เซฟวิ่ง ไพรเวท ไรอัน ฝ่าสมรภูมินรก
เซฟวิ่ง ไพรเวท ไรอัน ฝ่าสมรภูมินรก | |
---|---|
กำกับ | สตีเว่น สปีลเบิร์ก |
อำนวยการสร้าง | เอียน ไบรซ์ มาร์ก กอร์ดอน แกรี่ เลวินซอห์น สตีเว่น สปีลเบิร์ก |
เขียนบท | โรเบิร์ต โรดัท |
นักแสดงนำ | ทอม แฮงค์ เอ็ดเวิร์ด เบิร์นส์ ทอม ไซส์มอร์ แบร์รี่ เป็ปเปอร์ วิน ดีเซล จิโอวานนี่ ริบิซี่ อดัม โกลด์เบิร์ก แมตต์ เดม่อน เจเรมี เดวีส์ |
ดนตรีประกอบ | จอห์น วิลเลี่ยมส์ |
กำกับภาพ | จามุส คามินสกี |
ตัดต่อ | ไมเคิล คาห์น |
ผู้จัดจำหน่าย | ดรีมเวิร์กส พิคเจอร์ส พาราเมาต์ พิคเจอร์ส บ.ยูไนเต็ด โฮมส์ เอ็นเตอร์เทนเมนต์ (ไทย) |
วันฉาย | 24 มิถุนายน 1998 (สหรัฐอเมริกา) 4 ธันวาคม 1998 (ปฐมทัศน์ในไทย) 31 ธันวาคม 1998 (ฉายจริงในไทย) |
ความยาว | 170 นาที |
ประเทศ | สหรัฐอเมริกา |
ภาษา | อังกฤษ เยอรมัน อิตาเลียน |
ทุนสร้าง | 70 ล้านดอลลาร์สหรัฐ[1] |
รายได้ | 481,840,909 ดอลลาร์สหรัฐ[2] |
ข้อมูลจาก IMDb | |
ข้อมูลจากสยามโซน |
เซฟวิ่ง ไพรเวท ไรอัน ฝ่าสมรภูมินรก (อังกฤษ: Saving Private Ryan) เป็นภาพยนตร์สัญชาติอเมริกันออกฉายในกลางปี ค.ศ. 1998 นำแสดงโดย ทอม แฮงค์, เอ็ดเวิร์ด เบิร์นส์, ทอม ไซส์มอร์, แบร์รี่ เป็ปเปอร์, วิน ดีเซล, จิโอวานนี่ ริบิซี่, อดัม โกลด์เบิร์ก, แมตต์ เดม่อน และ เจเรมี เดวีส์ กำกับการแสดงโดย สตีเวน สปีลเบิร์ก
เนื้อเรื่อง[แก้]
สงครามโลกครั้งที่สอง หลังการบุกหาดโอมาฮ่าเมื่อวันที่ 6 มิถุนายน ค.ศ. 1944 แล้ว กองทัพอเมริกันประสบความสูญเสียเป็นอย่างมาก ทหารหลายคนบาดเจ็บ พิการ และล้มตาย ร้อยเอก จอห์น มิลเลอร์ (ทอม แฮงค์) ผู้นำกองทหารกองหนึ่ง ก็พบกับความสูญเสียของผู้ใต้บังคับบัญชาในครั้งนี้ด้วย
แต่ในยุทธการยกพลขึ้นบกครั้งนี้ของสัมพันธมิตร นำมาซึ่งความสูญเสียของบุตรชาย 3 คนแห่งตระกูลไรอัน ซึ่งกองทัพสหรัฐได้ส่งจดหมายแสดงความเสียใจมาแก่คุณนายไรอัน แต่ทว่า ในการพิมพ์จดหมายนั้น เสมียนผู้พิมพ์พบถึงความสูญเสียของตระกูลไรอันแล้ว 3 คน ซึ่งยังเหลือเพียงบุตรชายคนสุดท้อง คือ พลทหาร เจมส์ ไรอัน (แมตต์ เดม่อน) ที่ตกอยู่ในแนวข้าศึกโดยไม่ทราบชะตากรรม จึงได้รายงานต่อผู้บังคับบัญชา (เดนนิส ฟารีนา) ซึ่งได้ตัดสินใจให้พาพลทหารไรอันกลับบ้านมาอย่างปลอดภัย
ภารกิจนำพลทหารไรอันกลับบ้านจึงตกแก่กองกำลังของร้อยเอกมิลเลอร์ ซึ่งมีผู้ใต้บังคับบัญชา 7 คน โดยที่แต่ละคนไม่เข้าใจว่า ทำไมต้องเสี่ยงชีวิตคนส่วนใหญ่เพื่อชีวิตคน ๆ เดียวด้วย โดยที่ระหว่างทางพวกเขาต้องประสบกับความสูญเสียเป็นอย่างมาก ซึ่งในท้ายที่สุด หลายคนได้เสียชีวิตรวมทั้งร้อยเอกมิลเลอร์ด้วย แต่ก่อนตาย เขาได้บอกแก่ไรอันว่า ใช้ชีวิตให้คุ้มค่า ซึ่งไรอันได้จดจำและสำนึกในบุญคุณของมิลเลอร์ไปตลอด
ตัวละคร[แก้]
- ทอม แฮงค์...ร้อยเอก จอห์น มิลเลอร์ เป็นผู้นำกองทหารในภารกิจนี้ มีประวัติที่ไม่เปิดเผยโดยบอกแก่ผู้ใต้บังคับบัญชาว่า เคยเป็นครูสอนคณิตศาสตร์และโค้ชบาสเก็ตบอลในโรงเรียนมัธยม มีมือที่สั่นเทา ซึ่งเป็นบาดแผลทางจิตใจจากสงครามมานาน
- ทอม ไซส์มอร์...จ่าสิบเอก ไมค์ โฮวาทท์ เป็นรองผู้นำกองทหาร
- เอ็ดเวิร์ด เบิร์นส์...พลทหาร ริชาร์ด ไรเบน พลทหารในกอง
- แบร์รี่ เป็ปเปอร์...พลทหาร แดเนียล แจ็คสัน เป็นพลแม่นปืน
- จิโอวานนี่ ริบิซี่...พลทหาร เออร์วิน วาร์ด เป็นพลทหารพยาบาล
- เจเรมี เดวีส์...พลทหารสื่อสาร ทิโมธี อับฮัม พลทหารสื่อสารที่เข้าร่วมภารกิจนี้ เป็นคนนอกกอง ปฏิบัติหน้าที่เป็นล่าม มีความหวาดกลัวและตื่นตระหนกตลอด เพราะไม่เคยผ่านสงครามมาก่อน
- วิน ดีเซล...พลทหาร เอ็ดเวิร์ด คาปาร์โซ่ พลทหารประจำกองเชื้อสายอิตาเลียน เสียชีวิตจากการช่วยเหลือเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง
- อดัม โกลด์เบิร์ก...พลทหาร สแตนลีย์ "ฟิช" มาลลิช พลทหารประจำกอง เชื้อสายยิว
- แมตต์ เดม่อน...พลทหาร เจมส์ ฟรานซิส ไรอัน พลทหารที่เป็นเป้าหมายของภารกิจนี้ ผู้ตกอยู่ในแนวข้าศึก
- เดนนิส ฟารีนา...พันเอก วอลเตอร์ แอนเดอร์สัน ผู้บังคับบัญชาผู้ออกคำสั่งให้ปฏิบัติภารกิจนำพลทหารไรอันกลับบ้าน
- ฮาร์ฟ เพรสเนลล์...พลเอก จอร์จ ซี.มาร์แชลล์ ผู้บังคับบัญชาสูงสุดของกองทัพสหรัฐ
- แฮร์ริสัน ยัง...เจมส์ ฟรานซิส ไรอัน เป็นพลทหารไรอันในวัยชรา
เบื้องหลังและความสำเร็จ[แก้]
