ลาตัมแอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ 800

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
ลาตัมแอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ 800
CC-BGG โบอิง 787-9 ของลาตัมลำที่เกิดเหตุ ถ่าย 2 ปีก่อนเกิดเหตุที่ท่าอากาศยานมาดริด-บาราฆัส
สรุป
วันที่5 มกราคม ค.ศ. 2024
สรุปเครื่องบินร่วงหล่นกลางอากาศ; อยู่ระหว่างการสืบสวน
จุดเกิดเหตุเหนือทะเลแทสมัน ทางตะวันตกของออกแลนด์ ประเทศนิวซีแลนด์
อากาศยานลำที่เกิดเหตุ
ประเภทอากาศยานโบอิง 787-9
ดําเนินการโดยลาตัมแอร์ไลน์
หมายเลขเที่ยวบิน IATALA800
หมายเลขเที่ยวบิน ICAOLAN800
รหัสเรียกLAN CHILE 800
ทะเบียนCC-BGG
ต้นทางท่าอากาศยานซิดนีย์ คิงส์ฟอร์ด สมิท, ซิดนีย์, ประเทศออสเตรเลีย
จุดพักท่าอากาศยานนานาชาติออกแลนด์, ออกแลนด์, ประเทศนิวซีแลนด์
ปลายทางท่าอากาศยานนานาชาติอาร์ตูโร เมริโน เบนิเตซ, ซันติอาโก, ประเทศชิลี
จำนวนคน272
ผู้โดยสาร263
ลูกเรือ9
บาดเจ็บ50
รอดชีวิต272 (ทั้งหมด)

ลาตัมแอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ 800 เป็นเที่ยวบินตามกำหนดการของลาตัมแอร์ไลน์ ซึ่งเดินทางจากท่าอากาศยานซิดนีย์ คิงส์ฟอร์ด สมิทสู่ท่าอากาศยานนานาชาติอาร์ตูโร เมริโน เบนิเตซ โดยมีจุดแวะพักที่ท่าอากาศยานนานาชาติออกแลนด์ โดยเมื่อวันที่ 11 มีนาคม ค.ศ. 2024 เครื่องบินโบอิง 787-9 เกิดร่วงหล่นกลางอากาศขณะทำการบินในขาแรก โดยในผู้โดยสารและลูกเรือ 272 คน มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 50 คน โดยมี 12 คนที่ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลหลังการลงจอดฉุกเฉินที่ออกแลนด์[1][2][3][4][5]

อุบัติการณ์[แก้]

ลาตัมแอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ 800 ออกเดินทางจากท่าอากาศยานซิดนีย์เวลา 11:44 (เวลาออมแสงฝั่งตะวันออก; 00:44 UTC) และไต่ขึ้นที่ระดับความสูง 41,000 ฟุต[6][4]

ขณะที่เที่ยวบินอยู่เหนือทะเลแทสมัน หลังจากขึ้นบินได้ประมาณสองชั่วโมง เครื่องบินเกิดร่วงหล่นอย่างกะทันหัน ภายในไม่กี่วินาทีเครื่องบินก็สูญเสียระดับความสูงกว่า 300 ฟุต (90 ม.) ผู้คนและสิ่งของที่ไม่ได้รัดเข็มขัดหรือจัดเก็บไว้ก็ลอยขึ้น โดยมีผู้โดยสารและลูกเรือประมาณ 30 ถึง 40 คนกระแทกเพดานห้องโดยสาร สร้างความเสียหายให้กับแผงเพดานหลายบาน[7][8] ผู้โดยสารคนหนึ่งกล่าวว่ารู้สึก "เหมือนแผ่นดินไหว" และผู้โดยสารอีกคนหนึ่งกล่าวว่าถูกโยนกลับไปประมาณสี่ถึงห้าแถวที่นั่ง[9]

เครื่องบินเดินทางต่อไปยังออกแลนด์ตามกำหนด โดยลงจอดเวลา 16:26 น. (เวลามาตรฐานนิวซีแลนด์; 03:26 UTC)[6] เจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ขึ้นเครื่องบินที่ท่าอากาศยานนานาชาติออกแลนด์และรักษาผู้บาดเจ็บ โดยมีผู้ได้รับบาดเจ็บประมาณ 50 คน โดยมีรายงานบาดแผลและรอยฟกช้ำ อาการบาดเจ็บที่ศีรษะและคอ และกระดูกหัก โดยมีผู้ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล 12 ราย รวมถึงมี 1 รายที่อาการสาหัส[10] ณ วันที่ 14 มีนาคม ค.ศ. 2024 ยังมีผู้เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลอีก 4 ราย[11]

อุบัติการณ์ในครั้งนี้สามารถป้องกันได้โดยการคาดเข็มขัด[12]

เครื่องบิน[แก้]

