อะแลสกาแอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ 1282

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
อะแลสกาแอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ 1282
N704AL โบอิง 737 แมกซ์ 9 ของอะแลสกาแอร์ไลน์ลำที่เกิดเหตุ ถ่าย 2 เดือนก่อนเกิดเหตุที่โบอิงฟีลด์
สรุป
วันที่5 มกราคม ค.ศ. 2024
สรุปการสูญเสียแรงดันในห้องโดยสาร; อยู่ระหว่างการสืบสวน
จุดเกิดเหตุเหนือพอร์ตแลนด์ รัฐออริกอน สหรัฐ
อากาศยานลำที่เกิดเหตุ
ประเภทอากาศยานโบอิง 737 แมกซ์ 9
ดําเนินการโดยอะแลสกาแอร์ไลน์
หมายเลขเที่ยวบิน IATAAS1282
หมายเลขเที่ยวบิน ICAOASA1282
รหัสเรียกALASKA 1282
ทะเบียนN704AL
ต้นทางท่าอากาศยานนานาชาติพอร์ตแลนด์, พอร์ตแลนด์, รัฐออริกอน
ปลายทางท่าอากาศยานนานาชาติออนแทรีโอ, ออนแทรีโอ, รัฐแคลิฟอร์เนีย
จำนวนคน177
ผู้โดยสาร171
ลูกเรือ6
เสียชีวิต0
รอดชีวิต177 (ทั้งหมด)

อะแลสกาแอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ 1282 เป็นเที่ยวบินตามกำหนดเวลาที่ดำเนินการบินจากท่าอากาศยานนานาชาติพอร์ตแลนด์ไปยังท่าอากาศยานนานาชาติออนแทรีโอ โดยหลังจากการขึ้นบินในวันที่ 5 มกราคม ค.ศ. 2024 อุปกรณ์สำหรับการปิดช่องประตูทางออกฉุกเฉินที่ได้ติดตั้งเพิ่มบนเครื่องบินโบอิง 737 แมกซ์ 9 เกิดระเบิดออก ส่งผลให้เกิดการสูญเสียแรงดันในเครื่องบิน[1] นักบินได้นำเครื่องบินกลับไปลงจอดฉุกเฉินที่พอร์ตแลนด์ทันทu ผู้โดยสารทั้งหมด 171 คนและลูกเรือ 6 คนรอดชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าว โดยคณะกรรมการความปลอดภัยการขนส่งแห่งชาติ (NTSB) กำลังสืบสวนสาเหตุของเหตุการณ์นี้

อุบัติเหตุ[แก้]

แผนภาพแสดงเหตุการณ์

เที่ยวบิน 1282 ขึ้นบินจากท่าอากาศยานนานาชาติพอร์ตแลนด์เมื่อเวลา 17:07 น. (เวลามาตรฐานแปซิฟิก)[2] พร้อมลูกเรือ 6 คนและผู้โดยสาร 171 คน[3] ประมาณหกนาทีหลังจากบินขึ้น อุปกรณ์ปิดช่องประตูทางออกฉุกเฉินที่ติดตั้งเพิ่มแยกออกจากโครงสร้างเครื่องบิน ทำให้เกิดการบีบอัดของแรงดันบนเครื่องบินที่ไม่สามารถควบคุมได้[4][5] ตามรายงานเบื้องต้นไม่มีใครนั่งอยู่บนที่นั่งติดกับบริเวณนั้น แต่ผู้โดยสารหลายคนได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยจนต้องได้รับการดูแลจากแพทย์ และของใช้ส่วนตัวของผู้โดยสารบางส่วนถูกดูดออกจากช่องเปิดนั้น[3][6][7] หน้ากากออกซิเจนของเครื่องบินถูกใช้งานหลังเหตุการณ์การบีบอัด[2] ตามรายงานของเครื่องมือติดตามเที่ยวบิน เมื่อเหตุการณ์เกิดขึ้น เครื่องบินได้ไต่ขึ้นไปถึงความสูงประมาณ 16,000 ฟุต (4,900 ม.) ก่อนที่นักบินจะลดระดับลงสู่ความสูงประมาณ 10,000 ฟุต (3,000 ม.) และวนกลับไปพอร์ตแลนด์ ซึ่งสามารถลงจอดฉุกเฉินได้สำเร็จเมื่อเวลา 17:27 น.[2]

เครื่องบิน[แก้]

