.ศ. 1989 และ "คิสซิงยู" เกิลส์เจเนอเรชัน จึงเป็นอัลบั้มที่ 12 ที่ขายดีที่สุดในปี ค.ศ. 2007 ของเกาหลีใต้ ด้วยยอดขาย 56,804 ชุด[32] และขายได้มากกว่า 120,000 ชุดในปี ค.ศ. 2009[33] ในเดือนมีนาคม ค.ศ. 2008 เกิลส์เจเนอเรชันออกซิงเกิลที่สี่ เบบีเบบี[34] เป็นซิงเกิลหลักของอัลบั้มรีแพคเกจในชื่อเดียวกัน, ซึ่งจัดจำหน่ายบนเว็บไซต์เพลงดิจิทัล เมื่อวันที่ 17 มีนาคม ค.ศ. 2008[35]

2009–10: ประสบความสำเร็จและการเปิดตัวในญี่ปุ่น

2011–12: ประสบความสำหรับในญี่ปุ่น, เดอะบอยส์ และการขยายตัวระหว่างประเทศ

2012–14:ไอก็อตอะบอย, ได้รับการยอมรับจากทั่วโลก และเจสสิกาออกจากการเป็นสมาชิก

ในเดือนธันวาคม ค.ศ. 2012 เกิลส์เจเนอเรชันเปิดตัวเพลง "แดนซิงควีน" ซึ่งเป็นเพลงหลักของซิงเกิลใหม่ในปี ค.ศ. 2013 โดยเป็นการปรับปรุงใหม่จากเพลง "เมอร์ซีย์" ของดัฟฟี ที่จำหน่ายในปี ค.ศ. 2008 ในวันขึ้นปีใหม่ของปี ค.ศ. 2013 เกิลส์เจเนอเรชันได้ทำการเปิดตัวอัลบั้มชุดที่สี่คือ ไอก็อตอะบอย[36] ในวันเดียวกันก็ได้ออกโทรทัศน์ในรายการพิเศษ เกิลส์เจเนอเรชันโรแมนติกแฟนตาซี ของช่องเอ็มบีซี[37] อัลบั้มชุดดังกล่าวประสบความสำเร็จอย่างมากในเกาหลีใต้ โดยอยู่ในอันดับบนสุดของแกออนอัลบั้มชาร์ต[38] อีกทั้งยังขึ้นอันดับหนึ่งของ บิลบอดส์อัลบั้มชาร์ตทั่วโลก[39] ซึ่งเพลง "ไอก็อตอะบอย" ก็ได้ขึ้นสู่อันดับหนึ่งของบิลบอดส์โคเรียเคป็อปฮ็อต 100 และแกออนดิจิทัลชาร์ต[40] กลายเป็นซิงเกิลที่ 11 ที่ขายดีที่สุดในเกาหลีใต้ โดยขายได้ทั้งหมด 1,354,672 ยูนิต[41] อีกทั้งมิวสิกวิดีโอยังได้รับรางวัลวิดีโอแห่งปีของยูทูบมิวสิกอะวอดส์ ในปี ค.ศ. 2013 เอาชนะไซ และจัสติน บีเบอร์ ที่ได้รับความนิยมเช่นเดียวกัน ซึ่งได้รับความสนใจจากสื่อตะวันตกว่าเป็นกลุ่มที่รู้จักกันน้อยเมื่อเทียบกับผู้เข้าชิงคนอื่น ๆ ในเวลานั้น[42][43][44]

เกิลส์เจเนอเรชันในปี ค.ศ. 2012

ในเดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ. 2013 เกิลส์เจเนอเรชันได้เริ่มทัวร์ใน เกิลส์ & พีซ: เจแปนทัวร์ครั้งที่ 2 จัดขึ้นรอบแรกที่เมืองโคเบะ เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์[45] ประกอบกับดีวีดีได้ออกจำหน่ายในเดือนกันยายน ค.ศ. 2013 และติดอยู่บนอันดับสูงสุดของออริคอนดีวีดีชาร์ต สามารถขายได้ 53,256 ชุด ในสัปดาห์แรกของการจำหน่าย[46] เวิลด์ทัวร์ครั้งแรกของกลุ่มเกิลส์เจเนอเรชันเวิลด์ทัวร์ เกิลส์แอนด์พีซได้ดำเนินมาตั้งแต่เดือนมิถุนายน ค.ศ. 2013 จนถึงเดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ. 2014 ประกอบด้วยสิบคอนเสิร์ตใน 7 ประเทศจากทวีปเอเชีย[47][48]

