อี พัง-จา
อี พัง-จา | |
---|---|
พระชายาในมกุฎราชกุมารอึยมิน | |
ประสูติ | 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2444 ชิบูยะ จังหวัดโตเกียว จักรวรรดิญี่ปุ่น |
สิ้นพระชนม์ | 30 เมษายน พ.ศ. 2532 (87 ปี) พระราชวังชังด็อก โซล ประเทศเกาหลีใต้ |
พระสวามี | อี อึน (พ.ศ. 2463–2513) |
พระบุตร | อี จิน อี กู |
ราชวงศ์ | ญี่ปุ่น (ประสูติ) โชซ็อน (เสกสมรส) |
พระบิดา | โมริมาซะ นาชิโมโตะ |
พระมารดา | อิตสึโกะ นาเบชิมะ |
ศาสนา | โรมันคาทอลิก (เดิมชินโต) |
อี พัง-จา (เกาหลี: 이방자; ฮันจา: 李方子; อาร์อาร์: I Bangja; เอ็มอาร์: Yi Pangja) หรือ มาซาโกะ ริ (ญี่ปุ่น: 李方子; โรมาจิ: Ri Masako) พระนามเดิม เจ้าหญิงมาซาโกะแห่งนาชิโมโตะ (ญี่ปุ่น: 方子女王; โรมาจิ: Masako Joō; 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2444 — 30 เมษายน พ.ศ. 2532) เป็นพระชายาในมกุฎราชกุมารอึยมินแห่งเกาหลี[1] เดิมทั้งสองพระองค์มีสิทธิ์ในการสืบราชบัลลังก์เป็นจักรพรรดิและจักรพรรดินีแห่งเกาหลี หากแต่เกิดการล้มล้างการปกครองสนธิสัญญาผนวกดินแดนญี่ปุ่น-เกาหลี ในปี พ.ศ. 2453 ที่คาบสมุทรเกาหลีตกเป็นส่วนหนึ่งของจักรวรรดิญี่ปุ่น
อี พัง-จาเป็นเชื้อพระวงศ์ญี่ปุ่นทั้งเป็นพระประยูรญาติสนิทของจักรพรรดินีโคจุง และเจ้าหญิงเซ็ตสึโกะ พระชายาในเจ้าชายยาซูฮิโตะ สืบมาแต่ฝ่ายพระบิดาและพระมารดาตามลำดับ จากการที่ทรงประกอบพระกรณียกิจด้วยการอุปถัมภ์องค์กรเพื่อคนพิการทุพพลภาพและการก่อตั้งโรงเรียนขึ้นในเกาหลีใต้ ด้วยเหตุนี้พระองค์จึงเป็นหนึ่งในสตรีญี่ปุ่นที่ชาวเกาหลีให้ความเคารพอย่างกว้างขวาง
พระประวัติ
[แก้]พระชนม์ชีพตอนต้น
[แก้]อี พัง-จา หรือ มาซาโกะ ริ มีพระนามเดิมว่า เจ้าหญิงมาซาโกะแห่งนาชิโมโตะ ประสูติเมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2444 เป็นพระธิดาพระองค์ใหญ่ในเจ้าชายโมริมาซะ นาชิโมโตะโนะมิยะ เป็นจอมพลแห่งกองทัพจักรวรรดิญี่ปุ่น กับเจ้าหญิงอิตสึโกะ พระชายาฯ (สกุลเดิม นาเบชิมะ) ธิดาของมาร์ควิสนาโอฮิโระ นาเบชิมะ อดีตเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศอิตาลี อี พัง-จามีพระขนิษฐาร่วมอุทรหนึ่งพระองค์คือ เจ้าหญิงโนริโกะแห่งนาชิโมโตะ (พ.ศ. 2450–2535) และมีพระอนุชาที่พระมารดาทรงรับเลี้ยงไว้ ชื่อเจ้าชายโนริฮิโกะแห่งนาชิโมโตะ (พระนามเดิม เจ้าชายทากะแห่งคูนิ และต่อมาได้ยศและเปลี่ยนนามเป็น เคานต์โนริฮิโกะ ทาซูตะ) หลังสิ้นสงครามโลกครั้งที่สอง ครอบครัวของพระองค์ถูกถอดจากฐานันดรศักดิ์ทั้งหมด
