กาเอร์เอ็ล โกมูเตอร์ไลน์

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
กาเอร์เอ็ล โกมูเตอร์ไลน์
ข้อมูลทั่วไป
เจ้าของบริษัท รถไฟอินโดนีเซีย จำกัด
ที่ตั้งจาโบเดตาเบิก (จาการ์ตาและปริมณฑล)
ประเภทรถไฟฟ้าชานเมือง
จำนวนสาย6 (ไม่เปิดใช้งาน 1 สาย)
จำนวนสถานี80 (ไม่เปิดใช้งาน 6 สถานี)
เว็บไซต์www.krl.co.id
การให้บริการ
เริ่มดำเนินงาน6 เมษายน ค.ศ. 1925 (ภายใต้การควบคุมของบริษัทอาณานิคมดัตช์)
ค.ศ. 2000 (ภายใต้การควบคุมของบริษัท รถไฟอินโดนีเซีย จำกัด)
15 กันยายน ค.ศ. 2008 (ภายใต้การควบคุมของพีที เคซีเจ)
ผู้ดำเนินงานบริษัท รถไฟชานเมืองอินโดนีเซีย จำกัด
ความยาวขบวน4-10 คันต่อขบวน
ระยะห่าง5-8 นาที
ข้อมูลทางเทคนิค
ระยะทาง235 กิโลเมตร (146 ไมล์)
รางกว้าง1,067 mm (3 ft 6 in)
การจ่ายไฟฟ้าระบบจ่ายไฟฟ้าเหนือหัว ไฟฟ้ากระแสตรง ความต่างศักย์ 1,500 โวลต์
ความเร็วเฉลี่ย40 กิโลเมตรต่อชั่วโมง (25 ไมล์ต่อชั่วโมง)
ความเร็วสูงสุด90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง (56 ไมล์ต่อชั่วโมง)

กาเอร์เอ็ล โกมูเตอร์ไลน์ (อินโดนีเซีย: KRL Commuter Line) เป็นระบบรถไฟฟ้าชานเมืองในเขตกรุงจาการ์ตาและปริมณฑล ประเทศอินโดนีเซีย เดิมเรียกว่า กาเอร์เอ็ล จาโบเดตาเบิก (KRL Jabodetabek) ซึ่งย่อมาจากชื่อเต็มว่า เกอเรตา เร็ล ลิซตริก จาการ์ตา โบโกร์ เดปก ตาเงอรัง เบอกาซี (Kereta Rel Listrik Jakarta Bogor Depok Tangerang Bekasi) หมายถึง "รถไฟฟ้าจาการ์ตาและปริมณฑล"

กาเอร์เอ็ล โกมูเตอร์ไลน์ให้บริการรถไฟฟ้าชานเมืองในจาการ์ตา, โบโกร์, เดปก, ตาเงอรัง, ตาเงอรังใต้ และเบอกาซี ระบบรถไฟฟ้า ส่วนใหญ่เป็นรถไฟฟ้ามือสองซึ่งเคยใช้งานในโตเกียวเมโทร, รถไฟใต้ดินโทเอ, รถไฟญี่ปุ่น และรถไฟโทกีว และอีกบางส่วน ผลิตขึ้นในประเทศเอง

กาเอร์เอ็ล โกมูเตอร์ไลน์ดำเนินการโดยบริษัท รถไฟชานเมืองอินโดนีเซีย จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทลูกของบริษัท รถไฟอินโดนีเซีย จำกัด

ประวัติ[แก้]

