มาร์วิน แฮ็กเลอร์

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
มาร์วิน แฮ็กเลอร์
สถิติ
ชื่อจริงมาร์วิน นาแธเนียล แฮ็กเลอร์
มาร์เวลัส มาร์วิน แฮ็กเลอร์ (ปัจจุบัน)
ฉายาMarvelous
ไอ้โล้นซ่า (ภาษาไทย)
รุ่นซูเปอร์เวลเตอร์เวท (สมัครเล่น)
มิดเดิลเวท
ไลท์เฮฟวีเวท
ส่วนสูง177 เซนติเมตร
ช่วงชก191 เซนติเมตร​
เกิด23 พฤษภาคม พ.ศ. 2497
นวร์ก สหรัฐ
เสียชีวิต13 มีนาคม พ.ศ. 2564 (66 ปี)
รัฐนิวแฮมป์เชียร์ สหรัฐ[1]
ชกทั้งหมด67
ชนะ62
ชนะน็อก52
แพ้3
เสมอ2

มาร์เวลัส มาร์วิน แฮ็กเลอร์ (อังกฤษ: Marvelous Marvin Hagler, 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2497 – 13 มีนาคม พ.ศ. 2564) เป็นนักมวยสากลชาวอเมริกัน เจ้าของแชมป์โลกมิดเดิลเวท 3 สถาบันหลักในปี พ.ศ. 2523 – พ.ศ. 2530 1 ใน 4 ยอดนักชกรุ่นกลางแห่งทศวรรษที่ 80 ร่วมกับ ชูการ์ เรย์ เลนเนิร์ด, โธมัส เฮิร์นส์ และโรเบร์โต ดูรัน แฮ็กเลอร์มีชื่อจริงแต่กำเนิดว่า มาร์วิน นาแธเนียล แฮ็กเลอร์ (Marvin Nathaniel Hagler)

ประวัติ[แก้]

แฮ็กเลอร์เกิดในปี พ.ศ. 2497 ที่เมืองนวร์ก รัฐนิวเจอร์ซีย์​ หลังเกิดการจลาจลที่นวร์กในปี พ.ศ. 2510 ครอบครัวของแฮ็กเลอร์ย้ายไปอยู่ที่เมืองบร็อคตัน รัฐแมสซาชูเซตส์

ในปี พ.ศ. 2512 แฮ็กเลอร์เริ่มการชกมวยจากมวยสากลสมัครเล่น ก่อนจะหันมาชกมวยสากลอาชีพในปี พ.ศ. 2516 ทำสถิติชนะทั้งหมด 46 ครั้ง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการชนะน็อกและชนะที.เค.โอ. มีเสมอเพียงครั้งเดียวและสะดุดแพ้เพียง 2 ครั้ง ขึ้นชิงแชมป์โลกรุ่นมิดเดิลเวทพร้อมกันถึง 2 สถาบัน คือ WBA และ WBC กับ วิโต อันตูโอแฟร์โม นักมวยชาวอิตาเลียน เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2522 ที่ลาสเวกัส ผลปรากฏว่าทั้งคู่เสมอกันในการยกครบ 15 ยก

จากนั้นแฮ็กเลอร์จึงชกทำฟอร์มชนะรวดอีก 3 ครั้ง ก็ได้ขึ้นชิงแชมป์โลกอีกครั้งใน 2 สถาบันเดิม กับ อลัน มินเทอร์ นักมวยชาวอังกฤษเจ้าของตำแหน่งเดิม ที่เวมบลีย์อารีนา มหานครลอนดอน ประเทศอังกฤษ ในถิ่นของมินเธอร์เอง ซึ่งผลการชก แฮ็กเลอร์สามารถเอาชนะที.เค.โอ.มินเธอร์ได้เพียงแค่ยกที่ 3 กลายเป็นแชมป์โลกของ WBA และ WBC มิดเดิลเวทไปเลยทันที

จากนั้นแฮ็กเลอร์ก็เดินหน้าป้องกันตำแหน่งแชมป์โลกได้ถึง 11 ครั้ง โดยได้แชมป์โลกสถาบันใหม่คือ IBF ที่เพิ่งก่อตั้งมาด้วย โดยที่ IBF ได้มอบตำแหน่งให้แก่แฮ็กเลอร์ไปเลยโดยดุษฎี และการป้องกันตำแหน่งของแฮ็กเลอร์นั้น ได้ผ่านนักมวยดี ๆ หลายคนซึ่งแฮ็กเลอร์ก็สามารถเอาชนะได้อย่างงดงามทุกครั้ง เช่น วิโต อันตูโอแฟร์โม คู่ปรับเก่าที่เคยเสมอกันมาก่อน, มุสตาฟา ฮัมโช นักมวยชาวซีเรียน, จอห์น มูกาบี นักมวยชาวอูกันดา, ฆวน โดมิงโก โรดัล นักมวยชาวอาร์เจนไตน์, โรเบร์โต ดูรัน รวมทั้ง โธมัส เฮิร์นส์ ด้วย