เกิลส์เจเนอเรชันได้ออกจำหน่าย Best Selection Non Stop Mix ซึ่งเป็นอัลบั้มรีมิกซ์ครั้งแรก ในเดือนมีนาคม[49] และอัลบั้มบันทึกการแสดงสด เกิลส์เจเนอเรชันทัวร์ 2011 ในเดือนเมษายน ค.ศ. 2013.[50] ติดอันดับ 6 ในออริคอนอัลบั้มชาร์ต ในขณะที่ได้ขึ้นสู่อันดับหนึ่งในแกออนชาร์ตระยะหลัง[51] เกิลส์เจเนอเรชันได้ออกจำหน่ายอัลบั้มญี่ปุ่นชุดที่ 3 Love & Peace และวางจำหน่ายในเดือน ธันวาคม ค.ศ. 2013[52] เมื่อเปิดตัวอัลบั้มได้เพียงสัปดาห์ ก็สามารถขึ้นสู่อันดับหนึ่งในออริคอนอัลบั้มชาร์ต และขายได้มากกว่า 129,000 ชุดในสัปดาห์แรก[53][54] สองซิงเกิลในอัลบั้ม "เลิฟ & เกิลส์" และ "แกแล็กซีซูเปอร์โนวา" ติดอันดับที่สี่และที่สามบนออริคอนชาร์ตตามลำดับ

เกิลส์เจเนอเรชันได้ออกจำหน่ายอีพีที่ 4 Mr.Mr และวางจำหน่ายในเดือนกุมภาพันธ์ 2014[55] ต่อมาได้ขึ้นสู่อันดับหนึ่งบนแกออนอัลบั้มชาร์ตหลังจากการจำหน่าย[56] อีพีดังกล่าวเป็นอีพีที่ 4 ที่มียอดขายที่สูงสุดของเกาหลีใต้ในปี ค.ศ. 2014 ซึ่งขายได้ทั้งหมด 163,209 ชุด[57] ในสหรัฐอเมริกา อีพีนี้เปิดตัวด้วยอันดับที่ 110 บนบิลบอร์ด 200 และขายได้ 3,000 ชุดในสัปดาห์แรก[58] ซึ่ง "Mr.Mr." สามารถขึ้นสู่อันดับสูงสุดบน แกออนดิจิทัลชาร์ต และขายได้ 906,962 ชุด ในปี ค.ศ. 2014 กลายเป็นดิจิทัลอัลบั้มที่ 46 ที่ขายดีที่สุดในเกาหลีใต้[59][60]

ในเดือนกรกฎาคม ค.ศ. 2014 ได้ออกจำหน่าย เดอะเบสต์ เป็นอัลบั้มยอดฮิตของญี่ปุ่นครั้งแรก ซึ่งประกอบด้วยซิงเกิลที่แล้วของกลุ่มและเพลงใหม่ 4 เพลง คือ "Indestructible", "Divine", "Show Girls", และ "Chain Reaction" ติดอันดับสูงสุดบนออริคอนอัลบั้มชาร์ต 2 สัปดาห์ติดต่อกัน และขายได้มากกว่า 175,000 ชุดในญี่ปุ่น[61][62] ด้วยอัลบั้ม ไThe Best ติดอันดับสูงสุดบน ออริคอนอัลบั้มชาร์ต เกิลส์เจเนอเรชันจึงกลายเป็นกลุ่มศิลปินหญิงนอกญี่ปุ่นในเอเชียกลุ่มแรกที่ติดอันดับสูงสุดบน 3 อัลบั้มชาร์ต[63] และได้ทำการแสดงคอนเสิร์ตที่ 3 ในญี่ปุ่นคือ เลิฟ & พีซ ในเดือนเดียวกัน ซึ่งริเริ่มที่ฟุกุโอะกะ ในเดือนเมษายน ค.ศ. 2014 โดยเกิลส์เจเนอเรชันได้ทำการแสดงทั้งหมด 17 ครั้ง ใน 7 เมืองของญี่ปุ่น รวมถึง โอซะกะ, นะโงะยะ และ โตเกียว ใน 3 ทัวร์คอนเสิร์ตตั้งแต่ปี ค.ศ. 2011 เกิลส์เจเนอเรชันสามารถดึงดูดผู้ชมได้เรื่อย ๆ รวม 550,000 คน สร้างสถิติใหม่สำหรับเกิร์ลกรุปแนวเคป็อป[64]

เมื่อวันที่ 29 กันยายน ค.ศ. 2014 เจสสิกาประกาศว่าเธอได้ถูกถอดออกจากวง ภายหลังเอสเอ็มเอนเตอร์เทนเมนต์ได้ออกมายืนยันเรื่องดังกล่าวและระบุว่าเจสสิกาได้พ้นสภาพการเป็นสมาชิกเกิลส์เจเนอเรชัน เนื่องจากความขัดแย้งระหว่างเธอกับตารางงานของกลุ่ม โดยเกิลส์เจเนอเรชันยังคงดำเนินต่อด้วยสมาชิกที่เหลือเพียง 8 คนหลังจากนี้[65] สมาชิกแปดคนที่เหลืออยู่ยังคงดำเนินกิจกรรมของกลุ่มต่อ โดยจัดคอนเสิร์ตที่ โตเกียวโดม เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม ค.ศ. 2014 และขายตั๋วออกทั้งหมด 50,000 ใบ[66] ส่วนบันทึกการแสดงได้จัดจำหน่ายรูปแบบดีวีดี ในเดือนเมษายน ค.ศ. 2015 ซึ่งได้ติดอันดับสูงสุดทั้งในออริคอนดีวีดี และบลูเรย์ชาร์ตพร้อมกัน[67]