ใน ค.ศ. 1923 ก่อนที่ประเทศอินโดนีเซียจะประกาศเอกราช บริษัท สตาตส์สโปร์เวเคิน (SS) ของจักรวรรดิดัตช์ ได้สร้างรถไฟฟ้าสายแรกจากตันจุงปรียก ไปยัง เมสเตอร์กอร์เนลิส (สถานีรถไฟจาตีเนอการาในปัจจุบัน) และได้เปิดใช้งานใน ค.ศ. 1925 โดยใช้รถจักรรุ่น 3000 ผลิตโดยเอสแอลเอ็ม-บีบีซี (บริษัทเครื่องจักรและรถจักรสวิส - บราวน์โบเวอรีแอนด์ซี), รถจักรไฟฟ้ารุ่น 3100 ผลิตโดยเออีจีเยอรมนี, รถจักรรุ่น 3200 ผลิตโดยบริษัทแวร์กสโปร์เนเธอร์แลนด์ และตู้โดยสาร ผลิตโดยเวสติงเฮาส์ และเจเนรัลอิเล็กทริก โครงการนี้ยังคงดำเนินการต่อไปใน ค.ศ. 1927 ในส่วนต่อขยายซึ่งให้บริการในเมืองปัตตาเวียและปริมณฑล

หลังจากประกาศเอกราชใน ค.ศ. 1945 การดำเนินงานรถไฟได้ถ่ายโอนไปยังสำนักงานขนส่งทางรางอินโดนีเซีย (ปัจจุบันคือบริษัท รถไฟอินโดนีเซีย จำกัด) และใน ค.ศ. 1976 ได้ปลดประจำการรถจักรและรถโดยสาร และนำเข้ารถไฟฟ้าจากประเทศญี่ปุ่น การให้บริการแบบรถไฟฟ้าชานเมือง เริ่มใน ค.ศ. 2000 อยู่ในเขตพื้นที่ให้บริการรถไฟที่ 1 และเริ่มดำเนินการโดยบริษัท รถไฟชานเมืองอินโดนีเซีย จำกัด ตั้งแต่ ค.ศ. 2008

การปรับระบบให้ทันสมัยเริ่มใน ค.ศ. 2011 โดยการยุบรวมจำนวนสายทั้งหมด 37 สาย ให้เหลือเพียง 6 สายหลัก ยกเลิกการให้บริการแบบรถด่วน และแบ่งชนิดรถเป็น 2 ประเภท คือ รถปรับอากาศ กับรถไม่ปรับอากาศ สำหรับรถไม่ปรับอากาศนั้น ดำเนินการโดยกระทรวงคมนาคม ในเดือนกรกฎาคม ค.ศ. 2013 ได้เปลี่ยนระบบบัตรมาเป็นระบบ คัมเม็ต (ระบบจำหน่ายบัตรไฟฟ้าชานเมือง) แทนที่ระบบตั๋วกระดาษ และเปลี่ยนระบบค่าโดยสารแบบเก่ามาเป็น ระบบจำหน่ายบัตรโดยสารแบบก้าวหน้า อีกทั้งยังมีการปรับปรุงสถานีรถไฟฟ้า 80 สถานีให้ดียิ่งขึ้น สำหรับรถนั่งไม่ปรับอากาศนั้น ได้รับการดัดแปลงมาเป็นรถนั่งปรับอากาศหมดครบทุกคันแล้ว[1]

สถิติวันที่ 1 เมษายน ค.ศ. 2015 มีรถไฟฟ้า 872 เที่ยวต่อวัน ส่วนใหญ่มาจากเส้นทาง โบโกร์/เดปก และเส้นทาง เบอกาซี เป็นหลัก โดยทั้งสองสายนี้ มีจำนวนเที่ยวรถ 391 และ 153 เที่ยวต่อวัน มีความถี่ทุก ๆ 5 นาที และ 12 นาที ตามลำดับ[2]

ในเดือนกรกฎาคม ค.ศ. 2015 ระบบรถไฟฟ้าสะสมผู้โดยสารได้มากถึง 850,000 คนต่อวัน[3] คาดว่าใน ค.ศ. 2019 จะสะสมผู้โดยสารได้มากถึง 1.2 ล้านคนต่อวัน[4]

เส้นทาง[แก้]

หลังจากที่ปรับปรุงโครงข่ายใน ค.ศ. 2011 มีรถไฟฟ้าชานเมืองให้บริการในจาการ์ตาและปริมณฑลอยู่ 6 สาย และจะสร้างสายย่อยระหว่างสถานีจีตายัม ในเมืองเดปกกับสถานีนัมโบในเมืองจีบีนง

