อัฐพล เอื้ออารี
ข้อมูลส่วนบุคคล | |||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
เกิด | 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2532 จังหวัดลำปาง ประเทศไทย | ||||||||||||||||
การศึกษา | ปริญญาโท รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี | ||||||||||||||||
ส่วนสูง | 5 ft 9 in (1.75 m) | ||||||||||||||||
น้ำหนัก | 171 ปอนด์ (78 กิโลกรัม) (72 กก.) | ||||||||||||||||
กีฬา | |||||||||||||||||
กีฬา | ยิงปืน | ||||||||||||||||
ผู้ฝึกสอน | พันตำรวจโท จักรพงษ์ วงศ์พิทักษ์กุล | ||||||||||||||||
รายการเหรียญรางวัล
|
อัฐพล เอื้ออารี ชื่อเล่น ทอมมี่ นักกีฬายิงปืน ประเภทปืนยาวท่านอนชาย จากจังหวัดลำปาง เป็นคนแรกของไทยที่สร้างประวัติศาสตร์ผ่านเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศ ด้วยผลงาน 625.3 คะแนน ในการแข่งขันโอลิมปิกฤดูร้อน 2016 ณ เมืองรีโอเดจาเนโร ประเทศบราซิล
ประวัติ[แก้]
อัฐพล เอื้ออารี ชื่อเล่น ทอมมี่ เกิดวันที่ 18 พฤศจิกายน 2532 อายุ 34 ปี เป็นบุตรชายคนเล็กของ ร้อยตำรวจโท อุดม เอื้ออารี และ นางทับทิม เอื้ออารี มีพี่น้องทั้งหมดรวมกัน 3 คน หญิง 2 คน ชาย 1 คน อัฐพลเป็นชาวอำเภอเถิน จังหวัดลำปาง โดยกำเนิด ปัจจุบันกำลังศึกษาต่อระดับปริญญาโท สาขาวิชารัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี
เส้นทางยิงปืน[แก้]
อัฐพล เริ่มเข้าสู่วงการยิงปืนตั้งแต่อายุ 15 ปี ในเดือนตุลาคม ปี 2547 จากการชักชวนของบิดา โดยได้รับการฝึกสอนยิงปืนจาก พ.ต.ท.จักรพงศ์ วงศ์พิทักษ์กุล ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาของบิดาในขณะนั้น การฝึกซ้อมและการแข่งขันครั้งแรกนั้นเริ่มจากการยิงปืนประเภทปืนยาวอัดลมชายมาก่อน หลังจากนั้นปลี่ยนมาเป็นปืนยาว .22 แข่งประเภทปืนยาว 3 ท่าชาย และปืนยาวท่านอนชายในภายหลัง จากความมุ่งมั่นและความตั้งใจในการฝึกซ้อมยิงปืนอย่างจริงจัง เดือนสิงหาคม ปี 2548 บิดามารดาได้ใช้ทุนส่วนตัวส่งอัฐพลเข้าร่วมการแข่งขันยิงปืนระดับนานาชาติเป็นครั้งแรกตอนอายุ 16 ปี และสามารถคว้าเหรียญทองปืนยาวท่านอนบุคคลชายมาครองได้สำเร็จ รายการ Singapore Open Shooting Championships 2006 ณ ประเทศสิงคโปร์ ในปี 2549 อัฐพลเกือบจะได้เป็นตัวแทนทีมชาติลุยศึกเอเชียนเกมส์ที่เมืองโดฮา ประเทศกาตาร์ แต่พลาดไปในการคัดตัวรอบสุดท้าย