2015–2016: ไลออนฮาร์ต

เกิลส์เจเนอเรชันในการแสดง "ไลออนฮาร์ต" ใน KBS Gayo Daechukje เมื่อเดือนธันวาคม ค.ศ. 2015

ในเดือนมีนาคม ค.ศ. 2015 เกิลส์เจเนอเรชันประกาศปล่อยซิงเกิล "แคชมีอิฟยูแคน" ซึ่งเป็นซิงเกิลแรกที่มีสมาชิกเพียงแปดคน [68] โดยได้บันทึกเสียงทั้งในภาษาเกาหลีและญี่ปุ่น; รูปแบบเกาหลีได้จำหน่ายทั่วโลก เมื่อวันที่ 10 เมษายน[69] ขณะที่รูปแบบญี่ปุ่นจำหน่ายเมื่อวันที่ 22 เมษายน ค.ศ. 2015[70] ติดอันดับที่ 19 ในแกออนดิจิทัลชาร์ต และอันดับที่ 8 ในออริคอนซิงเกิลส์ชาร์ต[71]

เกิลส์เจเนอเรชันได้เผยแพร่ภาพปกของอัลบั้ม ไลออนฮาร์ต เมื่อวันที่ 12 กันยายน ค.ศ. 2015[72] และออกจำหน่ายในเวลาต่อมาเมื่อวันที่ 19 สิงหาคม ค.ศ. 2015 [73] อัลบั้มดังกล่าวสามารถขึ้นสู่อันดับสูงสุดบนแกออนอัลบั้มชาร์ต[74] และอันดับที่ 11 บนออรีคอนอัลบั้มชาร์ต[75] ตามมาด้วยแกออนมิวสิกชาร์ต ไลออนฮาตส์ กลายเป็นอัลบั้มที่ 13 ที่ขายดีที่สุดในเกาหลีใต้ของปี ค.ศ. 2015 ด้วยยอดขาย 145,044 ชุด[76]

"ปาร์ตี" ได้ออกจำหน่ายเป็นซิงเกิลนำจากอัลบั้ม ไลออนฮาตส์ เมื่อเดือนกรกฎาคม ค.ศ. 2015[77] ยอดขายขึ้นสู่อันดับสูงสุดบนแกออนดิจิทัลชาร์ต,[78] อันดับ 10 บน เจแปนฮ็อต 100,[79] และอันดับที่ 4 บน บิลบอร์ดเวิลด์ดิจิทัลซองส์[80] หลังจากที่ได้ปล่อยซิงเกิล "ปาร์ตี" ก็สามารถขึ้นไปอยู่อันดับที่ 44 บนบิลบอร์ด โซเชียล 50 เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม ค.ศ. 2015[81] อาทิตย์ถัดมาก็ขึ้นสู่อันดับที่ 22 บนชาร์ตโรส[82] ซิงเกิลต่อมา "ไลออนฮาร์ต" และ "ยูทิงก์" ได้วางจำหน่ายพร้อมกับอัลบั้มรวม มียอดขายเป็นอันดับที่ 4 และ 30 บนแกออนดิจิทัลชาร์ตตามลำดับ.[83]

เกิลส์เจเนอเรชันได้เริ่มทำรายการโทรทัศน์ในชื่อ แชแนลเกิลส์เจเนอเรชัน ในการโปรโมตอัลบั้ม[84] ต่อมาได้ลงมือจัดคอนเสิร์ตที่ 4 เกิลส์เจเนอเรชันแฟนเทเชีย เริ่มตั้งแต่วันที่ 21 พฤศจิกายน ค.ศ. 2015 ในโซล ทำให้เกิลส์เจเนอเรชันกลายเป็นกลุ่มศิลปินหญิงกลุ่มแรกที่จัดทัวร์คอนเสิร์ตถึง 4 ครั้ง[85] และได้จัดคอนเสิร์ต เจแปนทัวร์ ครั้งที่ 4 เริ่มเมื่อวันที่ 12 ธันนวาคม ค.ศ. 2015 ที่นาโงะยะ[86] ในเดือนธันวาคม ค.ศ. 2015 แกออนมิวสิกชาร์ตได้ประกาศว่าเกิลส์เจเนอเรชันเป็นเกิร์ลกรุปที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในเกาหลีใต้ โดยมียอดขายมากกว่า 398,000 อัลบั้ม[87]

ในเดือนสิงหาคม ค.ศ. 2016 ได้วางจำหน่ายซิงเกิล "Sailing (8025)" ในการฉลองปีที่ 9 ของกลุ่มนับตั้งแต่เปิดตัวมา เนื้อเพลงแต่งโดยซูย็อง โดยเป็นการพูดถึงความสัมพันธ์ระหว่างกลุ่มกับแฟนเพลง[88]