พื้นฐานครอบครัวของพระองค์ พระบิดาเป็นพระโอรสในเจ้าชายอาซาฮิโกะ คูนิโนะมิยะ เจ้าหญิงมาซาโกะจึงเป็นพระญาติและมิตรสหายกับเจ้าหญิงนางาโกะแห่งคูนิ (ต่อมาได้เป็นจักรพรรดินีในจักรพรรดิโชวะ) ส่วนบรรพชนฝ่ายพระมารดาคือสกุลนาเบชิมะ สืบสกุลจากนาโอฮิโตะ นาเบชิมะ ไดเมียวคนสุดท้ายแห่งแคว้นซางะ เจ้าหญิงพังจามีพระญาติชั้นหนึ่งในสายนี้ที่มีความสนิทสนมเป็นสหายร่วมกัน ชื่อ เซ็ตสึโกะ มัตสึไดระ ที่ต่อมาได้เป็นพระชายาในเจ้าชายยาซูฮิโตะ ชิจิบุโนะมิยะ และโยชิโกะ มัตสึไดระ ที่ต่อมาเป็นพระชายาในเจ้าชายก็อนแห่งเกาหลี
อภิเษกสมรส
[แก้]เมื่อพระองค์ล่วงเข้าสู่วัยสาวสะพรั่ง พระองค์ได้ถูกจัดให้เป็นหนึ่งในสตรีที่มีความเหมาะสมกับการเป็นพระชายาของยุพราชเจ้าแห่งญี่ปุ่น ซึ่งก็รวมไปถึงเจ้าหญิงนางาโกะแห่งคูนิ พระสหาย และโทกิโกะ อิชิโจที่มีความเหมาะสมในเรื่องของวัยวุฒิและสถานะทางสังคม แต่ด้วยเหตุที่ว่าพื้นฐานครอบครัวของพระองค์นั้นมีบุตรน้อยทั้งยังเป็นสตรีเสียหมดเจ้าหญิงอาจจะให้กำเนิดพระราชโอรสยาก เจ้าหญิงมาซาโกะจึงเป็นตัวเลือกที่ถูกตัดออกเป็นคนแรก
แต่อย่างไรก็ตามเจ้าหญิงมาซาโกะก็ได้เสกสมรสกับมกุฎราชกุมารอึยมินแห่งเกาหลีแทน โดยมกุฎราชกุมารแห่งเกาหลีพระองค์นี้ถูกนำมาเข้ารับการศึกษาที่ญี่ปุ่นเมื่อปี พ.ศ. 2459 ครั้นเจ้าหญิงมาซาโกะทรงสำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนกะกุชูอิงในปี พ.ศ. 2463 ก็ได้มีการจัดพระราชพิธีอภิเษกสมรสเมื่อวันที่ 28 เมษายนปีเดียวกันนั้น ณ พระราชวังลี กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น และได้รับการสถาปนาเป็น "มกุฎราชกุมารีแห่งเกาหลี" ส่วนพระนาม "มาซาโกะ" ของพระองค์ออกเสียงอย่างเกาหลีว่า "พังจา" และสะกดด้วยอักษรจีนเช่นกัน
เจ้าหญิงมาซาโกะ หรือเจ้าหญิงพังจา ได้ให้ประสูติกาลพระโอรสพระองค์แรกคือเจ้าชายจิน เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2464 แต่พระโอรสพระองค์น้อยนี้ก็มีพระชนม์ให้ชื่นชมโสมนัสได้ไม่นานก็ถูกลอบปลงพระชนม์เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2465 ขณะที่มกุฎราชกุมารและเจ้าหญิงพังจาประทับอยู่ในเกาหลี สร้างความเศร้าเสียพระทัยแก่ทั้งสองพระองค์อย่างยิ่ง
วันที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2469 จักรพรรดิซุนจง พระเชษฐาของมกุฎราชกุมารเสด็จสวรรคต พระองค์จึงมีพระอิสริยยศเป็น "พระราชินี" ส่วนพระสวามีเป็น "พระราชา" ก็เพราะสนธิสัญญาผนวกดินแดนญี่ปุ่น-เกาหลีที่ลดตำแหน่งผู้นำเกาหลีจากจักรพรรดิเป็นเพียงราชา แต่เจ้าชายอึยมินไม่เคยผ่านพิธีราชาภิเษก ทั้งสองจึงมีอิสริยยศเพียงมกุฎราชกุมาร และมกุฎราชกุมารีตามเดิม ระหว่างนี้เจ้าหญิงพังจาได้ให้ประสูติกาลพระโอรสองค์ที่สอง คือ เจ้าชายกู เมื่อวันที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2474
ชีวิตของมกุฎราชกุมารีองค์สุดท้ายแห่งเกาหลี