สีของสาย สาย สถานีต้นทาง/ปลายทาง จำนวนสถานี ระยะทาง ปีที่เปิดให้บริการครบทั้งสาย
เหลือง วงแหวนจาการ์ตา จาตีเนอการา ไปยัง เดปก/โบโกร์ 30 71.8 กิโลเมตร ค.ศ. 1987
สายย่อยดูรี - นัมโบ ดูรี ไปยัง นัมโบ 20 50.8 กิโลเมตร ค.ศ. 2015
แดง จาการ์ตา - โบโกร์ จาการ์ตาโกตา ไปยัง เดปก/โบโกร์ 25 54.6 กิโลเมตร ค.ศ. 1930
เขียว จาการ์ตา - ตาเงอรังใต้ ตานะฮ์อาบัง ไปยัง เซอร์ปง/ปารุงปันจัง/มาจา 19 55.7 กิโลเมตร ค.ศ. 2013
น้ำเงิน จาการ์ตา - เบอกาซี จาการ์ตาโกตา ไปยัง เบอกาซี 18 27.4 กิโลเมตร ค.ศ. 1987
น้ำตาล จาการ์ตา - ตาเงอรัง ดูรี ไปยัง ตาเงอรัง 9 18.9 กิโลเมตร ค.ศ. 1997
ชมพู สายตันจุงปรียก จาการ์ตาโกตา ไปยัง ตันจุงปรียก 4 7.9 กิโลเมตร ค.ศ. 2015[5]
  • รถไฟฟ้าสายสีเหลืองและสายสีแดงบางขบวน สิ้นสุดการปลายทางที่สถานีรถไฟเดปก โดยมิได้วิ่งต่อไปถึงสถานีรถไฟโบโกร์
  • รถไฟฟ้าสายสีเขียว มีกำหนดเวลาเดินรถช่วงสถานีรถไฟตานะฮ์อาบัง จนถึงสถานีรถไฟเซอร์ปงเป็นหลัก บางขบวนให้บริการไปจนถึงสถานีรถไฟปารุงปันจัง และสถานีรถไฟมาจา
  • รถไฟฟ้าชานเมือง มิหยุดรับ-ส่งผู้โดยสารที่สถานีรถไฟกัมบีร์

สถานี[แก้]

รายชื่อสถานีรถไฟฟ้าทั้งหมด[แก้]

