ผลต่างระหว่างรุ่นของ "พืดหินปะการัง"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
InternetArchiveBot (คุย | ส่วนร่วม)
Rescuing 1 sources and tagging 0 as dead.) #IABot (v2.0.8.1
แก้ไขลิงก์เสียและปรับปรุงอ้างอิง
บรรทัด 1: บรรทัด 1:
{{ที่อยู่อาศัยใต้ทะเล|image=GreatBarrierReef-EO.JPG|caption=เกรตแบร์ริเออร์รีฟเมื่อมองจากอากาศ}}
{{ที่อยู่อาศัยใต้ทะเล|image=GreatBarrierReef-EO.JPG|caption=เกรตแบร์ริเออร์รีฟเมื่อมองจากอากาศ}}
[[ไฟล์:20 Grad Isotherme.png|thumb|250px|[[แผนที่]]แสดงการกระจายตัวของแนวปะการังทั่วโลก]]
[[ไฟล์:20 Grad Isotherme.png|thumb|250px|[[แผนที่]]แสดงการกระจายตัวของแนวปะการังทั่วโลก]]
'''แนวปะการัง''' หรือ '''พืดหินปะการัง''' เป็น[[ระบบนิเวศ]]ที่ซับซ้อน และมีความหลากหลายมากที่สุดใน[[ทะเล]] แนวปะการังจัดเป็นสิ่งก่อสร้างของ[[สิ่งมีชีวิต]]ที่ใหญ่ที่สุดในโลก เป็น[[หินปูน]]ที่มีความแข็ง โดย[[สัตว์ทะเล]]ขนาดเล็กคือ [[ปะการัง]] รวมถึงซากของสิ่งมีชีวิตต่าง ๆ ในทะเลอย่างอื่นร่วมด้วย เช่น [[สาหร่ายหินปูน]], [[มอลลัสคา|หอยที่มีเปลือกแข็ง]] เป็นต้น ทั้งปะการังเองและสิ่งมีชีวิตที่สร้างหินปูนได้ เมื่อตายไปแล้วจะยังคงเหลือซากหินปูนทับถมพอกพูน ซึ่งถือว่าเป็นขบวนการสร้างแนวปะการัง ซากหินปูนเหล่านั้นค่อย ๆ ผุกร่อนเป็นผงตะกอน ซึ่งส่วนหนึ่งก็ยังคงสะสมพอกพูนในแนวปะการัง แต่อีกส่วนหนึ่งอาจถูกพัดพาล่องลอยไปตาม[[กระแสน้ำ]]ไปทับถมพอกพูนเป็น[[ชายหาด]]<ref>[http://www.dmcr.go.th/marinecenter/coral-lesson1.php ลักษณะแนวปะการังของไทย]</ref>
'''แนวปะการัง''' หรือ '''พืดหินปะการัง''' เป็น[[ระบบนิเวศ]]ที่ซับซ้อน และมีความหลากหลายมากที่สุดใน[[ทะเล]] แนวปะการังจัดเป็นสิ่งก่อสร้างของ[[สิ่งมีชีวิต]]ที่ใหญ่ที่สุดในโลก เป็น[[หินปูน]]ที่มีความแข็ง โดย[[สัตว์ทะเล]]ขนาดเล็กคือ [[ปะการัง]] รวมถึงซากของสิ่งมีชีวิตต่าง ๆ ในทะเลอย่างอื่นร่วมด้วย เช่น [[สาหร่ายหินปูน]], [[มอลลัสคา|หอยที่มีเปลือกแข็ง]] เป็นต้น ทั้งปะการังเองและสิ่งมีชีวิตที่สร้างหินปูนได้ เมื่อตายไปแล้วจะยังคงเหลือซากหินปูนทับถมพอกพูน ซึ่งถือว่าเป็นขบวนการสร้างแนวปะการัง ซากหินปูนเหล่านั้นค่อย ๆ ผุกร่อนเป็นผงตะกอน ซึ่งส่วนหนึ่งก็ยังคงสะสมพอกพูนในแนวปะการัง แต่อีกส่วนหนึ่งอาจถูกพัดพาล่องลอยไปตาม[[กระแสน้ำ]]ไปทับถมพอกพูนเป็น[[ชายหาด]]<ref>{{Cite web |url=http://www.dmcr.go.th/marinecenter/coral-lesson1.php |title=ลักษณะแนวปะการังของไทย |work=ฐานข้อมูลทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง |publisher=กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง |date=21 กันยายน 2010 |archive-url=https://archive.ph/Hs33 |archive-date=3 สิงหาคม 2012}}</ref>


