ความสัมพันธ์ไต้หวัน–ไทย

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
ความสัมพันธ์ไต้หวัน–ไทย
Map indicating location of ไต้หวัน and ไทย

ไต้หวัน

ไทย

ความสัมพันธ์ไต้หวัน (สาธารณรัฐจีน) –ไทย ไทยประกาศความสัมพันธ์ทางการทูตกับสาธารณรัฐจีนขึ้นครั้งแรกหลังสงครามโลกครั้งที่สอง เมื่อวันที่ 23 มกราคม 2489 หลังจากสงครามกลางเมืองจีนสิ้นสุดลงใน พ.ศ. 2492 รัฐบาลสาธารณรัฐจีนย้ายไปไต้หวัน ไทยกับสาธารณรัฐจีนยังคงมีความสัมพันธ์ทางการทูตแบบเป็นทางการจนถึง 1 พฤศจิกาจน 2518 ไทยประกาศยุติความสัมพันธ์ทางการทูตกับสาธารณรัฐจีน

ช่วงปี 2455 ถึง 2514 สาธารณรัฐจีนเป็นตัวแทนจีนเพียงหนึ่งเดียวในเวทีโลก หลังจากข้อมติสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติที่ 2758 วันที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2514 รับรองสาธารณรัฐประชาชนจีนเป็น "ผู้แทนชอบด้วยกฎหมายเพียงหนึ่งเดียวของจีนในสหประชาชาติ" สาธารณรัฐจีนแทนชื่อในเวทีโลกด้วยไต้หวัน หรือจีนไทเป

ปัจจุบันไทยยอมรับว่าสาธารณรัฐประชาชนจีนเป็นจีนเพียงหนึ่งเดียว แต่มีความพันสัมธ์ทางการทูตแบบไม่เป็นทางการกับสาธารณรัฐจีน(ไต้หวัน)ผ่านสำนักงานการค้าและเศรษฐกิจไทย ประจำ ณ กรุงไทเป

ปัจจุบันไทยเป็นคู่ค้ารายใหญ่อันดับ 3 ของสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) รองจากสหรัฐอเมริกาและญี่ปุ่น[1]

ประวัติ[แก้]

ก่อนการปฏิวัติซินไฮ่[แก้]

สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูต[แก้]

23 มกราคม 2489 สยามและสาธารณรัฐจีนประกาศสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตในการลงนาม《สนธิสัญญามิตรภาพสยามและสาธารณรัฐจีน》โดยมีหม่อมราชวงศ์เสนีย์ ปราโมชรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการตางประเทศของไททยในเวลานั้นเป็นผู้ลงนาม มีการสร้างสถานเอกอัครขข้าราชทูตขึ้นในกรุงเทพมหานครและกรุงนานกิง

ปี 2492 สงครามกลางเมืองจีนสิ้นสุดลง พรรคคอมมิวนิสต์จีนยึดครองจีนแผ่นดินใหญ่ รัฐบาลสาธารณรัฐจีนย้ายฐานไปไต้หวัน ไทยกับสาธารณรัฐจีนยังคงมีการสานสัมพันธ์ทางการทูตอยู่

5 ถึง 8 มิถุนายน 2506 พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตรและสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวงเสด็จพระราชดำเนินเยือนไต้หวัน สาธารณรัฐจีน ระยะเวลา 4 วัน ทั้งนี้เจียงไคเช็คประธานาธิบดีสาธารณรัฐจีนและซ่ง เหม่ย์หลิงภริยา เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จ ณ ท่าอากาศยานซงวานในกรุงไทเปพร้อมกองทหารเกียรติยศรับเสด็จฯ[2][3][4] ตลอดระยะเวลาที่เสด็จฯสาธารณรัฐจีน ได้เสด็จไปทอดพระเนตรเทคโนโลยีการเกษตร ณ นครไถจงและนครเถาหยวน[5]

27 มีนาคม 2510 จอมพลถนอม กิตติขจรนายกรัฐมนตรีในขณะนั้นเยือนสาธารณรัฐจีนอย่างเป็นทาการ เข้าพบคารวะเจียงไคเช็คประธานาธิบดี ปีเดียวกัน 4 กรกฎาคมนายเว้ยต้าวหมิง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสาธารณรัฐจีน เยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ

1 เมษายน 2511 นายเหยียนเจียกั้น รองประธานาธิบดีเยือนประเทศไทย[6]: 748 

14 พฤษภาคม 2512 เจียง จิ่งกั๊วะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมในขณะนั้นเป็นผู้แทนประธานาธิบดีสาธารณรัฐจีนเดินทางเยือนประเทศไทย ได้เข้าเฝ้าฯพระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร[7]: 490 

25 ตุลาคม 2514 ไทยงดออกเสียงในข้อมติสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติที่ 2758 ที่รับรองสาธารณรัฐประชาชนจีนเป็น "ผู้แทนชอบด้วยกฎหมายเพียงหนึ่งเดียวของจีนในสหประชาชาติ"แทนที่สาธารณรัฐจีน

1 พฤศจิกายน 2518 ไทยประกาศยุติความสัมพันธ์ทางการทูตกับสาธารณรัฐจีน

อ้างอิง[แก้]

  1. "中央通訊社:泰雙十酒會 免雙重課稅惠台商". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2014-05-08. สืบค้นเมื่อ 2013-01-31.
  2. 泰國蒲美蓬國王及詩麗吉王后1963年6月5日至8日訪問中華民國珍貴歷史照片紀錄 เก็บถาวร 2016-03-04 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, 駐泰國臺北經濟文化辦事處
  3. 泰國國王蒲美蓬陛下設宴答謝總統伉儷[ลิงก์เสีย], 國家文化資料庫, 中華民國文化部
  4. 泰國國王暨王后訪問中華民國 เก็บถาวร 2017-08-13 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, 數位典藏與數位學習國家型科技計畫 Taiwan e-Learning & Digital Archives Program
  5. "泰王蒲美蓬曾說與中華民國感情無法撕開". เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2018-08-31. สืบค้นเมื่อ 2016-10-16.
  6. 呂芳上總策畫,朱文原、周美華、葉惠芬、高素蘭、陳曼華、歐素瑛編輯撰稿 (2012). 《中華民國建國百年大事記》. 台北: 國史館. ISBN 978-986-03-3586-6.{{cite book}}: CS1 maint: uses authors parameter (ลิงก์)
  7. 王成斌等主編, บ.ก. (1998年). 《民國高級將領列傳》(4). 北京: 解放軍出版社.