ขบวนรถด่วน นำขบวนโดยรถไฟฟ้าหมายเลข 5017 ที่สถานีรถไฟจาการ์ตาโกตา
  • สถานีรถไฟหลัก สถานีเปลี่ยนเส้นทาง และสถานีปลายทาง จะแสดงด้วย ตัวหนา
  • สถานีรถไฟในอดีต สถานีรถไฟในอนาคต และสถานีรถไฟที่ไม่มีขบวนรถหยุดรับ-ส่งผู้โดยสาร จะแสดงด้วย ตัวเอียง
สาย รายชื่อสถานีรถไฟฟ้า
สายสีแดง จาการ์ตาโกตา → จายาการ์ตา → มังกาเบอซาร์ → ซาวะฮ์เบอซาร์ → จูวันดา → กัมบีร์ → กนดังดียา → จีกีนี → มังกาไร → เตอเบิต → จาวัง → ดูเร็นกาลีบาตา → ปาซาร์มิงกูบารู → ปาซาร์มิงกู → ตันจุงบารัต → เล็นเต็งอากุง → มหาวิทยาลัยปันจาซีลา → มหาวิทยาลัยอินโดนีเซีย → ปนดกจีนา → เดปกบารู → เดปกจีตายัม → โบจงเกอเด → จีเลอบุต → โบโกร์
สายสีน้ำเงิน จาการ์ตาโกตา → จายาการ์ตา → มังกาเบอซาร์ → ซาวะฮ์เบอซาร์ → จูวันดา → กัมบีร์ → กนดังดียา → จีกีนี → มังกาไรจาตีเนอการาจีปีนัง → เกล็นเดร์ → บูวารัน → เกล็นเดร์บารู → จากุง → ราวาเบเบ็ก → กรันจี → เบอกาซี
สายสีส้ม จาตีเนอการา → ปนดกจาตี → กรามัต → กังเซินตียง → ปาซาร์เซอเน็น → เกอมาโยรัน → ราจาวาลี → กัมปุงบันดันอังเกดูรีตานะฮ์อาบัง → กาเร็ต → ซูดีร์มัน → มัมปังมังกาไร → เตอเบิต → จาวัง → ดูเร็นกาลีบาตา → ปาซาร์มิงกูบารู → ปาซาร์มิงกู → ตันจุงบารัต → เล็นเต็งอากุง → มหาวิทยาลัยปันจาซีลา → มหาวิทยาลัยอินโดนีเซีย → ปนดกจีนา → เดปกบารู → เดปกจีตายัม → โบจงเกอเด → จีเลอบุต → โบโกร์
สายสีเขียว ตานะฮ์อาบัง → ปัลเมระฮ์ → เกอบาโยรัน → ปนดกเบตุง → ปนดก-รันจี → จูรังมางู → ซูดีมารา → ราวาบุนตู → เซอร์ปง → จีเซาก์ → จีจายูร์ → ปารุงปันจัง → จีเลอจิต → ดารู → เต็นโจ → ตีการักซา → จีโกยา → มาจา → จีเตอรัซ → รังกัซบีตุง
สายสีน้ำตาล ดูรี → โกรกล → เปอซิง → ตามันโกตา → โบจงอินดะฮ์ → ราวาบูวายา → กาลีเดอเริซ → โปริซ → บาตูเจเปร์ → ตานะฮ์ติงกี → ตาเงอรัง
สายสีชมพู จาการ์ตาโกตากัมปุงบันดันอันจลตันจุงปรียก
สายนัมโบ จีตายัมปนดกราเจ็กจีบีนงกูนุงปูตรีนัมโบ

สถานีรถไฟที่สำคัญ[แก้]

ตารางด้านล่างนี้แสดงรายชื่อสถานีรถไฟที่มีความสำคัญ ในบางสถานีอาจมีรถไฟระหว่างเมืองให้บริการด้วย

สถานี สาย ปีที่เปิดใช้งาน รถไฟระหว่างเมือง ลักษณะ
จาการ์ตาโกตา ค.ศ. 1926 มีให้บริการ สถานีปลายทางของรถไฟชานเมืองและรถไฟระหว่างเมือง
กัมบีร์ ค.ศ. 1884 มีให้บริการ สถานีปลายทาง/สถานีเปลี่ยนเส้นทางของรถไฟระหว่างเมือง
มังกาไร ค.ศ. 1918 มีให้บริการ สถานีเปลี่ยนเส้นทางของรถไฟฟ้าชานเมือง
จาตีเนอการา ค.ศ. 1910 มีให้บริการ สถานีปลายทาง/สถานีเปลี่ยนเส้นทางของรถไฟฟ้าชานเมือง
ตานะฮ์อาบัง ค.ศ. 1910 มีให้บริการ สถานีปลายทาง/สถานีเปลี่ยนเส้นทางของรถไฟฟ้าชานเมือง
ดูรี ไม่ทราบปีที่เปิดใช้งาน มีให้บริการ สถานีปลายทาง/สถานีเปลี่ยนเส้นทางของรถไฟฟ้าชานเมือง
กัมปุงบันดัน ไม่ทราบปีที่เปิดใช้งาน ไม่มีให้บริการ สถานีเปลี่ยนเส้นทางของรถไฟฟ้าชานเมือง
ปาซาร์เซอเน็น ค.ศ. 1925 มีให้บริการ สถานีปลายทางของรถไฟระหว่างเมือง/สถานีเปลี่ยนเส้นทางของรถไฟฟ้าชานเมือง
โบโกร์ ค.ศ. 1881 มีให้บริการ สถานีปลายทางรถไฟฟ้าชานเมือง
เบอกาซี ไม่ทราบปีที่เปิดใช้งาน มีให้บริการ สถานีปลายทางของรถไฟชานเมืองและรถไฟระหว่างเมือง (เฉพาะเวลากลางคืน)
^ก ปัจจุบัน สถานีรถไฟกัมบีร์ไม่มีขบวนรถชานเมืองหยุดรับ-ส่งผู้โดยสาร เนื่องมีปริมาณขบวนรถไฟระหว่างเมืองมากแล้ว ผู้โดยสารที่ใช้บริการรถไฟชานเมืองสามารถลงที่สถานีรถไฟข้างเคียง ได้แก่ สถานีกนดังดียาและสถานีจูวันดา
^ข สถานีรถไฟดูรีจะเป็นสถานีเปลี่ยนเส้นทางไปยังรถไฟฟ้าเชื่อมท่าอากาศยานนานาชาติซูการ์โน-ฮัตตาในอนาคต ซึ่งเริ่มก่อสร้างใน ค.ศ. 2014
^ค สถานีรถไฟปาซาร์เซอเน็น มีเฉพาะรถไฟชานเมือง จาตีเนอการา-เดปก/โบโกร์ เท่านั้นที่หยุดรับ-ส่งผู้โดยสาร ส่วนในขบวนรถเที่ยวกลับ (เดปก/โบโกร์-จาตีเนอการา) ไม่หยุดรับส่งผู้โดยสาร

