โมจิไอศกรีม

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
โมจิไอศกรีม
โมจิไอศกรีมรสชาเขียว วานิลลา และสตรอว์เบอร์รี
มื้อของหวาน
แหล่งกำเนิดญี่ปุ่น
อุณหภูมิเสิร์ฟเย็น
ส่วนผสมหลักโมจิ ไอศกรีม น้ำตาลทราย

โมจิไอศกรีม (อังกฤษ: Mochi ice cream; ญี่ปุ่น: 餅アイスโรมาจิMochi Aisu) เป็นขนมหวานที่ทำจากโมจิญี่ปุ่น (ข้าวเหนียวตำ) สอดไส้ไอศกรีม คิดค้นขึ้นโดยฟรานเชส ฮาชิโมโตะ นักธุรกิจหญิงและนักกิจกรรมชุมชนชาวอเมริกาเชื้อสายญี่ปุ่น[1]

ลักษณะ[แก้]

โมจิไอศกรีมเป็นขนมหวานรูปรางกลมขนาดเล็ก ซึ่งประกอบด้วยแป้งข้าวเหนียวทุบ (โมจิ) ปั้นเป็นก้อนกลม ๆ ใส่ไส้ไอศกรีม[2] ไอศกรีมเพิ่มรสชาติและความเป็นครีมให้กับขนมในขณะที่โมจิเพิ่มความหวานและเนื้อสัมผัส[2] ไอศกรีมรสดั้งเดิมที่ใช้คือวานิลลา ช็อกโกแลต และสตรอว์เบอร์รี่ รสชาติอื่น ๆ ที่แพร่หลายได้แก่ กาแฟโคนา เหล้าบ๊วย ชาเขียว และถั่วแดง[3] โมจิยังสามารถใช้เป็นส่วนประกอบหนึ่งในไส้ไอศกรีมได้อีกด้วย ขณะทำโมจิจะคลุกด้วยแป้งมันฝรั่งหรือแป้งข้าวโพดเพื่อป้องกันไม่ให้โมจิจับตัวเป็นก้อนขณะปั้น[2][4]

ประวัติ[แก้]

ไดฟูกุและมันจูของญี่ปุ่นเป็นต้นกำเนิดของโมจิไอศกรีมต่าง ๆ โดยทั่วไปยัดไส้ถั่วแดงอาซูกิ เนื่องจากอุณหภูมิและความเข้ากันได้ระหว่างโมจิและไอศกรีม ส่วนประกอบทั้งสองจึงต้องมีการปรับเปลี่ยน เพื่อให้ได้ความหนืดที่เหมาะสมซึ่งจะสามารถคงรูปได้โดยไม่ขึ้นกับการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิ[5][6]

ของหวานรูปแบบก่อนหน้า เดิมผลิตโดยล็อตเต้ ในชื่อ ยูกิมิไดฟูกุ ในปี ค.ศ. 1981 เริ่มแรกบริษัทผลิตโดยใช้แป้งข้าวเจ้าแทนข้าวเหนียว และใช้นมข้าวแทนไอศกรีมจริง[7]

ฟรานเชส ฮาชิโมโตะ อดีตประธานและกรรมการผู้จัดการของบริษัทมิกายาวะ ได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้คิดค้นโมจิไอศกรีม[1][8][9][10] โจเอล ฟรีดแมน สามีของฮาชิโมโตะเกิดความคิดในการนำไอศกรีมลูกกลมเล็ก ๆ มาห่อด้วยโมจิแบบญี่ปุ่นดั้งเดิม[8] ฮาชิโมโตะนำความคิดของสามีมาต่อยอด[8] คิดค้นขนมหวานลูกผสมที่ปัจจุบันเป็นที่นิยมในสหรัฐอเมริกาและที่อื่น ๆ[1] ฮาชิโมโตะเสนอโมจิไอศกรีมเจ็ดรสชาติในสายผลิตภัณฑ์โมจิ[1]