การเจริญเติบโตของแนวปะการังเป็นไปอย่างช้า ๆ ในแต่ละปี ปะการังบางชนิดอาจเพิ่มขนาดของตนเองขึ้นมาได้เพียง 2-5 [[เซนติเมตร]]เท่านั้น ซึ่งกว่าที่ปะการังจะสร้างตนเองจนแข็งแรงเป็นแนวพืดได้ต้องใช้เวลานับหมื่น ๆ ปี โดยแนวปะการังที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก คือ [[เกรตแบร์ริเออร์รีฟ]] ทางตอนเหนือของ[[ออสเตรเลีย]] ที่มีเนื้อที่กว้างขวางกว่า 1,562 [[ไมล์]] (2,500 [[กิโลเมตร]]) มีแนวปะการังมากกว่า 2,900 แนว ซึ่งได้รับการประกาศให้เป็น[[มรดกโลก|มรกดกโลกทางธรรมชาติ]]<ref>[http://www.greatbarrierreef.org/ Welcome to the Great Barrier Reef {{en}}]</ref> และแนวปะการังที่มีขนาดใหญ่อีกแห่งหนึ่งของโลก คือ [[สามเหลี่ยมปะการัง]] ที่ครอบคลุมพื้นที่ระหว่างน่านน้ำของฟิลิปปินส์ เช่น [[อุทยานธรรมชาติปะการังตุบบาตาฮา]], มาเลเซีย, อินโดนีเซีย, ปาปัวนิวกินี, หมู่เกาะโซโลมอน และติมอร์เลสเต คิดเป็น 1 ใน 3 ของแนวปะการังที่มีอยู่ในโลก และมีความหลากหลายของชนิดปลาที่อาศัยอยู่ในแนวปะการังคิดเป็นร้อยละ 35 ของปลาที่อาศัยในแนวปะการังทั้งหมดทั่วโลก <ref>{{cite web|url=http://tv.ohozaa.com/hourly-rerun/tpbs/2015-01-03/20/|title=ทันโลก|date=3 January 2014|accessdate=4 January 2015|publisher=ไทยพีบีเอส}}{{ลิงก์เสีย|date=สิงหาคม 2021 |bot=InternetArchiveBot |fix-attempted=yes }}</ref>
การเจริญเติบโตของแนวปะการังเป็นไปอย่างช้า ๆ ในแต่ละปี ปะการังบางชนิดอาจเพิ่มขนาดของตนเองขึ้นมาได้เพียง 2–5 [[เซนติเมตร]]เท่านั้น ซึ่งกว่าที่ปะการังจะสร้างตนเองจนแข็งแรงเป็นแนวพืดได้ต้องใช้เวลานับหมื่น ๆ ปี โดยแนวปะการังที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก คือ [[เกรตแบร์ริเออร์รีฟ]] ทางตอนเหนือของ[[ออสเตรเลีย]] ที่มีเนื้อที่กว้างขวางกว่า 1,562 [[ไมล์]] (2,500 [[กิโลเมตร]]) มีแนวปะการังมากกว่า 2,900 แนว ซึ่งได้รับการประกาศให้เป็น[[มรดกโลก|มรดกโลกทางธรรมชาติ]]<ref>{{Cite web |url=http://www.greatbarrierreef.org/ |title=Welcome to the Great Barrier Reef |language=en |website=greatbarrierreef.org}}</ref> และแนวปะการังที่มีขนาดใหญ่อีกแห่งหนึ่งของโลก คือ [[สามเหลี่ยมปะการัง]] ที่ครอบคลุมพื้นที่ระหว่างน่านน้ำของฟิลิปปินส์ เช่น [[อุทยานธรรมชาติปะการังตุบบาตาฮา]], มาเลเซีย, อินโดนีเซีย, ปาปัวนิวกินี, หมู่เกาะโซโลมอน และติมอร์เลสเต คิดเป็น 1 ใน 3 ของแนวปะการังที่มีอยู่ในโลก และมีความหลากหลายของชนิดปลาที่อาศัยอยู่ในแนวปะการังคิดเป็นร้อยละ 37 ของปลาที่อาศัยในแนวปะการังทั้งหมดทั่วโลก<ref name="frontiersin.org">{{cite journal |last1=Asaad |first1=Irawan |last2=Lundquist |first2=Carolyn J. |last3=Erdmann |first3=Mark V. |last4=Hooidonk |first4=Ruben Van |last5=Costello |first5=Mark J. |title=Designating Spatial Priorities for Marine Biodiversity Conservation in the Coral Triangle |journal=Front. Mar. Sci. |date=5 พฤศจิกายน 2018 |volume=5 |pages=400 |doi=10.3389/fmars.2018.00400 |s2cid=53294894 |doi-access=free}}</ref>