เครื่องบินที่เกิดเหตุคือโบอิง 787-9 ดรีมไลเนอร์ ทะเบียน CC-BGG โดย ณ เวลาเกิดเหตุ เครื่องบินอายุ 8.3 ปี ถูกส่งมอบครั้งแรกให้กับลันแอร์ไลน์ในเดือนธันวาคม ค.ศ. 2015 และเข้าประจำการกับลาตัมแอร์ไลน์ในเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 2016[13] หลังการควบรวมกิจการของลันกับตัง

ภายหลังอุบัติการณ์เที่ยวบินขาไปซันติอาโกถูกยกเลิก โดยเครื่องบินได้จอดอยู่ที่ออกแลนด์จนถึงวันที่ 14 มีนาคม ค.ศ. 2024 ซึ่งได้ทำการบินกลับไปยังซันติอาโก[11]

ปฏิกิริยา[แก้]

โบอิงตอบโต้เหตุการณ์ดังกล่าวโดยระบุว่า "เรากำลังดำเนินการเพื่อรวบรวมข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเที่ยวบินดังกล่าว และจะให้การสนับสนุนใดๆ ที่ลูกค้าของเราต้องการ" อุบัติเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นภายหลังการวิพากษ์วิจารณ์ที่เพิ่มขึ้นของโบอิงเกี่ยวกับปัญหาบนเครื่องบินของพวกเขา[14]

ลาตัมแอร์ไลน์ได้ออกแถลงการณ์ขอโทษสำหรับเหตุการณ์ดังกล่าว โดยระบุว่า "เราเสียใจในความไม่สะดวกและการบาดเจ็บที่สถานการณ์นี้อาจส่งผลต่อผู้โดยสาร และขอย้ำความมุ่งมั่นต่อความปลอดภัยเป็นลำดับความสำคัญภายในกรอบมาตรฐานการปฏิบัติงาน"[15]

เอฟเอเอได้ออกแถลงการณ์ที่ไม่เปิดเผยต่อสาธารณชน โดยได้ออกแถลงการณ์เกี่ยวกับเที่ยวบินดังกล่าว โดยพูดถึงแถลงการณ์ของเอฟเอเอนี้ว่า "จากการตรวจสอบของเอฟเอ คุณภาพของ(เครื่องบิน)เรายังคงลดลงร่วมกับอุบัติการณ์แผ่นลำตัวเครื่องบินหลุดในช่วงเวลาใกล้กันนี้ เรายังคงดำเนินการเปลี่ยนแปลงในทันทีและพัฒนาแผนปฏิบัติการที่ครอบคลุมเพื่อเสริมสร้างความปลอดภัยและคุณภาพ และสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าและผู้โดยสารของพวกเขา"[16]

เพื่อเป็นการตอบสนองต่อรายงานปัญหาสวิตช์ที่นั่งเป็นสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุ โบอิงได้ออกบันทึกแนะนำให้สายการบินตรวจสอบเก้าอี้ห้องนักบินบนโบอิง 787 เพื่อหาสวิตช์หลวม พร้อมทั้งย้ำเตือนว่าการปิดฝาครอบสวิตช์เบาะหลังลงบนสวิตช์โยกที่หลวมอาจ "อาจทำให้สวิตช์โยกติดขัด ส่งผลให้เบาะนั่งเคลื่อนไหวโดยไม่ได้ตั้งใจ"[17]

การสืบสวน[แก้]

เนื่องจากอุบัติการณ์ในครั้งนี้เกิดขึ้นบนเครื่องบินที่จดทะเบียนในชิลีเหนือน่านน้ำสากล การสืบสวนจะดำเนินโดยกรมการบินพลเรือนของชิลี (DGAC) โดยได้เริ่มสืบสวนในวันที่ 12 มีนาคม ค.ศ. 2024 ซึ่งมีคณะกรรมการสอบสวนอุบัติเหตุการขนส่งแห่งนิวซีแลนด์ (TAIC) เข้าร่วมในการสืบสวน TAIC เป็นผู้เก็บกู้เครื่องบันทึกข้อมูลการบินและเครื่องบันทึกเสียงในห้องนักบินจากเครื่องบิน และนำไปถอดรหัส โดยเนื้อหายังไม่ได้รับการเผยแพร่

ผู้โดยสารรายหนึ่งรายงานว่านักบินประกาศต่อผู้โดยสารหลังจากลงจอดว่าหน้าจอแสดงข้อมูลการบินห้องนักบินดับลงเมื่อเครื่องบินตก จากนั้นกลับมาอีกครั้งในไม่กี่วินาทีต่อมา[18][19][20] และมีรายงานด้วยว่าการเคลื่อนที่นั่งนักบินโดยไม่ได้ตั้งใจอาจทำให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวได้ โดยคาดการณ์ว่าพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินอาจเปิดใช้งานสวิตช์โยกแบบมีฝาปิดที่ด้านหลังที่นั่งนักบินได้ การกดบนฝาครอบที่หลวมก็เพียงพอที่จะเปิดใช้งานสวิตช์ข้างใต้ การเปิดใช้งานสวิตช์นี้จะทำให้เบาะนั่งเคลื่อนไปข้างหน้าอย่างช้าๆ จนอาจชนเข้ากับและดันคันบังคับลง ส่งผลให้เครื่องบินลดระดับลงอย่างรวดเร็ว[21]

