ผลต่างระหว่างรุ่นของ "เออร์เนสต์ เฮมิงเวย์"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Rikker04 (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
Rikker04 (คุย | ส่วนร่วม)
บรรทัด 51: บรรทัด 51:
* ''Across the River and into the Trees'' (พ.ศ. 2493)
* ''Across the River and into the Trees'' (พ.ศ. 2493)
* ''The Old Man and the Sea'' (พ.ศ. 2495)
* ''The Old Man and the Sea'' (พ.ศ. 2495)
** แปลในชื่อ [[ชายชรากับทะเล]] โดย [[ล. อนันทภูมิ]] (พ.ศ. 2500)
** แปลในชื่อ [[เฒ่าทะเล]] โดย [[สายธาร]] (พิมพ์ครั้งที่ 2 พ.ศ. 2518)
** แปลในชื่อ [[เฒ่าทะเล]] โดย [[สายธาร]] (พิมพ์ครั้งที่ 2 พ.ศ. 2518)
** แปลในชื่อ [[เฒ่าผจญทะเล]] โดย [[วิทย์ ศิวะศริยานนท์]] (พิมพ์ครั้งที่ 2 พ.ศ. 2531)
** แปลในชื่อ [[เฒ่าผจญทะเล]] โดย [[วิทย์ ศิวะศริยานนท์]] (พิมพ์ครั้งที่ 2 พ.ศ. 2531)

รุ่นแก้ไขเมื่อ 11:39, 20 ตุลาคม 2552

เออร์เนสต์ เฮมิงเวย์
เออร์เนสต์ เฮมมิงเวย์ ภาพถ่าย พ.ศ. 2493
เออร์เนสต์ เฮมมิงเวย์ ภาพถ่าย พ.ศ. 2493
เกิด21 กรกฎาคม พ.ศ. 2442
อิลลินอยส์ สหรัฐอเมริกา
เสียชีวิต2 กรกฎาคม พ.ศ. 2504 (61 ปี)
ไอดาโฮ สหรัฐอเมริกา
อาชีพนักเขียน ผู้สื่อข่าว นักประพันธ์
สัญชาติอเมริกัน
แนวสงคราม ชีวิต
ผลงานที่สำคัญในสมัยของเรา, แล้วดวงตะวันก็ฉายแสง, รักระหว่างรบ, เฒ่าผจญทะเล ฯลฯ

เออร์เนสต์ มิลเลอร์ เฮมิงเวย์ (อังกฤษ: Ernest Miller Hemingway; พ.ศ. 2442-2504) นักประพันธ์นวนิยายและนักเขียนเรื่องสั้นชาวอเมริกันผู้ใช้ลีลาภาษาที่สั้นกระชับ เกิดที่ โอค ปาร์ก รัฐอิลลินอยส์ เริ่มทำงานเป็นผู้สื่อข่าวกับหนังสือพิมพ์ เดอะแคนซัสซิตีสตาร์ เข้าเป็นทหารในสงครามโลกครั้งที่ 1 ประจำรถพยาบาลทหารจนได้รับบาดเจ็บเมื่อปี พ.ศ. 2461 ทำให้เฮมมิงเวย์ได้รับเหรียญกล้าหาญ

งานสำคัญชิ้นแรกของเฮมิงเวย์ได้แก่งานรวบรวมเรื่องสั้นในชื่อ "ในสมัยของเรา" (In Our Time พ.ศ. 2468) งานที่ทำให้เฮมิงเวย์ประสบผลสำเร็จโดยแท้จริงได้แก่เรื่อง แล้วดวงตะวันก็ฉายแสง (The Sun Also Rises พ.ศ. 2469) ซึ่งได้แรงบันดาลใจจากประสบการณ์จากการเข้า "กลุ่มวัยที่ถูกทอดทิ้ง" (lost generation) ของบรรดาหนุ่มต่างด้าวที่ใช้ชีวิตผจญภัยในฝรั่งเศสและสเปน ความหลงไหลไฝ่ฝันในวีรกรรมของลูกผู้ชายเกี่ยวกับการทำสงคราม การล่าสัตว์ การตกปลาและการสู้วัวกระทิงทำให้งานต่างๆ ของเฮมมิงเวย์รวมทั้ง รักระหว่างรบ (A Farewell to Arms พ.ศ. 2472) และ ความตายในช่วงบ่าย (Death in the Afternoon พ.ศ. 2475) ศึกสเปน (For Whom the Bell Tolls พ.ศ. 2483) และ เฒ่าผจญทะเล (The Old Man and the Sea เขียนจบเมื่อปี พ.ศ. 2495 และ ทำให้เขาได้รับรางวัลรางวัลพูลิตเซอร์ในปีต่อมา)

ในปี พ.ศ. 2497 เฮมิงเวย์ได้รับรางวัลโนเบลสาขาวรรณกรรม ในฐานะผู้สื่อข่าวในสงครามโลกครั้งที่ 2 เฮมมิงเวย์ได้เข้าร่วมในวันดีเดย์ (พ.ศ. 2487) ด้วย หลังจากสงครามกลางเมืองสเปนสิ้นสุดลง เฮมิงเวย์ได้อาศัยอยู่ในคิวบาและอาศัยอยู่ที่นั่นตลอดมาจนเกิดการปฏิวัติในปี พ.ศ. 2503 จึงได้ย้ายกลับสหรัฐฯ

เออร์เนสต์ เฮมิงเวย์ ผ่านการแต่งงาน 4 ครั้ง และมักเป็นโรคเครียดและหดหู่ หลังจากเกิดความกลัวเรื่องสุขภาพและความเจ็บป่วย เพราะ ใน ครอบครัวเขา มีบรรพบุรุษ ป่วยด้วยโรคที่ถ่ายทอดทางพันธุกรรมหลังจากป่วยเรื้อรัง และ การดื่มสุรา มานาน เฮมิงเวย์ได้ฆ่าตัวตายด้วยปืนลูกซองแฝดสำหรับล่าสัตว์

ผลงาน

นวนิยาย

รวมเรื่องสั้น

สารคดี