== ประเภท ==
== ประเภท ==
บรรทัด 21: บรรทัด 21:


== ชีววิทยา ==
== ชีววิทยา ==
แนวปะการังนับว่าเป็นสิ่งมีความสำคัญต่อระบบนิเวศทางทะเล เป็นที่หลบพัก, อาศัย, แพร่ขยายพันธุ์ และหากินของสัตว์ทะเลชนิดต่าง ๆ มีปลาหลากหลายที่อาศัยอยู่ในแนวปะการังมากกว่า 4,000 ชนิด<ref>Spalding, Mark, Corinna Ravilious, and Edmund Green. 2001. ''World Atlas of Coral Reefs''. Berkeley, CA: University of California Press and UNEP/WCMC.</ref> โดย[[ปลากระดูกแข็ง]]ขนาดที่มีขนาดใหญ่ที่สุดที่พบได้ในแนวปะการัง คือ [[ปลาหมอทะเล]] (''Epinephelus lanceolatus'')<ref>[http://www.manager.co.th/Travel/ViewNews.aspx?NewsID=9550000027299 ปลาเก๋าและปลาหมอทะเล / วินิจ รังผึ้ง จาก[[ผู้จัดการออนไลน์]]]</ref> ซึ่งเป็น[[ปลาเศรษฐกิจ]]สำคัญ รวมทั้งปลาและสัตว์น้ำชนิดต่าง ๆ อีกด้วย เปรียบเหมือนเป็น[[ป่าดิบชื้น]]หรือโอเอซิสในทะเล <ref>{{Cite web |url=http://www.moohin.com/activity/driving79.shtml |title=รู้จักกับแนวปะการัง |access-date=2012-03-20 |archive-date=2012-02-27 |archive-url=https://web.archive.org/web/20120227012850/http://www.moohin.com/activity/driving79.shtml |url-status=dead }}</ref> <ref>[http://www.dmcr.go.th/marinecenter/coral-lesson7.php ความสำคัญของแนวปะการังที่เกี่ยวเนื่องกับวิถีชีวิตของมนุษย์]</ref>
แนวปะการังนับว่าเป็นสิ่งมีความสำคัญต่อระบบนิเวศทางทะเล เป็นที่หลบพัก, อาศัย, แพร่ขยายพันธุ์ และหากินของสัตว์ทะเลชนิดต่าง ๆ มีปลาหลากหลายที่อาศัยอยู่ในแนวปะการังมากกว่า 4,000 ชนิด<ref>Spalding, Mark, Corinna Ravilious, and Edmund Green (2001). ''World Atlas of Coral Reefs''. Berkeley, CA: University of California Press and UNEP/WCMC. {{ISBN|978-0-520-23255-6}}.</ref> โดย[[ปลากระดูกแข็ง]]ขนาดที่มีขนาดใหญ่ที่สุดที่พบได้ในแนวปะการัง คือ [[ปลาหมอทะเล]] (''Epinephelus lanceolatus'')<ref>{{Cite news |url=http://www.manager.co.th/Travel/ViewNews.aspx?NewsID=9550000027299 |title=ปลาเก๋าและปลาหมอทะเล |author=วินิจ รังผึ้ง |date=29 กุมภาพันธ์ 2012 |work=[[ผู้จัดการออนไลน์]] |archive-url=https://web.archive.org/web/20161123031421/http://www.manager.co.th/Travel/ViewNews.aspx?NewsID=9550000027299 |archive-date=23 พฤศจิกายน 2016}}</ref> ซึ่งเป็น[[ปลาเศรษฐกิจ]]สำคัญ รวมทั้งปลาและสัตว์น้ำชนิดต่าง ๆ อีกด้วย เปรียบเหมือนเป็น[[ป่าดิบชื้น]]หรือโอเอซิสในทะเล <ref>{{Cite web |url=http://www.moohin.com/activity/driving79.shtml |title=รู้จักกับแนวปะการัง |website=moohin.com |date=2010 |access-date=20 มีนาคม 2012 |archive-date=27 กุมภาพันธ์ 2012 |archive-url=https://web.archive.org/web/20120227012850/http://www.moohin.com/activity/driving79.shtml |url-status=dead }}</ref><ref>{{Cite web |url=http://www.dmcr.go.th/marinecenter/coral-lesson7.php |title=ความสำคัญของแนวปะการังที่เกี่ยวเนื่องกับวิถีชีวิตของมนุษย์ |archive-url=https://archive.ph/pk0d |archive-date=3 กันยายน 2012 |work=ฐานข้อมูลทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง |publisher=กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง}}</ref>