[แก้]หลังสงครามโลกครั้งที่สอง กลุ่มเชื้อพระวงศ์ รวมทั้งตำแหน่งขุนนางต่าง ๆ ถูกล้มเลิกโดยการยึดครองของสหรัฐอเมริกา การปกครองของเกาหลีจึงเปลี่ยนแปลงไป โดยเกาหลีเหนือมีการปกครองแบบคอมมิวนิสต์ ส่วนเกาหลีใต้ที่พระองค์ประทับอยู่ ได้เปลี่ยนแปลงการปกครองเป็นแบบสาธารณรัฐ ในสมัยของรัฐบาลอี ซึง-มัน มกุฎราชกุมารอึยมินได้เสด็จออกจากเกาหลีไปใช้ชีวิตอย่างยากลำบากในญี่ปุ่นแทน จนในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2506 ครอบครัวของอดีตมกุฎราชกุมารได้เสด็จกลับเกาหลีตามคำกราบทูลเชิญของพัก ช็อง-ฮี ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ โดยประทับที่พระราชวังชังด็อก ในโซล[2] แต่หลังจากนิวัติกลับมาได้ไม่ถึงทศวรรษ มกุฎราชกุมารอึยมินได้หมดสติและสิ้นพระชนม์ลงในโรงพยาบาลเซอุลซ็องโม (Seoul Sungmo Hospital) เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2513 ด้วยพระอาการเส้นพระโลหิตอุดตัน
หลังจากนั้นเป็นต้นมา เจ้าหญิงพังจาได้อุทิศพระองค์ให้กับการศึกษาเกี่ยวกับสภาพจิตใจและบุคคลทุพพลภาพ ทรงดำรงตำแหน่งเป็นประธานและคณะกรรมการต่าง ๆ รวมทั้ง "คณะกรรมการที่ระลึกถึงมกุฎราชกุมารอึยมิน" (Commemorative Committee of Crown Prince Euimin) และโรงพยาบาลมย็องฮวี-ว็อน สำหรับคนหูหนวก, เป็นใบ้ หรือผู้ป่วยทารก นอกจากนี้ยังทรงก่อตั้งโรงเรียนจาฮเย และโรงเรียนมย็องฮเย สำหรับคนพิการให้ปรับตัวเข้าสู่สังคมได้อย่างปกติสุข ด้วยเหตุนี้พระองค์จึงได้รับการเคารพจากชาวเกาหลีว่าเป็น "แม่พระของผู้ทุพพลภาพแห่งเกาหลี" แม้จะมีการต่อต้านญี่ปุ่นก็ตาม แต่เจ้าหญิงพังจาก็เป็นชาวญี่ปุ่นที่ชาวเกาหลีเคารพรักอย่างกว้างขวาง[3][4]
ภายหลังการสิ้นพระชนม์ของเจ้าหญิงพังจาในปี พ.ศ. 2532 ราชสกุลนาชิโมโตะได้เข้ามาแสดงความเคารพเจ้าหญิงพังจาที่โซลในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2544 ราชสกุลนาชิโมโตะมีการจัดตั้งกองทุนการกุศลให้การช่วยเหลือชาวเกาหลีมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งการตรวจร่างกาย เฉกเช่นเมื่อสมัยที่เจ้าหญิงพังจาได้กระทำขณะเจ้าหญิงยังมีพระชนม์อยู่[5]
ส่วนพระองค์ได้เข้ารีตศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก และมีพระนามทางศาสนาว่า "มารีอา"[6]
สิ้นพระชนม์
[แก้]เจ้าหญิงสิ้นพระชนม์ด้วยโรคมะเร็ง เมื่อวันที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2532 ณ ตำหนักนักซ็อน พระราชวังชังด็อก โซล สิริรวมพระชนมายุได้ 87 พรรษา งานปลงพระศพที่จัดขึ้นเป็นกึ่งพระราชพิธี โดยมีเจ้าชายทากาฮิโตะ มิกาซะโนะมิยะ และเจ้าหญิงยูริโกะ พระชายาฯ พระประยูรญาติจากญี่ปุ่นเข้าร่วมงานพิธีดังกล่าว พระศพของพระองค์ได้ถูกฝังเคียงข้างพระศพพระสวามีคือมกุฎราชกุมารอึยมินที่สุสานหลวงราชวงศ์โชซอนใกล้โซล