2017–2021: ฮอลิเดย์ไนต์ และการพักวง

ในเดือนกรกฎาคม ค.ศ. 2017 เกิลส์เจเนอเรชันประกาศอย่างเป็นทางการว่าอัลบั้มภาษาเกาหลีชุดที่หกจะวางจำหน่ายในเดือนสิงหาคม ค.ศ. 2017 เพื่อเฉลิมฉลองที่กลุ่มมีอายุครบรอบ 10 ปี นับตั้งแต่เปิดตัว[89] อัลบั้มชื่อ ฮอลิเดย์ไนต์ วางจำหน่ายวันที่ 4 สิงหาคม ค.ศ. 2017 เพื่อเป็นการส่งเสริมอัลบั้ม เกิลส์เจเนอเรชันได้จัดคอนเสิร์ต "ฮอลิเดย์รีเมมเบอร์" ในวันที่ 5 สิงหาคม ค.ศ. 2017 ที่อุทยานโอลิมปิกโซล[90] หลังจากอัลบั้มออกมา อัลบั้มทำลายสถิติยอดขายเปิดตัวสูงที่สุดของกลุ่มซึ่งมากกว่าอัลบั้ม เดอะบอยส์ ที่ทำสถิติไว้ในปี ค.ศ. 2011[91] อัลบั้มของพวกเธอเปิดตัวสูงสุดบน บิลบอร์ด เวิลด์อัลบั้มชาร์ต และอันดับที่ 2 บนแกออนอัลบั้มชาร์ตในเกาหลีใต้[92]

ในเดือนตุลาคม ค.ศ. 2017 เอสเอ็มเอนเตอร์เทนเมนต์ประกาศว่า ทิฟฟานี, ซูย็อง และซอฮย็อน ตัดสินใจไม่ต่อสัญญากับต้นสังกัด เพื่อมุ่งเน้นทางด้านงานแสดงของพวกเธอ อย่างไรก็ตาม การทำกิจกรรมของเกิลส์เจเนอเรชันยังคงดำเนินต่อไปด้วยสมาชิก 8 คนนั้นยังมีการพูดคุยกันอยู่ โดยยังไม่แน่ชัดว่ากลุ่มจะยังคงดำเนินต่อด้วยสมาชิก 8 คน หรือเปลี่ยนสถานะกลุ่มเป็น 5 คน[93]

2022–ปัจจุบัน: การรวมตัวครบรอบ 15 ปี และฟอร์เอเวอร์ 1

สมาชิก

สมาชิกปัจจุบัน

ชื่อในวงการ ชื่อเกิด วันเกิด ตำแหน่ง
ไทย เกาหลี ไทย เกาหลี
แทย็อน 태연 คิม แทยอน 김태연 (1989-03-09) 9 มีนาคม ค.ศ. 1989 (35 ปี) หัวหน้าวง นักร้องเสียงหลัก
ซันนี 써니 อี ซุน-กยู 이순규 (1989-05-15) 15 พฤษภาคม ค.ศ. 1989 (34 ปี) นักร้องนำ
ทิฟฟานี 티파니 สเตฟานี ยัง 스테파니 영 황, 황미영 (1989-08-01) 1 สิงหาคม ค.ศ. 1989 (34 ปี) นักร้องเสียงหลัก แร็ปเปอร์นำ
ฮโยย็อน 효연 คิม ฮโย-ย็อน 김효연 (1989-09-23) 23 กันยายน ค.ศ. 1989 (34 ปี) นักร้องสนับสนุน นักเต้นหลัก แร็ปเปอร์หลัก
ยูรี 유리 คว็อน ยู-รี 권유리 (1989-12-05) 5 ธันวาคม ค.ศ. 1989 (34 ปี) นักร้องเสริม นักเต้นนำ แร็ปเปอร์
ชเว ซู-ย็อง 수영 ชเว ซู-ย็อง 최수영 (1990-02-10) 10 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1990 (34 ปี) นักร้องเสริม นักเต้นนำ แร็ปเปอร์
ยุนอา 윤아 อิม ยุน-อา 임윤아 (1990-05-30) 30 พฤษภาคม ค.ศ. 1990 (33 ปี) นักร้องสนับสนุน นักเต้นนำ แร็ปเปอร์ เซ็นเตอร์ ภาพลักษณ์
ซอฮย็อน 서현 ซอ จู-ฮย็อน 서주현 (1991-06-28) 28 มิถุนายน ค.ศ. 1991 (32 ปี) นักร้องนำ, มักเน่

อดีตสมาชิก

ชื่อในวงการ ชื่อเกิด วันเกิด ตำแหน่ง
ไทย เกาหลี ไทย เกาหลี
เจสซิกา 제시카 จ็อง ซู-ย็อน 제시카 정, 정 수연 (1989-04-18) 18 เมษายน ค.ศ. 1989 (34 ปี) นักร้องเสียงหลัก

งานดนตรี

แนวดนตรี

เนื้อเพลงและรูปแบบเพลง

ภาพลักษณ์

กลุ่มย่อย

ในเดือนเมษายน ค.ศ. 2012 เอสเอ็มเอนเตอร์เทนเมนต์ประกาศว่าเกิลส์เจเนอเรชันจะเปิดตัวกลุ่มย่อยอย่างเป็นทางการในชื่อ เกิลส์เจเนอเรชัน-ทีทีเอส ประกอบด้วย แทย็อน, ทิฟฟานี และซอฮย็อน เปิดตัวด้วยด้วยอีพีแรกชื่อ ทวิงเกิล เมื่อวันที่ 29 เมษายน ค.ศ. 2012 โดยเอสเอ็มเอนเตอร์เทนเมนต์แถลงว่า "กลุ่มย่อยจะพยายามดึงดูดความสนใจจากแฟนในทั้งด้านดนตรี การแสดง และแฟชัน"[94]