จนกระทั่ง ปี 2550 อัฐพลนักแม่นปืนใหม่แกะกล่องของวงการปืนไทย และเพิ่งจะประเดิมสนามเแข่งขันในนามทีมชาติเต็มตัวเป็นครั้งแรก ในการแข่งขันซีเกมส์ ครั้งที่ 24 ณ ประเทศไทย ด้วยความที่เป็นมือปืนน้องใหม่ และเป็นมือปืน "ม้านอกสายตา" แต่อัฐพลได้แจ้งเกิดอย่างยิ่งใหญ่ให้ตัวเองด้วยการลั่นไกคว้า 2 เหรียญทอง ปืนยาวท่านอนบุคคลชายและทีมชายมาครองได้สำเร็จด้วยวัยเพียง 18 ปี โดยเมื่อจบการแข่งขัน “เจ้าไก่” เทวฤทธิ์ มัจฉาชีพ นักแม่นปืนรุ่นพี่ในทีมชาติไทย และเป็น 1 ใน 3 ของนักกีฬาทีมชาติไทยประเภทปืนยาวท่านอนชาย ถึงกับออกมาชม “เจ้ามี่” อัฐพล เอื้ออารี ว่าอนาคตของมือปืนรุ่นน้องรายนี้จะก้าวขึ้นมาเป็นกำลังหลักของทัพนักแม่นปืนไทย และจะก้าวขึ้นมาแทนนักแม่นปืนรุ่นพี่ได้ในไม่ช้า และในปีเดียวกันนั้น อัฐพลยังสร้างผลงานโดดเด่นเกินตัวด้วยการกวาด 3 เหรียญทอง รายการ 31th South East Shooting Championship Kuala Lumpur 2007 (SEAZA) ณ ประเทศมาเลเซีย จากปืนยาวท่านอนบุคคลชายและทีมชาย และปืนยาว 3 ท่าทีมชาย รวมถึงการคว้าเหรียญเงินปืนยาวท่านอนทีมชาย รายการ The 11th Asian Shooting Championships 2007 ณ ประเทศคูเวต
อัฐพลประสบความสำเร็จมาได้เพราะความนิ่ง สมาธิ และการนำเทคนิคที่ได้ฝึกซ้อมมาตลอดมาใช้ให้เกิดประโยชน์ มีความขยันซ้อมตามโปรแกรมที่วางไว้เป็นอย่างดี มีความรับผิดชอบ มีวินัย และสร้างผลงานในระดับประเทศ และระดับนานาชาติ ไว้อย่างมากมาย ในปี 2558 อัฐพลคว้าเหรียญทอง ปืนยาวท่านอนบุคคลชาย ยิงได้ 209.2 คะแนน รั้งตำแหน่งมือวางอันดับ 1 ของเอเชีย พร้อมทำลายสถิติเอเชีย รายการ 13th Asian Shooting Championships 2015 ณ ประเทศคูเวต และเมื่อวันที่ 27 มกราคม 2559 อัฐพลสามารถคว้าเหรียญเงิน ปืนยาวท่านอนบุคคลชาย รายการ Asia Olympic Qualifying Competition For Shooting IND, 2016 ณ ประเทศอินเดีย พร้อมได้สิทธิ์เข้าร่วมแข่งขันโอลิมปิกฤดูร้อน 2016 ณ เมืองรีโอเดจาเนโร ประเทศบราซิล มาครองได้สำเร็จ
เมื่อวันที่ 12 สิงหาคม 2559 ในการแข่งขันโอลิมปิกฤดูร้อน 2016 ณ เมืองรีโอเดจาเนโร ประเทศบราซิล อัฐพลเป็นนักกีฬายิงปืน ประเภทปืนยาวท่านอนชาย คนแรกของไทยที่สร้างประวัติศาสตร์ผ่านเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศ [8 คนสุดท้าย] ด้วยผลงาน 625.3 คะแนน โดยผ่านรอบคัดเลือกเข้ามาเป็นอันดับ 7 และรอบชิลชนะเลิศ ยิงได้ 80.8 คะแนน โดนตัดตัวออกคนแรกจบอันดับ 8 ซึ่งถือว่าอัฐพลประสบความสำเร็จตามเป้าหมายแรกที่ตั้งไว้ก่อนมาแข่งขันว่า "ขอให้ผ่านเข้ารอบ 8 คนสุดท้ายไปได้ก่อน จากนั้นค่อยไปชิงกันอีกที"
เครื่องราชอิสริยาภรณ์[แก้]
- พ.ศ. 2558 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่สรรเสริญยิ่งดิเรกคุณาภรณ์ ชั้นที่ 5 เบญจมดิเรกคุณาภรณ์ (บ.ภ.)[1]
อ้างอิง[แก้]
- ↑ ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่สรรเสริญยิ่งดิเรกคุณาภรณ์ ประจำปี ๒๕๕๘ เก็บถาวร 2022-05-23 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, เล่ม ๑๓๒ ตอนที่ ๓๒ ข หน้า ๒๙, ๔ ธันวาคม ๒๕๕๘