บริษัทมิกาวายะเริ่มผลิตโมจิไอศกรีมในสหรัฐอเมริกาในปี ค.ศ. 1993[11][12] การวิจัยและพัฒนาใช้เวลามากกว่าทศวรรษเพื่อพัฒนาเป็นรูปแบบผลิตจำนวนมากที่ใช้กันในปัจจุบัน เนื่องจากการปฏิกิริยาที่ซับซ้อนของส่วนผสม[11][5] มีการลองผิดลองถูกเพื่อดึงแป้งโมจิที่ละเอียดอ่อนคลุมบนไอศกรีมได้สำเร็จโดยไม่ทิ้งรอยเหนอะ[13] ฟรีดแมนอธิบายว่าเพื่อดำเนินการผลิตไอศกรีม ผู้เชี่ยวชาญตั้งแต่ด้านการก่อสร้างไปจนถึงด้านจุลชีววิทยาได้ถูกเชิญมาเพื่อทำสร้างอาคารการผลิตที่ทันสมัยอย่างสมบูรณ์แบบ[14]

บริษัทมิยากาวะเปิดตัวโมจิไอศกรีมในฮาวายในปี ค.ศ. 1994 ขนมแช่แข็งได้รับความนิยมอย่างมาก โดยครองส่วนแบ่งร้อยละ 15 ของตลาดขนมแช่แข็งใหม่ในช่วงสี่เดือนแรก[14]

โมจิไอศกรีมได้รับความนิยมอย่างมากในสหราชอาณาจักรหลังจากกระแสไวรัล ติ๊กต็อกซึ่งเริ่มขึ้นในเดือนมกราคม ค.ศ. 2021 กระแสของ 'Looking for Little Moons in Big Tesco' (ตามหาลิตเติลมูนในบิกเทสโก้) กลายเป็นที่ฮือฮา โดยได้รับยอดชม 341.8 ล้านครั้ง และยอดขายเฉพาะในเครือเทสโก้พุ่งสูงถึงร้อยละ 1,400[15]

ดูเพิ่ม[แก้]

อ้างอิง[แก้]

  1. 1.0 1.1 1.2 1.3 Watanabe, Teresa (2012-11-07). "Frances Hashimoto dies at 69; Little Tokyo leader, mochi ice cream creator". Los Angeles Times. สืบค้นเมื่อ 2012-12-02.
  2. 2.0 2.1 2.2 "What is Mochi Ice Cream?" (ภาษาอังกฤษ). Mikawaya. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 5 April 2016. สืบค้นเมื่อ 25 March 2016.
  3. "Mochi Ice Cream" (ภาษาอังกฤษ). Mikawaya. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 5 April 2016. สืบค้นเมื่อ 25 March 2016.
  4. "Mochi Ice Cream Recipe". House of Japan. 25 October 2010. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 10 June 2015.
  5. 5.0 5.1 Eto, Masa, Pursuit of Innovative Food, Masa's Message, A&D Company Ltd., March 2004. Technical information on Yukimi Daifuku. URL accessed August 10, 2006.
  6. SCPR:Bad texture led to creation of popular dessert
  7. Japan. Japan Patent Office. Trademark Application From File: #s56-64587. Tokyo, 1981.
  8. 8.0 8.1 8.2 Endo, Ellen (2012-11-05). "Mikwaya CEO Hashimoto Passes at 69". Rafu Shimpo. สืบค้นเมื่อ 2012-12-02.
  9. Lee, Wendy (2012-11-07). "Frances Hashimoto, creator of mochi ice cream, dies". KPCC. สืบค้นเมื่อ 2012-12-02.
  10. Jablon, Robert (2012-11-07). "Frances Hashimoto Dead: Inventor Of Mochi Ice Cream Dies Of Lung Cancer". Associated Press. Huffington Post. สืบค้นเมื่อ 2012-12-02.
  11. 11.0 11.1 Mainstream America Embraces Mochi Ice Cream, sushiandtofu.com, All Japan News, December, 2001. History of Mochi Ice Cream and Mikawaya Bakery-Confectionery. URL accessed August 10, 2006. Archive.org copy
  12. About Us, Mikawaya, 2005. URL accessed January 18, 2007.
  13. Radio, Southern California Public (2013-01-22). "Mochi ice cream: Bad texture led to popular dessert". Southern California Public Radio. สืบค้นเมื่อ 2018-07-24.
  14. 14.0 14.1 "The Mochi Way". Dairy Foods. 2012.
  15. "How to go viral on TikTok". www.managementtoday.co.uk (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2022-01-14.

แหล่งข้อมูลอื่น[แก้]