มีหนังสืออัตชีวประวัติของพระองค์ คือหนังสือ The World is One: Princess Yi Pangja's Autobiography โดยเนื้อหาในหนังสือจะมีรายละเอียดปลีกย่อยของพระองค์รวมอยู่ด้วย
ในวัฒนธรรมร่วมสมัย
[แก้]พระประวัติของพระองค์ได้รับการถ่ายทอดเป็นละครของเกาหลีใต้เรื่อง "อี พัง-จา สตรีผู้อับโชค" (비운의 이방자 여사; Unfortunate Mrs. Lee Bang Ja) ออกอากาศทางช่องเอสบีเอส (SBS) เมื่อปี พ.ศ. 2550 นำแสดงโดยคิม ฮี-เอ บทโทรทัศน์โดยจุง ฮา-ยุน ตามท้องเรื่องได้เล่าถึงเรื่องราวของพระองค์ที่เสกสมรสกับอี อึน ที่ญี่ปุ่น หลังทั้งสองย้ายกลับมายังเกาหลีเมื่อปี พ.ศ. 2505 อี พัง-จาได้ช่วยงานเพื่อสังคมโดยเฉพาะเด็กพิการจนสิ้นพระชนม์[7]
พระอิสริยยศ
[แก้]- 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2444 — 28 เมษายน พ.ศ. 2463 : เจ้าหญิงมาซาโกะแห่งนาชิโมโตะ
- 28 เมษายน พ.ศ. 2463 — 2469 : เจ้าหญิงพังจา พระชายาในมกุฎราชกุมารอึยมิน
- พ.ศ. 2469 — 2517 : สมเด็จพระราชินีอี
- พ.ศ. 2517 — 30 เมษายน พ.ศ. 2532 : อี พัง-จา
พระบุตร
[แก้]พระนาม | ประสูติ | สิ้นพระชนม์ | เสกสมรส | พระนัดดา | |
---|---|---|---|---|---|
อี จิน | 18 สิงหาคม พ.ศ. 2464 | 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2465 | |||
อี กู | 29 ธันวาคม พ.ศ. 2474 | 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2548 | 25 ตุลาคม พ.ศ. 2502 | จูเลีย มุลล็อก |
พงศาวลี
[แก้]พงศาวลีของอี พัง-จา | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
|
อ้างอิง
[แก้]- ↑ (เกาหลี)김희애 조선 마지막 황태자비 이방자 역 캐스팅[ลิงก์เสีย]
- ↑ Naver dictionary http://100.naver.com/100.nhn?docid=126171[ลิงก์เสีย]
- ↑ Interview with principal of Jahye school in South Korea (우리 모두는 남이 아닌 한 이웃)
- ↑ ได้รับการยืนยันจากนักศึกษาของพระองค์ โดยเจ้าหญิงพังจาได้ให้ความห่วงใยแก่บุคลากร สัตว์ หรือแม้แต่เครื่องจักร อ้างจาก "이방자 여사는 장애인을 이끌어준 등불" (Princess Lee, the Lighthouse for the physically challenged) , Yonhap News
- ↑ (เกาหลี) 영친왕비 이방자 여사 종친 방한
- ↑ (เกาหลี) "장애인 복지시설의 요람 40돌". 평화신문. 2007년 10월 21일. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2016-03-04.
{{cite web}}
: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|date=
(help) - ↑ "Unfortunate Mrs. Lee Bang Ja". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2009-09-23. สืบค้นเมื่อ 2009-11-14.
แหล่งข้อมูลอื่น
[แก้]- วิกิมีเดียคอมมอนส์มีสื่อเกี่ยวกับ อี พัง-จา
ก่อนหน้า | อี พัง-จา | ถัดไป | ||
---|---|---|---|---|
จักรพรรดินีซุนจ็อง | อ้างสิทธิจักรพรรดินีเกาหลี (24 เมษายน พ.ศ. 2469 — 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2513) |
จูเลีย มุลล็อก |