เครื่องบินที่เกิดเหตุคือเครื่องบินโบอิง 737 แมกซ์ 9 ทะเบียน N704AL และหมายเลขสายการผลิตที่ 67501 เครื่องบินลำนี้ใช้เครื่องยนต์ซีเอฟเอ็ม อินเตอร์เนชันแนล ลีป-1บี โดยเครื่องบินมีอายุเพียงสองเดือนในวันที่เกิดเหตุ ทำการบินครั้งแรกในวันที่ 15 ตุลาคม ค.ศ. 2023 ส่งมอบให้อะแลสกาแอร์ไลน์ในวันที่ 31 ตุลาคม และเริ่มดำเนินการครั้งแรกในวันที่ 11 พฤศจิกายน[8][9][10]

เครื่องบินที่ติดตั้งประตูทางออกฉุกเฉิน
เครื่องบินที่ใช้อุปกรณ์ปิดช่องประตู
ภาพเปรียบเทียบโบอิง 737 แมกซ์ 9 ที่ติดตั้งและไม่ได้ติดตั้งประตูทางออกฉุกเฉิน

โบอิง 737 แมกซ์ 9 ลำนี้มีการติดตั้งอุปกรณ์สำหรับการปิดช่องประตูทางออกฉุกเฉินบริเวณกลางลำฝั่งหลัง โดยแต่เดิมแล้วความจุที่นั่งบนเครื่องแมกซ์ 9 คือ 193 - 220 ที่นั่ง ตามกฎระเบียบว่าด้วยเรื่องความปลอดภัยทำให้โบอิงต้องเพิ่มทางออกฉุกเฉินด้วย สำหรับเครื่องบินที่ติดตั้งที่นั่งน้อยกว่า เช่นแมกซ์ 9 ลำที่เกิดเหตุนี้ที่มี 178 ที่นั่ง ไม่ได้มีการบังคับให้ติดตั้งประตูฉุกเฉินนี้ ในกรณีที่ลูกค้าไม่ต้องการติดตั้งประตูฉุกเฉิน โบอิงจะติดตั้งอุปกรณ์ปิดช่องประตูไว้ เพราะทำได้ง่ายและมีต้นทุนการผลิตต่ำกว่าการสร้างลำตัวโดยไม่มีทางออกฉุกเฉินในจุดนั้นเลย[1] เครื่องบินที่ใช้การจัดเรียงที่นั่งแบบทั่วไปจะไม่ได้ติดตั้งอุปกรณ์นี้และจะใช้งานประตูทางออกฉุกเฉินตามปกติ

ปฏิกิริยา[แก้]

หลังเกิดเหตุองค์การบริหารการบินแห่งชาติ (FAA) ได้ประกาศคำสั่งฉุกเฉินเรื่องความสมควรเดินอากาศของเครื่องบินแมกซ์ 9 โดยให้ระงับการทำการบินไป 171 ลำ ซึ่งติดตั้งอุปกรณ์ปิดประตูทางออกฉุกเฉินแบบเดียวกัน เพื่อรอการตรวจสอบต่อไป[11] โดยในเบื้องต้นอะแลสกาแอร์ไลน์ได้ระงับการทำการบินของโบอิง 737 แมกซ์ 9 ทั้ง 65 ลำในฝูงบินไป พร้อมกับยูไนเต็ดแอร์ไลน์, โคปาแอร์ไลน์ ,อาเอโรเมฆิโก และเตอร์กิชแอร์ไลน์ที่หยุดให้บริการเครื่องบินรุ่นนี้ชั่วคราวด้วย[12] อะแลสกาแอร์ไลน์นำเครื่องบินแมกซ์ 9 กลับมาให้บริการในวันรุ่งขึ้น 18 ลำพร้อมกับตรวจสอบบริเวณที่ติดตั้งอุปกรณ์ปิดช่องประตูฉุกเฉินบนเครื่องบินทุกลำ[3] ก่อนที่จะหยุดให้บริการอีกครั้ง

การสืบสวน[แก้]

เจ้าหน้าที่เอ็นทีเอสบีขณะจัดเก็บอุปกรณ์ปิดช่องประตูที่ถูกค้นพบบริเวณหลังบ้านหลังหนึ่งในรัฐออริกอน

หลังเกิดเหตุ ได้มีเจ้าหน้าที่จากคณะกรรมการความปลอดภัยการขนส่งแห่งชาติและองค์การบริหารการบินแห่งชาติเข้ามาสืบสวนสาเหตุของเหตุการณ์นี้[13][14] โดยที่โบอิงได้ทำแถลงการณ์ยืนยันเหตุการณ์และจะให้ความร่วมมือในการสืบสวนด้วย[15]