ผลงาน

ทัวร์

รางวัล

อ้างอิง

  1. "Spotlight: Girls' Generation sets their sights on taking America with 'The Boys'". Toyazworld. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-02-25. สืบค้นเมื่อ 30 November 2011.
  2. "London is going K-Pop crazy". MusicAsia. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2011-11-20. สืบค้นเมื่อ 30 November 2011.
  3. "BREAKING: SM ENTERTAINMENT ANNOUNCES JESSICA WILL NO LONGER BE PART OF GIRLS' GENERATION". Koreaboo. 30 September 2014. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2014-10-03. สืบค้นเมื่อ 2016-10-18.
  4. "[Breaking] SM Entertainment releases official statement regarding Jessica and Girls' Generation". allkpop. 30 September 2014.
  5. "04.29.11 Girls' Generation 'Gee' Tops MelOn 2000′s Chart, Crowned K-Pop Song of the Decade". Soshified. สืบค้นเมื่อ 21 January 2013.
  6. 6.0 6.1 Son Yong (24 February 2011). "Korea Power Celebrity 40" (ภาษาเกาหลี). magazine.joinsmsn.com/forbes. สืบค้นเมื่อ 25 November 2012.
  7. McCurry, Justin. "After Psy's Gangnam Style, here come Korea pop princesses Girls' Generation". The Guardian. สืบค้นเมื่อ 17 November 2012.
  8. "2010년 올해의 10대 가수와 가요" (ภาษาเกาหลี). Gallup Korea. November 17, 2010. สืบค้นเมื่อ November 25, 2012.
  9. "Girls' Generation Is The Most Influential Celebrity in Korea". Soshified. สืบค้นเมื่อ 21 January 2013.
  10. 아시아투데이 선정...한국의 파워리더 50인 Asia Today. 31 Desember 2010.
  11. 朝日新聞デジタル:朝日新聞社のニュースサイト
  12. Dong-Joo, Kim (1 May 2012). "Girls' Genation's unit group becomes the first Korean singers to rank in TOP5". omg!. Yahoo!. สืบค้นเมื่อ 1 May 2012.
  13. "Update: Girls' Generation Releases 'I Got A Boy' and Receives an All-Kill on Korean Charts". Soshified. สืบค้นเมื่อ 13 January 2013.
  14. "'I Got A Boy' Debuts at #1 on Billboard's 'World Albums' Chart". Soshified. สืบค้นเมื่อ 13 January 2013.
  15. "Girls' Generation Reveals Second Japan Tour Schedule". Soshified. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2012-11-15. สืบค้นเมื่อ 13 January 2013.
  16. "(Korean) 걸그룹 이름 뜻, 숨겨진 의미에 '그렇구나'". Nate. 15 April 2012. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-01-13. สืบค้นเมื่อ 23 February 2013.
  17. Mark Schreiber (Sep 2, 2012). "Will the Takeshima dispute break the Korean wave?". japantimes.co.jp. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-09-22. สืบค้นเมื่อ April 1, 2013.
  18. "SM娱乐官方声明确认郑秀妍退团 少女时代将由8人活动" [SM Announce That SNSD Will Have 8 Members Following Jessica's Departure] (ภาษาจีน). China Radio International. September 30, 2014. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2014-11-05. สืบค้นเมื่อ May 2, 2015.
  19. 윤아 '연기 오디션 200번, 자신감 있는 태도 중요' [Yoona '200 acting auditions, confident attitude is important'] (ภาษาเกาหลี). Nate News. December 1, 2013. สืบค้นเมื่อ November 18, 2014.
  20. "Route 0 – profile" (ภาษาญี่ปุ่น). R&C Japan Ltd. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ February 16, 2006.
  21. Song Hye-jin (February 12, 2009). 데뷔 7년차 중견가수, '소녀시대' 멤버가 되다 [7 singers debut mid-year, 'Girls' Generation' ranked]. The Chosun Ilbo (ภาษาเกาหลี). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-03-04. สืบค้นเมื่อ February 26, 2015.
  22. "제시카, '관객 앞에서의 제 목소리에 감동했어요' (Jessica 'the audience was impressed with the voice')" เก็บถาวร 2011-07-08 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน (in Korean). The Chosun Ilbo. February 18, 2009. Retrieved April 28, 2015.
  23. SM Town (2012). I AM: SMTOWN Live World Tour in Madison Square Garden (Blu-Ray). New York, U.S.: S.M. Entertainment.
  24. "SNSD's Seohyun-f(x)'s Sulli past auditions 'Infinite Challenge' surprise audience" 소녀시대 서현-에프엑스 설리 과거 오디션 '무한도전' 깜짝등장. JoongAng Ilbo (ภาษาเกาหลี). July 24, 2010. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ January 3, 2015.
  25. Kim Soe-jung (January 18, 2008). "Schools for stardom groom pop wannabes". JoongAng Ilbo. สืบค้นเมื่อ February 26, 2015.
  26. "Girls' Generation Making Its American Dream Come True". Billboard Korea. November 13, 2011. สืบค้นเมื่อ February 26, 2015.