บัตรโดยสาร[แก้]

รูปียะฮ์
25 กิโลเมตรแรก 2,000
ทุก ๆ 10 กิโลเมตรถัดไป 1,000
ระบบฝากบัตร 10,000 (คืนเงินได้)
บัตรที่ใช้งานได้ คอมเม็ต
บีซีเอ แฟลซซ์
มันดีรี อี-มันนีย์
บีเอ็นไอ แทปแคช
บริซซี
บัตรโดยสารหลายเที่ยว (สีดำ) และเที่ยวบิน (สีขาว) ของกาเอร์เอ็ล จาโบเดตาเบิก

ในเดือนกรกฎาคม ค.ศ. 2013 ได้มีการเปลี่ยนแปลงระบบบัตรโดยสารและค่าธรรมเนียมครั้งใหญ่ โดยบัตรโดยสารที่กำหนดใช้ขึ้นมาใหม่คือ คัมเม็ต (คัมมิวเตอร์อิเล็กทรอนิกทิกเคตติง; อังกฤษ: Commuter Electronic Ticketing) บัตรมีสองประเภท คือ บัตรโดยสารเที่ยวเดียว สามารถรับบัตรนี้ได้ที่ช่องจำหน่ายบัตรโดยสาร และต้องคืนบัตรนี้ที่สถานีที่ลง กับบัตรโดยสารหลายเที่ยว มีราคาอยู่ที่ 50,000 รูปียะฮ์ (มียอดเงินภายในบัตรอยู่ 30,000 รูปียะฮ์[6] แต่เนื่องจากมีปัญหาเรื่องบัตรสูญหายอยู่บ่อยครั้ง จนในวันที่ 22 สิงหาคม ค.ศ. 2013 จึงได้มีการใช้งานระบบฝากบัตรประจำวันเป็นครั้งแรก ซึ่งต้องเสียค่าทำบัตร 5,000 รูปียะฮ์ (รวมค่าโดยสารรถไฟฟ้าแล้ว) บัตรฝากมีอายุ 7 วัน นับจากวันที่เติมบัตร ต่อมาวันที่ 9 ธันวาคม ค.ศ. 2013 ได้มีการอนุญาตให้ใช้ บัตรบีซีเอ แฟลซซ์ ของทรานส์จาการ์ตา ขึ้นรถไฟฟ้าได้เป็นครั้งแรก[7] ต่อมาเดือนมิถุนายน ค.ศ. 2014 ได้มีการอนุญาตให้ใช้บัตรบริซซี, มันดีรี อี-มันนีย์ และบีเอ็นไอ แทปแคช ซึ่งบัตรเหล่านี้สามารถใช้ได้ทั้งรถไฟฟ้าชานเมืองและรถโดยสารประจำทางด่วนพิเศษ ทรานส์จาการ์ตา[8]