เครื่องบินที่เกิดเหตุมีรายงานว่ามีการแจ้งเตือนปัญหาแรงดันในระหว่างเที่ยวบินสามเที่ยวในวันก่อนหน้า คือในวันที่ 7 ธันวาคม, 3 มกราคม (ขณะบิน) และวันที่ 4 มกราคม (หลังจากลงจอด)[16] ในแต่ละครั้งลูกเรือจะเปลี่ยนไปใช้ระบบอื่นและเที่ยวบินก็ดำเนินไปตามปกติ จนอะแลสกาแอร์ไลน์ไม่ให้เครื่องบินที่เกิดเหตุบินเหนือผืนน้ำภายใต้กฎ ETOPS จนกว่าจะมีการตรวจสอบการบำรุงรักษาอย่างละเอียด

ดูเพิ่ม[แก้]

อ้างอิง[แก้]

  1. 1.0 1.1 "Alaska Airlines grounds 65 Boeing jets after hole opened in fuselage". The Seattle Times (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). 2024-01-05.
  2. 2.0 2.1 2.2 Yoon, John; Mayorquin, Orlando; Kim, Victoria (January 6, 2024) [January 5, 2024]. "Plane Made Emergency Landing After a Hole Opened Up, Passengers Say". The New York Times. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ January 6, 2024. สืบค้นเมื่อ January 6, 2024.
  3. 3.0 3.1 3.2 "Information about Alaska Airlines Flight 1282". Alaska Airlines. January 5, 2024. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ January 6, 2024. สืบค้นเมื่อ January 6, 2024.
  4. Gates, Dominic (January 5, 2024). "Alaska Airlines grounds MAX 9s after door plug blows out on Portland flight". The Seattle Times (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). สืบค้นเมื่อ January 6, 2024.
  5. Shepardson, David; Insinna, Valerie; Hepher, Tim (January 7, 2024). "US FAA orders Boeing 737 MAX 9 planes grounded after blowout". Reuters. สืบค้นเมื่อ January 7, 2024.
  6. KGW Staff; McCarty, Alma (January 6, 2024) [January 5, 2024]. "Alaska Airlines flight forced to make emergency landing at Portland airport after panel on side of plane blows out". KGW. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ January 6, 2024. สืบค้นเมื่อ January 6, 2024.
  7. NTSB Newsroom [@NTSB_Newsroom] (January 6, 2024). "Update: NTSB has launched a Go Team to Portland, Oregon to investigate an event with a Boeing 737-9 MAX during a flight from Portland to Ontario, California. No serious injuries were reported" (ทวีต). เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ January 6, 2024. สืบค้นเมื่อ January 6, 2024 – โดยทาง ทวิตเตอร์.
  8. "N704AL Alaska Airlines Boeing 737-9 MAX". Planespotters.net. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ January 6, 2024. สืบค้นเมื่อ January 6, 2024.
  9. McDermott, John (January 5, 2024). "Explosive Decompression Reported on Alaska 737 MAX". AirlineGeeks. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ January 6, 2024. สืบค้นเมื่อ January 5, 2024.
  10. Hradecky, Simon (January 6, 2024). "Accident: Alaska B39M at Portland on Jan 5th 2024, emergency exit and panel separated in flight". The Aviation Herald. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ January 6, 2024. สืบค้นเมื่อ January 6, 2024.
  11. "Dynamic Regulatory System". drs.faa.gov.
  12. "FAA Grounds Some Boeing 737 MAX 9 - flyingreport". www.instagram.com. 7 January 2024.{{cite web}}: CS1 maint: url-status (ลิงก์)
  13. The FAA ✈️ [@FAANews] (January 5, 2024). "Alaska Airlines Flight 1282 returned safely to @flyPDX around 5 p.m. local time on Friday, Jan. 5, after the crew reported a pressurization issue. The aircraft was traveling to @flyONT in California. The FAA and National Transportation Safety Board (NTSB) will investigate" (ทวีต). เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ January 6, 2024. สืบค้นเมื่อ January 6, 2024 – โดยทาง ทวิตเตอร์.
  14. NTSB Newsroom [@NTSB_Newsroom] (January 5, 2024). "NTSB is investigating an event involving Alaska Airlines Flight 1282. We will post any updates regarding the investigation when they are available" (ทวีต). เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ January 6, 2024. สืบค้นเมื่อ January 6, 2024 – โดยทาง ทวิตเตอร์.
  15. "Boeing Statement on Alaska Airlines Flight 1282". Boeing. January 5, 2024. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ January 6, 2024. สืบค้นเมื่อ January 6, 2024.
  16. Ostrower, Jon; Guisbond·Dispatches·, Will (2024-01-05). "Alaska launches temporary grounding of 737 Max 9 fleet". The Air Current (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน).