ปาโบล เนรูดา

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
ปาโบล เนรูดา
เนรูดา ปี 1963
เกิดเนฟตาลี ริการ์โด เรเยส บาโซอัลโต
12 กรกฎาคม ค.ศ. 1904(1904-07-12)
ปาร์รัล แคว้นเมาเล ชิลี
เสียชีวิต23 กันยายน ค.ศ. 1973(1973-09-23) (69 ปี)
ซันติอาโก ชิลี
อาชีพกวี, นักการทูต, วุฒิสมาชิก
พรรคการเมืองพรรคคอมมิวนิสต์ชิลี
คู่สมรสMarijke Antonieta Hagenaar Vogelzang (1930–1943 or 1930–1965) (d. Mar 27 1965)

Delia del Carril (1943–1965) แต่งงานในเม็กซิโก (d. July 26, 1989)

Matilde Urrutia Cerda (1965–1973) (d. Jan 5 1985)
บุตร1
รางวัล
ลายมือชื่อ

ปาโบล เนรูดา (สเปน: Pablo Neruda; 12 กรกฎาคม ค.ศ. 190423 กันยายน ค.ศ. 1973) เป็นกวีและนักการทูตชาวชิลี เป็นผู้ที่ได้รับรางวัลโนเบลสาขาวรรณกรรม ประจำปี ค.ศ. 1971

ปาโบล เนรูดา มีชื่อเกิดว่า "เนฟตาลี ริการ์โด เรเยส บาโซอัลโต" เกิดเมื่อ ค.ศ. 1904 เป็นบุตรของพนักงานรถไฟและครู มารดาของเขาเสียชีวิตหลังจากเขาเกิดได้หนึ่งเดือน หลังจากนั้นไม่นาน บิดาของเขาก็แต่งงานใหม่ เนรูดาเริ่มสนใจวรรณกรรมตั้งแต่สมัยเป็นวัยรุ่น แม้จะถูกบิดาต่อต้านก็ตาม แต่เขาก็ได้รับการสนับสนุนจากหลาย ๆ คน รวมทั้งกาบริเอลา มิสตรัล ผู้ซึ่งต่อมาเป็นชาวชิลีคนแรกที่ได้รับรางวัลโนเบลสาขาวรรณกรรม ด้วยวัยสิบสามปี เนรูดามีผลงานครั้งแรกชื่อ Enthusiasm and Perseverance ตีพิมพ์ลงในหนังสือพิมพ์ ต่อมาช่วงกลางปี ค.ศ. 1920 เขาก็เริ่มใช้นามปากกา "ปาโบล เนรูดา" เพื่อปกปิดตัวตน ชื่อเนรูดามาจากยัน เนรูดา กวีชาวเช็ก[1] เมื่อเนรูดามีอายุได้สิบหกปี เขาก็ย้ายไปที่ซันติอาโกเพื่อเรียนภาษาฝรั่งเศสที่มหาวิทยาลัยชิลี แต่ใช้เวลาไปกับการเขียนบทกวีเป็นส่วนใหญ่ และทำงานเป็นกงสุลในหลายที่ เช่น ย่างกุ้ง, โคลอมโบ, จาการ์ตา และสิงคโปร์

ต่อมา เนรูดามารับตำแหน่งกงสุลที่กรุงมาดริดแทนมิสตรัล ในช่วงนั้นสเปนกำลังจะเกิดสงครามกลางเมือง ซึ่งทำให้เขาถูกปลดออกจากตำแหน่งกงสุลเพราะฝักใฝ่คอมมิวนิสต์ ช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง เนรูดาเข้าร่วมกับพรรคคอมมิวนิสต์ชิลีและสนับสนุนโจเซฟ สตาลินอย่างเต็มตัว เมื่อผู้นำพรรคสังคมเสรีนิยมขึ้นสู่อำนาจและประกาศจับกุมสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์ เนรูดาลี้ภัยไปยังอาร์เจนตินา และใช้หนังสือเดินทางของเพื่อนเพื่อเดินทางต่อไปยังยุโรป

ในปี ค.ศ. 1970 ซัลบาดอร์ อาเยนเด ขึ้นเป็นประธานาธิบดีและยกเลิกประกาศจับ เนรูดาก็เดินทางกลับชิลี อาเยนเดแต่งตั้งให้เขาเป็นเอกอัครราชทูตประจำฝรั่งเศส ซึ่งเป็นตำแหน่งทางการทูตสุดท้ายของเขา ต่อมาในปี ค.ศ. 1971 เนรูดาได้รับรางวัลโนเบลสาขาวรรณกรรม แต่อีกสองปีต่อมา เขาก็เสียชีวิตจากโรคมะเร็งต่อมลูกหมาก[2] ในช่วงการรัฐประหารของนายพลปิโนเชต์ แม้ทางรัฐบาลทหารจะงดจัดงานศพแบบรัฐพิธีให้เนรูดา แต่ประชาชนก็ยังไปเคารพร่างของเขาอย่างเนืองแน่น

อ้างอิง[แก้]

แหล่งข้อมูลอื่น[แก้]