ระบบค่าโดยสารแบบใหม่ เรียกว่า ค่าโดยสารแบบก้าวหน้า โดยค่าโดยสารจะแปรผันตามจำนวนสถานีที่ผ่านมา นั่งรถไฟฟ้าผ่านห้าสถานีแรก เสียค่าโดยสารรวม 3,000 รูปียะฮ์ และทุก ๆ สามสถานีถัดไป จะเสียค่าโดยสาร 1,000 รูปียะฮ์ แต่ในช่วงเดือนกรกฎาคม-พฤศจิกายน ค.ศ. 2013 ค่าโดยสารได้ถูกปรับให้น้อยลง[9] ในช่วงสัปดาห์แรกที่มีการลดราคา ได้มีผู้โดยสารมาใช้บริการเพิ่มขึ้นร้อยละ 30 และเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการเดินรถ เดือนสิงหาคม ค.ศ. 2013 บริษัทจึงซื้อรถไฟฟ้าเพิ่มอีก 10 คันในสายโบโกร์ และเพิ่มรถไฟฟ้าอีก 170 คันใน ค.ศ. 2014[10] หนึ่งปีหลังจากที่ระบบบัตรใหม่เริ่มใช้งาน มีผู้โดยสารมาใช้บริการเพิ่มขึ้นร้อยละ 56.6 และเป็นผู้โดยสารใช้บัตรประมาณร้อยละ 50[11] ในเดือนกันยายน ค.ศ. 2014 ระบบได้สะสมผู้โดยสารเพิ่มขึ้นจาก 600,000 เป็น 650,000 คนต่อวัน[12]

วันที่ 1 เมษายน ค.ศ. 2015 ได้เปลี่ยนระบบค่าโดยสารมาแปรผันตามระยะทาง ในระยะทาง 25 กิโลเมตรแรก เสียค่าโดยสาร 2,000 รูปียะฮ์ และทุก ๆ 10 กิโลเมตรถัดไป เสียค่าโดยสาร 1,000 รูปียะฮ์[13]

ระบบรถไฟฟ้า[แก้]

รถไฟฟ้าชานเมืองขบวนหนึ่ง กำลังเข้าสู่สถานีรถไฟกัมบีร์ (อดีตรถไฟฟ้าโทกีว รุ่น 8000)

รถไฟฟ้าส่วนใหญ่เป็นรถนั่งปรับอากาศมือสองซึ่งเคยใช้งานในประเทศญี่ปุ่น และอีกส่วนน้อยเคยเป็นรถนั่งพัดลมโดยบริษัทผลิตรถไฟอินโดนีเซีย สำหรับรถนั่งพัดลมทุกคันได้ถูกดัดแปลงเป็นรถนั่งปรับอากาศหมดแล้ว ตามนโยบายที่ต้องการให้รถไฟฟ้าชานเมืองทุกขบวนเป็นขบวนรถปรับอากาศหมด รถไฟฟ้า 1 ขบวน จะมีตู้โดยสาร 8-10 คัน (ปัจจุบันกำลังพัฒนาให้ทุกขบวนมี 10 คัน) แต่ละคันจุผู้โดยสารได้ 80-110 คน

นอกจากนี้ยังมีแผนที่จะปลดประจำการรถไฟฟ้ากาเอร์เอ็ล เอโกโนมี และเก็บรักษาไว้ในฐานะรถไฟฟ้าคันแรกของอินโดนีเซียอีกด้วย

รถไฟฟ้าไม่ปรับอากาศ (ปลดประจำการใน ค.ศ. 2013)[แก้]

  • กาเอร์เอ็ล เอโกโนมี เบเอ็น-โฮเล็ก (ปลดประจำการ; บางคันกลายเป็นรถดีเซลราง)
  • กาเอร์เอ็ล เอโกโนมี เรโอสตัต (ปลดประจำการ แล้วถูกเก็บรักษาไว้)
  • กาเอร์เอ็ล ฮิตาชิ (ปลดประจำการ แล้วถูกเก็บรักษาไว้)
  • กาเอร์เอ็ล เอบีบี ฮุนได (ปลดประจำการ; บางคันกลายเป็นรถดีเซลราง)