  27. "소녀시대 티파니 'LA 축제서 캐스팅'" [SNSD's Tiffany 'LA festival casting'] (ภาษาเกาหลี). Newsen. August 1, 2007. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ October 29, 2013. สืบค้นเมื่อ May 3, 2015.
  28. 홀로 숙소 지키는 티파니 '이제서야 외로움이 몰려와요' [Tiffany keeps the hostel alone]. The Chosun Ilbo (ภาษาเกาหลี). February 13, 2009. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2011-07-08. สืบค้นเมื่อ April 28, 2015.
  29. "소녀시대 써니 SM 이수만 친조카 '슈가 후속 그룹 멤버 될 뻔'". The Asia Economy Daily (ภาษาเกาหลี). November 30, 2007. สืบค้นเมื่อ June 15, 2010.
  30. 소녀시대, 19일 데뷔곡 '다시 만난 세계' 공개 [Girls' Generation debut song released on the 19th] (ภาษาเกาหลี). iNews24. July 17, 2007. สืบค้นเมื่อ April 28, 2015.
  31. 소녀시대, 8월 5일 '인기가요'서 데뷔식 치른다 [Girls' Generation debut on 'Inkigayo' on August 5]. Korea Economic Daily (ภาษาเกาหลี). July 30, 2007. สืบค้นเมื่อ April 28, 2015.
  32. 2007.총결산 판매량 [2007 Statistics] (ภาษาเกาหลี). Music Industry Association of Korea. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ February 28, 2009.
  33. 소녀시대, 올 첫 10만장 돌파..2연속 10만장 판매 [Girls' Generation, two albums exceeding 100 thousand sales mark] (ภาษาเกาหลี). Star News. March 17, 2009. สืบค้นเมื่อ April 28, 2015.
  34. "Baby Baby (소녀시대 Repackage)" (ภาษาเกาหลี). Melon. สืบค้นเมื่อ April 28, 2015.
  35. 팬들 아쉬워 [Disappointed fans] (ภาษาเกาหลี). Newsen. April 13, 2008. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ November 29, 2014. สืบค้นเมื่อ May 3, 2015.
  36. "I Got a Boy by Girls' Generation". iTunes Store US. Apple Inc. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ February 9, 2014.
  37. Sunwoo, Carla (January 3, 2013). "Girls' Generation tops the charts again". JoongAng Ilbo. สืบค้นเมื่อ February 26, 2015.
  38. "Gaon Album Chart: Week 2 of 2013" (ภาษาเกาหลี). Gaon Album Chart. Gaon Music Chart. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ March 25, 2015.
  39. "World Albums: January 19, 2013". Billboard. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ May 24, 2013.
  40. "I Got a Boy" chart positions:
  41. "Download Chart: 2013 (Year-End)" (ภาษาเกาหลี). Gaon Download Chart. Gaon Music Chart. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ February 28, 2014.
  42. Rothman, Lily (November 4, 2013). "Who Is Girls Generation, the Group That Beat Bieber for Video of the Year?". Time. สืบค้นเมื่อ April 30, 2015.
  43. "K-pop group Girls' Generation beats Miley, Lady Gaga at first YouTube awards". CNN. November 4, 2013. สืบค้นเมื่อ April 30, 2015.
  44. Holpuch, Amanda (November 4, 2013). "YouTube music awards make chaotic and messy debut". The Guardian. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ March 11, 2014.
  45. "少女時代「Oh!」日本版ビジュアル公開&アリーナツアー" [Girls' Generation's music video 'Oh!' for visual public and arena tour] (ภาษาญี่ปุ่น). Natalie. September 15, 2012. สืบค้นเมื่อ December 3, 2012.
  46. "【オリコン】少女時代、3作目のDVD総合首位 海外女性歴代1位タイ" [Girls' Generation's third DVD top the chart] (ภาษาญี่ปุ่น). Oricon. September 25, 2013. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ October 16, 2013.
  47. 소녀시대, 드디어 월드투어 나선다. 6월 8, 9일에는 서울서 2년 만에 단독 콘서 트 [Girls' Generation to hold concerts in Seoul on June 8 and 9, the first in two years]. The Chosun Ilbo (ภาษาเกาหลี). April 26, 2013. สืบค้นเมื่อ April 26, 2013.
  48. Jackson, Julie (June 5, 2013). "Girls' Generation to embark on first world tour". Korea Herald. สืบค้นเมื่อ May 14, 2015.
  49. "少女時代 初のオフィシャルMIX CD発売決定!!" [Girls' Generation First Mix CD Released] (ภาษาญี่ปุ่น). Universal Music Japan. สืบค้นเมื่อ February 13, 2013.
  50. 소녀시대, 콘서트 실황 담은 라이브 앨범 11일 발매 [Girls' Generation's live concert album to reveal in 11 days]. The Chosun Ilbo (ภาษาเกาหลี). April 5, 2013. สืบค้นเมื่อ January 27, 2015.
  51. "Gaon Album Chart: Week 2, 2011" (ภาษาเกาหลี). Gaon Album Chart. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ March 25, 2015.