จนกระทั่งถึงการป้องกันตำแหน่งครั้งที่ 12 แฮ็กเลอร์ ต้องพบกับ ชูการ์ เรย์ เลนเนิร์ด ที่แขวนนวมไปนานถึง 3 ปี และหวนกลับคืนมาอีกครั้งโดยที่ไม่ได้อุ่นเครื่องชกกับใครอีกเลย ก่อนชกแฮ็กเลอร์ได้ประกาศว่าถ้าเขาแพ้เลนเนิร์ด เขาจะแขวนนวมทันที ซึ่งผลการชกออกมาก็ปรากฏว่า แฮ็กเลอร์สามารถทำได้ดีกว่า แต่เมื่อรวมคะแนน 12 ยกกันแล้ว กรรมการตัดสินให้เลนเนิร์ดเป็นฝ่ายชนะ หลังจากนั้นแฮ็กเลอร์ก็ได้แขวนนวมเลิกชกไปทันทีดังที่ได้ลั่นวาจาไว้ และไม่กลับมายุ่งเกี่ยวกับวงการมวยในฐานะใด ๆ อีกเลย

มาร์วิน แฮ็กเลอร์เป็นนักมวยที่ถนัดขวา แต่โดนฝึกให้ยืนการ์ดซ้ายและมักจะยืนการ์ดขวาบ่อยๆเพื่อให้คู่ต่อสู้สับสน และมีพลังกำปั้นที่หนักหน่วงมากทั้งสองข้าง มีเอกลักษณ์คือ ศีรษะที่โล้นเลี่ยน ซึ่งแฟนมวยชาวไทยให้ฉายาว่า "ไอ้โล้นซ่า" ส่วนในฉายาภาษาอังกฤษคือ "Marvelous" หลังแขวนนวมแฮ็กเลอร์ได้ไปใช้ชีวิตอยู่ในประเทศอิตาลี เปิดร้านขายอาหารอิตาเลียน และหันไปเป็นนักแสดงประกอบตามภาพยนตร์เรื่องต่าง ๆ ของอิตาลี พร้อมกับได้เปลี่ยนชื่อจริงของตัวเองเป็น มาร์เวลัส มาร์วิน แฮ็กเลอร์ (Marvelous Marvin Hagler) ตามชื่อที่ใช้เรียกในสมัยที่ยังชกมวย

ด้านชีวิตส่วนตัว แฮ็กเลอร์แต่งงานสองครั้ง เขาเสียชีวิตที่บ้านในเมืองบาร์ตเลต รัฐนิวแฮมป์เชียร์ ในปี พ.ศ. 2564 ขณะอายุได้ 66 ปี[2]

เกียรติประวัติ[แก้]