รถไฟฟ้าปรับอากาศ[แก้]

รถไฟฟ้าขบวนที่ 6115 ในเดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 2011
  • รุ่น 103 (อดีตรถไฟฟ้าของการรถไฟญี่ปุ่นและกลุ่มบริษัทรถไฟญี่ปุ่น)
  • รุ่น 203 (อดีตรถไฟฟ้าของการรถไฟญี่ปุ่นและกลุ่มบริษัทรถไฟญี่ปุ่น)
  • รุ่น 205 (อดีตรถไฟฟ้าของการรถไฟญี่ปุ่นและกลุ่มบริษัทรถไฟญี่ปุ่น)
  • โทเอ รุ่น 6000 (อดีตรถไฟฟ้าของรถไฟใต้ดินโทเอสายมิตะ)
  • โทกีว รุ่น 8000 (อดีตรถไฟฟ้าของโทกีว)
  • โทกีว รุ่น 8500 (อดีตรถไฟฟ้าของโทกีว)
  • โทโยแรพิด รุ่น 1000 (อดีตรถไฟฟ้าของรถไฟเร็วโทโย)
  • โตเกียวเมโทร รุ่น 05 (อดีตรถไฟฟ้าของโตเกียวเมโทรสายโทไซ)
  • โตเกียวเมโทร รุ่น 5000 (อดีตรถไฟฟ้าของโตเกียวเมโทรสายโทไซ)
  • โตเกียวเมโทร รุ่น 6000 (อดีตรถไฟฟ้าของโตเกียวเมโทรสายชิโยะดะ)
  • โตเกียวเมโทร รุ่น 7000 (อดีตรถไฟฟ้าของโตเกียวเมโทรสายยูระกุโช)
  • กาเอร์เอ็ลไอ (ไอเอ็นเคเอ)
  • กาเอร์เอ็ล ไอ9000 เคเอฟดับบลิว-บอมบาร์ดิเออร์-ไอเอ็นเคเอ
  • กาเอร์เอ็ล โฮเล็ก เอซี (เคยเป็นรถนั่งพัดลม กาเอร์เอ็ล เอโกโนมี โฮเล็ก ตั้งแต่ ค.ศ. 1994-2011)

สมุดภาพ[แก้]

ดูเพิ่ม[แก้]

อ้างอิง[แก้]

  1. Syailendra. "KRL Ekonomi Non-AC Dihapus Sejak Hari Ini". Tempo.co. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2014-03-14. สืบค้นเมื่อ 13 March 2014.
  2. "Penambahan Jadwal Commuter Line dan Ancaman Kemacetan". March 27, 2015.
  3. "PT KCJ: Keterlambatan KRL Sudah di Bawah 10 Menit". July 6, 2015.
  4. Agustin Setyo Wardani (February 3, 2015). "2014, Sebanyak 200 Juta Orang Naik Kereta Jabodetabek".
  5. Willy Widianto (March 3, 2015). "KRL Priok-Stasiun Kota Beroperasi 1 April, Perlintasan Liar di Ancol Ditutup".
  6. http://www.thejakartapost.com/news/2013/07/01/commuters-welcome-kcj-s-cheaper-train-fares.html
  7. "Tiket Harian Berjaminan Bikin Bingung". August 23, 2013. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-12-12. สืบค้นเมื่อ 2015-07-30.
  8. "Naik KRL Sekarang Bisa Pakai Tiga Kartu Prabayar Bank BUMN". June 16, 2014.
  9. http://www.thejakartapost.com/news/2013/06/27/cheaper-train-fares-and-e-tickets-kcj.html
  10. "Train commuters up by 30 percent". July 8, 2013.
  11. Ana Shofiana Syatiri (August 18, 2014). "Sejak Tarif Progresif Berlaku, Penumpang KRL Naik Drastis".
  12. Hertanto Soebijoto (September 11, 2014). "Mulai Hari Ini KRL Commuterline Lintas Bogor-Jakarta Ditambah".
  13. "Mulai 1 April, Tarif KRL Berubah". February 27, 2015.

แหล่งข้อมูลอื่น[แก้]