อ้างอิง[แก้]

  1. Zhuang, Zan; Frost, Natasha (11 March 2024). "'Strong Movement' on Flight to New Zealand Leaves Dozens Injured". The New York Times. สืบค้นเมื่อ 11 March 2024.
  2. "Fifty hurt as NZ-bound flight hit by 'technical' issue". BBC (ภาษาอังกฤษแบบบริติช). 11 March 2024. สืบค้นเมื่อ 12 March 2024.
  3. Visontay, Elias; Corlett, Eva (12 March 2024). "'Felt like an earthquake': passengers recall moment of terror on Latam flight as investigation launched". The Guardian. ISSN 0261-3077. สืบค้นเมื่อ 12 March 2024.
  4. 4.0 4.1 "Accident: LATAM Chile B789 over Tasman Sea on Mar 11th 2024, upset injures 12". The Aviation Herald. 12 March 2024 [2024-03-11]. สืบค้นเมื่อ 12 March 2024.
  5. "Accident Boeing 787–9 Dreamliner CC-BGG,". Aviation Safety Network. สืบค้นเมื่อ 12 March 2024.
  6. 6.0 6.1 "Live Flight Tracker – Real-Time Flight Tracker Map". Flightradar24. สืบค้นเมื่อ 12 March 2024.
  7. "New details from Sydney-Auckland LATAM flight revealed". Nine News. 12 March 2024. สืบค้นเมื่อ 12 March 2024.
  8. "LATAM pilot told those on board 'he temporarily lost control of Boeing 787'". The Independent (ภาษาอังกฤษ). 2024-03-15. สืบค้นเมื่อ 2024-03-16.
  9. Leff, Gary (11 March 2024). "'A Rollercoaster Nosedive in the Sky': Passengers Hit Ceiling On LATAM Flight 800 from Sydney to Auckland". View from the Wing (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). สืบค้นเมื่อ 12 March 2024.
  10. "LATAM Airlines Sydney to Auckland flight: 50 people treated after mid-air incident". RNZ (ภาษาอังกฤษ). 11 March 2024. สืบค้นเมื่อ 12 March 2024.
  11. 11.0 11.1 "Four still in hospital as focus of investigation into plummeting Latam flight revealed". www.stuff.co.nz. 14 March 2024. สืบค้นเมื่อ 14 March 2024.
  12. Rains, Taylor. "The Boeing 787 that suddenly dropped mid-flight and injured at least 50 people is a stark reminder: Always wear your seatbelt". Business Insider.
  13. "CC-BGG Latam Airlines Chile Boeing 787-9 Dreamliner | Planespotters.net". www.planespotters.net.{{cite web}}: CS1 maint: url-status (ลิงก์)
  14. Timsit, Annabelle; Masih, Niha; Bellware, Kim (11 March 2024). "50 people injured after plane's 'nosedive' on flight to New Zealand". The Washington Post. ISSN 0190-8286. สืบค้นเมื่อ 12 March 2024.
  15. Dubé, Ryan; Hoyle, Rhiannon. "Incident on Latam Flight Injures Dozens Aboard Boeing 787 Dreamliner". The Wall Street Journal. สืบค้นเมื่อ 12 March 2024.
  16. Goldman, David (12 March 2024). "Boeing is in big trouble". CNN. สืบค้นเมื่อ 12 March 2024.
  17. Jones, Callum (2024-03-15). "Boeing cockpit seat switch mishap reportedly led to Latam flight incident". The Guardian (ภาษาอังกฤษแบบบริติช). ISSN 0261-3077. สืบค้นเมื่อ 2024-03-15.
  18. "Passenger on Boeing flight that suddenly dropped says pilot told him he lost control after instrument failure". CNN. 12 March 2024.{{cite news}}: CS1 maint: url-status (ลิงก์)
  19. "What happened on Latam flight LA800 that threw passengers around the cabin?". www.stuff.co.nz. สืบค้นเมื่อ 12 March 2024.
  20. "Four still in hospital as focus of investigation into plummeting Latam flight revealed". www.stuff.co.nz. สืบค้นเมื่อ 14 March 2024.
  21. Nerkar, Santul; Ember, Sydney (2024-03-15). "Boeing Directs Airlines to Check Cockpit Seats on 787s After Latam Incident". The New York Times (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). ISSN 0362-4331. สืบค้นเมื่อ 2024-03-16.