== อ้างอิง ==
== อ้างอิง ==
{{คอมมอนส์-หมวดหมู่|Coral reefs|แนวปะการัง}}
{{รายการอ้างอิง}}
{{รายการอ้างอิง}}

== แหล่งข้อมูลอื่น ==
* {{คอมมอนส์-หมวดหมู่-บรรทัด|Coral reefs|แนวปะการัง}}
{{Break}}


{{สมุทรศาสตร์กายภาพ}}
{{สมุทรศาสตร์กายภาพ}}
{{Authority control}}
[[หมวดหมู่:การประมง]]
[[หมวดหมู่:การประมง]]
[[หมวดหมู่:ชีวนิเวศในน้ำ]]
[[หมวดหมู่:ชีวนิเวศในน้ำ]]

รุ่นแก้ไขเมื่อ 22:30, 11 ตุลาคม 2565

แผนที่แสดงการกระจายตัวของแนวปะการังทั่วโลก

แนวปะการัง หรือ พืดหินปะการัง เป็นระบบนิเวศที่ซับซ้อน และมีความหลากหลายมากที่สุดในทะเล แนวปะการังจัดเป็นสิ่งก่อสร้างของสิ่งมีชีวิตที่ใหญ่ที่สุดในโลก เป็นหินปูนที่มีความแข็ง โดยสัตว์ทะเลขนาดเล็กคือ ปะการัง รวมถึงซากของสิ่งมีชีวิตต่าง ๆ ในทะเลอย่างอื่นร่วมด้วย เช่น สาหร่ายหินปูน, หอยที่มีเปลือกแข็ง เป็นต้น ทั้งปะการังเองและสิ่งมีชีวิตที่สร้างหินปูนได้ เมื่อตายไปแล้วจะยังคงเหลือซากหินปูนทับถมพอกพูน ซึ่งถือว่าเป็นขบวนการสร้างแนวปะการัง ซากหินปูนเหล่านั้นค่อย ๆ ผุกร่อนเป็นผงตะกอน ซึ่งส่วนหนึ่งก็ยังคงสะสมพอกพูนในแนวปะการัง แต่อีกส่วนหนึ่งอาจถูกพัดพาล่องลอยไปตามกระแสน้ำไปทับถมพอกพูนเป็นชายหาด[1]