Saving Private Ryan เป็นภาพยนตร์ฟอร์มใหญ่และได้รับการจับตาเป็นอย่างมากในปี ค.ศ. 1998 อีกทั้งเป็นภาพยนตร์ที่ทำรายได้สูงสุดประจำปีนั้นด้วย โดยมีเนื้อหาเกี่ยวกับความสูญเสียของกำลังทหารและชีวิตผู้คนในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง แสดงให้เห็นถึงความโหดร้ายของสงคราม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในฉากเปิดเรื่องที่ยาวกว่า 10 นาที ที่เป็นการบุกหาดโอมาฮ่า ที่ได้รับการกล่าวขานว่าเป็นสมรภูมิที่สูญเสียที่สุดของกองทัพสหรัฐอเมริกา ได้รับคำวิจารณ์ว่าทำได้เสมือนจริงอย่างมาก และหลายคนได้นำไปเปรียบเทียบกับภาพยนตร์แนวเดียวกันในอดีต อย่าง The Longest Day ในปี ค.ศ. 1962[3][4]
เมื่อเข้าฉายแล้ว ได้รับการจับตาอย่างยิ่งว่าจะคว้ารางวัลได้หลายรางวัล ทั้ง รางวัลออสการ์หรือรางวัลลูกโลกทองคำ รวมทั้ง รางวัลอื่น ๆ ด้วย ซึ่งภาพยนตร์ก็คว้าได้หลายรางวัลด้วยกัน โดยเฉพาะการแสดงที่โดดเด่นอย่างมากของ ทอม แฮงค์ และเจเรมี เดวีส์ ที่รับบทเป็นพลทหารอับฮัม ที่ตื่นตระหนกตลอดเวลา เป็นเหมือนลูกไล่และจุดอ่อนของกองกำลัง
ซึ่งในระหว่างที่เข้าฉายนั้น ก็มีภาพยนตร์ในแนวเดียวกัน คือ The Thin Red Line ของทเวนตี้ เซนจูรี ฟอกซ์ เข้าฉายในเวลาเดียวกัน เสมือนเป็นคู่แข่งและคู่เปรียบเทียบ[5]
ในรางวัลออสการ์มีชื่อเข้าชิงมากถึง 11 รางวัล ประกอบไปด้วย รางวัลใหญ่ ๆ ด้วยกัน เช่น ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม, ผู้กำกับยอดเยี่ยม, นักแสดงนำชายยอดเยี่ยม, บันทึกภาพยอดเยี่ยม, บทภาพยนตร์ดั้งเดิมยอดเยี่ยม, บันทึกเสียงยอดเยี่ยม เป็นต้น ซึ่งส่วนใหญ่ก็สามารถคว้ามาได้ ยกเว้น สาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยมที่พลาดให้แก่ Shakespeare in Love ภาพยนตร์สัญชาติอังกฤษ[6]
ดูเพิ่ม[แก้]
- หาดโอมาฮา
- การรุกรานนอร์ม็องดี
- เดอะ ทิน เรด ไลน์ ฝ่านรกยึดเส้นตาย
- ดี-เดย์ (ภาพยนตร์ พ.ศ. 2562)
- กัลลิโพลี (ภาพยนตร์ พ.ศ. 2524)
- ยึด!
- อินช็อน (ภาพยนตร์)
อ้างอิง[แก้]
แหล่งข้อมูลอื่น[แก้]
- ภาพยนตร์อเมริกัน
- ภาพยนตร์ที่ออกฉายในปี พ.ศ. 2541
- ภาพยนตร์ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับสงครามโลกครั้งที่ 2
- ภาพยนตร์ที่กำกับโดย สตีเวน สปีลเบิร์ก
- ภาพยนตร์โดยดรีมเวิร์กส
- ภาพยนตร์โดยพาราเมาต์พิกเจอส์
- ภาพยนตร์ระดับอาร์
- ภาพยนตร์ที่มีฉากในประเทศฝรั่งเศส
- ภาพยนตร์ที่ถ่ายทำในประเทศไอร์แลนด์
- ภาพยนตร์อนุรักษ์หอทะเบียนภาพยนตร์แห่งชาติสหรัฐ