  • แชมป์อเมริกาเหนือ​รุ่นมิดเดิลเวท
  • แชมป์รัฐแมสซาชูเซตส์​รุ่นมิดเดิลเวท
    • ชิง , 26 พฤศจิกายน​ 2520 ชนะทีเคโอ ​ไมก์ โคลเบิร์ต ( สหรัฐ) ยก 12 ที่ บอสตันการ์เดน บอสตัน รัฐแมสซาชูเซตส์​ สหรัฐ
  • แชมป์โลก WBA กับ ​WBC และเดอะริง รุ่นมิดเดิลเวท
    • ชิง , 27 กันยายน 2523 ชนะทีเคโอ​ อลัน มินเทอร์ ( สหราชอาณาจักร) ยก 3 ที่ เวมบลีย์อารีนา ลอนดอน ประเทศอังกฤษ สหราชอาณาจักร
    • ป้องกันครั้งที่ 1 , 17 มกราคม​ 2524 ชนะทีเคโอ​ ฟุลเฆนซิโอ โอเบลเมฮิอัส ( เวเนซุเอลา) ยก 8 ที่ บอสตันการ์เดน บอสตัน รัฐแมสซาชูเซตส์​ สหรัฐ
    • ป้องกันครั้งที่ 2 , 13 มิถุนายน 2524 ชนะอาร์ทีดี​ วิโต อันตูโอแฟร์โม ( อิตาลี) ยก 4 ที่ บอสตัน​การ์เดน​ บอสตัน​ รัฐแมสซาชูเซตส์​ สหรัฐ
    • ป้องกันครั้งที่ 3 , 3 ตุลาคม 2524 ชนะทีเคโอ​ มุสตาฟา ฮัมโช (ธงของประเทศซีเรีย ซีเรีย) ยก 11 ที่ ออลล์สเตตอะรีนา โรสมอนต์ รัฐอิลลินอย สหรัฐ
    • ป้องกันครั้งที่ 4 , 7 มีนาคม 2525 ชนะทีเคโอ วิลเลียม ลี ( สหรัฐ) ยก 1 ที่ บอลลีส์แอตแลนติกซิตี​ แอตแลนติก​ซิตี รัฐนิวเจอร์ซีย์ สหรัฐ
    • ป้องกันครั้งที่ 5 , 30 ตุลาคม​ 2525 ชนะทีเคโอ​ ฟุลเฆนซิโอ โอเบลเมฮิอัส ( เวเนซุเอลา) ยก 5 ที่ เตียโตรอาลิซัน ซันเรโม แคว้นลิกูเรีย ประเทศอิตาลี
    • ป้องกันครั้งที่ 6 , 11 กุมภาพันธ์​ 2526 ชนะทีเคโอ​ โทนี ซิบสัน ( สหราชอาณาจักร) ยก 6 ที่ ดีซียูเซนเตอร์ วอสเตอร์ รัฐแมสซาชูเซตส์​ สหรัฐ
    • ป้องกันครั้งที่ 7 (เฉพาะเดอะริง)​ และชิงแชมป์โลก IBF ในรุ่นเดียวกัน , 27 พฤษภาคม ​2526 ชนะน็อก วิลฟอร์ด ซีเปียน ( สหรัฐ) ยก 2 ที่ ดันคินโดนัทส์เซนเตอร์ พรอวิเดนซ์ รัฐโรดไอแลนด์ สหรัฐ
    • ป้องกันครั้งที่ 7 (WBA , WBC) ป้องกันครั้งที่ 8 (เดอะริง)​ และป้องกันครั้งที่ 1 (IBF)​ , 10 พฤศจิกายน​ 2526 ชนะคะแนน โรเบร์โต ดูรัน (ธงของประเทศปานามา ปานามา) ที่ เซซาร์พาเลซ ลาสเวกัส รัฐเนวาดา สหรัฐ
    • ป้องกันครั้งที่ 8 (WBA , WBC) ป้องกันครั้งที่ 9 (เดอะริง)​ และป้องกันครั้งที่ 2 (IBF)​ , 30 มีนาคม​ 2527 ชนะทีเคโอ​ ฆวน โดมิงโก โรลดัน (ธงของประเทศอาร์เจนตินา อาร์เจนตินา) ยก 10 ที่ โรงแรมและคาสิโน​ริเวรา ลาสเวกัส รัฐเนวาดา สหรัฐ
    • ป้องกันครั้งที่ 9 (WBA , WBC) ป้องกันครั้งที่ 10 (เดอะริง)​ และป้องกันครั้งที่ 3 (IBF)​ , 19 ตุลาคม 2527 ชนะทีเคโอ​ มุสตาฟา ฮัมโช (ธงของประเทศซีเรีย ซีเรีย) ยก 3 ที่ เมดิสันสแควร์การ์เดน นครนิวยอร์ก รัฐนิวยอร์ก สหรัฐ
    • ป้องกันครั้งที่ 10 (WBA , WBC) ป้องกันครั้งที่ 11 (เดอะริง)​ และป้องกันครั้งที่ 4 (IBF)​ , 10 มีนาคม​ 2529 ชนะน็อก จอห์น มูกาบี (ธงของประเทศยูกันดา ยูกันดา) ยก 11 ที่ เซซาร์พาเลซ ลาสเวกัส รัฐเนวาดา สหรัฐ (ต่อมาแฮกเลอร์สละตำแหน่ง WBA กับ IBF)
    • เสียแชมป์​ , 6 เมษายน 2530 แพ้คะแนน ชูการ์ เรย์ เลนเนิร์ด ( สหรัฐ) ที่ เซซาร์พาเลซ ลาสเวกัส รัฐเนวาดา สหรัฐ
  • เคยชิงแชมป์ต่อไปนี้​แต่​ไม่​ส​ำ​เร็จ​
    • ชิงแชมป์โลก WBA กับ WBC และเดอะริงรุ่นมิดเดิลเวท​ , 30 พฤศจิกายน​ 2522 เสมอ วิโต อันตูโอแฟร์โม ( อิตาลี) ที่ เซซาร์พาเลซ ลาสเวกัส รัฐเนวาดา สหรัฐ

อ้างอิง[แก้]

  1. nbcnews.com
  2. De la Fuente, Homero; Caldwell, Travis (March 14, 2021). "Former boxing champion 'Marvelous' Marvin Hagler dies at 66". CNN. สืบค้นเมื่อ March 14, 2021.

แหล่งข้อมูลอื่น[แก้]