การเจริญเติบโตของแนวปะการังเป็นไปอย่างช้า ๆ ในแต่ละปี ปะการังบางชนิดอาจเพิ่มขนาดของตนเองขึ้นมาได้เพียง 2–5 เซนติเมตรเท่านั้น ซึ่งกว่าที่ปะการังจะสร้างตนเองจนแข็งแรงเป็นแนวพืดได้ต้องใช้เวลานับหมื่น ๆ ปี โดยแนวปะการังที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก คือ เกรตแบร์ริเออร์รีฟ ทางตอนเหนือของออสเตรเลีย ที่มีเนื้อที่กว้างขวางกว่า 1,562 ไมล์ (2,500 กิโลเมตร) มีแนวปะการังมากกว่า 2,900 แนว ซึ่งได้รับการประกาศให้เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติ[2] และแนวปะการังที่มีขนาดใหญ่อีกแห่งหนึ่งของโลก คือ สามเหลี่ยมปะการัง ที่ครอบคลุมพื้นที่ระหว่างน่านน้ำของฟิลิปปินส์ เช่น อุทยานธรรมชาติปะการังตุบบาตาฮา, มาเลเซีย, อินโดนีเซีย, ปาปัวนิวกินี, หมู่เกาะโซโลมอน และติมอร์เลสเต คิดเป็น 1 ใน 3 ของแนวปะการังที่มีอยู่ในโลก และมีความหลากหลายของชนิดปลาที่อาศัยอยู่ในแนวปะการังคิดเป็นร้อยละ 37 ของปลาที่อาศัยในแนวปะการังทั้งหมดทั่วโลก[3]

ประเภท

ปลาทองทะเลในแนวปะการัง ที่ทะเลแดง
แนวปะการังแบ่งออกได้เป็น 3 แบบด้วยกัน คือ
  1. แนวปะการังนอกฝั่ง (Barrier reef) เป็นแนวปะการังขนาดใหญ่โต มีความกว้างยาวนับเป็นร้อย ๆ ไมล์ เช่น เกรตแบร์ริเออร์รีฟ
  2. เกาะปะการัง (Atoll) เกิดขึ้นจากการรวมตัวทับถมกันของปะการังในแนวดิ่งจนกลายสภาพเป็นเกาะ ซึ่งเกาะลักษณะเช่นนี้ จะพบมากในแถบมหาสมุทรแปซิฟิกตอนใต้ และมหาสมุทรอินเดีย เช่น มัลดีฟส์, หมู่เกาะสิมิลัน และเกาะสีปาดัน ของมาเลเซีย เป็นต้น
  3. แนวปะการังชายฝั่ง (Fringing reef) เป็นแนวปะการังที่เกิดขึ้นในบริเวณชายฝั่งและหมู่เกาะในเขตน้ำค่อนข้างตื้น
และอาจแบ่งตามลักษณะสภาพแวดล้อมที่แตกต่างกันเป็น 4 รูปแบบด้วยกัน คือ
  1. แนวปะการังริมฝั่ง เป็นแนวปะการังที่แท้จริง เพราะเป็นการสะสมตัวจนกลายเป็นแนวปะการัง พบได้ทั่วไปในแหล่งดำน้ำดูปะการังน้ำตื้นตามชายฝั่งและหมู่เกาะต่าง ๆ นับเป็นแนวปะการังชนิดที่ทรงคุณค่าที่สุด เพราะเป็นที่ที่สัตว์ทะเลจะใช้เวลาช่วงหนึ่งของชีวิตเข้ามาอาศัยเติบโตอยู่ในบริเวณนี้ ปะการังชนิดนี้ใน ปัจจุบันจัดเป็นปะการังที่มีความเสียหายมากที่สุด
  2. กลุ่มปะการังบนพื้นทราย เป็นกลุ่มปะการังเล็ก ๆ ที่เกิดขึ้นบนพื้นทราย ยังมีการสะสมตัวกันไม่มากนัก ส่วนมากเป็นปะการังสมอง (Faviidae) และปะการังเขากวาง (Acropora spp.)
  3. ปะการังบนโขดหิน อยู่ในแนวน้ำลึก พบได้ในแหล่งดำน้ำทั่วไปในของหมู่เกาะสิมิลัน แนวปะการังชนิดนี้เปรียบดังโอเอซิสกลางทะเลทราย จึงเป็นที่รวมตัวของสัตว์ทะเลหลากหลาย โดยเฉพาะฝูงปลาต่าง ๆ ที่แวะเวียนเข้ามาหาอาหารอย่างสม่ำเสมอ
  4. แหล่งกัลปังหาและปะการังอ่อน ไม่เชิงเป็นแนวปะการัง มีศักยภาพในการเป็นที่หลบภัยและที่อยู่อาศัยของสัตว์น้ำไม่มากนัก จึงไม่ค่อยมีคุณค่าเท่าใดนักในระบบนิเวศ เพราะชนิดของปะการังแบบนี้ เป็น ปะการังบนโขดหิน, ปะการังอ่อน และกัลปังหา แต่กลับทรงคุณค่าอย่างยิ่งในแง่การท่องเที่ยว เพราะเป็นจุดสนใจอย่างยิ่งของนักดำน้ำและช่างภาพใต้น้ำ