  52. "少女時代 待望の3rdアルバムのタイトル・トラックリストが遂に解禁" [Girls' Generation's 3rd studio album to be released] (ภาษาญี่ปุ่น). Universal Music Japan. November 21, 2013.
  53. "2013年12月09日〜2013年12月15日のCDアルバム週間ランキング" [Weekly CD Chart: Week of December 9–15, 2013] (ภาษาญี่ปุ่น). Oricon. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ December 23, 2013.
  54. "December 2013 Report" (ภาษาญี่ปุ่น). Recording Industry Association of Japan. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ January 16, 2014.
  55. "Girls' Generation unveils new album on iTunes". GlobalPost. February 24, 2014. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-03-05. สืบค้นเมื่อ April 30, 2015.
  56. "Gaon Album Chart: Week 10 of 2014" (ภาษาเกาหลี). Gaon Album Chart. Gaon Music Chart. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ February 6, 2015.
  57. "Gaon Album Chart: 2014 (Year-End)" (ภาษาเกาหลี). Gaon Album Chart. Gaon Music Chart. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ January 14, 2015.
  58. Benjamin, Jeff (March 5, 2014). "Girls' Generation Hits the Billboard 200". Billboard. สืบค้นเมื่อ March 6, 2014.
  59. "Gaon Digital Chart: Week 10, 2014" (ภาษาเกาหลี). Gaon Digital Chart. Gaon Music Chart. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ July 24, 2014.
  60. "Gaon Digital Chart: 2014" (ภาษาเกาหลี). Gaon Digital Chart. Gaon Music Chart. สืบค้นเมื่อ April 30, 2015.
  61. "Girls' Generation tops Japanese chart for second week". The Korea Times. August 5, 2014. สืบค้นเมื่อ December 30, 2014.
  62. 2014年 年間音楽&映像ランキング発表 [2014 Year-End Album Chart] (ภาษาญี่ปุ่น). Oricon. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ December 20, 2014.
  63. "Girls' Generation rewrites history of Oricon chart". The Korea Herald. August 5, 2014. สืบค้นเมื่อ January 1, 2015.
  64. 64.0 64.1 "SNSD draws 200,000 fans to 3rd Japan concert tour". The Korea Herald. July 14, 2014. สืบค้นเมื่อ July 22, 2014.
  65. "K-Pop Earthquake: Girls' Generation Member Jessica Jung Ousted". The Wall Street Journal. September 30, 2014. สืบค้นเมื่อ September 30, 2014.
  66. 소녀시대, 도쿄 첫 단독 공연 '매진' [Girls' Generation's first solo concert sold out] (ภาษาเกาหลี). Korean Broadcasting System. December 11, 2014. สืบค้นเมื่อ December 11, 2014.
  67. "【オリコン】少女時代、東京ドーム公演DVD&BD1位 海外歌手歴代トップに" [Girls' Generation's DVD top both Oricon DVD and Blu-ray charts] (ภาษาญี่ปุ่น). Oricon. April 8, 2015. สืบค้นเมื่อ May 30, 2015.
  68. Benjamin, Jeff (March 23, 2015). "Girls' Generation Announce First New Music Without Jessica Jung". Billboard. สืบค้นเมื่อ April 30, 2015.
  69. "South Korean release: 소녀시대 – Catch Me If You Can" (ภาษาเกาหลี). Hanteo. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2015-04-18. สืบค้นเมื่อ April 18, 2015.
  70. "Girls' Generation Discography – Catch Me If You Can" (ภาษาญี่ปุ่น). Universal Music Japan. สืบค้นเมื่อ April 19, 2015.
  71. "South Korean Gaon Chart: Singles – The 17th Week of 2015" (ภาษาเกาหลี). Gaon Digital Chart. สืบค้นเมื่อ April 23, 2015.
  72. Benjamin, Jeff (August 12, 2015). "Girls' Generation Reveal Retro 'Lion Heart' Album Cover, Unconventional Release Strategy". Billboard. สืบค้นเมื่อ April 5, 2016.
  73. "Girls' Generation Discography: Lion Heart" (ภาษาเกาหลี). S.M. Entertainment. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-04-24. สืบค้นเมื่อ 2016-12-31.
  74. "Album Chart: Week of August 16, 2015" (ภาษาเกาหลี). Gaon Album Chart. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ August 27, 2015.
  75. "Oricon Albums Chart: August 31, 2015" (ภาษาญี่ปุ่น). Oricon. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ August 26, 2015.
  76. "Album Chart: 2015 (Year-End)" (ภาษาเกาหลี). Gaon Album Chart. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-11-15. สืบค้นเมื่อ 2016-12-31.
  77. "Girls' Generation's 'Party' tops music charts in Asia". The Malay Mail. July 8, 2015. สืบค้นเมื่อ April 5, 2016.
  78. "Download Chart: Week of July 5, 2015" (ภาษาเกาหลี). Gaon Download Chart. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ July 16, 2015.