ชีววิทยา

แนวปะการังนับว่าเป็นสิ่งมีความสำคัญต่อระบบนิเวศทางทะเล เป็นที่หลบพัก, อาศัย, แพร่ขยายพันธุ์ และหากินของสัตว์ทะเลชนิดต่าง ๆ มีปลาหลากหลายที่อาศัยอยู่ในแนวปะการังมากกว่า 4,000 ชนิด[4] โดยปลากระดูกแข็งขนาดที่มีขนาดใหญ่ที่สุดที่พบได้ในแนวปะการัง คือ ปลาหมอทะเล (Epinephelus lanceolatus)[5] ซึ่งเป็นปลาเศรษฐกิจสำคัญ รวมทั้งปลาและสัตว์น้ำชนิดต่าง ๆ อีกด้วย เปรียบเหมือนเป็นป่าดิบชื้นหรือโอเอซิสในทะเล [6][7]

อ้างอิง

  1. "ลักษณะแนวปะการังของไทย". ฐานข้อมูลทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง. กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง. 21 กันยายน 2010. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 3 สิงหาคม 2012.
  2. "Welcome to the Great Barrier Reef". greatbarrierreef.org (ภาษาอังกฤษ).
  3. Asaad, Irawan; Lundquist, Carolyn J.; Erdmann, Mark V.; Hooidonk, Ruben Van; Costello, Mark J. (5 พฤศจิกายน 2018). "Designating Spatial Priorities for Marine Biodiversity Conservation in the Coral Triangle". Front. Mar. Sci. 5: 400. doi:10.3389/fmars.2018.00400. S2CID 53294894.
  4. Spalding, Mark, Corinna Ravilious, and Edmund Green (2001). World Atlas of Coral Reefs. Berkeley, CA: University of California Press and UNEP/WCMC. ISBN 978-0-520-23255-6.
  5. วินิจ รังผึ้ง (29 กุมภาพันธ์ 2012). "ปลาเก๋าและปลาหมอทะเล". ผู้จัดการออนไลน์. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 23 พฤศจิกายน 2016.
  6. "รู้จักกับแนวปะการัง". moohin.com. 2010. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 27 กุมภาพันธ์ 2012. สืบค้นเมื่อ 20 มีนาคม 2012.
  7. "ความสำคัญของแนวปะการังที่เกี่ยวเนื่องกับวิถีชีวิตของมนุษย์". ฐานข้อมูลทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง. กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 3 กันยายน 2012.

แหล่งข้อมูลอื่น