  79. "Japan Hot 100: 2015.07.27". Billboard (ภาษาญี่ปุ่น). สืบค้นเมื่อ July 28, 2015.
  80. "World Digital Songs: July 25, 2015". Billboard. สืบค้นเมื่อ July 28, 2015.
  81. "Social 50: August 1, 2015". Billboard. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ July 24, 2015.
  82. "Social 50: August 8, 2015". Billboard. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ July 31, 2015.
  83. "Gaon Digital Chart: August 16–22, 2015" (ภาษาเกาหลี). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ March 4, 2016.
  84. Ko Ji-seon (July 20, 2015). "SNSD members to produce their own shows". The Korea Herald. สืบค้นเมื่อ April 5, 2016.
  85. "Girls Generation Marked as 1st S.K Girl Group Holding 4th Concert". China Radio International. November 23, 2015. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2015-12-22. สืบค้นเมื่อ December 16, 2015.
  86. "Girls' Generation Embark on '4th Japan Tour'" (ภาษาเกาหลี). Star News. December 13, 2015. สืบค้นเมื่อ March 25, 2016.
  87. "Girls' Generation gets 'A+' for their work". The Korea Times. December 23, 2015. สืบค้นเมื่อ May 17, 2016.
  88. Herman, Tamar (August 5, 2016). "Girls' Generation Celebrates 9th Anniversary With 'Sailing'". Billboard. สืบค้นเมื่อ August 5, 2016.
  89. "Girls' Generation to release sixth full-length album next month". Yonhap News. July 27, 2017. สืบค้นเมื่อ July 27, 2017.
  90. Yoon Min-sik (July 4, 2017). "Girls' Generation celebrates 10-year anniversary with new album". The Korea Herald. สืบค้นเมื่อ July 4, 2017.
  91. Lee Moon-won (August 16, 2017). "소녀시대, 아직 은퇴는 이르다". Sports World (ภาษาเกาหลี). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2017-08-16. สืบค้นเมื่อ August 16, 2017.
  92. "Gaon Album Chart – Week 32, 2017". Gaon Chart (ภาษาเกาหลี). สืบค้นเมื่อ August 17, 2017.
  93. "Girls' Generation's Tiffany, Sooyoung and Seohyun to leave S.M. Entertainment: sources". Yonhap. October 10, 2017. สืบค้นเมื่อ October 10, 2017.
  94. taengsoshi (April 19, 2012). "Taeyeon, Tiffany, and Seohyun to Release Mini-Album on May 2nd". soshified.com.
  95. Han Sang-hee (December 21, 2009). "Girls' Generation Impresses Fans With First Concert". The Korea Times. สืบค้นเมื่อ April 30, 2015.
  96. Kwon Mee-yoo (July 26, 2011). "Girls' Generation ― it's the girls' time!". The Korea Times. สืบค้นเมื่อ April 30, 2015.
  97. "Girls' Generation to rock Singapore on October 12". MSN. August 15, 2013. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ December 12, 2013.
  98. Kim Soo-hyang (February 1, 2016). "Girls' Generation concert in Bangkok". The Korea Herald. สืบค้นเมื่อ April 20, 2016.
  99. "Girls' Generation Events" (ภาษาญี่ปุ่น). Girls' Generation Japanese official website. สืบค้นเมื่อ April 30, 2015.
  100. "Events: Page 2" (ภาษาญี่ปุ่น). Girls' Generation Japanese official website. สืบค้นเมื่อ April 30, 2015.
  101. "SNSD holding first Tokyo Dome concert in December". The Korea Herald. August 25, 2014. สืบค้นเมื่อ April 8, 2016.
  102. "[Korea] Watch SMTOWN LIVE '08 and Tour Korea". Korea Tourism Organization. July 8, 2008. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-04-21. สืบค้นเมื่อ April 21, 2016.
  103. Hicap, Jonathan (July 3, 2010). "SM Entertainment artists including Super Junior to hold world tour". Manila Bulletin. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ July 16, 2010.
  104. "BoA, DBSK, Super Junior and the Rest of SMTown Shake Things Up in Taiwan". CJ E&M. June 11, 2012. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-02-02. สืบค้นเมื่อ May 1, 2015.
  105. "Girls' Generation to hold year-end concert Dec. 22". The Korea Times. November 22, 2013. สืบค้นเมื่อ April 22, 2016.
  106. Jeon Ah Ram (October 7, 2014). "SNSD Performs as Eight for 'SM Town Live' in Tokyo". CJ E&M. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2015-05-01. สืบค้นเมื่อ May 1, 2015.
  107. "SMTOWN LIVE, 오사카 쿄세라돔 공연 '9만 관객 열광'" (ภาษาเกาหลี). The Chosun Ilbo. July 18, 2016. สืบค้นเมื่อ July 30, 2016.

แหล่งข้อมูลอื่น